ตอนที่แล้วตอนที่ 13-35 แสดงความเคารพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13-37 เพื่อตระกูล

ตอนที่ 13-36 ความลับ


หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้าน เนื่องจากเขาจำสิ่งที่มูบาเคยบอกเขาไว้แต่เดิม...

“ลินลี่ย์, เจ้าเมืองบลูไฟร์คือหนึ่งในห้าราชันย์ ลอร์ดบลูไฟร์!  ลอร์ดบลูไฟร์ลึกลับมาก ไม่เพียงแต่เขาจะทรงพลังมากเท่านั้น  แต่เขาแทบไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็นไม่แน่ใจว่าเขายังพำนักอยู่ในเมืองบลูไฟร์หรือไม่ ภายในเมืองบลูไฟร์  คนที่มีชื่อเสียงและอำนาจเป็นรองเพียงลอร์ดบลูไฟร์ก็คือลอร์ดแอดกินส์”

ลินลี่ย์มองดูลีย์ลินที่อยู่ใกล้ๆ

“เขา...เขาคือบลูไฟร์ หนึ่งในห้าราชันย์เกบาโดสจริงๆหรือนี่?”

เป็นเรื่องยากจะบอกกล่าวว่าพิภพเกบาโดสมีอยู่มานานเท่าใดแล้ว  ภายในเกบาโดส จำนวนของเทพมีนับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามมีคนอยู่ห้าคนที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดได้รับการเทิดทูนในฐานะ ‘ราชันย์’ การได้ฉายาราชันย์ในดินแดนจองจำ.. ใครก็ตามที่มีสามัญสำนึกก็จะเข้าใจว่าคนเช่นนั้นจะต้องทรงพลังเพียงไหน

“แอดกินส์,ลุกขึ้น  เราทั้งสองออกจากเกบาโดสแล้ว  และข้าไม่ได้เป็นเจ้าเมืองบลูไฟร์อีกต่อไปแล้วไม่จำเป็นที่เจ้าต้องเรียกข้าว่าเจ้าเมืองอีกต่อไป”  ลีย์ลินพูดพลางหัวเราะอย่างใจเย็น

แอดกินส์ยืนขึ้นอย่างเคารพและกล่าว  “ขอรับ,แต่ความเคารพที่แอดกินส์มีต่อท่านเจ้าเมืองบลูไฟร์จะไม่มีวันเปลี่ยน”  ขณะเดียวกันบาร์นาสเพียงแต่ยืนอยู่ข้างหนึ่งด้วยความเคารพ ชื่อเสียงของบลูไฟร์น่าทึ่งและน่ากลัวเกินไป

ห้าราชันย์ไร้เทียมทานและน่ากลัว

“ท่าน...ท่านคือบลูไฟร์หรือ?”  บีบีมองดูลีย์ลินด้วยความประหลาดใจ

“อะไรกัน ข้าดูไม่เหมือนเหรอ?” ลีย์ลินเลิกคิ้วสีแดงและเขาหัวเราะให้บีบี

บีบีพึมพำ “ไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่, ข้าได้ยินพี่ใหญ่บอกว่าบลูไฟร์คือหนึ่งในห้าราชันย์เกบาโดส  เนื่องจากเขาทรงพลังมาก  ข้าเห็นว่าบริวารของเขาคงจะเป็นเทพชั้นสูง  นอกจากนี้... ข้าคิดว่าบลูไฟร์จะเป็นชื่อของเขาเสียอีก”

“ฮ่าฮ่าฮ่า....”

ลีย์ลินเริ่มหัวเราะลั่น “ทำไมข้าบลูไฟร์จะต้องมีเทพชั้นสูงเป็นบริวารโดยไม่จำเป็นด้วยเล่า? หรือว่านั่นเป็นเพียงวิธีเดียวที่ข้าสามารถใช้ยืนยันสถานะตัวข้า?”

แอดกินส์ถอยมายืนด้านข้างและหัวเราะกล่าวด้วยความเคารพ “ทำไมลอร์ดบลูไฟร์จะต้องการบริวารด้วยเล่า? ต่อให้มีกลุ่มเทพชั้นสูงมาอยู่ต่อหน้าลอร์ดบลูไฟร์  พวกเขาก็มีกันไม่มาก”  นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ห้าราชันย์เกบาโดสเอาชนะและพิสูจน์พลังตนเองผ่านการประหัตประหาร

แม้แต่ในบรรดาห้าราชันย์ลอร์ดบลูไฟร์ก็ยังใช้เวลาฝึกฝนที่สั้นที่สุด

เขาเป็นผู้ที่มีรูปร่างเด่นสะดุดตาที่สุด

บลูไฟร์ มีชื่อว่า แซ็คคาเรียสลีย์ลินผุดขึ้นมาอย่างโดดเด่นในพิภพจองจำ เอาชนะได้ทุกศึกที่เขาต่อสู้  แม้แต่เทพชั้นสูงที่ทรงพลังที่สุดเมื่ออยู่ต่อหน้าบลูไฟร์ก็ต้องก้มหัวยอมรับสภาพตนเอง สำหรับวันนี้ไม่มีใครสามารถต้านทานพลังโจมตีของลอร์ดบลูไฟร์ได้

“บลูไฟร์ไม่มีอะไรมากไปกว่าฉายา”  ลีย์ลินหัวเราะอย่างใจเย็น

แต่แอดกินส์กล่าว “ชื่อบลูไฟร์เป็นชื่อที่ได้มาเนื่องจากการประหัตประหารนับไม่ถ้วนที่ท่านเข้าร่วมสู้ ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนทั่วทั้งเกบาโดสรู้จักและยอมรับ ใครบ้างในเกบาโดสไม่เคยได้ยินการสู้รบที่แม่น้ำบลู?”

ลีย์ลินยังคงหัวเราะ

ไม่ว่าแอดกินส์จะหยิ่งเพียงไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าลีย์ลินเขาต้องนอบน้อมตัว นี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าความเป็นจริง! แอดกินส์เมื่อเผชิญหน้ากับลีย์ลินไม่มีความคิดแม้แต่จะต่อต้านเขาแม้แต่น้อย! เพราะแอดกินส์รู้ว่าเขาไม่สามารถรับพลังโจมตีของบลูไฟร์ได้แม้แต่ท่าเดียว!

การสู้รบที่แม่น้ำบลูคือสิ่งที่สร้างชื่อให้กับ ‘บลูไฟร์’

นอกจากนี้ยังสร้างความหวาดกลัวให้กับคนนับไม่ถ้วน  หลายๆ คนยังเชื่อกระทั่งว่าบลูไฟร์เป็นนักสู้ทรงพลังที่สุดในห้าราชันย์  แต่แน่นอนว่านี่ไม่เคยได้รับการพิสูจน์  เพราะเกบาโดสกว้างใหญ่ไพศาลมาก  และห้าราชันย์ก็แยกกันอยู่ในดินแดนของตน นอกจากนี้พวกเขายังตั้งใจหลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูกัน  ที่สำคัญ ไม่มีสมบัติในเกบาโดสคุ้มค่าให้พวกเขาต้องต่อสู้เอาชนะกันและกัน

“นี่คือสุดยอดฝีมือที่แท้จริง!” หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความเลื่อมใสต่อลีย์ลินผู้นี้อย่างแท้จริงขณะเดียวกันขณะเดียวกันก็รู้สึกร้อนรุ่มในใจของเขา

แม้แต่แอดกินส์ก็ยังกริ่งเกรงและแสดงความเคารพต่อหน้าลีย์ลินที่สามารถเป็นนักสู้สุดยอดในเกบาโดส

“แอดกินส์!  อย่าเอาแต่ยืนอยู่เลย มานั่งเถอะเจ้าไปนั่งข้างลินลี่ย์ก็ได้” ลีย์ลินชี้ขณะที่เขาพูด

เป็นธรรมดาที่แอดกินส์ไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของลีย์ลิน  เขาคำนับด้วยความเคารพทันที  “ขอบคุณลอร์ดบลูไฟร์”  และจากนั้นเขานั่งลงข้างลินลี่ย์ขณะที่ยิ้มให้ลินลี่ย์อย่างเป็นมิตร

ลินลี่ย์ได้แต่ยิ้มตอบรับเช่นกัน

“ฮึ” บีบีที่อยู่ข้างๆ ลินลี่ย์แค่นเสียงเย็นชา

แอดกินส์เลิกคิ้วทันที เขาชำเลืองมองบีบีและจากนั้นก็หัวเราะทันที “นี่ต้องเป็นบีบีแน่” บีบีตอบรับแบบกระด้าง แต่แอดกินส์ไม่ถือสา เขาหัวเราะพลางกล่าว  “บีบี,ข้ารู้ว่าเจ้าค่อนข้างไม่พอใจ เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นความผิดคนของข้าเอง”

ลินลี่ย์และบีบีชำเลืองมองแอดกินส์อย่างค่อนข้างประหลาดใจ

“เกิดอะไรขึ้นหรือ แอดกินส์?”  ลีย์ลินถาม

แอดกินส์ยิ้มและกล่าว “ลอร์ดบลูไฟร์!  นี่ความเป็นปัญหาเล็กน้อย บริวารของข้าเทพชื่อโอจวินมีความแค้นเล็กน้อยกับสหายของลินลี่ย์ผู้นี้  หลังจากนั้นโอจวินก็เชื้อเชิญเทพแท้ที่เป็นบริวารของข้าไปยังที่พำนักของลินลี่ย์เพื่อล้างแค้น  อย่างไรก็ตามในที่สุดเป็นฝ่ายข้าที่ประสบความสูญเสียพ่ายแพ้”

“โอว?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลีย์ลินรู้สึกทึ่งเล็กน้อยเช่นกัน

ลินลี่ย์กับบีบีมองหน้ากันเอง

“พี่ใหญ่,ดูเหมือนว่าแอดกินส์ผู้นี้ต้องการจะขอโทษใช่ไหม?” บีบีพูดทางใจกับลินลี่ย์

“ข้าไม่แน่ใจเหมือนกัน” ลินลี่ย์ยังคงงงอยู่

ที่สำคัญแอดกินส์เป็นเทพชั้นสูง เขาจะยอมขอโทษหรือ?

“บาร์นาส มาตรงนี้” แอดกินส์กล่าว “แม้ว่าท่านจะสูญเสียร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไประหว่างสู้รบแต่ที่สำคัญคือเจ้ากับคนของเจ้าเป็นผู้ต่อสู้ ถ้าเราคิดๆ ดูแล้ว ก็นับว่าเป็นความผิดของกลุ่มของเจ้าไปขอโทษลินลี่ย์กับบีบีเถอะ”

ลินลี่ย์กับบีบีสะดุ้ง

บาร์นาสเข้ามาหาจริงๆ เขาพูดด้วยความรู้สึกต้องการขอโทษ “ท่านลินลี่ย์, ท่านบีบี ข้าเสียใจจริงๆที่ก่อเรื่องในปีนั้น”

“ท่านบาร์นาส!  ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ก็ได้  เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากโอจวินผู้นั้น”  ลินลี่ย์กล่าว “ท่านบาร์นาส ข้าคิดว่าท่านคงถูกเขาล่อลวง” เนื่องจากเขายอมเสียหน้า ลินลี่ย์จึงต้องรักษาหน้าของเขาเช่นกัน

แอดกิสน์พยักหน้า “ลินลี่ย์, เจ้าไม่ต้องห่วง จากวันนี้ไปข้ารับรองกับเจ้าได้ว่าโอจวินจะไม่สร้างความลำบากใจให้พวกเจ้าในอนาคตอีก”

ลินลี่ย์อดหัวเราะในใจไม่ได้

ดูเหมือนว่าโอลิเวอร์จะไม่ต้องซ่อนตัวอยู่ภายในห้องมิติอีกต่อไปแล้ว

เมื่อแอดกินส์พาบาร์นาสมาเยี่ยมเจ้าภูเขาฆ้องทองแดงพบกับ‘บลูไฟร์’ ลีย์ลิน โอจวินยังครั้งอยู่ที่จักรวรรดิโอวเบรียนที่ห่างไกล  เขา ฮันบริทและเกเทนบีร่วมดื่มและสนทนากันทั้งสามคนมีสัมพันธ์อันดีเกินกว่ายี่สิบปีแล้ว

ที่สำคัญคือบาร์นาสมีสถานะที่พิเศษ  ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างจะห่างเหินจากสามคนนั้น

“คลื่นพลังงานประหลาดที่มาจากทางทิศตะวันตกนั้นมีแนวโน้มว่าจะเป็นของเทพชั้นสูง”เกเทนบีรำพึง

“ใช่แล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเรา”  โอจวินหัวเราะ “ในเมื่อเป็นเรื่องของพวกเทพชั้นสูง เราก็แค่ดื่มกินอย่างสงบอยู่ที่นี่พอ”

ฮันบริทส่ายศีรษะ “เทพระดับสูง? พวกเขาทรงพลังมาก  ถ้าสักวันข้าได้รับประกายเทพระดับสูง  ข้าอาจกลายเป็นเทพระดับสูงด้วยกระมัง?  เพียงแต่โชคไม่ดีที่ข้าไม่รู้ว่าอีกนานเท่าใดกว่าข้าจะได้รับประกายเทพระดับสูง”

“ประกายเทพระดับสูงเป็นสิ่งที่ข้าได้แต่ฝัน”  โอจวินถอนหายใจด้วยเช่นกัน

ทันใดนั้นฮันบริทวางแก้วเหล้าลง  เขายิ้มเขินๆ ให้กับโอจวิน  “โอจวิน, ข้าจะบอกความลับอะไรให้เจ้าสักอย่าง!”

“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังจะพูดอะไร!”  เกเทนบีหัวเราะ

เกเทนบีหัวเราะลั่นเช่นกัน “ความลับบ้าอะไรกัน, บาร์นาสกับข้ารู้หมดแล้ว”

ฮันบริทเหลือกตาจากนั้นกล่าว  “เจ้ารู้แล้ว ข้ารู้ แต่... โอจวินไม่รู้นี่นา” คำพูดเหล่านั้นทำให้ใจของโอจวินเต็มไปด้วยความสงสัย  และเขามองเร่งเร้าฮันบริท

ฮันบริทยิ้มอย่างอารมณ์ดี “โอจวิน! ข้าจะบอกอะไรบางอย่างแก่เจ้า ในแหวนมิติเก็บสมบัติของลอร์ดแอดกินส์ มีประกายเทพชั้นสูงเก็บไว้!”

“อะไรนะ?”  หัวใจของโอจวินสั่นสะท้าน

ประกายเทพชั้นสูง?!

โอจวินฝันว่าสักวันจะได้รับประกายเทพชั้นสูง  แต่โอจวินมีแต่เพียงร่างแยกธาตุแสง

ใครจะรู้ว่าประกายเทพชั้นสูงนั้นจะเป็นประกายเทพธาตุแสงหรือเปล่า

เกเทนบีพยักหน้าและกล่าว “เขามีประกายเทพระดับสูง เพียงแต่เราไม่แน่ใจว่าเป็นธาตุชนิดใด แต่ข้ามั่นใจว่าไม่ใช่ธาตุแสงและธาตุดิน”

“ทำไมเจ้าถึงมั่นใจมากขนาดนั้น?”  โอจวินรีบถาม

เกเทนบีหัวเราะ “ลอร์ดแอดกินส์เองไม่จำเป็นต้องได้เลย แน่นอนว่าเจ้าต้องรู้ความสัมพันธ์ระหว่างลอร์ดแอดกินส์กับบาร์นาสว่าเป็นยังไง  ถ้าบาร์นาสสามารถใช้มันได้  ลอร์ดแอดกินส์คงจะมอบให้บาร์นาสแน่  บาร์นาสมีร่างศักดิ์สิทธิ์อยู่สองร่าง  ที่ปราสาทเลือดมังกรเป็นร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ธาตุดินของเขาที่ถูกทำลาย ตอนนี้ร่างศักดิ์สิทธิ์ของเขาเป็นสายธาตุแสง  เนื่องจากบาร์นาสไม่สามารถใช้ได้  อย่างนั้นก็ต้องไม่ใช่ธาตุดินแน่นอนและไม่ทั้งไม่ใช่ธาตุแสงด้วย”

“ถูกแล้ว” โอจวินพยักหน้าเล็กน้อย

“เป็นไปได้ไหมว่าพวกเจ้าทั้งสองสหายของข้าก็ไม่สามารถใช้ประกายเทพชั้นสูงนั้นได้?” โอจวินถาม

ฮันบริทแค่นเสียง “ในใจของท่านลอร์ด เราสามคนยังด้อยมากกว่าบาร์นาสอย่างห่างไกล  เราเป็นแค่ลูกน้องของเขา  ลอร์ดแอดกินส์จะยอมให้ประกายเทพชั้นสูงแก่เราได้ยังไง?”

“เมื่อใดก็ตามที่ข้าคิดเรื่องนี้  ข้ารู้สึกไม่สบายใจ  ดื่มกันเถอะ” เกเทนบีรีบกล่าว

“ดื่ม ดื่ม” โอจวินรีบชูแก้วเหล้า เพียงแต่ในใจของเขา โอจวินเริ่มวางแผน...

เสียงลมหวีดหวิว ชายชราผมขาวบินตามอยู่ด้านหลังบุรุษหนุ่มรูปงามด้วยความเคารพขณะที่พวกเขาบินอยู่ในอากาศ

เมื่อเขาอยู่ที่ภูเขาฆ้องทองแดงแอดกินส์ยิ้มตลอดเวลา  เมื่ออยู่ต่อหน้าบลูไฟร์หรือลีย์ลินแอดกินส์สุภาพมากมารยาท และเขายังมีความเป็นกันเองกับลินลี่ย์และบีบี แต่ตอนนี้ที่พวกเขาบินออกมาจากภูเขาฆ้องทองแดง  แอดกินส์อดขมวดคิ้วไม่ได้  ใจของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

“ลอร์ดบลูไฟร์ซ่อนตัวอยู่ภายในทวีปยูลานเช่นกัน มีโอกาสเก้าในสิบที่เขากำลังทำเพื่อสมบัติของสุสานเทพเจ้าเช่นกัน”

ใจของแอดกินส์ปั่นป่วนว้าวุ่นเมื่อคิดเรื่องนี้

เขาต้องการได้รับสมบัติภายในสุสานเทพเจ้าอย่างแท้จริง  “ข้า, จะต้องแข่งกับลอดร์ดบลูไฟร์หรือนี่?”

ทันทีที่เขาคิดเรื่องนี้ แอดกินส์รู้สึกจนใจ  เขารู้ดีว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าบลูไฟร์  เขาไม่มีความสามารถโต้ตอบได้เลย

ชื่อเสียงที่น่ากลัวของราชันย์บลูไฟร์ไม่ได้แค่มาจากคำเยินยอสรรเสริญเท่านั้น แต่เป็นเพราะลีย์ลินชนะและเข่นฆ่ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเลือดนองเป็นแม่น้ำ  ไม่มีความจำเป็นต้องมีความสงสัยใดๆเกี่ยวกับพลังที่บลูไฟร์

“ท่านลอร์ด? ท่านเตรียมตัวจะยกเลิกหรือ?”  บาร์นาสถามผ่านสำนึกเทพ

แอดกินส์สูดหายใจลึก จากนั้นตอบกลับด้วยสำนึกเทพของเขา  “ยกเลิก? เป็นไปไม่ได้!”

บาร์นาสตกใจ

แอดกินพูดกับตนเอง “อย่างมากก็ตาย ถ้าข้าทำได้สำเร็จ ข้าหวังเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถมีพลังเหนือบลูไฟร์ได้  ข้าไม่อาจสู้กับบลูไฟร์โดยตรงได้  สำหรับตอนนี้ข้ามีทางสายเดียวอยู่ข้างหน้า..” แอดกินส์ทำใจ และสายตาของเขามุ่งมั่นทันที

“เราถึงเมืองหลวงแล้ว”

บาร์นาสและแอดกินส์พุ่งลงไปทันทีตรงลงไปที่วังหลวง

เมื่อกลับไปที่วังหลวงสิ่งแรกที่แอดกินส์ทำคือเรียกโอจวินเข้าวัง โอจวินที่กำลังดื่มและคุยกับฮันบริทและเกเทนบีเข้ามาในวังตามคำสั่งทันทีไม่สนใจเรื่องอื่น

“ท่านลอร์ด” โอจวินคุกเข่าข้างหนึ่งแสดงความเคารพ

แอดกินส์หันมาจ้องเขาอย่างเย็นชา  “โอจวิน!  มีเรื่องที่ข้าต้องเตือนเจ้า  ข้ารู้ว่าลูกชายของเจ้าถูกฆ่า  แต่จำเรื่องนี้ไว้ให้ดี.. ตั้งแต่นี้ไปให้ลืมเรื่องล้างแค้น ไม่ว่ายังไงอย่าไปหาเรื่องกับคนในปราสาทเลือดมังกรแม้แต่คนเดียว!”

โอจวินตกใจ

ให้ลืมเรื่องแก้แค้น?

แม้จะผ่านไปยี่สิบปี โอจวินจะสงบใจลงได้บ้างแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขายอมสลายความแค้น เป้าหมายแก้แค้นให้กับลูกที่ตายไปยังคงอยู่ในใจของเขา

“ฮึ่ม!”  แอดกินส์แค่นเสียงเย็นชา  “เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”

บาร์นาสที่อยู่ใกล้ๆ พูดเสียงจริงจังเช่นกัน  “โอจวิน,นี่เป็นเรื่องสำคัญต่อกิจการของท่านลอร์ด ถ้าเป็นเพราะเรื่องเล็กน้อยของเจ้าทำให้งานใหญ่ของท่านลอร์ดต้องพังทลาย, อย่างนั้น... ต่อให้ตายไปเจ้าก็ยังไม่พ้นผิด”

โอจวินรีบปรับเปลี่ยนท่าทีตนเองและรีบกล่าว  “ลอร์ดแอดกินส์ ไม่ต้องห่วง  จากวันนี้ไป ข้า, โอจวินจะไม่ไปก่อเรื่องยุ่งยากในปราสาทเลือดมังกรอีก  เกี่ยวกับเรื่องล้างแค้นนี้ ข้าโอจวินจะไม่เอามาคิดอีก!  แต่ในใจของเขา โอจวินคร่ำครวญด้วยความโกรธ ”แก้แค้น? ไม่, ต่อให้ข้าตายข้าจะไม่ยอมยกเลิก ทั้งหมดที่ข้าจะทำคือหักห้ามใจตัวเองชั่วคราว  หลังจาก...หลังจากที่ข้าได้ประกายเทพชั้นสูง...

โอจวินมีความปรารถนายิ่งใหญ่ว่าจะได้รับประกายเทพชั้นสูง

“เจ้าไปได้แล้ว” แอดกินส์กล่าวอย่างใจเย็น

“ขอรับ” โอจวินคำนับแล้วออกมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด