ตอนที่แล้วตอนที่ 52 ฟิวเจอร์เทค (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 54 เงิน = ความสุข* (อ่านฟรี)

ตอนที่ 53 คอมพิวเตอร์ = อนาคต (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 53 คอมพิวเตอร์ = อนาคต

คืนนั้น หลังการฝึกศาสตร์แห่งจิตใจ แม็กนัสเปิดหนังสือวิทยาการคอมพิวเตอร์และเริ่มศึกษามัน ยิ่งอ่านเขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น วิธีการสื่อสารกับเครื่องจักร คือการใช้ 0 และ 1 มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขาแต่น่าตื่นเต้นมาก

แต่เมื่อเขาอ่านพบว่างานวิจัยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอเมริกา เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อย ทำไมคนในประเทศของเขาถึงไม่ลงทุนในเรื่องนี้

~ อืม บริษัท Intel นี้น่าสนใจ พวกเขากำลังจะเปิดตัวไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลก นั่นคือ Intel 4004 ฉันจะซื้อบริษัทนี้ได้ไหม โอ้! พวกเขากำลังจะเปิดเผยในเดือนนี้? เดี๋ยวก่อน การเปิดเผยต่อสาธารณะหมายความว่าอย่างไร...~

แม็กนัสลุกจากเตียงอย่างหงุดหงิดและเดินออกจากหอนอน สเนปกับรักนาร์หลับไปแล้ว ช่วงนี้น่าจะเกือบตี 1 กิจกรรมทั้งหมดในฮอกวอตส์ได้หยุดลง แต่เขาต้องไปห้องสมุด

"นั่นเจ้ากำลังจะไปไหน?" เมอร์ลินถามทันที

"ไปห้องสมุด ผมต้องการหนังสือเกี่ยวกับการจัดการธุรกิจ" แม็กนัสกล่าวว่า

“งั้นข้าจะตามไปด้วย ยามค่ำคืนของฮอกวอตส์บางครั้งก็อันตรายมาก” เมอร์ลินเตือนแล้วเดินตามเขาผ่านภาพวาดต่างๆ อาเธอร์กำลังหลับอยู่ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไปด้วย

แม็กนัสแอบออกจากหอนอนแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องสมุด มีกฏห้ามออกไปข้างนอกตอนกลางคืน และอาร์กัส ฟิลช์ ผู้ดูแลก็อยู่ในรอบนี้ด้วย แต่แม็กนัสไม่ได้กังวลมากนักว่าจะมีใครเห็นเขา ที่สุดแล้วตาเฒ่าเคราดกก็เกือบๆ จะเรียกได้ว่าเป็นญาติเขา

เขาปรากฏตัวที่ห้องสมุด มันถูกปิดแต่คาถา Alohamora ทำหน้าที่เปิดมันได้อย่างง่ายๆ เพราะถึงยังไงส่วนที่ถูกจำกัดยังคงถูกปิดด้วยเวทมนตร์ที่แตกต่างกัน เขาเข้าไปในนั้นแล้วเริ่มมองหาหนังสือ

“อืม ไม่นานนักที่ข้าเคยมาที่นี่ ข้าอ่านหนังสือทั้งหมดที่นี่แล้ว ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีประโยชน์ ของดีเหล่านั้นถูกส่งเข้าไปในห้องทำงานของอาจารย์ใหญ่แล้ว” เมอร์ลินบ่นเสียงดัง

"ที่นี่มีหนังสือเกี่ยวกับมักเกิ้ลศึกษาไหม" แม็กนัสถาม

“ไม่รู้สิ ข้าไม่เคยเห็นอะไรเกี่ยวกับมักเกิ้ลที่นี่เลยนอกจากคัมภีร์ไบเบิล” เมอร์ลินพูดจากภาพที่อยู่ใกล้ๆ

“พระเยซูเป็นพ่อมดหรอครับ?” แม็กนัสถาม

"ข้าไม่รู้ ยุคของข้ามีหลังจากการตายของเขานานแล้ว แม้ว่าข้าจะเชื่อในพระเจ้า แต่ข้าคิดว่าครั้งหนึ่งฉันเคยปะทะคารมกับเขา

เขาดูแก่และใจดี” เมอร์ลินตอบ

แม็กนัสผงะ "ว้าว พระเจ้ามีจริงหรือ ฉันควรจะไปโบสถ์ดีไหม"

“ฮ่าฮ่า ข้าไม่คิดว่าเขาจะสนใจเรื่องนั้นจริงๆ จังๆ หรอก การไปโบสถ์เป็นแนวคิดที่มนุษย์สร้างขึ้น เขาแค่บอกให้เราเป็นคนดีไม่ทำบาปก็โอเคแล้ว” เมอร์ลินชี้แจง

แม็กนัสเริ่มมองหาหนังสือบางเล่ม แต่ไม่มีเลย ไม่มีหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจแม้แต่เล่มเดียว ทั้งหมดที่เขาพบเกี่ยวกับสิ่งนั้นคือประวัติของบริษัทพ่อมดแม่มดบางแห่ง

"ผมจะหาหนังสือพวกนั้นได้ที่ไหนในโรงเรียนฮะ" แม็กนัสถาม

"อืมม... สักครู่นะ... ข้าว่ารู้จักสถานที่หนึ่ง ข้าสร้างมันขึ้นมาเอง ดันลืมมันไปได้ยังไง ไปที่ชั้น 7" เมอร์ลินพูดอย่างรวดเร็ว เขาดูค่อนข้างตื่นเต้น

แม็กนัสไม่ได้ถามว่ามันคืออะไรแล้วทำไมถึงไปที่ชั้นเจ็ด เขามีความไว้วางใจมากพอที่เมอร์ลินจะไม่สร้างปัญหาให้เขา

ในไม่ช้า ตามคำบอกของเมอร์ลิน เขาก็มาถึงทางตัน "แล้วไงต่อ?"

“เอาล่ะ ข้าอยากให้เจ้าคิดถึงหนังสือที่เจ้าต้องการ แล้วเดินกลับไปกลับมาหน้ากำแพงนี้ 3 รอบ” เมอร์ลินสั่งเขา

ตอนนี้แม็กนัสไม่แน่ใจนัก “ในที่สุดคุณก็เลอะเลือนแล้วเหรอ? ผมไม่ใช่อาเธอร์นะที่จะโดนหลอกได้ง่ายๆ”

“เฮ้ เจ้ามีเลือดของข้านะไอ้หนู เจ้าไม่สามารถโง่ได้เหมือนเขาหรอก ตอนนี้ทำตามที่ข้าบอก ข้ารับประกันความประหลาดใจ” เมอร์ลินยืนกราน

เห็นความกระตือรือร้นในน้ำเสียงของเมอร์ลิน แม็กนัสทำตามที่ขอ เขาคิดถึงหนังสือการจัดการธุรกิจทุกประเภทและเดินไปรอบหน้ากำแพงสามรอบ

เมื่อเขาเดินครบสามรอบ เขาก็สังเกตเห็นลวดลายต่าง ๆ ปรากฏขึ้นบนผนัง ดูเหมือนว่าจะเป็นประตู เขาเปิดเข้าไปข้างในเขาเห็นห้องสมุดขนาดใหญ่ มันดูทันสมัยด้วยแสงไฟ ดีไซด์โต๊ะและเก้าอี้บางตัว

เมอร์ลินประกาศ "ยินดีต้อนรับสู่ห้องต้องประสงค์ เรียกอีกอย่างว่าห้องมาๆ ไปๆ ซึ่งจะปรากฏขึ้นเมื่อมีคนต้องการมันมากเท่านั้น ห้องควรจะมีความรู้สึกในระดับหนึ่งเพราะมันเปลี่ยนตัวเองให้ เป็นอะไรก็ได้ที่แม่มดหรือพ่อมดต้องการให้เป็นในขณะนั้น แม้ว่าจะมีข้อจำกัด อยู่บ้างก็ตาม เช่น สร้างอาหารไม่ได้"

“เดี๋ยวนะ มันผลิตอะไรก็ได้ที่ผมต้องการ แม้ว่าผมจะไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับมันก็ตามงั้นหรอ” แม็กนัสถาม

"แน่นอน ข้าต้องใช้พลังสมองทั้งหมดของข้าในการคิดแผนภูมิอักษรรูนเพื่อใช้สร้างสถานที่แห่งนี้ ฉันใช้เวลา 4 ปีในการสร้างและอีก 5 ปีเพื่อทำให้สมบูรณ์แบบ” เมอร์ลินตอบ

"เยี่ยมไปเลย ถ้าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริง ห้องนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผมกับกลุ่มใหม่ของผม เอาล่ะ เรามาเริ่มอ่านกันเถอะ" เขาพับแขนเสื้อพลางหยิบหนังสือสองสามเล่ม

เขาอ่านมันสองสามชั่วโมงเพื่อทำความเข้าใจคำศัพท์ทางการเงินทั่วไปมากมาย

"อืม… ห้องต้องประสงค์สามารถจัดทำงบการเงินของบริษัทได้หรือเปล่านะ" เขาสงสัยแล้วตัดสินใจลองทำดู

ดังนั้นเขาจึงออกไปและทำขั้นตอนซ้ำอีกครั้ง เขาคิดเกี่ยวกับงบการเงินปี 1970-71 ของ Intel และรายละเอียดการเสนอขายหุ้น จากนั้นเขาก็เปิดประตู ข้างในมีเพียงไฟล์เดียวที่วางอยู่บนพื้น แม็กนัสหยิบมันขึ้นมาและเริ่มอ่านมัน

[ผู้แปล : อันนี้ผู้เขียนน่าจะลืม ผมจำได้ว่าในห้องต้องประสงค์ถ้าอยากได้อะไร แม้จะอยู่ในห้อง มันก็สามารถเสกขึ้นมาได้เลย ไม่จำเป็นต้องออกจากห้อง]

“โอ้ นี่ดูเหมือนจริงมาก อืม เพราะงั้นพวกเขาจึงมีเงินทุนเหลือน้อยเนื่องจากใช้ไปกับการวิจัยทั้งหมดที่จำเป็น ดีแล้วบางทีฉันอาจจะทำข้อตกลงก่อนกำหนดและซื้อหุ้นก้อนโตในบริษัทได้ ตราบใดที่ฉันได้เป็นคณะกรรมการบริหารรวมถึงได้รู้ความก้าวหน้าใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ฉันก็จะได้เปรียบทุกอย่าง” เขาคิด

ดังนั้นเขาจึงปิดทุกอย่างและตัดสินใจเข้านอน เขาจะเขียนจดหมายถึงบ๊อบบี้ในวันรุ่งขึ้น

...

เช้าวันต่อมา แม็กนัสได้รับจดหมายของบ็อบบี้ที่โต๊ะอาหารเช้า เขากะว่าจะเขียนอยู่แล้ว

แม็กนัสอ่านทุกอย่างพลางรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่บ็อบบี้ตัดสินใจ เขาจึงเขียนจดหมายกลับไป

[จดหมาย]

บ๊อบบี้ หยุดกินของหวานได้แล้ว นายกำลังจะแก่แล้วนะ ทำไมนายดูเป็นทางการจัง เดี๋ยวนะ นายเป็นบ๊อบบี้ตัวจริงป่ะเนี่ย? น้องชายของฉันอ้วนท้วมสมบูรณ์นะ เอาบ๊อบบี้ของฉันไปซ่อนไว้ไหน ฉันสาบาน ไม่ว่านายจะเป็นใคร ถ้านายทำอะไรกับเขา ฉันจะให้นายกินชีสเบอร์เกอร์หนึ่งพันชิ้น และทำให้นายอ้วนขึ้นกว่าเจ้าเด็กเวอร์นอนที่ฉันเห็นในสวนสาธารณะอีก

เอาล่ะตอนนี้ขอเข้าหัวข้อหลัก ฉันโค-ตะ-ระ-รวยเลย บ๊อบบี้ เหมือนพวกอภิมหาเศรษฐีเลยล่ะตอนนี้ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอย่างไรกับความมั่งคั่งมากมายในตอนนี้ ใช่ชัวร์อยู่แล้ว ฉันจะลงทุนแหงล่ะ และไม่ นายไม่ต้องจ่ายคืน ให้นายถือหุ้นใหญ่ในบริษัท เพราะนายคือผู้ก่อตั้ง ฉันเพิ่งอ่านหนังสือที่นายส่งมา ฉันตื่นเต้นมากเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พอฉันกลับไปเราจะทำงานร่วมกัน

แต่มีอีกอย่างนึง การเริ่มต้นบริษัทตั้งแต่ต้นอาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นฉันว่าจะตัดสินใจลงทุนกับ Intel และค่อยๆ กลืนกินบริษัทนั้นในขณะที่นายค่อยๆ เติบโต Intel กำลังจะเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ มองหาหนังสือซะนะหากนายไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร ฉันจะคุยกับทนายความที่ฉันรู้จักที่เป็นทั้งพ่อมดและทนายความ เขาจะช่วยนายทุกอย่าง

ตอนนี้ฉันพบวิธีหาหนังสือทุกประเภทมาอ่าน และได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับธุรกิจนี้ เทคโนโลยีคือหนทางสู่อนาคต น้องชายเอ๋ย ก็เลยตัดสินใจนำเงินก้อนนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ฉันจะลงทุนมากมายในบริษัทต่างๆ ทั่วโลก สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ Futuretek Industries ที่นายกำลังสร้าง แค่ให้ฉันเป็นหุ้นส่วนคนที่สองในบริษัทนั้นด้วยอำนาจยับยั้ง เราจะปฏิวัติโลกนี้ บ๊อบบี้

จนกว่าจะถึงเวลานั้น ฉันจะจัดการส่งเงินให้นายสำหรับโครงการส่วนตัวของนาย อาจจะใช้เวลาซักสองสามวันมั้ง เพราะฉันไม่สามารถออกจากโรงเรียนได้ทุกวัน นายสามารถถามพ่อของฉันได้หากต้องการอะไร และสอนพ่อของฉันเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วย ฉันเห็นความหมายมากมายของคอมพิวเตอร์ในด้านวิศวกรรม นอกจากนี้ยังสามารถช่วยแม่ ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุดท้องฟ้าไร้ขีดจำกัด

ฉันตื่นเต้นมากเกี่ยวกับอนาคต

คนที่สอนนายขี่จักรยาน

แม็กนัส

[สิ้นสุดจดหมาย]

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด