ตอนที่แล้วตอนที่ 50 พวกขี้ขลาด (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 52 ฟิวเจอร์เทค (อ่านฟรี)

ตอนที่ 51 ศาสตร์แห่งจิตใจ (อ่านฟรี)


แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร

ตอนที่ 51 ศาสตร์แห่งจิตใจ

รักนาร์กลับไปที่ห้องนั่งเล่นรวมของสลิธีริน เขาเห็นผู้บุกรุกสามคนในหอพักเช่นกัน ยืนอยู่หน้าลูเซียสกำลังถูกตะโกนใส่ เขายิ้มให้พวกมันเพื่อเป็นการเติมน้ำมันเข้ากองไฟแล้วไปที่ห้องของเขา

แต่เมื่อเขาเข้าไป เขาก็พบกับความโกลาหลโดยสิ้นเชิง แม็กนัสและสเนปกระโดดไปทั่ว นอกจากนี้ยังมีไฟบนเตียงของพวกเขาและสเนปก็ดับพวกเขาด้วยคาถาเสกน้ำ

"เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?" รักนาร์ถามเสียงดัง

แม็กนัสเหนื่อยมากขณะที่เขานอนลงบนเตียงและกอดอก "ดั๊กเรียนรู้วิธีบินและหายใจเป็นไฟ แชด แมวโง่ตัวนั้นไปเอาหญ้าชนิดหนึ่งมาจากที่ไหนสักแห่ง แล้วดั๊กก็กินมันเข้าไป"

“ดั๊กอยู่ไหน?” รักนาร์ถาม

แม็กนัสผายมือออกให้เห็นดั๊กที่นอนหลับอย่างมีความสุขบนหน้าอกของเขา “ฉันชักสงสารพ่อกับแม่แล้วถ้าพวกเขาต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ตอนฉันยังเล็ก”

รักนาร์หัวเราะเบาๆ “คือ ฉันแค่จะมาบอกพวกนายว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในห้องสมุด สมาชิกแก๊ง 3 คนของลูเซียสโจมตีฉัน

พวกมันต้องการแก้แค้นนายแต่รู้ว่าแตะต้องนายไม่ได้ พวกมันต้องการจะตัดนิ้วข้างหนึ่งของฉัน แต่ฉันก็ขู่พวกมันด้วยยาพิษฉันจนกลัวเผ่นแนบไป”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม็กนัสก็ลุกขึ้นด้วยท่าทีจริงจังเต็มที่ เขาวางดั๊กไว้ด้านข้างอย่างเบามือ สเนปยังจัดการดับไฟและซ่อมแซมทุกอย่าง เขาเองก็ดูจริงจังเช่นกัน

สเนปเอ่ยขึ้นมาก่อน "งั้นพวกมันก็จะตามฉันมาเหมือนกัน"

แม็กนัสส่ายหัว “ไม่ ฉันไม่คิดอย่างนั้น โอกาสที่พวกมันจะพยายามดึงตัวนาย พรสวรรค์ในการปรุงยาของนายนั้นยอดเยี่ยมมาก พวกมันคงจะพยายามจ้างรักนาร์แล้วถ้าเขาไม่ได้มีประวัติไม่ดีกับลัทธิของพวกมัน”

“นั่นแย่ยิ่งกว่าการพยายามรังแกฉันซะอีก” สเนปพึมพำ

รักนาร์หัวเราะเบาๆ “เอาล่ะ เราต้องระวังให้มากขึ้นในตอนนี้

ลูเซียสกับเอเวอรี่ต่างก็อยู่ปีที่ 7 ทั้งคู่ พวกมันเป็นสมองและกล้ามเนื้อของกลุ่ม แล้วจะจบการศึกษาในไม่ช้า ดังนั้นเราต้องอดทนจนถึงตอนนั้น”

แม็กนัสเห็นด้วย “ใช่ ทันทีที่พวกมันไป เราจะยึดครองบ้านสลิธีริน เราจะควบคุมทุกอย่างและนำบ้านหลังนี้กลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้งเหมือนในอดีต เมื่อนั้นมันจะไม่มีพวกเรื่องเลือดบริสุทธิ์และการเหยียดคน”

เมอร์ลินในภาพตะโกนอย่างมีความสุขว่า

"บู้ย่าาาาาา! ... นั่นคือสิ่งที่ข้าอยากเห็นก่อนตาย"

"เจ้าตายไปแล้ว" อาเธอร์ตอบอย่างเบื่อหน่าย

มีเพียงแม็กนัสเท่านั้นที่ได้ยินหรือเห็นพวกเขาในตอนนี้

...

คืนนั้นทั้งสามนั่งลงแล้วเริ่มอ่านและฝึกการสกัดใจกับการพินิจใจ แต่เพื่อให้พวกเขาฝึกฝนได้จริงๆ พวกเขาต้องการคนที่สามารถใช้การพินิจใจเพื่อที่พวกเขาจะได้ทดสอบมันได้

แม็กนัสเก่งที่สุดในการทำความเข้าใจสิ่งใหม่ๆ ดังนั้นเขาจึงได้รับมอบหมายให้ศึกษาการพินิจใจ ในขณะที่ รักนาร์กับสเนป มุ่งเน้นไปที่การสกัดใจ แม็กนัสได้รับความช่วยเหลือจากชายชราเมอร์ลินนั่งห่างจากเขาเพียงไม่กี่เมตร ชายชรากำลังแนะนำวิธีการเรียนรู้ความสามารถนี้

เมอร์ลินเล่าให้ฟังว่า “ข้าเรียนรู้ความสามารถนี้โดยตรงจากซัลลาซาร์ สลิธีริน ข้าเป็นนักเรียนรุ่นแรกของฮอกวอตส์ และในสมัยนั้น ผู้ก่อตั้งทั้งสี่คนต่างก็สามัคคีกันตัวซัลลาซาร์ก็ไม่ใช่จอมเผด็จการคลั่งเลือดบริสุทธิ์ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รับข้าเป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของเขา

ศิลปะของการพินิจใจขึ้นอยู่กับความเข้าใจในจิตใจมนุษย์ เจ้าต้องเข้าใจว่าความทรงจำไหลมาได้อย่างไร ยิ่งเจ้าเข้าใจดีเท่าไหร่ เจ้าก็จะไปได้ไกลขึ้นเท่านั้น

"ปรมาจาร์ณด้านพินิจใจจะสามารถมองเข้าไปในหัวของเจ้า อ่านทั้งชีวิตของเจ้า และเจ้าจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้น ข้าไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ในระดับนี้อีกต่อไป เพราะเมื่อเวลาผ่านไปศิลปะนี้ก็ถูกให้ความสำคัญน้อยลงเช่นกัน ซัลลาซาร์เป็นคนที่เก่งที่สุดที่ข้าเคยสัมผัสด้วย ชายชราคนนั้นเคยรู้เรื่องผู้หญิงที่ข้าชอบก่อนที่ข้าจะรู้ตัวว่าชอบเธอเสียอีก

แต่ข้ากลับไปไกลกว่าเขา แลค้นพบความสามารถในการอ่านใจหลายๆ คนพร้อมกัน หึ พวกเขาไม่เรียกข้าว่าพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลโดยเปล่าประโยชน์หรอก” เมอร์ลินยิ้มอย่างมีเลศนัย

"แล้วผมต้องอ่านสแกนสมองคนยังไง? ผมควรไปโรงพยาบาลของแม่ไหม?" แม็กนัสถาม

“ฮ่าๆ ไม่-ไม่ เราไม่มีสิ่งนั้นในสมัยของเรา แค่ความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับวิธีการทำงานของสมองก็เพียงพอแล้ว ในอดีตมีไม่มาก แต่เจ้าทำได้ ช่างน่าแปลกเพราะเจ้าเรียนวิชาของพวกมักเกิ้ล เจ้าต้องพาข้าออกไปดูโลกของมักเกิ้ลสักครั้ง ข้าต้องการดูว่าการพูดคุยทั้งหมดนี้เกี่ยวกับอะไร?” เมอร์ลินถามเขา

แม็กนัสตกลงอย่างง่ายดาย “ได้ฮะผมสัญญา แล้วผมจะเริ่มต้นกับ 'การพินิจใจ' ยังไงดี?”

