ตอนที่แล้วตอนที่ 51 ศาสตร์แห่งจิตใจ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 53 คอมพิวเตอร์ = อนาคต (อ่านฟรี)

ตอนที่ 52 ฟิวเจอร์เทค (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 52 ฟิวเจอร์เทค

วันต่อมา ระหว่างรับประทานอาหารเช้า นกฮูกแสนน่ารัก ซัมเมอร์ก็ทิ้งห่ออ้วนๆ ลงมา เธอรับขนมของเธอแล้วไปตามทางของเธอ

มันเป็นพัสดุจากบ๊อบบี้ แม็กนัสเปิดมันอย่างมีความสุขและค้นพบอย่างรวดเร็วว่าทำไมมันถึงมีน้ำหนักมาก มีหนังสือที่เกี่ยวข้องกับฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ระดับมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังมีสิ่งใหม่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน หนังสือชื่อ "โลกแห่งวิทยาการคอมพิวเตอร์"

ดวงตาของแม็กนัสเป็นประกาย นี่คือเทคโนโลยีล่าสุด อนาคตของมนุษยชาติ คงจะดีที่สุดถ้าเขาศึกษามันเพื่อให้ได้เปรียบคนอื่น

จากนั้นมีจดหมาย เขาเปิดอ่านมันทันที

[จดหมาย]

ก่อนอื่นขอด่านายก่อนเลย ฉันต้องทำความสะอาดห้องอีกรอบหลังจากจดหมายฉบับสุดท้ายนั้น

ตอนนี้เข้าสู่การพูดคุยตามปกติ ฉันได้เริ่มต้นที่โรงเรียนใหม่ ก็อย่างที่นายบอกฉันว่าจะมีกลุ่มอันธพาลมารังแกฉัน พวกเขามาจากทีมกีฬาเป็นอีกครั้งตามที่นายทำนายไว้

แม้ว่าโรงเรียนนี้จะเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีสติปัญญาสูง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เด็กบางคนกลายเป็นพวกอันตพาลมากขึ้น ฉันได้เอาคนฉลาดสองสามคนไว้ใต้ปีกของฉันและปกป้องพวกเขาจากพวกอันธพาล การจัดการกับพวกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ฉันแค่ไปที่ห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่ ส่งจดหมายให้เขาว่าถ้าฉันมีรอยข่วนเพราะนักเรียนคนอื่น โรงเรียนจะต้องรับผิดชอบและเรียกตัวพวกอันตพาลทุกที่อยู่ในเหตุการณ์ ฉันยังบอกพวกนั้นด้วยว่าฉันรู้จักคนที่สถานีข่าวและโรงเรียนคู่แข่ง และพวกเขาคงจะชอบเรื่องอื้อฉาว

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกอันธพาลทั้งหลายก็กลัวเราเหมือนโรคระบาด ยังดีที่พวกมันฉลาดพอจะไม่ยุ่งกับฉัน ตอนนี้ฉันกำลังดูแลกลุ่มเด็ก 20 คน แม้ว่าทุกคนจะแก่กว่าฉัน แต่พวกเขาก็ยังถือว่าฉันเป็นพี่ใหญ่

พอถึงโรงเรียน ฉันค้นพบเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ ที่เรียกว่าวิทยาการคอมพิวเตอร์ มันน่าสนใจมาก อีกไม่กี่วันฉันจะไปที่สำนักงาน IBM เพื่อดูคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง ฉันเชื่อว่าหากเทคโนโลยีนี้ก้าวหน้าและมีขนาดกะทัดรัด การใช้งานก็จะไร้ขีดจำกัด อ่านหนังสือนั่นด้วยนะแล้วบอกฉันว่านายคิดอย่างไร

ไงก็เหอะ ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่าอยากทำอะไรในชีวิต ฉันจะค่อยๆ พยายามทำให้ความฝันนั้นเป็นจริง ฉันจะไม่บอกนายตอนนี้เพราะมันอาจฟังดูเด็กน้อยสำหรับนาย เมื่อวานฉันเจอแม่ของนายด้วย เธอดูเหนื่อยและดูไม่ดีด้วยเหตุผลบางอย่าง ให้แน่ใจว่านายได้พูดคุยกับเธอนะ

แล้วก็ส่งของเย็นๆ มาให้ฉันแทนลูกอมด้วย ตอนนี้ฉันโตแล้ว ลูกอมไม่สามารถเลี้ยงฉันได้ แล้วระวังตัวด้วย อยู่ให้ห่างจากสาวๆ พวกเขายังคงส่งจดหมายมาหาฉันด้วยเหตุผลบางประการ พระเจ้า ฉันเกลียดความรัก

เพื่อนของนาย,

บ๊อบ... อา ฉันต้องเลิกเรียกตัวเองว่าบ๊อบบี้แล้ว

แบรนดอน

[สิ้นสุดข้อความในจดหมาย]

แม็กนัสหัวเราะเบาๆ ขณะอ่านจดหมาย แต่เรื่องแม่ของเขาทำให้เขากังวลมาก

~ฉันเดาว่ามันถึงเวลาที่จะใช้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดของฉันกับตาเฒ่าเคราดก เพราะถึงยังไงดัมเบิลดอร์มีเลือดร่วมกับพ่อของฉันจริงๆ ไม่เหมือนสายเลือดเมอร์ลินกับอาเธอร์ของฉันเลย~ เขาคิด

เขาเก็บข้าวของกลับลุกขึ้นจากที่นั่ง

"นายกำลังจะไปไหน?" รักนาร์ถาม

“ไปที่โต๊ะกริฟฟินดอร์” แม็กนัสตอบ

*ปู้ดดด...* รักนาร์พ่นนมออกมา

"ไปทำไม?" สเนปถาม

“ทำไมล่ะ? มันน่าจะทำให้พวกคลั่งนั่นได้กระอักเลือดนะ” แม็กนัสชี้ไปทางลูเซียสและพรรคพวกของเขา

“แล้วนายไม่อยากคุยกับลิลลี่เหรอ?” เขาถามสเนปด้วยใบหน้าที่พอใจ

สเนปลุกขึ้นทันที “ไปกันเถอะ มิตรภาพระหว่างบ้านเป็นสิ่งที่จำเป็น”

"ฮ่าๆ โอเค" แม็กนัสหัวเราะ

เนื่องจากความโกลาหลที่ผ่านมา ทุกคนจึงมองมาที่เขา พวกเขาสับสนว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน เขาเดินผ่านโต๊ะฮัฟเฟิลพัฟ แล้วก็โต๊ะเรเวนคลอ เมื่อเขาไปถึงโต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์ นักเรียนทุกคนก็ตึงเครียด

แม็กนัสเดินตรงไปหาซิเรียส เขาทำหน้าโกรธพร้อมกับขมวดคิ้วราวกับว่าเขากำลังโกรธจริงๆ อยู่นะ

"มีอะไร?" ซิเรียสถามอย่างเมินเฉย

แม็กนัสเงียบและจ้องมองเขาด้วยความเคืองนิดๆ หลังจากนั้นไม่นาน ซิเรียสก็สังเกตเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เขา

"เฮ้!... ฉันทำผิดอะไร?" เขาตั้งคำถาม

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” แม็กนัสหัวเราะทันที

“ย้ายแล้วหาที่นั่งให้ฉันหน่อย วันนี้ฉันแค่จะมากินข้าวกับเพื่อนฉัน แล้วถ้านายอยู่กริฟฟินดอร์ล่ะก็ มันเป็นความผิดของหมวกใบเก่านั่น สมควรจะเผาทิ้งซะ” แม็กนัสกล่าว

ซิเรียสยิ้มกว้างและขยับตูดไปด้านข้าง ทางด้านซ้ายของแม็กนัสคือรักนาร์ และทางด้านขวาคือซิเรียส ฝั่งตรงข้ามของเขาคือเจมส์กับสเนป ลิลลี่อยู่ทางซ้ายของสเนป ซึ่งผู้หญิงคนอื่นๆ ที่นั่งใกล้ๆ เธอกระตือรือร้นมากและต้อนรับเขาอย่างมีความสุข

ในขณะเดียวกันซิเรียสก็แนะนำเพื่อนใหม่อีกสองคนของเขา “นี่คือรีมัส ลูปินและคนนั้นคือปีเตอร์ เพ็ตติกรูว์ รีมัสเป็นนักเรียนเกรดเอ ส่วนปีเตอร์... ก็... เขากำลังพยายามอยู่”

แม็กนัสจับมือพวกเขา “คนนี้คือรักนาร์ นายน่าจะรู้จักเขาอยู่แล้ว”

แน่นอนว่าซิเรียสรู้เรื่องครอบครัวของรักนาร์และรู้สึกแย่แทนเขาจริงๆ ซิเรียสจับมือรักนาร์ "ฉันอาจจะเป็นแบล็กแต่ฉันไม่ใช่คนบ้าอย่างพวกเขา"

"เฮ้อ... ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น แบล็คคนไหนก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในสลิธีรินก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว" รักนาร์ตอบกลับ

“ฉันได้ยินมาว่านายสนใจควิดดิชหรอ?” เจมส์พูดขึ้นทันที

แม็กนัสพยักหน้า “ใช่ ก็นิดหน่อย พรุ่งนี้อาจลองทดสอบดู”

เจมส์พองหน้าอก “ก็นะ ฉันได้รับเลือกให้เป็นซีกเกอร์คนใหม่ของกริฟฟินดอร์แล้ว”

"งั้นเหรอ ถ้างั้นก็อย่าถือสาถ้าฉันกลายเป็นซีกเกอร์และเฆี่ยนก้นนายนะ" แม็กนัสกล่าวอย่างมั่นใจ

"ยอมรับทุกคำท้าทาย ฉันแค่รู้ว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะฉันได้" เจมส์ตอบอย่างภาคภูมิใจ เขาอาจไม่เชื่อมั่นในความสามารถเวทย์มนตร์ของเขามากนัก แต่ควิดดิชเป็นอย่างอื่น มันเหมือนกับถิ่นของเขา

“ฮ่าฮ่า อยากเดิมพันไหมล่ะ” แม็กนัสถาม

"เดิมพันอะไร?" เจมส์ถาม

"ด้วยเกียรติของนาย ผู้แพ้ต้องวิ่งกรอบฮอกวอตส์โดยไม่สวมเสื้อผ้ายกเว้นกางเกงในที่อีกคนเลือก นอกจากนี้ ผู้แพ้จะต้องจ่ายค่า นิมบัส 1500 รุ่นล่าสุดสำหรับทั้งทีมของผู้ชนะด้วย" แม็กนัส เสนอ

ความเงียบสงัดเกิดขึ้นทั่วทั้งโต๊ะกริฟฟินดอร์ ทุกคนมองหน้าเจมส์อย่างคาดหวัง ซิเรียสก็เช่นกัน วันนี้เจมส์เพิ่งรู้ว่าแม็กนัสเป็นไอ้บ้าระดับสูงสุด เขาคงมาที่นี่เพื่อทำสิ่งนี้

"คุณยอมรับคำท้านี้หรือว่าป๊อดจะไม่รับก็ได้นะ?" แม็กนัสถามด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์

~มองหน้าหมอนี่สิ...นี่เขาวางกับดักมาตลอด...~ เจมส์ก่นด่าอยู่ในใจ

เขามองหน้าซิเรียสอย่างหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือ แต่ซีเรียสกลับยักไหล่

เจมส์กลืนน้ำลาย ถ้าเขาตอบรับแล้วแพ้ล่ะก็ ไม่เพียงแต่เขาจะเสียเงินเท่านั้น แต่ยังเสียเกียรติด้วย

แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก เขาเป็นกริฟฟินดอร์ กริฟฟินดอร์ผู้กล้าหาญ เขาไม่สามารถถอยได้ มิฉะนั้นเขาจะเรียกว่าคนขี้ขลาด

"ฉันยอมรับ"

แม็กนัสหัวเราะ "ฮ่าฮ่า โอเค คนพวกนี้เป็นพยานของเรา ถ้าแพ้ก็อย่าร้องไห้ทีหลังล่ะ"

ตอนนี้แม็กนัสสงบลงแล้ว เขาได้ทำอย่างที่อยากทำแล้ว เขามองไปที่ซิเรียส “ช่วงนี้พี่สาวลูกพี่ลูกน้องของนายทำอะไรกันอยู่? เรกูลัสเป็นอย่างไรบ้าง? เขาจะมาที่ฮอกวอตส์ในปีหน้าใช่ไหม?”

ซิเรียสพยักหน้า “ก็นะตระกูลนี้มันยุ่งเหยิงซะละ ฉันจะถูกตีตายแน่ถ้าฉันกลับไป พวกเขาเกลียดกริฟฟินดอร์ แต่ฉันภูมิใจในตัวแอนโดรแมนดามาก เธอแต่งงานกับเท็ด ท็องส์ พ่อมดทนายความที่เกิดในตระกูลมักเกิ้ล ขัดต่อความปรารถนาของตระกูล แม้ว่าเธอจะถูกปฏิเสธโดยครอบครัว แต่พี่สาวลูกพี่ลูกน้องคนโตของฉันก็เป็นบ้าขั้นสุด เธอแต่งงานหรืออาจพูดได้ว่าถูกขายให้กับโรโดลฟัส เลสแตรงจ์ผู้คลั่งไคล้ ดูเหมือนว่าครอบครัวของฉันต้องการที่จะขยายการเข้าถึง”

ทันทีที่แม็กนัส รักนาร์และสเนปได้ยินชื่อนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็หันไปทางซิเรียสทันที

“อา เขาเป็นผู้เสพความตายแล้วไม่ใช่เหรอ? ครอบครัวของนายเข้าร่วมกับเจ้าแห่งศาสตร์มืดแล้วหรอ? เพราะเป็นไปได้ว่าในอนาคตอันใกล้ พี่สาวลูกพี่ลูกน้องของนายอาจโจมตีฉัน?” แม็กนัสถาม

ซิเรียสรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อยในขณะนี้ “เอ่อ แม็กนัส นายต้องเข้าใจ ฉันไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเขา พวกเขาบังคับฉันไม่ได้ และถ้าเธอโจมตีนาย ก็ฆ่าเธอซะถ้านายทำได้ อย่างน้อยก็ทำให้เธอพ้นทุกข์ได้ เด็กทุกคนในตระกูลแบล็กถูกสอนให้โหดร้ายตั้งแต่เด็ก มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฉัน แต่มันทำให้จิตใจของเบลลาทริกซ์แตกสลาย”

“ฉันเชื่อนาย ซิเรียส นายชัดเจน แต่อย่าไปยุ่งกับครอบครัวของนายละกัน มันรังแต่จะทำให้นายมีปัญหามากขึ้น” แม็กนัสแนะนำพลางลุกขึ้นเพื่อกลับไปที่ที่นั่งของเขา

สเนปกับรักนาร์ตามเขากลับมาด้วย รักนาร์ถามเขาว่า "เราจำเป็นต้องต่อสู้กับตระกูลของเขาด้วยหรือ?"

“อย่าพูดถึงเรื่องนี้ในตอนนี้ เราอยู่แค่ปี 1 เห็นแก่เมอร์ลิน มาเป็นเด็กในขณะที่แอบมีพลังกันเถอะ” แม็กนัสพูดพลางนั่งลงที่โต๊ะของสลิธีริน

ณ กรุงลอนดอน,

บ๊อบบี้ใช้เวลาของเขาอย่างดีที่สุดแล้ว เขาเป็นผู้นำทีมนักเรียนรุ่นเยาว์ที่มีความมุ่งมั่นในโรงเรียนของเขา พวกนั้นพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับอนาคตของวิทยาศาสตร์ และแน่นอนว่าคอมพิวเตอร์จะเป็นส่วนสำคัญของมัน

เขาจึงรู้สึกว่าควรลงทุนโดยการตั้งบริษัทเพื่อศึกษาและสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือไม่ก็ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ เขารู้ถึงความสำคัญของการเข้าสู่ธุรกิจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มิฉะนั้นเขาจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

เขาพูดคุยกับทีมของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาทั้งหมดตื่นเต้นกับมันมาก แต่เขาขาดเงินทุนสำหรับมัน เขาถามอาจารย์ใหญ่แต่ได้รับคำตอบว่าโรงเรียนจะลงทุนก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ถือหุ้นในบริษัทสตาร์ทอัพเท่านั้น

บ๊อบบี้ตอบกลับไปว่า "ไม่ล่ะ ขอบคุณ" และไม่สนใจพวกเขาเลย พวกนั้นพยายามต่อรองกับเขาเพื่อให้ได้หุ้นอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เขากลับเพิกเฉยต่อพวกนั้น สิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้คือระบบคอมพิวเตอร์และสถานที่ทำงาน ทีมของเขาพร้อมทำงานฟรีจนกว่าบริษัทจะทำเงินได้

แต่ถึงแม้จะรวมเงินออมทั้งหมดของเขาเข้าด้วยกันแล้ว เขาก็ขาดเงินอีกเยอะ ดังนั้น เขาจึงมีทางเลือกเดียว เขาหยิบปากกาและเริ่มเขียนจดหมายถึงเพื่อนรักของเขา

แม็ก พี่ชายฉัน ฉันตัดสินใจตั้งบริษัทของตัวเองแล้วตั้งชื่อว่า ฟิวเจอร์เทค" มันจะเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ฉันจะใช้แรงงานฟรีจากนักเรียนที่ยอดเยี่ยมคนอื่นๆ แต่หลังจากรวบรวมเงินทั้งหมดแล้ว ฉันก็ขาดอีกเยอะ ฉันต้องการซื้อระบบคอมพิวเตอร์และต้องการเงินทุน

สำหรับเงินที่นายจะให้ฉันนั้น ฉันจะให้นายถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ในอนาคตถ้าหุ้นไม่คุ้มกับที่ฉันเอาไป ฉันจะจ่ายคืนให้นาย ฉันเข้าใจว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แต่นี่คือธุรกิจ และฉันจะยอมรับการตัดสินใจของนาย หากนายไม่ต้องการลงทุนในเรื่องนี้

ฉันจะรอการตอบกลับของนาย

เพื่อนนาย บ๊อ... แบรนดอน อา ฉันยังต้องเลิกใช้ชื่อเล่นของฉันสักที

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

แก๊งตัวกวนประจำกริฟฟินดอร์

credit by : Alessia Trunfio

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด