ตอนที่แล้วบทที่ 19 กลับโรงเรียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 21 พบอวี้ถิงอีกครั้ง

บทที่ 20 จ้าวเหยียนเหยียน


เย่เฉินมองไปรอบๆห้องเรียนเพื่อหาที่นั่ง เขาพบว่าหลังห้องมีโต๊ะเรียนที่ว่างเปล่าอยู่หนึ่งตัว เย่เฉินตัดสินใจไปนั่งตรงนั้นทันที

เพราะเย่เฉินสวมหน้ากากหนังมนุษย์ เขาจึงไม่เป็นจุดสนใจของใครหลายๆคนอีกต่อไป

“เฮ้ เพื่อนร่วมชั้น นายพึ่งย้ายมางั้นหรอ?” ชายที่นั่งข้างหน้าเย่เฉินหันกลับมาถามเย่เฉิน

“ใช่ ฉันพึ่งย้ายมาวันนี้” เย่เฉินตอบ

"โอ้ ฉันชื่อจางเหลียว นายเรียกฉันว่าจางเหลียวตรงๆเลยก็ได้" จางเหลียวยื่นมือของเขาออกมา

“ฉันชื่อเย่เฉิน ยินดีที่ได้รู้จัก” เย่เฉินพูดแล้วจับมือจางเหลียว

“เฮ้ เย่เฉิน ถ้าฉันเป็นนายฉันจะไม่นั่งตรงนั้นนะ”

“ทำไมล่ะ?” เย่เฉินถาม

“เพราะว่า...”  ก่อนที่จางเหลียวจะพูดจบ ประตูห้องเรียนก็เปิดออกอีกครั้ง

สาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามา ผู้หญิงคนนี้อายุประมาณ 17 หรือ 18 ปี และสูงประมาณ 165 ซม. ใบหน้าสวยของเธอดึงดูดผู้ชายทุกคนที่เห็น เธอสวมกระโปรงยาวถึงเข่า ผมยาวสลวยของเธอติดริบบิ้นผีเสื้อที่ดูหรูหราไว้ทางด้านขวา ร่างกายที่กำลังพัฒนาของเธอถูกปกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ดูสวยงามและบริสุทธิ์ เมื่อหญิงสาวสวยเดินเข้ามา สายตาของผู้ชายทั้งหมดในชั้นเรียนต่างก็เพ่งความสนใจไปที่เธอ

หญิงสาวสวยเดินมาและนั่งลงข้างๆโต๊ะของเย่เฉิน เย่เฉินเห็นว่านี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ายินดี เย่เฉินไม่คิดว่าวันแรกที่เขาย้ายห้องเรียนเขาจะได้เพื่อนร่วมโต๊ะเป็นหญิงสาวที่สวยขนาดนี้

เย่เฉินไม่คิดด้วยซ้ำว่าห้องเรียนที่มีปัญหามากที่สุดกลับมีผู้หญิงที่สวยมากเรียนอยู่

เมื่อหญิงสาวสวยนั่งลง เธอก็มองมาที่เย่เฉินด้วยความประหลาดใจ

เย่เฉินเป็นผู้ชายแล้วเขาจะปล่อยให้เธอแนะนำตัวเองก่อนได้อย่างไร?

“สวัสดีเพื่อนร่วมชั้น ฉันชื่อเย่เฉิน ยินดีที่ได้รู้จัก” เย่เฉินยื่นมือให้หญิงสาวสวย

“สวัสดี ฉันชื่อจ้าวเหยียนเหยียน ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” จ้าวเหยียนเหยียนจับมือเย่เฉินและยิ้มให้ จ้าวเหยียนเหยียนนอกจากมีความงามที่เป็นเลิศแล้ว เธอยังเป็นมิตรกับทุกคนเสมอ นั่นคือเหตุผลที่จ้าวเหยียนเหยียนเป็นที่นิยมอย่างมาก

เย่เฉินรู้สึกว่ามือของจ้าวเหยียนเหยียนนั้นอ่อนนุ่มอย่างมาก

แต่เมื่อจ้าวเหยียนเหยียนจับมือกับเย่เฉิน เธอก็รู้สึกเหมือนกับกระแสไฟฟ้าเล็กๆไหลผ่าน เธอรีบเอามือออกจากเย่เฉิน

ใบหน้าของจ้าวเหยียนเหยียนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

เห็นว่าจ้าวเหยียนเหยียนดึงมือของเธอออกอย่างรวดเร็ว เย่เฉินก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย

หลังจากแนะนำตัวเองแล้ว จ้าวเหยียนเหยียนก็หยิบหนังสือจากกระเป๋าของเธอและเริ่มอ่าน เย่เฉิน ต้องการเริ่มการสนทนา แต่เมื่อเห็นจ้าวเหยียนเหยียนกำลังมุ่งมั่นกับการเรียน เย่เฉินก็ยกเลิกความตั้งใจของเขาและดูดซับปราณหยินบนอากาศจากจ้าวเหยียนเหยียนแทน

ขณะที่เย่เฉินยังคงมุ่งเน้นไปที่การดูดซับปราณหยินจากจ้าวเหยียนเหยียน อาจารย์วัยกลางคนก็เข้ามาในห้องเรียนโดยไม่รู้ตัว ชั้นเรียนตอนเช้าเป็นวิชาคณิตศาสตร์

อาจารย์บนแท่นยังคงอธิบายคณิตศาสตร์ต่อไป แต่นักเรียนเกือบทุกคนกลับไม่สนใจ นักเรียนหลายคนในชั้นเรียนต่างยุ่งเกินไปกับโลกของตัวเอง บางคนพูดคุยกัน บางคนหลับ บางคนเล่นมือถือ แต่น่าแปลกที่อาจารย์บนโพเดียมไม่กล้าที่จะบ่นหรือดุนักเรียนเหล่านี้

นี่คือห้อง J ที่เต็มไปด้วยนักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำหรือนักเรียนที่มีปัญหา พ่อแม่ของพวกเขาเป็นคนรวยหรือข้าราชการ ดังนั้นทางโรงเรียนจึงไม่เข้ามาวุ่นวาย ตราบใดที่พวกเขาไม่สร้างปัญหาร้ายแรง

ในทางกลับกัน เย่เฉินเห็นจ้าวเหยียนเหยียนเพียงให้ความสนใจกับบทเรียนที่อาจารย์สอน เย่เฉินสามารถเห็นได้ว่าจ้าวเหยียนเหยียนเป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียน เขาเริ่มอยากรู้ว่าจ้าวเหยียนเหยียนมาอยู่ในห้องเรียนนี้ได้อย่างไร?

เย่เฉินไม่สามารถถามออกไปตรงๆได้ เพราะทั้งสองคนพึ่งจะรู้จักกันเพียงช่วงเวลาสั้นๆ

เย่เฉินไม่อยากคิดเรื่องนี้อีกต่อไป เขาหยิบหนังสือคณิตศาสตร์จากกระเป๋าของเขาและเริ่มศึกษามัน เขาพบว่ามันง่ายมากที่จะจดจำสูตรทางคณิตศาสตร์ในหนังสือ เพราะตอนนี้เขาเป็นผู้ฝึกตน เขาจดจำทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย เขาพลิกดูหน้าต่างๆอย่างรวดเร็วและทุกอย่างในนั้นก็ถูกเก็บไว้ในความทรงจำของเขา

หลังจากอ่านหนังสือคณิตศาสตร์จนจบ เย่เฉินก็ไปต่อกับหนังสือเรียนเล่มอื่นๆ

จ้าวเหยียนเหยียนที่อยู่ข้างเย่เฉินบางครั้งก็แอบมองเขา สิ่งที่เย่เฉินทำนั้นค่อนข้างแปลก เย่เฉินเอาแต่พลิกหน้าหนังสืออย่างรวดเร็ว จ้าวเหยียนเหยียนรู้สึกว่าเย่เฉินกำลังอยู่ในโลกส่วนตัวของเขา แตกต่างจากนักเรียนชายคนอื่น ผู้ชายที่เคยนั่งโต๊ะข้างๆเธอมักจะมองมาที่เธอด้วยความต้องการในแววตา คนเหล่านั้นทำให้เธอรู้สึกรังเกียจ

แต่หลังที่เย่เฉินแนะนำตัวเองกับเธอแล้วเขาก็เหมือนจะไม่สนใจเธออีกเลย เขาไม่ได้มองเธอเลยแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุผลบางอย่าง จ้าวเหยียนเหยียนรู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจ จ้าวเหยียนเหยียนเป็นผู้หญิงที่ได้รับความสนใจจากทุกผู้คนตั้งแต่เด็ก เธอมีผู้ชายตามจีบมากมายและเกือบทั้งหมดก็เป็นเหล่านายน้อยรุ่นที่สอง ทุกคนที่ไล่ตามเธอล้วนถูกเธอเพิกเฉย แต่ตอนนี้เมื่อเธอเห็นเย่เฉินไม่สนใจเธอ จ้าวเหยียนเหยียนก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

เย่เฉินยังคงอ่านหนังสือเรียนที่มีอยู่จนถึงช่วงพักกลางวัน แต่เย่เฉินก็ไม่ลืมที่จะดูดซับปราณหยินในอากาศจากจ้าวเหยียนเหยียน

มันเป็นช่วงเวลาพัก นักเรียนหลายคนมุ่งหน้าไปที่โรงอาหารเพื่อซื้ออาหารกลางวัน เย่เฉินเองก็ตั้งใจจะไปที่นั่นเช่นกัน

“เฮ้ เดี๋ยวก่อนเย่เฉิน นายจะไปไหนน่ะ?” จางเหลียวถาม

"ก็ต้องไปที่โรงอาหารน่ะสิ"

“งั้นไปด้วยกันเถอะ” จางเหลียวพูดเสร็จก็ลุกจากที่นั่งและไปโรงอาหารกับเย่เฉิน

จ้าวเหยียนเหยียนที่เห็นเย่เฉินจากไปนั้นก็ยิ่งหงุดหงิด เย่เฉินไม่แม้แต่จะคุยกับเธอในช่วงเวลาพักเช่นนี้ ผู้ชายหลายคนมักจะชวนจ้าวเหยียนเหยียนไปที่โรงอาหาร แต่เธอปฏิเสธคนเหล่านั้นเสมอ

เอ๊ะ ทำไมฉันต้องคิดเรื่องแบบนี้ด้วย เขากับฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกันซะหน่อย จากนั้นจ้าวเหยียนเหยียนก็ไปที่โรงอาหารของโรงเรียน

เพราะห้อง J อยู่ที่ชั้นบนสุดของตึก เย่เฉินและจางเหลียวจึงต้องเดินลงบันไดก่อนเพื่อไปที่โรงอาหาร

เย่เฉินเห็นนักเรียนแปดคนพยายามยกเปียโนขนาดใหญ่ขึ้นบันไดไปที่ชั้นบน คนเหล่านั้นดูเหมือนจะลำบากมากกับการแบกเปียโนขึ้นบันได

เมื่อจางเหลียวและเย่เฉินมาถึงชั้นหนึ่ง จางเหลียวก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ

“เย่เฉิน รอแปปนึงนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” จางเหลียวรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำด้านหลังอาคาร

เย่เฉินทำได้เพียงรอจางเหลียวข้างๆบันได และเมื่อเย่เฉินมองขึ้นไปข้างบน เย่เฉินก็เห็นจ้าวเหยียนเหยียนที่กำลังเดินลงมาข้างล่าง

"ระวัง!" เสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกดังขึ้นจากข้างบน คนเหล่านั้นพยายามเตือนผู้คนที่อยู่ด้านล่าง

เย่เฉินเห็นเปียโนขนาดใหญ่กำลังหล่นลงจากบันได ดูเหมือนว่าคนที่กำลังยกมันจะสูญเสียการควบคุมและทำให้เปียโนหล่นลงมา

จ้าวเหยียนเหยียนที่อยู่กลางบันไดหันไปมองด้วยความสับสน เธอต้องการหลบแต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ทันการแล้ว จ้าวเหยียนเหยียนทำได้เพียงหลับตาและยอมรับชะตากรรม

เย่เฉินรีบวิ่งไปที่ด้านหลังของจ้าวเหยียนเหยียนทันที มือข้างหนึ่งจับเอวของเธอและกอดเธอไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งก็หันไปทางเปียโน

ปังง!

เสียงดังสั่นราวกับเครื่องบินตก เย่เฉินไม่ต้องการเปิดเผยความแข็งแกร่งของเขา ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นล้มลงกับพื้น เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้จ้าวเหยียนเหยียนได้รับบาดเจ็บ

“อ๊าา” เสียงกรี๊ดของนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์นั้นดังขึ้น เปียโนหนักเกือบร้อยกิโล แถมยังหล่นลงมาด้วยความเร็วสูง คนที่โดนเปียโนนี้หล่นทับคงบาดเจ็บสาหัสหรืออาจจะไม่รอดชีวิต

เย่เฉินเห็นจ้าวเหยียนเหยียนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขายังคงหลับตา ร่างกายของเธอก็สั่นไม่หยุด

"เฮ้ ตื่นได้แล้ว" เย่เฉินพูดขึ้น

จ้าวเหยียนเหยียนที่ได้ยินเสียงนี้ก็ลืมตาขึ้นทันที เมื่อจ้าวเหยียนเหยียนลืมตาขึ้น เธอก็เห็นใบหน้าของเย่เฉินในระยะใกล้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เธอถูกเย่เฉินกอดอยู่ จ้าวเหยียนเหยียนปลดปล่อยตัวเองจากอ้อมกอดของเย่เฉินทันทีและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดจ้าวเหยียนเหยียนก็เข้าใจว่าเย่เฉินได้ช่วยชีวิตเธอไว้ หากไม่ใช่เพราะเย่เฉินที่เข้ามาบังให้เธอและผลักเปียโนออกไป บางทีเธออาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตไปแล้ว

จ้าวเหยียนเหยียนค่อนข้างประทับใจในสิ่งที่เย่เฉินทำ เย่เฉินเต็มใจที่จะช่วยคนที่เขาเพิ่งพบ หากเป็นผู้ชายคนอื่น พวกเขาคงไม่กล้าแม้แต่จะทำสิ่งนี้

จ้าวเหยียนเหยียนช่วยเย่เฉินลุกขึ้นจากพื้น

“เย่เฉิน คุณเป็นยังไงบ้าง?” จ้าวเหยียนเหยียนถาม

“ไม่เป็นไร แค่แขนชาเล็กน้อย คุณไม่จำเป็นต้องกังวล”

สิ่งนี้จะทำร้ายเย่เฉินที่เป็นผู้ฝึกตนระดับสูงได้อย่างไร?

หากไม่มีใครอยู่แถวนี้ เย่เฉินคงเลือกใช้ความแข็งแกร่งของเขาเพื่อทำลายเปียโนอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เย่เฉินพยายามที่จะไม่เปิดเผยความแข็งแกร่งของเขาให้ได้มากที่สุด

“บางทีเราควรไปห้องพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการของคุณก่อน” จ้าวเหยียนเหยียนยังคงกังวลเกี่ยวกับเย่เฉิน คนที่เพิ่งถูกเปียโนน้ำหนักหลายร้อยปอนด์กระแทกใส่จะยังเป็นปกติอยู่ได้ยังไง?

"ไม่เป็นไร ฉันสบายดีจริงๆ" เย่เฉินตอบกลับ

“แต่ว่า...” จ้าวเหยียนเหยียนยังคงกังวล

**********