"หลับตาลงแล้วจินตนาการว่าเจ้ากำลังยืนอยู่ในความว่างเปล่า

ไม่มีอะไรรอบตัวเจ้า ทำจิตให้ว่างสิ่งสุดท้ายที่เจ้าต้องการคือความคิดของเจ้าเองที่จะปะทะกับความทรงจำที่เข้าสู่จิตใจของเจ้า ตอนนี้พยายามรักษาความรู้สึกเดิมนั้นขณะลืมตา จากนั้นเจ้าจงมองเข้าไปในดวงตาของใครบางคนแล้วร่ายคาถา การเชื่อมต่อจะถูกสร้างขึ้นซึ่งเป็นช่องทางที่เจ้าจะสามารถอ่านความทรงจำได้

แต่พึงระวัง ถ้าอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าเจ้า เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์และอ่านใจเจ้าแทนได้" เมอร์ลินสาธิตให้เขาฟัง

แม็กนัสพยักหน้า "แล้ว 'การสกัดใจ' ล่ะ ช่วยพวกเขาที"

“อืม มันตรงกันข้ามเลย วิธีที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดในการสอนพวกเขาถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการเพื่อป้องกันตัวเองคือการสาธิตสั้นๆ ให้พวกเขา แต่อย่าขุดคุ้ยความทรงจำของพวกเขาให้ลึกเกินไป เพราะข้าแน่ใจว่าเจ้าคงไม่อยากทำให้เพื่อนของเจ้าเสียใจ” มอร์ลินแนะนำเขา

แม็กนัสเห็นด้วยพลางหันกลับไปหารักนาร์กับสเนป ทั้งสองกำลังมองดูเขาในขณะที่เขาสนทนากับพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่

“เอาล่ะ ฉันจะลอง 'การพินิจใจ' กับพวกนายสองคน จำความรู้สึกนั้นไว้ แล้วพยายามป้องกันความคิดของนายจากสิ่งเหล่านี้” เขาสั่ง

แม็กนัสทดลองกับสเนปก่อน เขาปล่อยวางความคิดของเขาแล้วมองเข้าไปในดวงตาเพื่อน เขาพึมพำร่ายคาถาพลันรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินทางอยู่ในท่อแคบๆ ที่มีภาพที่เปลี่ยนไปรอบๆ ตัวเขาในทันที

ทั้งหมดนั้นเร็วเกินไปที่จะออกหัวหรือออกก้อย จากนั้นมันก็ช้าลงเล็กน้อย

"แก... เป็นสัตว์ประหลาดอะไร? เวทมนตร์งั้นหรอ? ทำไมถึงไม่บอกฉันเรื่องนี้?"

มันเป็นเสียงของผู้ชาย อาจจะเป็นความทรงจำแรกสุดของสเนป มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่บนพื้นพร้อมกับกุมแก้มของเธอ เธอน่าจะถูกตบแรงพอดู

“แม่จ๋า อย่าร้องนะ พ่อหยุด...” ไม่นานมือเล็กๆ ก็โผล่มาตรงหน้า และกำลังพยายามช่วยผู้หญิงคนนั้น

"แกก็เหมือนนังนั่น... ทายาทปีศาจ..."

แม็กนัสหยุดตัวเองทันทีรีบดึงสติกลับมา เขาบุกรุกความเป็นส่วนตัวของเพื่อนเขามามากพอแล้ว เขาจะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร

สเนปหายใจหนัก การไร้ประสบการณ์การพินิจใจไม่ได้เห็นแค่เดียว ทั้งสองฝ่ายเห็นความทรงจำที่ถูกสอดแนม ดังนั้นสเนปจึงรู้ว่าแม็กนัสเห็นอะไร

“นั่น...นั่นมัน...”

แม็กนัสตบไหล่ของเขาและหยุดเขา "นายไม่จำเป็นต้องอธิบายหรือให้เหตุผลกับฉัน เซฟ"

จากนั้นเขาก็มองไปที่รักนาร์ "นายพร้อมไหม?"

อื้ม...” รักนาร์มองตรงเข้าไปในดวงตาของแม็กนัส

แม็กนัสรีบเบือนหน้าหนี “หยุดมองฉันแรงๆ ได้แล้ว มันรู้สึกแปลกๆ เพื่อน”

“อะไรนะ ฉันแค่มองใบหน้าอัปลักษณ์ของนาย มันยากที่จะโฟกัส” รักนาร์ตอบกลับอย่างแข็งกร้าว

แม็กนัสกระแอม “จริงดิ? โอเค มองมาที่ฉันเดี๋ยวนี้”

รักนาร์เบนสายตาของเขาให้เป็นปกติ ครั้งนี้ แม็กนัสชินกับความรู้สึกนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกแปลกมากนัก ในไม่ช้า ความทรงจำก็ปรากฏแก่เขา

“ลูกรักจ๊ะ อย่าทำร้ายสัตว์ พวกเขามีความรู้สึกและเจ็บเป็นนะจ๊ะ” เสียงแม่ใจดีดังขึ้น

“แม่ฮะ ป๋มแค่อยากเล่นกับน้องหมา ป๋มสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเขา เขาจะกลับมาเป็นเพื่อนป๋มอีกไหมฮะ?” รักนาร์ถามด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กๆ

ผู้หญิงคนนั้นลูบศีรษะของรักนาร์พลางยิ้มให้เขา “เขาจะมาแน่นอนจ่ะ สุนัขเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์และรักลูกมากๆ ถ้าลูกให้ความรักแก่เขาแล้วพวกเขาจะไม่มีวันลืมลูกได้เลย”

"จริงเหรอฮะ? เย่... ป๋มจะไปเล่นกับคุณสนัฟเฟิลส์" เขาวิ่งไป

แม็กนัสออกมาจากความทรงจำ เขามองไปทางรักนาร์เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่เป็นไร รักนาร์กำลังยิ้มอยู่ในขณะนี้

“คุณสนัฟเฟิลส์เป็นสุนัขแก่ชรา เขาเป็นมิตรกับทุกคนและยังฉลาดอีกด้วย คืนนั้นเขาพยายามต่อสู้กับพวกมันแต่ถูกฆ่าตาย” รักนาร์เผย

แม็กนัสตบไหล่ของเขา “อีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องตามล่าพวกมันและมอบจุดจบอันเจ็บปวดให้พวกมัน อย่างไรก็ตาม ฉันต้องขอเตือนพวกนายสองคนไว้ก่อน การเรียน 'การสกัดใจ' นั้นยากมาก แต่มันจะทำให้จิตใจของนายเฉียบคมขึ้นมากและเพิ่มความสามารถในการเก็บความทรงจำ นอกจากนี้ คุณจะจำความทรงจำในอดีตได้อย่างละเอียด รักนาร์นายรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร ดังนั้น เมื่อนายเริ่มจัดระเบียบความทรงจำของนาย ฉันอยากให้คุณอยู่ใกล้ฉัน มิฉะนั้นมันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนาย”

แรกนาร์พยักหน้า แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ต้องกังวลเพราะเขายังจำทุกอย่างได้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เขาปฏิเสธที่จะลืมมัน จนกว่าเขาจะเห็นว่าตัวเองถลกหนังอาชญากรด้วยมือของเขาเอง

“เอาล่ะพอแล้วสำหรับวันนี้ เราไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้เรามีเรียนวิชาดาราศาสตร์ตอนเช้า” แม็กนัสเตือนพวกเขา

“อ่า ฉันไม่ชอบวิชาดาราศาสตร์” สเนปออกความเห็น

แม็กนัสหัวเราะเบา ๆ “เชื่อฉันสิ นายจะขอบคุณเมื่อได้เรียนรู้สิ่งนี้ในอนาคต”

_____________________________

เพจแปลถ้าเช่นนั้นข้าขอลา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด