ตอนที่ 13-37 เพื่อตระกูล
ความตายของเทพชั้นสูงของซาดิสต์ไม่ทำให้ทวีปยูลานปั่นป่วนมากนักคนธรรมดายังคงใช้ชีวิตไปอย่างเงียบงันตามปกติ มีเพียงเทพที่อยู่ระดับสุดยอดของดินแดนที่ได้รู้อะไรบางอย่างจากคลื่นพลังงานที่น่ากลัวซึ่งมาจากทางด้านตะวันตก.....
เรื่องใหญ่บางเรื่องเกิดขึ้นในทวีปยูลาน
แอนราสตาย ซาดิสต์มุ่งหน้าไปตะวันตกและไม่กลับมาเลย
ภายในจักรวรรดิโรฮอลท์ตอนนี้กลุ่มเทพของซาดิสต์นำโดยแดนนี่หลานชายของซาดิสต์ไปโดยปริยายและเนฟเทพแท้อีกคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามแดนนี่และเนฟไม่แน่ใจเต็มที่ว่าซาดิสต์ตายแล้ว
วันนี้พวกเขารู้สึกแทบคลั่ง
คฤหาสน์สันโดษเงียบสงัด ภายในจักรวรรดิโรฮอลท์ แสงแดดยามฤดูร้อนฉายส่องทั่วทั้งคฤหาสน์ ภายในที่พักของแดนนี่บุรุษคนหนึ่งผมขาวสั้นร่างผอมบางสวมเสื้อสีดำแขนสั้นเดินมาอยู่ข้างหน้า“แดนนี่, ออกมา!”
ประตูห้องเปิดออกและแดนนี่เดินออกมา “เนฟ! เกิดอะไรขึ้น?”
“เจ้ายังมีอารมณ์พักอยู่ได้ยังไง?” เนฟค่อนข้างโกรธ
“บอกมาสิ, ข้ายังจะทำอะไรได้?” แดนนี่รู้สึกผิดหวังมากเช่นกัน เขาเป็นคนที่แนะนำให้ซาดิสต์ไปฆ่าเทพแท้ทั้งสองเพื่อระบายความโกรธ ที่สำคัญถ้าซาดิสต์เอาแต่ครุ่นคิดตลอดเวลา แดนนี่ก็รู้สึกอเน็จอนาถและทรมานใจเช่นกัน
แต่ใครจะคิดกันเล่าว่าซาดิสต์ลุงของเขาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
“สามวันที่แล้วมีคลื่นพลังงานแปลกประหลาดจากทิศตะวันตก เจ้าก็รู้สึกได้เหมือนกัน” เนฟพูดอย่างจริงจัง
แดนนี่พยักหน้า “ใช่แล้ว ข้ารู้สึกได้ นั่นต้องเป็นรัศมีของลุงแน่นอน แต่เนฟ, นั่นจะพิสูจน์อะไรได้?”
“นั่นจะพิสูจน์อะไรได้หรือ?” เนฟหัวเราะ “แดนนี่, เลิกฝันเฟื่องได้แล้ว สถานการณ์ชัดเจนแล้ว คลื่นพลังงานที่ทรงพลังเป็นสิ่งที่ข้าเชื่อว่าลอร์ดซาดิสต์คงไม่ปล่อยออกมาอย่างไร้เหตุผล เขาต้องก่อศึกครั้งใหญ่แน่”
เนฟพูดต่อ “วันนั้น,เจ้าบอกข้าว่าลอร์ดซาดิสต์ออกไปทางตะวันตกเพื่อฆ่าเทพทั้งสองนั้น และเทพทั้งสองนั้นตายหรือยัง?”
แดนนี่ตกใจ เขาลังเลเล็กน้อยและกล่าว “ข้า, ข้าไม่รู้”
“เจ้าไม่รู้หรือ? ง่ายมาก แผ่สำนึกเทพของเจ้าออกไปให้ครอบคลุมเทือกเขา ข้าเชื่อว่าเจ้าจะตัดสินใจด้วยตนเองได้ง่ายว่าเทพทั้งสองตายหรือยัง” เนฟพูดอย่างเย็นชา “แดนนี่, อย่าแกล้งโง่ไปหน่อยเลย”
แดนนี่สีหน้าเปลี่ยน
“ข้าใช้สำนึกเทพของข้าตรวจสอบแล้ว” เนฟสูดหายใจลึก “เทพทั้งสองนั่นยังไม่ตาย แดนนี่!ลอร์ดซาดิสต์ไปฆ่าเทพทั้งสองนั้น เหตุการณ์ใหญ่ขนาดนั้นเกิดขึ้นที่นั่น แต่เทพทั้งสองนั้นยังไม่ตาย ลอร์ดซาดิสต์ไปที่นั่นมาสามวันแล้ว และยังไม่มีวี่แววจะกลับมา แค่นั้นผลยังไม่ชัดเจนพออีกหรือ?”
“บางที...ลุงคงมีเรื่องสำคัญดึงความสนใจ จนเขาไปในบางที่ก็ได้” แดนนี่กล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด
แดนนี่ไม่ต้องการเชื่อว่าลุงของเขาตาย
ตระกูลของเขาเป็นตระกูลใหญ่ที่คงอยู่มานานเป็นล้านล้านปี เป็นธรรมดาที่แบ่งเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลสาขา ในสาขาตระกูลของแดนนี่ซาดิสต์เป็นเสาหลักและรากฐานของทั้งตระกูลสาขา ถ้าซาดิสต์ตายจริงๆ แดนนี่สามารถคาดเดาได้ว่าจะต้องตกอยู่ในหายนะอะไรบ้าง
เนฟเข้าใจสิ่งที่แดนนี่กำลังคิดเช่นกัน
“แดนนี่, ไม่ว่ายังไง เราต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง”เนฟพูดจริงจัง “นี่คือทวีปยูลาน ไม่ใช่แดนนรก ในทวีปยูลาน ต่อให้ลอร์ดซาดิสต์พบกับบางอย่างที่สำคัญและไม่สามารถให้ความสนใจเรื่องอะไรอื่น เขาจะต้องใช้สำนึกเทพติดต่อกับเรา ที่สำคัญคือการติดต่อผ่านสำนึกเทพทำได้ทันที”
“อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ติดต่อ เราไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากลอร์ดซาดิสต์”
หน้าของเนฟเศร้า “ข้าไม่ต้องการยอมรับ แต่ข้าต้องพูดเช่นนี้ แผนของตระกูลล้มเหลว สุสานเทพเจ้า..อย่างน้อยกลุ่มของเราไม่มีหวังแล้วเมื่อปราศจากพลังของเทพชั้นสูงเราไม่สามารถได้รับสมบัติที่ตระกูลต้องการได้”
แดนนี่พยักหน้าเช่นกัน
เขาจะไม่เข้าใจตรงจุดนี้ได้ยังไง?
“ท่านลุง..บางทีอาจจะตายไปแล้วก็ได้” แดนนี่พยักหน้าขมขื่น แต่จากนั้นเขาจ้องมองเนฟ “แต่เนฟ ถ้าลุงตายแล้วจะเป็นยังไง? หรือว่าเจ้า...”
“ถูกแล้ว!”
รัศมีของเนฟดุร้าย “แดนนี่, สถานะที่ตระกูลมีเป็นผลมาจากผู้อาวุโสนับไม่ถ้วนเสี่ยงชีวิตมาเป็นล้านล้านปี เจ้ากับข้าไม่มีพรสวรรค์มากนัก แล้วทำไมเราถึงสามารถได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์และบรรลุระดับเทพแท้ได้ง่ายในฐานะลูกหลานกูลเล่า? เป็นเพราะตระกูลให้ทุกอย่างกับเรา!”
แดนนี่เงียบ
“แคว้นฟ้าครามเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของเรา! พวกเขาแข็งแกร่งทรงพลังมาก ตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์แห่งแคว้นฟ้าครามแข็งแกร่งทรงพลัง ลินลี่ย์ผู้นั้น...เจ้าน่าจะรู้ดีว่าในช่วงเวลาเพียงไม่ถึงร้อยปี เขาฝึกฝนจนถึงระดับมีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ถึงสองร่าง!”
เนฟหัวเราะเย็นชา “ข้าไม่เคยได้ยินว่าจะมีอัจฉริยะอย่างนั้นในตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถมาถึงระดับนี้ได้โดยไม่ผ่านพิธีชุบตัวศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาและแดนนี่, ลินลี่ย์ผู้นั้นฝึกมาทางสายธาตุดินและธาตุลม ไม่ใช่ธาตุน้ำ! เจ้าเข้าใจไหมว่าหมายความว่ายังไง?”
แดนนี่พยักหน้า
“ทันทีเขาผ่านพิธีชุบตัวศักดิ์สิทธิ์ของสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์ ข้าเชื่อว่าอีกหมื่นปีต่อมาแคว้นฟ้าครามจะมีเทพชั้นสูงที่ไม่มีพลังใดจะเทียบได้ เมื่อเกิดเรื่องนั้นขึ้น ข้าไม่กล้าคิดเลยว่าจะต้องมีคนในตระกูลเราอีกเท่าไหร่จะต้องตายในเงื้อมมือของเขา” สายตาเนฟคมกล้าขึ้น “แต่ตอนนี้, เขายังเป็นเทียมเทพผู้ยังไม่ผ่านพิธีชุบตัวศักดิ์สิทธิ์ของสี่ตระกูลอสูรศักดิ์สิทธิ์!”
“ถ้าเราไม่ฆ่าเขาตอนนี้ แล้วเราจะฆ่าเขาเมื่อไหร่กันเล่า?”
สายตาของเนฟเย็นชาและดุร้าย “ข้ารู้ว่าในทวีปยูลานลินลี่ย์มีผู้เกี่ยวข้องและสนับสนุนเขา แต่เขาจะทำอะไรได้เล่า? ข้ายอมตายก็ต้องฆ่าเขาให้ได้”เนฟอาศัยประกายศักดิ์สิทธิ์จึงทำให้เขาเป็นเทพแท้ได้ เขาเองก็รู้...
แม้ว่าเขาจะมีพลังมากกว่าลินลี่ย์ แต่ในแง่ศักยภาพ เขายังด้อยกว่าลินลี่ย์ห่างไกล
“เนฟ!” แดนนี่สูดหายใจลึก ส่ายศีรษะ“ข้าขอแนะนำเจ้าว่าอย่าไปพยายามฆ่าลินลี่ย์ในตอนนี้เลย”
“เจ้าพูดอะไร?”เนฟระเบิดอารมณ์โกรธ
แดนนี่ถอนหายใจและกล่าว “ไม่ต้องรีบร้อน ไม่จำเป็นจริงๆ ที่เราจะต้องฆ่าเขาที่นี่ทวีปยูลาน เมื่อเขาไปแดนนรก ตอนนั้นเราค่อยฆ่าเขาก็ได้”
“น่าขัน” เนฟพูด “ที่สำคัญคือ เมื่อไหร่ลินลี่ย์จะไปแดนนรก?จะเป็นยังไงถ้าเขาอยู่ในทวีปยูลานจนกระทั่งถึงระดับเทพชั้นสูงและจากนั้นได้รับสมบัติมหาเทพในสุสานเทพเจ้า แล้วจากนั้นค่อยไปยังแดนนรก ถ้าเราต้องการฆ่าเขาตอนนั้น เราจะทำได้หรือ?”
แดนนี่ตะลึง
“นอกจากนี้ เมื่อลินลี่ย์ไปถึงแดนนรกไม่มีทางที่เราจะทราบได้ว่าเขาถูกส่งไปยังตำแหน่งไหน ตระกูลของเรามีอิทธิเฉพาะในพื้นที่ที่เราครองอำนาจอยู่เท่านั้น เจ้าเชื่อจริงๆหรือว่า...เราจะไล่ตามเขาไปทั่วแดนนรกได้? เจ้ารู้ไหมว่าแดนนรกกว้างใหญ่เพียงไหน?” เนฟจ้องมองแดนนี่
ไม่มีอะไรที่แดนนี่จะพูดได้
ก่อนหน้านั้นเป้าหมายแรกของซาดิสต์ก็คือสุสานเทพเจ้าซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาปล่อยวางเรื่องลินลี่ย์ไว้ชั่วคราว ความจริงการฆ่าลินลี่ย์ในแดนนรกไม่ใช่เรื่องที่จริงจังมากนัก ในฐานะหนึ่งในพิภพชั้นสูง ขนาดของแดนนรกกว้างใหญ่ไพศาลกว่าทวีปยูลานนับไม่ถ้วน
ภายในแดนนรกยังมีกองกำลังเล็กน้อยสองสามกองทัพที่ยังทรงพลังมากกว่าตระกูลของพวกเขาทั้งสองเช่นเดียวกับแคว้นฟ้าคราม!
“แดนนี่,หรือว่าเจ้าลืมไปแล้วว่าเรามีการสู้รบกับแคว้นฟ้าครามมานับไม่ถ้วนแล้ว? ผู้อาวุโสหลายคนของเราต้องตายไปคนแล้วคนเล่า?” เนฟจ้องมองแดนนี่ “พอเถอะ ข้าจะไปที่เทือกเขาอสูรวิเศษทันที ข้ารู้ว่าเวลานี้แม้แต่ตอนนี้ข้าสามารถฆ่าลินลี่ย์ได้ ข้าอาจจะถูกคนที่สนับสนุนเขาฆ่าล้างแค้นก็ได้”
“แต่ถ้าข้าฆ่าลินลี่ย์ ข้าก็ตายอย่างมีความหมาย แดนนี่! ข้าจะปล่อยทุกอย่างให้เจ้าดูแล ข้าไปล่ะ” เนฟหันกายจากมา
เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับสมบัติของสุสานเทพเจ้าได้ ถ้าพวกเขาสามารถฆ่าลินลี่ย์ได้เป็นอย่างน้อยการเดินทางครั้งนี้ก็ไม่ถึงกับสูญเปล่า
“เนฟ...” แดนนี่ไม่ต้องการเห็นเนฟไปตาย ถ้าเขาฆ่าลินลี่ย์ได้... เนฟก็จะถูกฆ่าล้างแค้นโดยกำลังที่สนับสนุนลินลี่ย์
“เพื่อไลโอเนล!” เนฟส่งข้อความทางใจกลับมาและจากนั้นเนฟบินขึ้นไปในอากาศ มุ่งสู่ขอบฟ้าตะวันตก เหลือแต่เพียงจุดดำให้เห็น
แดนนี่ตะลึงแต่จากนั้นสายตาของเขาค่อยแข็งขึ้นอย่างยากลำบาก เขาพูดเสียงอ่อนโยน “เพื่อไลโอเนล!”
“ฟังข้าใหดี!” แดนนี่ตะโกนออกไปด้านนอกในไม่ช้าพวกเทียมเทพก็เข้ามาหา แดนนี่ออกคำสั่งยาวจากนั้นพูด “จำไว้ให้ดี เจ้าต้องแจ้งข้อความนี้กับท่านฮ็อดเดิล จงไปเดี๋ยวนี้”
“ขอรับท่าน”
เทียมเทพผู้นั้นบินออกไปจากที่อยู่นี้ทันทีมุ่งหน้าไปที่แดนน้ำแข็งขั้วโลก
ภายในเทือกเขาอสูรวิเศษ หุบเขาที่แตกแยกออกไปครึ่งหนึ่งมีต้นหญ้างอกเต็มไปหมดและพื้นที่มีน้ำพุฉีดพุ่งกระจายร่างเพกาซัสสายฟ้า อสูรเวทระดับเจ็ดสามารถมองเห็นได้ทุกที่ เพกาซัสสายฟ้าบินเคลื่อนไหวอย่างสง่างามสบายๆอยู่ในอากาศจากนั้นก็บินลงมาที่ข้างน้ำพุก้มลงดื่มน้ำพุ
ทันใดนั้นร่างมนุษย์คนหนึ่งปรากฏตัวที่นี่ทำให้เพกาซัสสายฟ้ารู้สึกหวาดกลัวมาก พวกมันไม่กล้าเคลื่อนไหว
“ได้เวลาทำสิ่งที่ต้องทำแล้ว”
เนฟผมสั้นสีเงินมองไปรอบๆ จากนั้นส่งสำนึกเทพเข้าไปในใจของเพกาซัสก่อนจะนั่งลงทำสมาธิ ขณะเดียวกันเขาส่งสำนึกเทพออกไป เนฟยับยั้งสำนึกเทพไว้แค่เพียงเทือกเขาอสูรวิเศษ
ความสูงของสำนึกเทพของเขาถูกจำกัดไว้แค่เพียงราวสิบกิโลเมตร
ขนาดของพลังที่แสดงออกมาไม่เกิน 0.1% ของขนาดทวีปยูลานโดยรวม ปริมาณของพลังจิตที่ใช้จำกัดสำนึกเทพไว้แค่เพียงพื้นที่นี่สำหรับเทพแท้อย่างเนฟถือว่าสมบูรณ์แบบ อย่างน้อยที่สุดเขาสามารถเติมเต็มสิ่งที่เขาต้องใช้
“ลินลี่ย์ยังคงอยู่ที่นั่น ถ้าเขากลับปราสาทเลือดมังกร เขาจะต้องบินผ่านเทือกเขาอสูรวิเศษ ทันทีที่เขาทำเช่นนั้น ข้าจะตรวจพบเขาได้” เนฟไม่คิดอะไรมากแค่เฝ้าโพรงรอกระต่ายให้มาติดกับ
เนฟไม่กล้าโจมตีภูเขาฆ้องทองแดงโดยตรง ที่สำคัญคือแอนราสและซาดิสต์ล้มเหลวทั้งสองคน เขารอซุ่มอยู่ที่นี่ จะทำให้มีโอกาสสูงมาก
ลินลี่ย์อยู่อย่างเงียบที่ภูเขาฆ้องทองแดงได้รับคำแนะนำจากหนึ่งในห้าราชันย์ ‘บลูไฟร์’ ลีย์ลินนับเป็นโอกาสที่หาได้ยาก นอกจากนี้ลินลี่ย์ยังรู้ว่า.. ‘บลูไฟร์’ ลีย์ลินจะไม่พักอยู่ที่นี่ภูเขาฆ้องทองแดงนานนัก เขาจะต้องจากไปในที่สุด
“ลินลี่ย์! เคล็ดความรู้ลึกลับของแก่นธาตุดินเป็นความรู้ลึกลับที่ง่าย ถ้าเจ้ามุ่งเน้นที่การฝึกให้ดี เจ้าจะประสบความสำเร็จภายในปีหรือสองปีนี้ได้” ลีย์ลินหัวเราะอย่างใจเย็น “แต่ถ้าเจ้ารอจนกระทั่งเชี่ยวชาญความรู้ลึกลับแก่นธาตุดินก่อนที่จะพยายามหลอมรวมกับการเต้นชีพจรโลกมีแนวโน้มว่าเจ้าจะต้องใช้เวลาพันปีหรือหมื่นปีโดยไม่ประสบความสำเร็จ”
“หลอมรวมเคล็ดความรู้เป็นเรื่องยากกว่าการทำความเข้าใจความรู้ลึกลับ” ลีย์ลินพูดอย่างจริงจัง
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
“ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือ...เริ่มต้นพยายามหลอมรวมความรู้แจ้งเกี่ยวกับ‘แก่นธาตุดิน’ กับความรู้แจ้งอื่นของเจ้า อย่าพยายามเชี่ยวชาญ ‘แก่นธาตุดิน’ ทั้งหมดให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือระดับที่เจ้าสามารถหลอมรวมได้และการทำระดับความรู้แจ้งให้เข้ากับระดับหลอมรวมของเจ้า”
ลีย์ลินหัวเราะ “บางทีในวิธีการอย่างนั้นอาจะใช้เวลาสักทศวรรษหรือศตวรรษสำหรับเจ้าในการเชี่ยวชาญ ‘แก่นธาตุดิน’ แต่เมื่อทำเช่นนั้น ทันทีที่เจ้าเชี่ยวชาญในแก่นธาตุดินเจ้าก็จะหลอมรวมแก่นธาตุดินและการเต้นชีพจรโลกเข้าด้วยกันสำเร็จ”
“ข้าเข้าใจหลักการนี้”
ที่สำคัญคือลินลี่ย์ เคยมีประสบการณ์หลอมรวมด้าน ‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ ของกฎธาตุลมมาแล้ว การหลอมรวมขณะได้รับความรู้แจ้งทำได้ง่ายกว่ามาก
แต่ถ้าใครถึงระดับความเชี่ยวเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งสองและจากนั้นค่อยพยายามหลอมรวมทั้งสอง ก็จะเป็นการยากมาก
ถ้าเขารอจนกระทั่งเคล็ดความรู้ลึกลับของเขาเชี่ยวชาญก่อนจะได้ทำการหลอมรวมความรู้แจ้งที่เขาได้รับก็จะเกิดการปะทะกันกับความรู้แจ้งลึกลับต่างๆทำให้การหลอมรวมยากมากขึ้น
การฝึกของลินลี่ย์ในเทือกเขาฆ้องทองแดงดำเนินไปอีกสามปี ภายในสามปีนี้แม้ว่าระดับความรู้แก่นธาตุที่เขาได้รับยังเท่ากับสามปีก่อน แต่ในที่สุดลินลี่ย์ก็เริ่มเข้าสู่ก้าวแรกของการหลอมรวม ‘การเต้นของชีพจรโลก’ และ ‘แก่นธาตุดินได้’
หลายคนยังไม่สามารถเข้าสู่ก้าวแรกของการหลอมรวมเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งสองเข้าด้วยกัน ก้าวแรกนั้นคือกุญแจ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
เมื่อมีการเริ่มต้น ก็จะมีโอกาสสำเร็จได้
“ระดับพลังหลังการหลอมรวมนับว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง”
แม้ว่าลินลี่ย์จะหลอมรวมได้เพียงเล็กน้อย แต่เขาพบว่าพลังดาบคลื่นสลายของเขามีพลังเพิ่มขึ้นถึง 50% แม้แค่เพียงใช้พลังจิตในปริมาณเท่ากันกับเมื่อก่อน “และนี่เป็นแค่เพียงเริ่มต้น ข้าไม่อาจนึกภาพได้เลยว่าพลังดาบคลื่นสลายของเขาจะทรงพลังมากขึ้นอีกขนาดไหนหลังจากข้าเชี่ยวชาญเคล็ดความรู้ลึกลับทั้งสอง”