ตอนที่แล้วตอนที่ 116 – ตอนที่ 113 ทักษะลวงปะทะทักษะหกรับรู้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 118 – ตอนที่ 115 มุกกันน้ำ

ตอนที่ 117 – ตอนที่ 114 ร่วมประสานฆ่าศัตรูแข็งแกร่งได้ทันที


ณ ปราสาทตระกูลเย่ว์

กลางดึกยามราตรี เย่ว์เยี่ยนนั่งเหม่ออยู่ในห้องตนเองเป็นเวลานาน แม้จนบัดนี้ เขาก็ยังยอมรับความเป็นจริงไม่ได้

ไอ้สวะที่น่ารังเกียจที่สุดที่เขาเคยพบมาทั้งชีวิตของเขามีชะตาชีวิตที่ผันแปรไปแล้ว เขาสามารถทนได้ ถ้าเพียงแต่ไอ้สวะนั่นเชี่ยวชาญวิทยายุทธของเย่ว์ชิวบิดาของมัน แต่เย่ว์หยางยังครอบครองจ้าวอสูรทองอีกด้วย… มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามหรือทำใจยอมรับได้ ไม่ว่าจะใช้ความพยายามมากเพียงไหน ก็สิ้นหวัง การที่ไอ้สวะมีจ้าวอสูรทองเป็นความจริงที่โหดร้าย ทำไมถึงไม่เป็นเขา? ถ้าเขาสามารถครอบครองอสูรทองสายนักสู้ได้ นั่นจะดีมากเพียงไหน?

ทำไมสวรรค์ถึงได้โปรดไอ้สวะนั่นนัก?

ทำไมไม่ใช่เขา?

ทำไมคนอย่างเขาที่เป็นผู้โดดเด่นและฝึกฝนมาหนักมาก ถึงไม่สามารถมีจ้าวอสูรทองได้? ทำไมสวรรค์ถึงได้ยอมให้ไอ้สวะนั่น ได้มีสมบัติล้ำค่าอย่างนั้น?

ทุกครั้ง เย่ว์เยี่ยนจำได้ถึงการแข่งขันระหว่างตอนกลางวัน เขาได้รับความอับอาย และพ่ายแพ้ไอ้สวะนี่ยับเยินมากขนาดไหน วิธีที่บิดาของเขาต้องช่วยให้เขาได้รอดชีวิต เขารู้สึกมีความเกลียดชังในใจรุนแรง ตราบใดที่เขายังมีชีวิต เขาสาบานว่าจะต้องฆ่าไอ้สวะนั่นให้ได้สักวันหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ไอ้สวะนั่นครอบครองเจ้าอสูรทองที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาอย่างมาก แล้วเขาจะฆ่าเจ้านั่นได้อย่างไร?

“คุณชายสี่! เจ้าหลับอยู่หรือเปล่า? ข้าเข้าไปคุยกับเจ้าได้ไหม?” ทันใดนั้นเสียงที่แหบแห้งดังออกมาจากนอกหน้าต่าง

“ใครกัน?” เย่ว์เยี่ยนตื่นตัว

เขารู้สึกว่ามีกลิ่นอายปีศาจที่น่ากลัวเข้ามาในห้องของเขาทางหน้าต่าง มันเหมือนกับว่าจ้าวปีศาจลงมาเอง โดยไม่มีความกลัว เย่ว์เยี่ยนพยายามเรียกอสูรที่แข็งแกร่ง แต่ขณะที่เขายกแขน เขาตระหนักได้ทันทีว่าอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ราชสีห์เพลิงและนักรบเพลิงถูกนางพญากระหายเลือดของไอ้สวะฆ่าตายแล้ว หน้าผากของเขาเริ่มมีเหงื่อซึมออกมาทันที โชคดีที่เขายังมีอสูรพิทักษ์หมาป่าเพลิง มิฉะนั้นเขาคงโดนไอปีศาจปกคลุมไปแล้ว

หมาป่าเพลิงชั้นทองแดงระดับ 3 ออกมาแล้ว แต่มันหลุบหางด้วยความกลัว มันคำรามเสียงต่ำ ดูเหมือนมันจะถูกขู่ขวัญโดยไอปีศาจที่น่ากลัว ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะความจริงที่ว่ามันเป็นอสูรพิทักษ์ที่ไม่มีวันหักหลังเจ้านายของมันแล้ว มิฉะนั้นหมาป่าเพลิงนี้คงจะเผ่นหนี ทิ้งเจ้านายของมันไว้เหมือนกับอสูรสามัญไปแล้ว

เย่ว์เยี่ยนตัวโชกไปด้วยเหงื่อเย็น เป็นไปได้อย่างไรที่มีศัตรูที่น่ากลัวซ่อนตัวอยู่ในปราสาทตระกูลเย่ว์นี้?

เขาอยากจะอ้าปากพูด ทันใดนั้นแสงสีดำก็กระจายวูบวาบออกมา

มีเสียงที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายปีศาจเปล่งออกมา “คุณชายสี่แห่งตระกูลเย่ว์! เจ้าเป็นเด็กฉลาด ข้าคิดว่าเจ้าควรรู้ดีว่าการตะโกนขอความช่วยเหลือไม่ใช่การกระทำที่ฉลาด ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ง่ายก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึง แน่นอนว่าถ้าเจ้าหยุดการเป็นศัตรูแล้วมาคุยกับข้า ข้าเชื่อว่าเรามีโอกาสอย่างมากที่จะทำงานร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้น ความร่วมมือกันนี้ยังดีต่อเจ้ามากๆ เสียด้วย”

“ไม่, เจ้าเป็นบริวารปีศาจ ส่วนข้าเป็นหนึ่งในผู้เยาว์ของตระกูลเย่ว์ ข้าจะไม่หลงคารมปีศาจแน่ อย่าฝันไปเลย” ขากรรไกรของเย่ว์เยี่ยนสั่นอย่างมิอาจหยุดยั้ง

“ดูเหมือนว่าเจ้าโดนหลอกด้วยระบบการอบรมสั่งสอนสินะ ใครล่ะที่บอกเจ้าว่า ปีศาจต้องเป็นศัตรูของมวลมนุษยชาติ? ที่หอทงเทียนในระดับชั้นที่สูงๆ กว่า ในดินแดนระดับสูงๆ มีนักสู้ชาวมนุษย์ที่มีพลังหลายๆ คนร่วมกับนักสู้ปีศาจที่ทรงพลังขับไล่ศัตรูของพวกเขา ข้าเชื่อว่าเจ้าคงเคยได้ยินสถานที่เรียกว่าแดนสวรรค์มาบ้างแล้ว? เจ้ารู้ไหมว่านั่นเป็นที่แบบไหน? นั่นเป็นที่ซึ่งมนุษย์และปีศาจอยู่ร่วมกัน แน่นอนว่า มีเผ่าพันธุ์ต่างๆ อาศัยอยู่ที่นั่นกันมาก และมีศัตรูที่แข็งแกร่งและน่ากลัวยิ่งกว่า เทียบกับเจ้าตอนนี้ เจ้าอ่อนแอเหมือนกับมด เจ้าปรารถนาจะตามหาดินแดนสูงสุดแห่งพลังอำนาจที่เป็นไปได้หรือไม่? เจ้าปรารถนาจะแสวงหาพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่หรือไม่? ดูตัวเจ้าเองสิ, อ่อนแอ, น่าสมเพช มัวแต่หดหู่หลังจากสูญเสียอสูรทองแดงที่ไร้ประโยชน์ไปสามตัว แม้ว่าข้าจะรู้สึกเศร้ากับเจ้าในตอนนี้ เจ้าคงไม่มีทางได้รู้ว่ายังมีดินแดนที่แข็งแกร่งอยู่ ที่นั่น แม้ว่าเจ้าจะได้ครอบครองอสูรระดับทอง เจ้าก็อาจจะเป็นเพียงแค่สวะอยู่ดี ถ้าเจ้ายังปรารถนาจะเป็นเหมือนมดที่อ่อนแอ อย่างนั้นข้าจะจากไป อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ามีความปรารถนามุ่งมั่นแม้สักเพียงเล็กน้อยที่จะแข็งแกร่งขึ้น อย่างนั้นเราก็พอคุยกันได้…” ร่างปีศาจพูดเบาๆ อยู่นอกหน้าต่าง ขณะที่มันล่อลวงเย่ว์เยี่ยนอย่างนุ่มนวล

“ท่านให้อสูรทองแก่ข้าได้ไหมเล่า?” เย่ว์เยี่ยนกำหมัดตนเองแน่น

เขารู้ตัวว่า ทันทีที่เขายอมรับการล่อลวงของปีศาจ อย่างนั้นก็เป็นอันจบกัน

อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้เป็นสมัครพรรคพวก เขาสามารถแพ้ให้กับใครก็ได้ แต่เขาจะแพ้ไอ้สวะนั่นไม่ได้ ตอนนี้เขาด้อยกว่า และอ่อนแอเหมือนมด ไม่มีค่าให้พูดถึง เขาค่อนข้างอยากจะเป็นเจ้าของอสูรที่แข็งแกร่ง กลายเป็นนักสู้ทรงพลังที่สามารถกวาดล้างทุกอย่างที่ขวางทางเขา

ตราบใดที่เขามีอสูรทอง เขาคงจะแข็งแกร่งพอๆ กับไอ้เศษสวะนั่น การเอาชนะไอ้เศษสวะนั่นจะไม่ใช่เป็นแค่เพียงความฝัน แต่จะเป็นความจริง นี่คือโอกาส และถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ อย่างไรก็ตาม ถ้าเขายอมรับของขวัญของปีศาจ จะไม่มีทางทำให้เขาหันหลังกลับมาได้ เขาจะสูญเสียสถานะในตระกูลเย่ว์และอาจกลายเป็นสาวกปีศาจที่ทุกคนในโลกไล่ล่าตามฆ่า

ข้าจะต้องทำแบบนี้จริงๆ เหรอ?

ขณะที่เย่ว์เยี่ยนครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้ แต่รู้สึกว่าความเย็นแล่นไปตามกระดูกสันหลังของเขา

ตอนนี้ เย่ว์เยี่ยนยืนอยู่บนขอบปากเหว ต้องเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งคือร่วงหล่นสู่อเวจีที่มืดมิดกลายเป็นสาวกของปีศาจหรือจะอยู่อย่างผู้แพ้ต่อไป เขาจะเลือกเป็นมดที่อ่อนแอต่อไป หรือเลือกที่จะกลายเป็นคนเลวทราม?

“เด็กน้อย, เจ้าใจร้อนเกินไป มันขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเจ้าในปัจจุบัน เจ้าจะไม่สามารถร่างสัญญากับมันได้ แม้ว่าข้าจะให้อสูรชั้นทองแก่เจ้า แน่นอนว่า ข้าสามารถให้อสูรชั้นเงินแก่เจ้าได้ หลังจากเจ้าทำสัญญากับมัน เจ้าก็ค่อยๆ ฝึกฝนอบรมมัน เมื่อเวลาสุกงอม เราสามารถใช้วิชาลับเปลี่ยนมันให้เป็นอสูรทองหรือสูงกว่านั้นก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าไม่ต้องกังวลเกินไป ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเรา” ปีศาจเงาที่นอกหน้าต่างหัวเราะเบาๆ

“ถ้าท่านให้อสูรเงินแก่ข้า แทนที่จะเป็นอสูรทอง อย่างนั้นข้าจะเอาชนะไอ้เศษสวะนั้นได้อย่างไร? ข้าต้องการเอาชนะไอ้เศษสวะนั่น ข้าต้องการฆ่ามันให้ได้” เย่ว์เยี่ยนขบฟันแน่น ขณะที่เขาคิดถึงเย่ว์หยาง ความเกลียดชังก็ยิ่งทวีขึ้นจนความรู้สึกเข้าไปถึงกระดูกของเขา

“คนใจร้อนไม่สามารถจะบรรลุสิ่งดีๆ ในชีวิตได้ แน่นอน ข้าเข้าใจถึงความเกลียดชังในหัวใจเจ้า เมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าจะส่งทูตไปสั่งสอนให้บทเรียนเจ้าเศษสวะนั้นแทนเจ้าดีไหม? ข้าจะส่งทูตไปทำลายเขา ทำให้เขาไม่สามารถแสวงหาความก้าวหน้าได้สัก 2-3 ปี ขณะที่เจ้าก็ถือโอกาสนี้ฝึกฝนตนเองให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น จากนั้นเจ้าจะสามารถฆ่าเขาได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ข้ารับรองได้ว่าทันทีที่เจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งแล้ว จะเอาชนะเขาได้นั้น เป็นเรื่องง่ายดายเหมือนกับการบี้แมลง” ปีศาจเงาที่ใกล้หน้าต่างยังคงหลอกล่อเย่ว์เยี่ยนอีก

“เนื่องจากเจ้าเป็นสาวกปีศาจ ข้าคงเชื่อเจ้าไม่ได้ เจ้าคงพยายามหลอกลวงข้าอยู่แน่” จิตใจของเย่ว์เยี่ยนยังอยู่ในสภาพขัดแย้งกันอยู่ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะมีอนาคตที่รุ่งโรจน์โดยไม่มีไข่อสูรทอง ถ้าสาวกปีศาจหลอกลวงเขาด้วยสาเหตุบังเอิญใดๆ ก็ตาม ถ้าอย่างนั้นเขาจะเป็นอย่างไร หากไม่มีทางยกเลิกสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว?

“คุณชายสี่, ข้าได้พูดถึงไว้ก่อนนั้นแล้ว เจ้าเป็นคนฉลาดโดยแท้ เพียงแต่เจ้าไม่สามารถเข้าใจได้ว่า ความสามารถของพวกเรานั้น มากมายขนาดไหน ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเรา คอยฟังข่าวพรุ่งนี้ก็แล้วกัน เจ้าเศษสวะนั่นจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส และนี่คือความแข็งแกร่งที่เรามีอยู่ มันจะทำให้เจ้าเพลิดเพลินกับรสชาติแห่งชัยชนะ พ่อหนุ่มผู้ฉลาด! ข้าไม่ได้กังวลต่อคำตอบของเจ้าเลย ทันทีที่เจ้าทำใจได้ ข้าจะมาพบเจ้าอีกครั้ง หรือบางที เจ้าสามารถไปที่หุบเขาธารดำที่ชั้นสามหอทงเทียนเพื่อตามหาข้า พ่อหนุ่ม! เมื่อโชคดีมาเยือนถึงหน้าประตูบ้านของเจ้า ขณะที่เจ้ายืนอยู่บนจุดตัดของโชคชะตาของเจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่พลาดโอกาสนี้และเลือกทางเลือกที่เขลาเดินดิ่งไปในเส้นทางที่ผิด” ขณะที่สายลมพัดผ่านมาทางหน้าต่าง ปีศาจเงาก็จางหายไป

“อะไรกันนี่, มันอะไรกัน?” เย่ว์เยี่ยนพึมพำกับตัวเอง พลันเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าก็ไหลย้อยลงมาเป็นสาย

สิ่งที่เย่ว์เยี่ยนไม่รู้ก็คือ ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ปีศาจเงาตัวเดียวกันนี้ก็มาปรากฏอยู่ที่หน้าต่างห้องของเย่ว์เทียน และใช้คำพูดล่อลวงอย่างเดียวกัน

ห้านาทีต่อมา ปีศาจเงานั้นก็มาปรากฏอยู่ที่หน้าต่างห้องของเย่ว์หยาง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะได้พูดอะไร เสียงเย่ว์หยางดังขึ้นมาจากข้างใน “ข้ายังตื่นอยู่ เจ้าอยากจะคุยอะไรด้วยล่ะ? ถ้าเจ้าอยากใช้อสูรชั้นเงินมาหลอกล่อข้าเหมือนเย่ว์เยี่ยน อย่างนั้นข้าเสียใจที่จะบอกเจ้าว่า ข้าไม่สนใจอสูรเงินแม้แต่น้อย แล้วเจ้าอยากจะคุยอะไรกับข้าอีก? เจ้า บริวารปีศาจผู้เข้าไปถึงแดนสวรรค์มาแล้ว ยังกล้าหลอกล่อให้คนกลายเป็นสาวกปีศาจ ใครคือนายของเจ้า? จ้าวปีศาจบารุธ, จ้าวปีศาจฮาซิน, หรือจ้าวปีศาจลิชกรุน?”

“เจ้า….” นี่เป็นครั้งแรกที่มีใครบางคนสามารถเห็นปีศาจเงาได้ ปีศาจเงาถามอย่างงุนงงว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไร? เจ้าแอบตามข้ามาจนถึงเดี๋ยวนี้หรือ?”

“ขอโทษที, ตอนแรกข้าต้องการไปหาเจ้าเด็กนั่น ห้องของเย่ว์เยี่ยนเพื่อตุ้บตั้บอีกสักหน่อย แล้วค่อยเตือนเขาว่า ได้เวลาฉี่แล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำพูดของเจ้า คำพูดประจบประแจงของเจ้าทำให้ข้าเกือบเผลอปรบมือให้แล้ว ข้าคาดไว้ว่าเจ้าอาจเข้ามาพบปะพูดคุยกับข้า แน่นอนว่า ข้าก็เลยรีบกลับมารอเจ้าโดยเฉพาะ ทำไมน่ะหรือ? เจ้ามีอะไรจะคุยกับข้าหรือ?” เย่ว์หยางพูดอย่างใจกว้างและเปิดเผย ขณะที่เปิดประตูยืนอยู่ที่นั่น ทำท่าทางคล้ายกับเชื้อเชิญปีศาจเงาให้เข้ามา

“ดูเหมือนว่าข้าจะประมาทเจ้าไปหน่อย คุณชายสาม เราค่อยพบกันใหม่ในอนาคต” ปีศาจเงาพูดขณะถือลูกกลมเทเลพอร์ตสีดำ

“ไม้ตายเดิมที่เจ้าใช้มาแล้ว มันใช้กับเซนต์เซย่าไม่ได้ ??? เอ่อ..ข้าหมายถึง วิธีหลบหนีที่พวกเจ้าเคยใช้มันใช้กับข้าไม่ได้” เย่ว์หยางหัวเราะลั่น

ปีศาจเงา ต้องการใช้ลูกบอลเทเลพอร์ทหลบหนี ทันใดนั้นเขาพบว่าตนเองไม่สามารถขยับได้

แรงมัดที่มั่นคงได้ล่ามตัวเขาทั้งตัวไว้กับพื้น

ดาบโค้งคู่เล็กปรากฏออกมาจากข้างหลังเขาและฟันแขนของปีศาจเงาซึ่งถือลูกบอลเทเลพอร์ทสีดำเอาไว้ ในเวลาเดียวกันแขนและไหล่ของปีศาจเงาก็เริ่มเป็นน้ำแข็ง

มีคนร้ายอยู่ข้างหลังเขาคนหนึ่ง มันแข็งแกร่งมากๆ เป็นไปได้ว่าคนผู้นี้เป็นผู้ที่เจ้านายได้เคยพูดไว้ก่อนหรือไม่? เจ้าผู้นี้อาจเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สอนเจ้าสวะอย่างคุณชายสามแบบลับๆ หรือไม่?

มันเป็นจริงตามที่คาดไว้

ต้องมีสุดยอดฝีมือคอยส่งเสริมเจ้าเศษสวะนั้นจากที่มืดก็ได้

ขณะที่มือของปีศาจเงายื่นออกมาหมายจะเรียกคัมภีร์อัญเชิญของตน ก็มีเสียงดังควับ และลูกศรสีทองปักลึกลงไปในไหล่ขวาของเขา ทันใดนั้นเอง ไหล่ขวาของเขาเริ่มกลายเป็นหิน ปีศาจเงาตกตะลึงอย่างหนักจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่างของเขา เมดูซาศิลานั่นเอง

“ฉึก!”

เลือดฉีดพ่นออกมาขณะที่สามง่ามทอง แทงทะลุหน้าอกของปีศาจเงา ที่ปลายสุดของสามง่าม มีหัวใจปีศาจปรากฏ ดูเหมือนดูเหมือนจะเปล่งพลังสีดำออกมา

ปีศาจเงาเริ่มเซไปมา ทรมานอย่างหนักจนแทบทรุดลงกับพื้น

“ข้าจะกลับมาล้างแค้นให้ได้” ปีศาจเงาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ก้าวไปที่ลูกบอลเทเลพอร์ทที่วางอยู่บนพื้น

เขารู้ว่าเขาจะหายสาบสูญไป แม้ว่าเขาจะเข้าใจได้ แต่เขาคาดว่าด้วยอาการบาดเจ็บในปัจจุบัน ร่างของเขาไม่สามารถรอดอยู่ได้นาน

แต่ว่าตราบใดที่ยังมีลมหายใจเหลืออยู่ เขาจะต้องส่งข้อความสำคัญให้เจ้านายของเขาได้ทราบว่า สวะอย่างคุณชายสามมีผู้ทรงพลังคอยปกป้องอยู่มาก

เย่ว์หยางพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า และรวบนิ้วแทงเข้าไปในอกขวาของปีศาจเงา “ข้ารู้มาว่าปีศาจมีอยู่ 2 หัวใจ ดังนั้นลูกเล่นนี้ ใช้กับข้าไม่ได้อีกต่อไป ตายซะ!”

ในชั่วแวบเดียว ปราณกระบี่ชั้นก่อกำเนิดก็แทงเข้าไปในหัวใจที่เหลือของเงาปีศาจ

ร่างของปีศาจเงาเริ่มสั่นและระเบิดดังบึ้ม คัมภีร์อัญเชิญเงินเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น และตกลงบนพื้น ปล่อยไอปีศาจออกมาไม่หยุด

ขณะที่ศพปีศาจเงาเริ่มจางหายไปในเสาเทเลพอร์ทที่ฉายออกมาจากลูกบอลเทเลพอร์ท เสี่ยวเหวินหลีที่ล่องหนอยู่ใช้ดาบคู่ของเธอฟันคอปีศาจเงาอย่างรวดเร็ว การโจมตีของเธอยังไวกว่าแสงเทเลพอร์ท

ไม่ว่าจะเป็นเมดูซาศิลา ไม่ว่าจะเป็นเงือกวายุถือตรีศูลทองที่สามารถโจมตีเข้ามาได้ทันเวลา

แต่เนื่องจากนี่เป็นการจู่โจมร่วมประสานกันเป็นครั้งแรก ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ

ถ้าพวกนางสู้กับปีศาจเงาจริงๆ เป็นเรื่องยากมากที่จะเอาชนะศัตรูที่เป็นเจ้าของคัมภีร์อัญเชิญได้ แม้ว่าปีศาจเงาจะบาดเจ็บหนักก็ตาม เขาสามารถหลบหนีได้โดยใช้ลูกบอลเทเลพอร์ทได้

การใช้กลยุทธของเขา เย่ว์หยางสามารถดำเนินแผนประสานงานล้อมกรอบจนฆ่าปีศาจเงาได้

ในที่สุด ปีศาจเงาก็ถูกฆ่าในไม่กี่วินาที

นี่คือพลังที่ได้รับโดยผ่านการใช้สติปัญญาและความแข็งแกร่งของตน

ไม่ว่าจะเป็นที่หมู่บ้านตระกูลเย่ว์, ที่ทางเข้าปราสาทตระกูลเย่ว์ หรือแม้แต่การแข่งขันภายในตระกูลเย่ว์ เย่ว์หยางก็ไม่ได้แสดงฝีมือของเขาเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ไม่มีคนอยู่รอบๆ เย่ว์หยางจะไม่แสดงความลังเลใดๆ และฆ่าปีศาจเงาได้ในทันที ขณะเดียวกัน เขาจงใจสร้างภาพลวงตาว่าเขาได้รับการคุ้มครองโดยยอดฝีมือ

นอกจากนี้ ยังให้เจ้านายของปีศาจเงาได้รับคำเตือน

นอกจากคัมภีร์เงินและหัวใจของปีศาจเงาที่เสียบอยู่ที่สามง่ามทองของเงือกวายุแล้ว ก็ปล่อยศพของปีศาจเงาให้เข้าประตูเทเลพอร์ทรวมทั้งแขนของเขาที่เสี่ยวเหวินหลีตัดขาดออกมาด้วย

“ทุกคนทำได้ดีมาก โดยเฉพาะเสี่ยวเหวินหลี พลังของเจ้ายอดเยี่ยมที่สุด” เย่ว์หยางชมเชย เสี่ยวเหวินหลียิ้มเบิกบานใช้แขนทั้งหกกอดขาของเย่ว์หยางและทำกระมิดกระเมี้ยนเอียงอาย

ขณะที่เมดูซาศิลาและนางเงือกวายุถูกเรียกกลับไปอยู่ในคัมภีร์เพชรของเสี่ยวเหวินหลี

เสี่ยวเหวินหลีใช้สายตามองดูหัวใจปีศาจอย่างรังเกียจคล้ายกลับว่าเธอมองเห็นเป็นสิ่งสกปรก ตรงกันข้ามกับฮุยไท่หลาง มันน้ำลายไหลขณะมองดูหัวใจปีศาจ แต่ก่อนที่เย่ว์หยางจะอนุญาตให้มันกิน มันจะไม่กล้ากิน

“วันนี้แกไม่ได้ทำงานอะไรเลย แล้วยังต้องการจะกินไอ้นี่อีกเหรอ?” เย่ว์หยางตำหนิฮุยไท่หลางอย่างหงุดหงิดในตอนแรก แต่ในที่สุด พอเห็นท่าทางที่น่าสงสารของฮุยไท่หลาง กำลังน้ำลายหกเหมือนสายน้ำตก ในที่สุดฮุยไท่หลางก็ได้รับอนุญาตให้กินหัวใจปีศาจ ช่างมันเถอะ หัวใจปีศาจที่แตกใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้สำหรับนักเดินทางข้ามมิติ นานๆ ทีเขาจะทำใจดีกับฮุยไท่หลาง มันดีใจมากขณะแทะหัวใจปีศาจพลางกระดิกหางอย่างมีความสุข

เห็นได้ว่าไอปีศาจของฮุยไท่หลางเพิ่มขึ้นไม่หยุดยั้งหลังจากที่กินหัวใจปีศาจ เย่ว์หยางคาดว่า อีกไม่นานฮุยไท่หลางคงยกระดับอีกขั้น

ถ้าฮุยไท่หลางเปลี่ยนเป็นอสูรเงิน เขาจะไม่ถือสาที่จะให้หัวใจปีศาจหรือปราณก่อกำเนิดเพิ่มอีกหน่อย

อย่างไรก็ตาม อาจเป็นได้ว่าพัฒนาการสุดท้ายของเจ้าฮุยไท่หลางอาจเป็นสุนัข 3 หัว เหมือนเซอร์เบอรัส อสูรที่เฝ้าประตูนรกกระมัง?

เกี่ยวกับพัฒนาการในอนาคตของฮุยไท่หลาง เย่ว์หยางแค่คิดผ่านๆ เท่านั้น เขาไม่ได้คิดถึงมันมากนัก ไม่ว่ามันจะก้าวหน้ามากเพียงไหน มันก็จัดเป็นอสูรที่อ่อนแอที่สุดของเขา

ห่างไป 10 กิโลเมตร ในป่าน้อยแห่งหนึ่ง

บุรุษชุดขาวคนหนึ่งยืนเอามือไพล่หลังอยู่ใต้เงาไม้ต้นหนึ่ง รออยู่เงียบๆ

เวทเทเลพอร์ทเปล่งแสงสีดำลงบนพื้น และพร้อมกับประกายแสง ประตูเทเลพอร์ทเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 เมตรได้เปิดออก

“เจ้าปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้วหรือ?” บุรุษชุดขาวถามขึ้นอย่างกระตืนรือร้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำตอบจากปีศาจเงาขณะที่เขาปรากฏตัวออกมาจากประตูมิติ จากนั้นหัวของเขาหลุดจากลำคอและกลิ้งมาอยู่ที่แทบเท้าของบุรุษชุดขาว

แม้ว่าปีศาจเงาตายไปแล้ว แต่ดวงตาที่แดงก่ำของมันไม่อาจปิดลงได้

ชั่วเวลาต่อมา บุรุษชุดขาวหันไปรอบๆ อย่างประหลาดใจ เผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่มีใครคาดถึง ความจริงเขาคือรักษาการประมุขตระกูลเย่ว์ เย่ว์ซานนั่นเอง สีหน้าของเย่ว์ซานสับสนอย่างมากขณะที่เขาสังเกตดูศพของปีศาจเงาอย่างระมัดระวังเป็นเวลานาน

เย่ว์ซานตรวจสอบศีรษะของปีศาจอย่างรอบคอบ หน้าอกถูกเจาะ แขนกลายเป็นหินและไหล่ถูกแช่แข็ง

ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป เสี่ยวซานมียอดฝีมือคอยหนุนหลังเขาอยู่แน่นอน มันเป็นยอดฝีมือทางลอบทำร้ายและฆ่าปีศาจเงาได้ในไม่กี่วินาที ยิ่งไปกว่านั้น ยอดฝีมือผู้นี้ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญในวิทยายุทธเท่านั้น แต่ยังมีอสูรที่แข็งแกร่งอย่างมากอยู่ในคลังอาวุธของเขาแน่ อย่างน้อยก็น่าจะมีเมดูซาศิลา ขณะที่ทักษะแช่แข็ง ดูเหมือนจะเป็นเพราะอาวุธล้ำค่าที่มีทักษะเลิศล้ำในตัวมันเอง หัวใจดวงที่หนึ่งดูเหมือนจะถูกกระแทก ขณะที่ดวงที่สองถูกควักออกไป สุดยอดฝีมือผู้นี้ต้องรู้ว่าปีศาจเงามีหัวใจดวงที่สองหลังจากขยี้หัวใจดวงแรกไปแล้ว ดังนั้น ยอดฝีมือผู้นี้จึงได้ควักเอาหัวใจดวงที่สองออกไป แม้กระนั้น ยอดฝีมือผู้นี้ยังสามารถตัดหัวปีศาจขณะที่เขาหลบหนีได้ แต่จุดที่สำคัญที่สุดก็คือ ในตอนแรกยอดฝีมือผู้นี้ต้องการจับปีศาจเงาทั้งเป็น แต่ทันทีที่ปีศาจเงาใช้ลูกบอลเทเลพอร์ท ยอดฝีมือผู้นั้นจึงตัดสินใจฆ่าเขา

ลูกบอลเทเลพอร์ทต้องการใช้เวลาเพียง หนึ่งวินาทีในการเปิดใช้งาน แต่ระหว่างหนึ่งนาทีนั้น กลับสร้างบาดแผลร้ายแรงมากมายให้ปีศาจเงาได้

ยอดฝีมือผู้นั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว

ปีศาจเงาครอบครองคัมภีร์อัญเชิญเล่มหนึ่ง ยังถูกฆ่าทันที ไม่สามารถเรียกคัมภีร์ตนเองออกมาได้ ยอดฝีมือผู้นี้เป็นนักสู้ระดับใดกันแน่? ระดับ 7 (เหนือมนุษย์) หรือว่าระดับ 8 (จักรพรรดิ)?

เย่ว์ซานมองดูท้องฟ้าและถอนหายใจเบาๆ “ดูเหมือนว่าเราจะต้องอดทนต่อไป…”

ที่ปราสาทตระกูลเย่ว์ เย่ว์หยางที่เป็นคนฆ่าปีศาจเงาทันทีกับเสี่ยวเหวินหลีกำลังเปิดคัมภีร์เงินและเริ่มศึกษามัน

ก่อนหน้านี้ เขาสามารถทำสัญญากับคัมภีร์เงิน เมื่อได้รับคัมภีร์เล่มที่สอง

แต่จะสามารถทำสัญญากับคัมภีร์เงินเล่มนี้ได้ด้วยหรือไม่?

ถ้าเขาไม่สามารถทำสัญญากับคัมภีร์เงินได้ในตอนนี้ อย่างนั้นเขาควรจะเก็บมันไว้ก่อนและดูว่าเขาจะสามารถทำเช่นนั้นได้เมื่อเขาบรรลุขอบเขตชั้นสูงได้หรือไม่? คัมภีร์ของคนอื่นมีความลับแบบไหนอยู่กันแน่ ? ขณะที่เย่ว์หยางครุ่นคิดเรื่องนี้ ใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกว่า ถ้าเขาได้รับคัมภีร์มากขึ้น อาจได้รับประโยชน์ในอนาคตมากขึ้นก็ได้

ตอนนี้ จะใช้ประโยชน์อะไรจากคัมภีร์เงินนี้ได้หรือไม่?

***********************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด