ตอนที่แล้วตอนที่ 13-40 ลำธาร มหาสมุทร?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13-42 พลังของเบรุต

ตอนที่ 13-41 เหตุเปลี่ยนเปลงกะทันหัน


การสั่นสะเทือนของพลังธาตุที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้เป็นสิ่งที่แม้แต่นักเรียกเวทที่อายุน้อยที่สุดในสถาบันสอนเวทยังรู้สึกได้ชัด  จากพวกเทพสู่สถาบันสอนเวทคนนับไม่ถ้วนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนพลังธาตุขนาดใหญ่เหล่านี้ แม้แต่เวทต้องห้ามนับร้อยที่ถูกร่ายพร้อมกันก็ยังไม่อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนที่น่าประหลาดนี้

“ปู่เบรุต!  เกิดอะไรขึ้น?”  บีบีถามด้วยความสงสัย

ลินลี่ย์มองดูเบรุตผู้กำลังหัวเราะ  “ราชันย์เกบาโดสบลูไฟร์  เจ้ารู้จักเขาไม่ใช่หรือ?  นี่คือการกระทำของเขา  บ้านเกิดเก่าของเขาถูกทำลายไปแล้ว  เขากำลังเตรียมตัวสร้างขึ้นใหม่....”

“อะไรนะ?” ลินลี่ย์และบีบีตกใจ

สร้างทวีปใหม่?

“บลูไฟร์ผู้นี้บ้าบิ่นอย่างแท้จริง”  เบรุตระบายลมหายใจ  “แม้ว่าเขาจะเป็นเทพชั้นสูง แต่พลังเทพและพลังจิตเขาจะต้องใช้เพื่อสร้างทวีปได้จะต้องมีปริมาณที่น่าทึ่ง  ทั้งหมดนี้เป็นทวีปใหญ่ไม่ใช่แค่เกาะน้อยธรรมดา”

“ปู่สามารถสร้างทวีปด้วยหรือ?”  บีบีไม่กล้าเชื่อ

เบรุตพยักหน้า “บลูไฟร์มีร่างแยกเทพชั้นสูงถึงสองร่าง และเขาได้บรรลุเคล็ดลึกลับของกฎธรรมชาติในระดับที่น่ากลัว  ด้วยพลังของเขาการสร้างทวีปหนึ่งในโลกธาตุมิใช่จะเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ข้ายังเห็นว่าเจ้าผู้นี้ค่อนข้างบ้าระห่ำไปนิด”

“บ้าระห่ำ?” ลินลี่ย์อดมองไปทางใต้ไม่ได้

การสร้างทวีปเป็นปรากฏการณ์ที่ประหลาด บางทีมีแต่ยอดฝีมือระดับบลูไฟร์เท่านั้นจึงจะสามารถทำสิ่งนั้นได้

ในดินแดนทะเลใต้ณ.พื้นที่ไกลออกไปที่สุดของทวีปยูลานน้ำทะเลนับไม่ถ้วนดูเหมือนกำลังเดือดพล่านซี่....”  พื้นทะเลเปล่งรัศมีร้อน  และในพื้นที่ขนาดใหญ่แผ่ออกไปหมื่นกิโลเมตรใครๆ ก็สามารถมองเห็นลาวาเดือดพุ่งขึ้นจากพื้นทะเล

ในอากาศเหนือน้ำพุลาวาใต้น้ำแก่นธาตุไฟที่เข้มข้นระเบิดอย่างรุนแรงทำให้มิติบิดเบี้ยว  ภายในมิติที่บิดเบี้ยวมีร่างมนุษย์คนหนึ่งปรากฎให้เห็น

ร่างนี้สวมใส่ชุดแดงเข้มยาวลอยตัวอยู่ในกลางอากาศเหมือนเทพในสรวงสวรรค์  นั่นคือลีย์ลิน บลูไฟร์นั่นเอง

ห่างออกไปจากลีย์ลินหลายสิบกิโลเมตรก็คือบุรุษศีรษะโล้นเบอร์เกสและบุรุษชุดขาว  พวกเขามองหน้ากันเองและบุรุษชุดขาวถอนหายใจ  “พี่ใหญ่, น้องสามบ้าระห่ำจริงๆ  ด้วยการใช้ภูเขาไฟเป็นศูนย์กลาง เขาใช้เวลาอึดใจเดียวเรียกลาวาออกมาจากส่วนลึกของโลกใต้พื้นทะเลได้  เขาบ้าระห่ำจริงๆ”

“โชคดีที่น้องสามใกล้ระดับสุดยอดของเทพชั้นสูงแล้ว  มีระดับความเข้าใจกฎธาตุไฟสูง  มิฉะนั้นเขาคงไม่สามารถทำได้สำเร็จง่ายๆแน่นอน”

เหตุผลที่ลีย์ลินมีชื่อเสียงเพราะเคล็ดความรู้ลึกลับในกฎธาตุไฟของเขา  ชื่อบลูไฟร์เป็นข้อพิสูจน์ถึงระดับความสำเร็จที่เขาบรรลุในกฎธาตุไฟ   พลังของร่างแยกเทพชั้นสูงสายธาตุไฟของเขายิ่งใหญ่กว่าร่างแยกเทพชั้นสูงธาตุดินเสียอีก

ไม่ใช่ว่าเขามีพลังธาตุดินที่อ่อนแอแต่อย่างใด  เป็นแต่พลังธาตุไฟของเขาแข็งแกร่งมาก!

แมกมานับไม่ถ้วนยังคงพุ่งออกมาจากใต้พื้นลึกของมหาสมุทรบางครั้งก็จะปล่อยพลังออกมาพ้นผิวน้ำ แต่ปริมาณของลาวาที่ปล่อยออกมาบนผิวสมุทรยังไม่ได้ส่วนล้านจากบรรดาลาวาที่ถูกสร้างขึ้น

ลาวาส่วนใหญ่ที่ระเบิดออกมาจากพื้นทะเลจะกลายเป็นหินแข็งอยู่ภายในทะเล

พื้นที่ของลาวาซึ่งลีย์ลินนำออกมาจากภายใต้พื้นทะเลยืดออกมาหลายร้อยหลายพันกิโลเมตรแค่เพียงการควบคุมลาวาของเขา เขาทำให้ลาวาส่วนใหญ่แข็งตัวและมุ่งเน้นพื้นที่ภายในหมื่นกิโลเมตร   หลังจากเมื่อพื้นแข็งเนื่องจากความเย็นจากน้ำและกลายเป็นหิน น้ำทะเลปริมาณมากในพื้นที่หมื่นกิโลเมตรจะลดลงเช่นกัน

ในบางพื้นที่มีหินโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำทะเลแล้วและที่ส่วนใหญ่มีความลึกเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น

นี่คือบางอย่างที่ที่ไม่น่าเชื่อ ลึกลงไปในทะเลใต้บลูไฟร์ทำได้สำเร็จ

“ส่วนต่อไปจะเป็นเรื่องยากสำหรับน้องสาม”  เบอร์เกสจ้องมองร่างลีย์ลินที่อยู่ไกลๆ “จะควบคุมแก่นธาตุดินปริมาณมหาศาลและสร้างทวีป....  เคล็ดความรู้ลึกลับของน้องสามยังไม่ทรงพลังเทียบเท่ากับเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธรรมชาติธาตุไฟ”

บุรุษชุดขาวพยักหน้าเช่นกัน  ทั้งสองยังคงจ้องมองลีย์ลินอยู่ในระยะไกล

ลีย์ลินระบายลมหายใจยาว จากนั้นเหยียดมือทั้งสอง...

“ครืน...”  แก่นธาตุดินนับไม่ถ้วนของโลกมาอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา  ภายในพื้นที่หลายแสนกิโลเมตรหินและธุลีดินทั้งหมดมาอยู่ใต้การควบคุมของเขา และเริ่มไหลมาในพื้นที่หมื่นตารางกิโลเมตรที่สร้างจากลาวา

แก่นธาตุดินปริมาณมหาศาลถูกเรียกมาเป็นปริมาณมากสร้างเป็นช่องว่างในแก่นธาตุดินได้เป็นแสนกิโลเมตรในพื้นที่โดยรอบ

“บึ้ม!” แก่นธาตุดินจากพื้นที่อื่นก็หลั่งไหลเข้ามาทำให้พื้นที่ในตัวมันเองสั่นสะเทือนและบิดเบือนผิดรูป  แก่ธาตุดินปริมาณนับไม่ถ้วนยังสร้างเป็นคลื่นพลังธาตุ

พลังสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ภายในพื้นที่แสนกิโลเมตรทำให้สัตว์อสูรทะเลก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากภัยพิบัติ ความจริงเฉพาะแรงระเบิดของลาวาเท่านั้นก็ทำให้สิ่งมีชีวิตถูกต้มจนตายไปมากมาย

“ช้าเกินไป!”

ความเร็วระดับนี้ เวลารวมที่ต้องใช้ในการสร้างทวีปมีแนวโน้มว่าจะต้องใช้เวลาสิบวันหรือครึ่งเดือน

ลีย์ลินขมวดคิ้วสีแดงที่ดูเหมือนจะปลาบปลื้มใจ  “ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่ข้าคิด!” ร่างของลีย์ลินแยกออกเป็นสองทันที หนึ่งในร่างทั้งสอง เป็นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สวมชุดสีทองหายวับไปจากโลกโดยไม่มีเสียงทันที  ในทันใดนั้นพื้นที่แสนกิโลเมตร หินและดินเริ่มคลื่อนไหวด้วยความเร็วกว่าเดิมหลายเท่า

“พลังเทพที่ร่างแยกธาตุดินของข้าใช้สร้างถูกใช้ไปเกือบไม่เหลือ” ร่างแยกธาตุไฟของลีย์ลินอยู่ในชุดสีแดงเข้มพึมพำกับตนเอง

ครั้งนี้ เมื่อลีย์ลินกลับมายังทวีปยูลาน เขารู้สึกเศร้าใจที่สำคัญบ้านเกิดของเขาถูกทำลายไปแล้ว และแม้แต่แผ่นดินของทวีปเองก็ยังแตกกระจายจมทะเล ดังนั้นลีย์ลินจึงเลือกที่ตั้งแผ่นดินเกิดเก่าของเขาและเรียกแม่น้ำลาวาให้ระเบิดออกมา  ทะเลลึกไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น  และระดับความยากก็ลดลงเช่นกัน

การสร้างทวีปทั้งหมดและการสร้างคฤหาสน์แก่นธาตุ..สองอย่างนี้มีขั้นตอนสร้างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

วังหลวง จักรวรรดิโอเบรียน

แอดกินส์มองไปทางทิศใต้ เขาขมวดคิ้วทันที  บาร์นาสก็ยืนอยู่ใกล้ๆ ด้วยความเคารพเช่นกัน

“ลอร์ดบลูไฟร์กล้าหาญจริงๆ”  แอ็ดกินส์กล่าว

บาร์นาสพูดด้วยน้ำเสียงเบา “การสร้างทวีปเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองพลังเทพและพลังจิตมาก”

แอดกินส์ลอบหัวเราะ “พลังเทพและพลังจิตปริมาณมหาศาลที่ใช้ออกไปย่อมมากอย่างน่าประหลาดแน่นอน แต่การสร้างทวีปส่วนแรกที่ใช้ก็คือร่างแยกเทพชั้นสูงของเขากล่าวอีกนัยหนึ่ง ร่างแยกธาตุไฟที่ทรงพลังของเขาไม่ได้อ่อนแอเท่าใดนักเลย”

“บลูไฟร์ทรงพลังมากเกินไป!

แอดกินส์ก้มหน้าเงียบเป็นเวลานาน

บาร์นาสยืนอยู่ด้านข้างลอบถอนหายใจ  “คุณชายดื้อดึงและชอบชิงดีชิงเด่นมากเกินไป  เขาไม่ชอบด้อยกว่าคนอื่น  เพียงแต่ในพิภพเกบาโดสคุณชายยังด้อยกว่าห้าราชันย์มาก ถ้าเขาไปดินแดนระดับสูงที่มียอดฝีมือคงอยู่มากมาย ก็มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้เป็นสุดยอดฝีมือในพื้นที่  สมบัติของสุสานเทพเจ้า...คือความหวังประการเดียวของคุณชาย”

บาร์นาสรู้ดีว่าแอดกิสน์จะไม่ยอมแพ้แน่นอน

ทันใดนั้นแอดกินหันหน้ามาทันที  “บาร์นาส!  ข้าไม่ต้องการรออีกต่อไป”

“ลอร์ดแอดกินส์?ท่าน...”  บาร์นาสตกใจ  เขารู้ว่าแอดกินส์กำลังคิดอะไร

สายตาของแอดกินส์คมเหมือนมีด  “นี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยม  บลูไฟร์กำลังให้ความสนใจกับการสร้างทวีป  เขาไม่มีพลังพอให้ความสนใจเรา  ตอนนี้ไปเรียกโอจวินและพวกอีกสองคนมา”

“ขอรับ!”  บาร์นาสสูดหายใจลึกเช่นกันและแผ่สำนึกเทพออกไปตามโอจวินและพวกอีกสองคนทันที

หน้าของแอดกินส์เย็นชา แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“วันตัดสินชะตา!”  แอดกินส์พึมพำกับตัวเอง

ในไม่ช้า โอจวิน ฮันบริทและเกเทนบีก็มาพร้อมกันทั้งหมด  ทั้งสามคนคุกเข่าข้างหนึ่งแสดงความเคารพ“ลอร์ดแอดกินส์”

“พวกเจ้าทุกคนจงเดินทางร่วมกับข้าไปที่ไพรทมิฬ”  แอดกินส์กล่าว

โอจวินและพวกอีกสองคนมองหน้ากันเองด้วยอาการงุนงงกันหมด พวกเขาทุกคนรู้สึกได้ถึงพลังสั่นสะเทือนที่น่าทึ่ง ตอนนี้พวกเขาได้รับคำสั่งให้ไปไพรทมิฬทันทีโดยไม่ได้รับคำอธิบาย ทั้งสามข่มความสงสัยจากนั้นติดตามแอดกินส์และบาร์นาสไปที่ไพรทมิฬ

ปราสาทโลหะ ไพรทมิฬ

ลินลี่ย์และเบรุตยังอยู่พร้อมหน้ากัน

“ท่านตั้งใจจะให้บีบีได้รู้แจ้งเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธรรมชาติหรือ?”  ลินลี่ย์มองดูเบรุตด้วยความประหลาดใจ เบรุตเพิ่งบอกกล่าวว่าเขาต้องการให้บีบีอยู่ในปราสาทโลหะเพื่อปรับตัวให้เข้ากับเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธรรมชาติ  หลังจากเชี่ยวชาญหนึ่งในเคล็ดความรู้ลึกลับแล้ว  เขาจึงจะยอมให้บีบีออกไปจากโลหะปราสาท”

บีบีมีสีหน้าหม่นหมองลงทันทีและกล่าว “ปู่เบรุตฝึกเคล็ดความรู้ลึกลับให้ช้าลงได้ไหม ทำไมปู่ต้องยืนยันให้ข้าอยู่ในโลหะปราสาทด้วย? ใครจะรู้ว่าข้าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดกว่าจะทำได้สำเร็จ”

“อย่ากังวลไปเลย ข้าแค่ต้องการให้เจ้าเชี่ยวชาญเคล็ดความรู้ลึกลับของแก่นธาตุมืดง่ายๆเท่านั้น นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้เจ้าได้รู้แจ้งได้เร็วขึ้น  ข้าเตรียมสมบัติเอาไว้ช่วยเจ้าแล้ว ปู่ต้องทุ่มเทไปมากกว่าจะได้สมบัติชิ้นนี้มา”  เบรุตกล่าว

ลินลี่ย์อดประหลาดใจไม่ได้

เท่าที่ได้ฟัง ดูเหมือนว่านี่เป็นสมบัติที่ช่วยให้คนได้ใช้ฝึกในกฎธรรมชาติธาตุมืด?

“สมบัติ? จะมีค่าขนาดไหนกัน?” บีบีตาเป็นประกาย

“หยุดถามเซ้าซี้ได้แล้ว” เบรุตพูดจริงจัง  “แค่อยู่ที่นี่ แล้วอย่าทำให้ปู่ผิดหวัง”

ลินลี่ย์ปลอบโยนและกระตุ้นบีบีเช่นกัน  บีบีเองก็สงสัยต่อสมบัตินั้นเขาจึงยอมตกลง  ที่สำคัญคือบีบียังคงรู้ว่า...ปู่ของเขาร่ำรวยมาก แค่เพียงเบรุตพูดว่าราคาที่เขาต้องจ่ายออกไปนั้นมากมายก็หมายความว่าสมบัตินี้ไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน

“หืม?” เบรุตขมวดคิ้วเล็กน้อย

“แฮร์รี่!”  เบรุตตะโกนเรียกทันใดนั้นร่างมนุษย์ร่างหนึ่งปรากฏตัวในห้องนั่งเล่น  เป็นหนึ่งในจ้าวมุสิกทองม่วงแฮรี่  เบรุตออกคำสั่ง  “แฮร์รี่ เจ้าต้องดูแลบีบีให้ดีอย่าปล่อยให้เขาวิ่งเพ่นพ่าน ตอนนี้ข้าจะออกไปก่อน”

“ขอรับ, ท่านพ่อ”แฮร์รี่พูดด้วยความเคารพ

“ลินลี่ย์, เจ้ามากับข้าด้วยกัน”  เบรุตหัวเราะ และลินลี่ย์พยักหน้า

หลังจากล่ำลาบีบีแล้วลินลี่ย์กับเบรุตบินออกมาจากปราสาทโลหะ ลินลี่ย์บินเคียงข้างเบรุตรู้สึกว่าค่อนข้างงง  “ลอร์ดเบรุตจู่ๆ ก็บอกว่าเราต้องออกมานี่มันอะไรกัน เฮ้..พวกเขาคือ..?

ลินลี่ย์เห็นร่างหลายร่างกำลังบินมาจากที่ไกลโดยมีผู้นำคือแอดกินส์ผู้สง่างาม

“โอจวิน!” ลินลี่ย์เห็นโอจวินอยู่ด้านหลังแอดกินส์เช่นกัน  “ฮึ่ม.. ถ้าข้ามีโอกาส,ข้าจะต้องฆ่าเขาแน่นอน” ลินลี่ย์คงรู้สึกเกลียดต่อโอจวิน ในอดีต, ลูกชายของซีนาและภรรยา ทุกคนอยู่ในวังและถูกบุรุษผู้นี้ฆ่าตาย

เขายังไม่มีโอกาสแก้แค้นกับปฏิปักษ์รายนี้

“อา..ท่านเบรุต” แอดกินส์ยิ้มเต็มใบหน้าทันที “โอวลินลี่ย์, เจ้าก็อยู่ที่นี่เช่นกัน” แอดกินส์ยิ้มกว้างขึ้น

“ลินลี่ย์, ตอนนี้เจ้าสามารถกลับไปได้แล้ว” เบรุตกล่าว

ลินลี่ย์คำนับ และจากนั้นคำนับให้แอดกินส์เล็กน้อยและบินไปทางใต้คนเดียว เพียงแต่ในขณะที่บินลินลี่ย์อดเหลียวหน้ากลับมาดูมิได้  “ลอร์ดเบรุตจู่ๆ ก็ออกมามีแนวโน้มว่าเขารู้ว่าแอดกินส์และคนอื่นมาถึง เกิดอะไรขึ้น?”

ในอากาศเหนือไพรทมิฬ เบรุตในชุดดำและแอดกินส์ในชุดทองยืนอยู่ในอากาศเผชิญหน้ากันและกัน  แอดกินส์ดูเหมือนเป็นผู้เยาว์  ขณะที่เบรุตเป็นเหมือนผู้อาวุโส  หนึ่งอาวุโส หนึ่งเยาว์วัยเผชิญหน้ากันเป็นภาพที่น่าสนใจ

ท่านเบรุต, เราไปคุยกันในที่ของท่านเถอะ”  แอดกินส์กล่าว

“ไม่จำเป็น ที่นี่แหละดีแล้ว” เบรุตกล่าวพลางหัวเราะอย่างใจเย็น

แอดกินส์ยิ้ม “อย่างนั้นก็ได้”  แอดกินส์กางสนามพลังเทพของเขาทันทีป้องกันไม่ให้โอจวินและคนอื่นได้ยินคำสนทนาของพวกเขา  “ท่านเบรุต,ครั้งล่าสุดท่านบอกว่าเราต้องรอพันปีก่อนจึงจะเปิดสุสานเทพเจ้าให้เราใช่ไหม?”

“นั่นเป็นเรื่องจริงแน่นอน”  เบรุตมีแววขำขันอยู่ในดวงตา

แอดกินส์หัวเราะอย่างเป็นกันเอง  “ข้ายังคงรู้มาว่าก่อนนั้นท่านเบรุตเปิดสุสานเทพเจ้าให้เทพอื่นถึงสองครั้ง ครั้งแรกอนุญาตให้เซียนเข้า  อีกครั้งอนุญาตให้เทพเข้า  ควรจะมีระยะเวลาห่างราวเดือนหนึ่ง ข้าคาดว่าการเปิดสุสานเทพเจ้าขึ้นอยู่กับตัวท่านเองใช่ไหม  ท่านเบรุต?”

“ถูกแล้ว,มหาเทพผู้ทรงฤทธาไม่ได้กำหนดเวลาเปิดปิดแน่นอน ข้าเพียงลำพังรับผิดชอบกำหนดเวลาเปิด” เบรุตกล่าว

แอดกินส์ยิ้มเป็นประกาย “นั่นนับว่ายอดเยี่ยม ท่านเบรุต ข้าสงสัยว่าเป็นไปได้ไหมที่ท่านจะเปิดสุสานเทพเจ้าให้เราเหล่าเทพได้เข้าไปล่วงหน้า?”

“เข้าไปล่วงหน้า?” เบรุตจ้องมองแอดกินอย่างประหลาดใจ

“ใช่แล้ว อย่างเช่น...พรุ่งนี้!  ข้าไม่รู้ว่าท่านจะรับพิจารณาได้ไหมท่านเบรุต?”  แอดกินส์มองดูเบรุต  ดวงตาของเขามีแววคาดหวัง

“โอว...เปิดเดี๋ยวนี้..”  เบรุตไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะ  แอดกินส์ได้แต่รอ และตื่นเต้น  ในที่สุด, เบรุตพยักหน้าเบาๆ  “ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้  เปิดพรุ่งนี้ก็ย่อมได้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด