ตอนที่แล้วตอนที่ 13-38 โจมตีในทางกลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13-40 ลำธาร มหาสมุทร?

ตอนที่ 13-39 วาดขาบนตัวงู


ร่างทั้งสิบสองของเนฟเดิมทีใช้ขาโจมตี  และไม่ได้ใช้อาวุธเทพช่วย เพราะเนฟไม่ต้องการเปิดเผยร่างจริงกับลินลี่ย์  อย่างไรก็ตามเนื่องจากลินลี่ย์ฟันใส่ร่างจริงของเขาด้วยดาบหนักอดาแมนเทียม ร่างจริงของเนฟจึงต้องพลิกมือใช้หอกดำในมือของเขา

“วืดดด!” มิติบิดเบี้ยว

“แคล้ง!”

ดาบหนักอดาแมนเทียมและปลายหอกดำปะทะกันและคลื่นเงาลวงตาสีเทาพลังของดาบไม่สนใจพลังป้องกันของเนฟและเข้าไปในร่างของเนฟ  นี่คือพลังดาบคลื่นสลายที่พัฒนาอย่างมากมาย  ลินลี่ย์ได้ก้าวหน้าขึ้นมากหลังจากหลอมรวม ‘แก่นธาตุดิน’ และ ‘พลังเต้นของชีพจรโลก’

“ตาย!”  ขณะเดียวกันที่เนฟควบคุมพลังจิตของเขาป้องกันดาบคลื่นสลาย  เขาใช้ร่างอื่นๆ โจมตีลินลี่ย์

ต่อให้เขาตายเขาจะต้องฆ่าลินลี่ย์ให้ได้!

นอกจากนี้เนฟยังไม่สนใจการโจมตีนี้ของลินลี่ย์มากนัก  ขณะที่เนฟเห็น... พลังโจมตีทางจิตของลินลี่ย์จะทรงพลังมากสักเพียงไหนเชียว? เป็นไปได้ว่าเขาก็แค่ควบคุมและสร้างคลื่นพลังจิตสร้างเป็นพลังโจมตี  อย่างไรก็ตามเนฟคิดผิด!

จังหวะชีพจรหนาแน่นนับไม่ถ้วนของพลังจิตเต้นพร้อมกับชีพจรโลก แฝงอยู่ในนั้นทั้งหมด

“ครืนนน...”

ชีพจรของพลังจิตจากดาบคลื่นสลายนับไม่ถ้วนบดขยี้แนวป้องกันพลังจิตของเขาทำลายผ่านไปได้เหมือนกับว่าปะทะกับไม้ผุ และเข้าไปในทะเลจิตสำนึกของเนฟกระแทกใส่ประกายเทพที่ส่องแสงสีเขียวอย่างรุนแรง  เนฟรู้สึกทันทีว่าแรงสั่นสะเทือนรุนแรงดังมาจากวิญญาณของเขา จากนั้นเนฟสูญเสียสัมปชัญญะ

ขณะนั้นเอง...

รังสีขาวนับไม่ถ้วนปรากฏฉายออกมาจากทุกที่ และร่างทั้งสิบสองของเนฟถูกแสงตรึงไว้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาไม่สามารถโจมตีลินลี่ย์ได้แม้แต่น้อย

“ฮะฮะ, ลินลี่ย์” เสียงหัวเราะนุ่มนวลดังขึ้น บุรุษหนุ่มรูปงามปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าลินลี่ย์กับบีบี

“ลอร์ดแอดกินส์” ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ ทำไมแอดกินสผู้นี้ถึงได้โผล่ออกมากะทันหัน?  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ก็ยังกล่าวขอบคุณ  “ขอบคุณที่ท่านยื่นมือช่วยเหลือ,ลอร์ดแอดกินส์”

แอดกินส์รู้สึกยินดีในใจ

ตั้งแต่วันที่เขาแผ่สำนึกเทพออกไปตรวจดูจักรวรรดิโรฮอลท์และบังเอิญไปสดุดกับคำพูดที่แดนนี่พูดกับบริวารและพูดคุยแผนที่เนฟจะฆ่าลินลี่ย์  แอดกินส์จึงเตรียมตัว  เขาตั้งใจซ่อนตัวอยู่ภายในหุบเขาข้างๆ เนฟ

เหตุผลที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อให้มีโอกาสช่วยลินลี่ย์ เพื่อจะให้ลินลี่ย์และบีบีรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อเขา!

การสร้างมิตรภาพกับบีบีเป็นงานสำคัญมากที่อยู่ในใจของแอดกินส์  เนื่องจากลอร์ดบลูไฟร์มาถึงทวีปยูลาน  ถ้าเขาแอดกินส์ยังต้องการจะได้รับสมบัติของสุสานเทพเจ้า โอกาสเดียวของเขาก็คือ เป็นมิตรกับเบรุต

“ข้าแค่ผ่านมา แต่ข้าพบว่า...” แอดกินส์ยังคงยิ้ม แต่ขณะพูดไปได้ครึ่งประโยค เสียงของลอร์ดแอดกินส์ก็ชะงักทันที

เขาพบว่าสิบเอ็ดร่างในสิบสองของเทพแท้ ‘เนฟ’ ผู้นี้สลายหายไปกลายเป็นแก่นธาตุลมและสลายหายไป เนื่องจากร่างแท้ของเนฟนอนแผ่หลาไม่ต่อต้านพันธนาการของเขาแม้แต่น้อย  กล้ามเนื้อหน้าของแอดกินส์ถึงกับกระตุก

ตอนนี้เขาค้นพบแล้วว่าวิญญาณของเนฟในร่างเดิมสลายไปแล้วมีแต่เพียงประกายเทพที่เหลืออยู่

แอดกินส์หัวเราะอย่างเก้อเขินให้ลินลี่ย์  “ลินลี่ย์!  ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะฆ่าเนฟผู้นี้ได้ไม่ว่าข้าจะลงมือหรือไม่ก็ไม่ต่างกันเลย” ดาบคลื่นสลายของลินลี่ย์ฆ่าเนฟได้ในท่าเดียว  วิญญาณของเนฟสลายไป  ดังนั้นร่างอื่นจึงสลายไปด้วยเป็นธรรมดา

ร่างเดิมของเขาไม่ได้โจมตีแน่นอนว่าลินลี่ย์จะไม่ได้รับอันตรายแม้แต่น้อย!

แต่แผนเดิมของแอดกินส์ที่ต้องการช่วยเขาในช่วงวิกฤติที่สุด เพื่อที่ว่าจะทำให้ลินลี่ย์รู้สึกซาบซึ้งต่อเขามาก แต่ตอนนี้เขาพบว่าการกระทำเช่นนั้นเหมือนกับวาดขาให้กับงูไร้ประโยชน์สิ้นเชิง เป็นการกระทำที่เกินจำเป็น แม้ว่าเขาจะไม่ลงมือก็ตาม! แต่ลินลี่ย์ก็จะไม่มีปัญหาอะไร

“ข้ายังจะต้องขอบคุณท่านอยู่ดีลอร์ดแอดกินส์”  ลินลี่ย์พูดพลางยิ้ม  ขณะที่เขาพูด ลินลี่ย์หันไปมองบีบี  ครั้งนี้คนที่ช่วยเขาไว้อย่างแท้จริงก็คือบีบี  ถ้าบีบีไม่ใช้ความสามารถตามธรรมชาติของเขา  และระบุถึงร่างแท้ในสิบสองร่างได้ อย่างนั้นลินลี่ย์จะไม่สามารถโจมตีร่างแท้ได้เลย...อย่างนั้นในการเผชิญหน้ากับการโจมตีจากเทพสายธาตุลมนี้  บางทีร่างลินลี่ย์อาจจะถูกทำลายระเบิดก็ได้

“พี่ใหญ่” หน้าของบีบีมีรอยยิ้มเช่นกัน

ลินลี่ย์และบีบีไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อกัน แค่ชำเลืองมองตากันครั้งเดียวก็เพียงพอให้พวกเขาเข้าใจความคิดของกันและกัน เหตุการณ์ที่อันตรายอย่างนี้เป็นสิ่งที่ลินลี่ย์และบีบีเผชิญมาหลายครั้งแล้ว

“เจ้าฆ่าคนผู้นี้ได้ ทุกอย่างก็เป็นของเจ้า” แอดกินส์ใช้พลังของเขาควบคุมประกายเทพ,แหวนมิติเก็บสมบัติและอาวุธเทพของเนฟให้ลอยเข้าหาลินลี่ย์ลินลี่ย์ไม่ต้องการแสดงความเกรงใจมากนักเก็บของทั้งหมดไว้ในแหวนมิติของเขา

แอดกินส์รู้สึกเสียดายอยู่ในใจ

ตั้งแต่เขาได้รู้ว่าเนฟวางแผนฆ่าลินลี่ย์  เขาจึงเตรียมตัวเพื่อวันนี้อย่างยาวนาน!  ตอนนี้,เขาตั้งใจรอช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดก่อนจะเคลื่อนไหวลงมือ

ใครจะคาดกันเล่าว่าที่เขาทำไปทั้งหมดจะสูญเปล่า?

“ลอร์ดแอดกินส์, ข้าอยากถาม เคล็ดความรู้ลึกลับที่คนผู้นี้เพิ่งใช้ไปคืออะไร?  ทำไมเขาถึงมีร่างแยกมากมาย?  และไม่มีทางแยกกลิ่นอายพวกเขาได้ถูก”  ลินลี่ย์ถาม

แอดกินส์มีความตั้งใจจะพัฒนามิตรภาพสัมพันธ์กับลินลี่ย์และบีบีจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะตอบด้วยความเป็นกันเอง “โอว, คนผู้นี้ใช้วิชาแยกร่างมายาที่เป็นวิชาของกฎธาตุลม  พลังเทพของเขาค่อนข้างต่ำ และวิญญาณของเขาไม่แข็งแกร่งนัก  การประยุกต์ใช้ก็ยังไม่น่าประทับใจเทพชั้นสูงที่ข้ารู้จักสามารถสร้างร่างแยกมายาได้เป็นพันร่าง!”

“ร่างแยกมายาพันร่าง?”  ลินลี่ย์ตะลึง

“มากขนาดนั้นแน่นอน กล่าวโดยทั่วไป ยอดฝีมือสามารถสร้างได้ถึงยี่สิบสามสิบ  แต่เขามีเพียงสิบเอ็ด  นั่นถือว่าค่อนข้างต่ำ”  แอดกินส์พูดอย่างเหยียดหยาม  “เท่าที่ข้าเห็นเป็นไปได้ว่าเขาหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นเทพ  ความเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติธาตุลมของเขายังอยู่ในระดับต่ำมาก พลังของร่างแยกของเขาก็ไม่แข็งแกร่งเช่นกัน พวกเขาได้แต่ใช้พลังโจมตีของร่างหยาบเท่านั้น  นั่นมีประโยชน์กับการสู้กับคนระดับฝีมือต่ำ  แต่เมื่อเผชิญกับยอดฝีมือระดับเดียวกัน  พวกเขาไร้ประโยชน์”

แอดกินส์หัวเราะเบาๆทันที “แต่ก็เป็นวิธีที่ดีสำหรับใช้หลบหนี”

ตาของลินลี่ย์ทอประกายวูบ

วิชาแยกร่างและร่างหลักก็ยังเหมือนกันด้วย ความจริงคนอื่นไม่สามารถบอกความแตกต่างของพวกเขา ที่สำคัญมีคนอย่างบีบีไม่มากนักที่สามารถระบุได้ว่าร่างใดมีประกายเทพอยู่ภายใน  แม้แต่บีบียังต้องได้รับผลกระทบหนักจึงจะทำเช่นนั้นได้

“ลินลี่ย์! ข้าจำเทพตนนี้ได้”  แอดกินส์พูดอย่างเต็มใจ

“เขาเป็นใคร?  ทำไมเขาถึงต้องการฆ่าข้า?”  ลินลี่ย์รีบถาม  บีบีฟังอย่างระมัดระวัง  ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลินลี่ย์เจอกับการพยายามลอบฆ่าเอาชีวิตเขามาแล้ว

แอดกินส์กล่าว “เจ้าจำครั้งล่าสุดได้ไหม เทพที่ลอร์ดบลูไฟร์ฆ่าตาย? เทพชั้นสูงนั้นชื่อว่าซาดิสต์  คนผู้นี้เป็นบริวารของซาดิสต์” แอดกินส์รู้ชื่อซาดิสต์ผ่านการใช้สำนึกเทพตรวจสอบคฤหาสน์ของซาดิสต์ทำให้เขาได้ยินแดนนี่และคนอื่นๆ คุยสนทนากัน

“เทพชั้นสูงผู้นั้น? ซาดิสต์?”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

ลินลี่ย์ได้ยินบลูไฟร์ ลีย์ลินบอกเขาว่าคนที่ต้องการฆ่าเขามาจากแดนนรก

“ลินลี่ย์ข้ายังมีเรื่องจะต้องไปจัดการ ข้าขอตัวก่อน” แอดกินส์พูดพลางยิ้ม “ถ้าในอนาคตเมื่อเจ้ามีเวลาว่างข้ายินดีต้อนรับเจ้าถ้าเจ้ามีเวลาว่างมาเยี่ยมข้า”  ทัศนคติของแอดกินส์ดูเป็นมิตรมาก  จากนั้นเขาเปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งหายลับขอบฟ้าไป

ลินลี่ย์และบีบีมองหน้ากันเอง

“ความคิดของแอดกินส์ผู้นั้นดูดีมากเลยหรือเปล่า”  บีบีขยี้ตา “ข้ายังมีความรู้สึกแปลก”

ลินลี่ย์มองไปทางตำแหน่งจักรวรรดิโอเบรียน

โอจวินและลินลี่ย์มีความเป็นปฏิปักษ์กัน  แต่หัวหน้าของโอจวินแอดกินส์ปฏิบัติกับลินลี่ย์อย่างเป็นมิตร

“ใครจะสนใจเหตุผลที่เขาทำตัวแปลกกันเล่า อย่างน้อยข้าก็แน่ใจได้ว่าแอดกินส์นี้มีความตั้งใจเป็นมิตรที่ดีกับเรา  ไปกันเถอะ ได้เวลากลับกันแล้ว” ลินลี่ย์คิดเรื่องประกายเทพที่เขาเพิ่งได้รับ  เขามีความคิด“ดูเหมือนว่าข้าได้ของขวัญที่จะมอบให้เดเลียแล้ว” เนฟตายและทิ้งประกายเทพสายธาตุลมไว้ให้ เหมาะจะเป็นของขวัญให้เดเลีย

ที่สำคัญเดเลียกลายเป็นเทพผ่านการหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์ ในอนาคตนางก็ต้องอาศัยการหลอมรวมกับประกายเทพต่อไปอีก  แค่เพียงอาศัยพลังของนางเอง เดเลียจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อบรรลุความก้าวหน้า

การสู้รบระหว่างเนฟและลินลี่ย์โดยเฉพาะการสลายร่างแยกมายาทั้งสิบเอ็ดของเนฟก่อนให้เกิดคลื่นระเบิดขนาดใหญ่ของแก่นธาตุลมแพร่กระจายออกไป  เกิดแรงสั่นสะเทือนของแก่นธาตุดิน ธรรมชาติแบบนี้ดึงดูดความสนใจของยอดฝีมือของทวีปยูลานบางส่วน  และขณะนั้นมีสัมผัสเทพบางส่วนแผ่ครอบคุมพื้นที่นี้

ภายในจักรวรรดิโรฮอลท์

“เนฟตายแล้ว...”

แดนนี่ถอนหายใจยาว สัมผัสเทพของเขาพบตำแหน่งร่างของลินลี่ย์และบีบี  “เนฟก็ล้มเหลวเช่นกัน”  และจากนั้น สีหน้าของแดนนี่เปลี่ยน

“ครั้งสุดท้าย แอนราสโจมตี ครั้งนี้เป็นเนฟโจมตี เป็นไปได้ไหมว่าลินลี่ย์รู้ว่าเนฟเป็นคนฝ่ายเรา?  ถ้าเขาถามหาที่อยู่ของเทพเหล่านี้และมาล้างแค้นเอากับเราหรือว่าขอให้ลอร์ดเบรุตลงมือ อย่างนั้น....” หัวใจของแดนนี่ยิ่งกังวลมากขึ้น

“ไม่มีประโยชน์อะไรกับการอยู่ที่นี่ที่ทวีปยูลานอีกต่อไปแล้ว”

แดนนี่แน่ใจเรื่องนี้ ที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับสมบัติของสุสานเทพเจ้า  ประการที่สอง เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่าลินลี่ย์

“กลับไปยังแดนนรกเป็นเรื่องดีที่สุด”

“ทุกคน, มารวมตัวที่ลานหน้าบ้าน!” แดนนี่ส่งข้อความออกไปทันที ในเวลาต่อมาร่างหลายสิบร่างบินออกมาจากจักรวรรดิโรฮอลท์มุ่งหน้าสู่ดินแดนน้ำแข็งขั้วโลกทิศเหนือ  พวกเขาออกมาในตอนเช้า  หลังจากบินอยู่หลายชั่วโมงในเวลาบ่ายพวกเขาก็มาถึงดินแดนน้ำแข็งขั้วโลก

ความเร็วของพวกเขารวดเร็วมาก

ดินแดนน้ำแข็งขั้วโลก บนยอดภูเขาน้ำแข็ง  สายลมหวีดหวิว

ฮ็อดเดิลออกมาจากที่พักน้ำแข็งของเขา

“หืม? แดนนี่?” ฮ็อดเดิลเห็นแดนนี่  จากนั้นส่ายศีรษะถอนหายใจ  “เจ้ากำลังจะกลับหรือ?”

แดนนี่พยักหน้าเล็กน้อย เขาพูดด้วยเสียงสุดฝืน “ภารกิจครั้งนี้ของเราในทวีปยูลานล้มเหลว”

“เนฟฆ่าลินลี่ย์ไม่สำเร็จหรือ?”  ฮ็อดเดิลถาม สามปีที่แล้วแดนนี่ส่งคนไปบอกเรื่องนี้กับฮ็อดเดิลแล้ว

“ล้มเหลว เนฟตายเช่นกัน” แดนนี่ส่ายศีรษะและพูดอย่างจนใจ “ถ้าลินลี่ย์ผู้นี้ไปยังแคว้นฟ้าครามได้ เขาจะเป็นภัยคุกคามต่อตระกูลไลโอเนลอย่างมากแต่ต่อให้ข้ากลับไปอธิบายเรื่องนี้กับตระกูล ข้าเกรงว่าตระกูลคงไม่ให้ความสำคัญมากนัก”

ตำแหน่งของแดนนี่ในตระกูลนับว่าต่ำมาก ใครก็ตามที่หลอมรวมประกายศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเทพ  นอกจากเทพชั้นสูงแล้ว  ทั้งหมดถือว่ามีสถานะต่ำมาก

“ข้าไม่สามารถมีส่วนร่วมเรื่องสำคัญของตระกูลได้”  ฮ็อดเดิลถอนหายใจ  “มิฉะนั้นงานที่น่าเบื่ออย่างนี้คงไม่ทำให้ข้าตกต่ำหรอก  เอาล่ะ ข้าจะส่งพวกเจ้ากลับเดี๋ยวนี้”

กลุ่มเทพที่นำโดยแดนนี่ยืนอยู่ในวงเวทดาวหกเหลี่ยมพร้อมกัน  ฮ็อดเดิลกระตุ้นการทำงานของวงเวท  ลำแสงยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า  พื้นที่ในวงเวทเริ่มบิดเบี้ยวลวงตา  ในขณะสั้นๆ ร่างทั้งสิบกว่าร่างก็หายไปไม่เหลือร่องรอยให้เห็น

แดนนี่และกลุ่มคนที่เหลือหนีออกไปจากทวีปยูลานและกลับไปยังแดนนรก  ขณะที่ปราสาทเลือดมังกรทวีปยูลานยังเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะรื่นเริง ไม่ใช่แค่ทารอสและไดลินที่อยู่นั่นเท่านั้น  เทพสงคราม มหาพรตและทุกคนก็เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหกปีที่ลินลี่ย์กลับมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้ยินเรื่องที่ลินลี่ย์ประสบพบมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา  ทารอสไดลินและคนอื่นต่างประหลาดใจกันทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่ลีย์ลินฆ่าซาดิสต์เทพชั้นสูงในกระบวนท่าเดียวทำให้ยอดฝีมือปากอ้าตาค้างไปตามๆกัน

“เจ้าบอกว่าลีย์ลินเจ้าภูเขาฆ้องทองแดงก็คือลอร์ดบลูไฟร์หรือ? หนึ่งในห้าราชันย์เกบาโดส ลอร์ดบลูไฟร์?” ไดลินพูดอย่างประหลาดใจ

ไดลินเคยอยู่ในเกบาโดสมาช่วงเวลาหนึ่ง  เขารู้ว่าบลูไฟร์น่ากลัวเพียงไหน

บีบีกินอาหารไปพลางพูด “แม้แต่แอดกินส์เมื่อพบกับเจ้าภูเขาฆ้องทองแดงลีย์ลินยังต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาข้างหนึ่งและเรียกเขาด้วยคำว่า ‘ท่านเจ้าเมือง’”

“แอดกินส์?”  วอร์ตันนั่งอยู่ข้างลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

วอร์ตันเกลียดแอดกินส์อย่างลึกล้ำ เพราะหลานของเขาลูกซีน่าชื่อคาส ถูกโอจวินฆ่า ขณะที่โอจวินเป็นบริวารของแอดกินส์

“เมื่อพูดถึงแอดกินส์ ข้าคิดอะไรบางอย่างได้” ลินลี่ย์มองดูโอลิเวอร์ที่อยู่ใกล้ๆ “โอลิเวอร์, แอดกินส์ผู้นั้นรับรองกับข้าแล้วว่าโอจวินจะไม่ตามรบกวนเจ้าอีกต่อไป”

โอลิเวอร์ตาเป็นประกายทันที

ตลอดหลายปีมานี้เขายังคงรั้งอยู่ภายในปราสาทเลือดมังกรไม่กล้าออกไปข้างนอกเพราะเกรงว่าโอจวินจะบุกโจมตี

“ลินลี่ย์!  ขอบคุณ” โอลิเวอร์รู้สึกซาบซึ้งในใจ

“ถ้าท่านจะขอบคุณใครสักคนก็คงเป็นท่านลีย์ลิน” ลินลี่ย์กล่าว จากนั้นโอลิเวอร์กล่าวขึ้นทันที “ลินลี่ย์! ในเมื่อโอจวินไม่ไล่ล่าตามโจมตีข้าอีกต่อไป อย่างนั้น..พรุ่งนี้ข้าตั้งใจจะไปดินแดนน้ำแข็งขั้วโลก  ข้าทนรับต่อไปไม่ได้จริงๆ”

“พรุ่งนี้?  ทำไมท่านถึงไปที่ดินแดนน้ำแข็งขั้วโลกเล่า?”

โอลิเวอร์ยิ้ม ตาของเขาเป็นประกายคาดหวัง “พรุ่งนี้, ข้าเตรียมจะไปดินแดนชั้นสูงของแดนนรก!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด