ตอนที่แล้วSN-ตอนที่ 2 การเป็นฮีโร่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSN-ตอนที่ 4 แบล็ควอเตอร์และอันธพาล

SN-ตอนที่ 3 มุ่งสู่แบล็ควอเตอร์


-30/9/2116

วันนี้เป็นวันสำคัญ

วันที่ อัลดิช จะได้เข้าร่วมกับ สถาบันแบล็ควอเตอร์ ซึ่งเป็นก้าวแรกของการเดินทางอันยากลำบากและยาวนานเพื่อการล้างแค้นให้พ่อแม่ของเขา

อัลดิช ได้ตื่นนอนตอนตีห้าครึ่ง มันเป็นเวลา 30 นาทีก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนัดเจอเขา

เมื่อ นาฬิกาถึง 06.00 อย่างแม่นยำ เจ้าหน้าที่ของสถาบันศึกษาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูห้องของเขาอย่างแม่นยำ จากนี้จะเห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ได้ใช้กำปั้นทุบไปที่ประตูอยู่หลายครั้ง ซึ่งมันเป็นการเคาะประตูที่รุนแรงที่สุดเท่าที่ อัลดิช เคยเห็นมา

ก่อนหน้านี้ อัลดิช ได้เตรียมความพร้อมมาหมดแล้ว ซึ่งบ้านที่เขาเคยอาศัยอยู่มาตลอดทั้งชีวิต ได้รับการทำความสะอาดจนว่างเปล่า พร้อมกับเคลียร์ทุกอย่างเพื่อให้ผู้เช่ารายอื่นเข้ามาจากนั้นเขาก็ตั้งใจจะย้ายเข้าไปในสถาบันแบล็ควอเตอร์ แน่นอนว่าเขาได้คำนวณเรื่องอาหารค่าอาหารสำหรับระยะเวลา 4 ปีก่อนการสำเร็จการศึกษาแล้ว โดยของที่เขาแพ็คมาส่วนใหญ่ก็เป็นของส่วนตัวที่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับเขา

มันเป็นของที่ระลึกจากพ่อแม่ผู้ล่วงลับของเขา ซึ่งมันมีภาพครอบครัวของ อัลดิช และ เครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ จากชุดฮีโร่ของพวกเขา ยังมีจดหมายวันเกิดของเขาที่ทำให้เขาได้เข้ามาในสถาบันศึกษานี้อีกด้วย รวมถึง อุปกรณ์เล่นเกมส่วนตัวของเขาซึ่งบางครั้งเขาได้ใช้พวกมันเพื่อคลายเครียดหลังการฝึก

เกมส่วนใหญ่ที่เขานำมามันเป็นเกมแนว RPG เพราะ อัลดิช ไม่ชอบเล่นเกมออนไลน์และตอบโต้กับคนทั่วไปในโลกออนไลน์ ในบรรดาเกม RPG ที่เขาเล่น มีเกมนึงที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ

มันเป็นเกมที่ซ่อนเร้นอย่างน่าประหลาดแต่สนุกและอัศจรรย์เป็นพิเศษ มันมีชื่อว่า Elden World ซึ่งเขาได้ซื้อมันมาจากร้านเกมเก่า ซึ่งเป็นร้านที่ปิดตัวไปนานและถูกรื้อออกไปแล้ว

ในตอนแรก อัลดิช คิดว่าเกมนี้เป็นเกมขยะ เพราะเขาพบปัญหาหลายอย่างเมื่อเขาพิจารณาจากตัวแผ่นดิสก์ของเกม มันก็ทำให้เขาสงสัยมากยิ่งขึ้น เพราะ แผ่นดิสก์เกมนี้ไม่มีเครื่องหมายทางการค้าและไม่ได้ลงทะเบียนกับบริษัทใด ซึ่งมันหมายความว่า โอกาสในการพัฒนาเกมต่อแทบจะเป็นศูนย์และกระทั่งเกมนี้ยังไม่เคยวางสู่ตลาดสาธารณะมาก่อน

ดังนั้น อัลดิช จึงไม่ได้คาดหวังสำหรับมัน เพราะบางครั้งเขาก็ชอบเดินตระเวนไปทั่วร้านเกมที่ไม่มีชื่อเพื่อซื้อเกมเก่า ๆ ตั้งแต่ยุค 2000 มาเล่น และ บางครั้งเขาก็ทิ้งพวกมันไป

เพราะเกมเหล่านี้สำหรับยุคนี้ล้วนเป็นเพียงขยะ

ที่น่าแปลกก็คือ ตั้งแต่เขาเคยเล่นเกมมา เกม Elden World นั้นสมบูรณ์แบบที่สุด และ อัลดิช ก็ใช้เวลาในการเล่นมันไปหลายร้อยชั่วโมง

อัชดิช ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นอาชีพ เนโครแมนเซอร์จนถึงเลเวล 100 แต่เขาไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น หลังจากที่เขาเพิ่มค่าสถานะและอุปกรณ์บางอย่าง เขาก็ได้ตระเวนผ่านมุมมืดที่สุดของเกมเพื่อค้นหาวัสดุและการอัพเกรดเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นต่อไป

จนในที่สุด อัชดิช ก็สามารถเอาชนะ อุปสรรคทุกอย่างจนไม่เหลือความท้าทายใด ๆ อีก แม้ว่าบางคนจะคิดว่ามันน่าเบื่อ แต่เขาก็รู้สึกสนุกไปกับมัน

บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ อัชดิช ดูแข็งแกร่งและทรงพลัง แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ในเกมก็ตาม

ดังนั้นเขาจึงรักเกมนี้เป็นอย่างมาก

ในขณะเดียวกัน อัชดิช ก็เดินไปเปิดประตูห้องของเขา เขาได้เลื่อนประตูเหล็กเรียบ ๆ และ เปิดมันด้วยกลไกบางอย่าง จากนั้นเขาก็พบ ชายร่างสูงในชุดสีดำ ที่จ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาสีดำที่เฉียบคม

ชายคนนั้นมองลงมาที่ Eye-Phone ของเขา เพื่อตรวจสอบรายละเอียดบางอย่าง

“นายคือ อัลดิช หยาง?”ชายคนนั้นกล่าว“นักเรียนที่ลงทะเบียนโครงการพัฒนาการต่อสู้และเข้าร่วมสถาบันแบล็ควอเตอร์?”

“ครับ”อัลดิช ได้ตอบกลับอย่างเรียบง่าย

“แสดง ID ให้ฉันดู”ชายคนนั้นได้พูดขึ้น

อัชดิช ได้ยก Eye-Phone ของเขา และ ให้ ดาเรียส สแกนด้วยกล้องในโทรศัพท์ของเขา จากนั้น บันทึกประจำตัวประชาชน (CID) อิเล็กทรอนิกส์ของ อัลดิช ซึ่งตรงกับข้อมูลประจำตัวของเขากับฐานข้อมูลทั่วโลกที่ถูกดูแลโดยหน่วยงานองค์กรผู้วิวัฒก็ได้แสดงออกมา

“ดี ฉันชื่อ ดาเรียส เฟล็ทเชอร์ และ ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ของแบล็ควอเตอร์ ที่ถูกส่งมารับนายที่นี่”ชายคนนั้นได้กล่าวพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา และ มองไปที่ อัลดิช ด้วยดวงตาที่เย็นชา ราวกับว่า เขาคิดว่า อัลดิช ไม่คุ้มค่ากับการเสียเวลาของเขา

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”อัลดิช ได้กล่าวพูดด้วยความเคารพและยื่นมือออกมา

ดาเรียส ได้ปัดมือของเขาด้วยความแรงจนทำให้มือของ อัลดิช เกิดรอยฟกช้ำ

“ก็แค่คนไร้อำนาจ เป็นแค่หนอนแมลง คิดยังไงถึงอยากจะจับมือฉัน”ดาเรียสพูด“และจากนี้ไปให้นายเรียกฉันว่า เจ้าหน้าที่เฟล็ทเชอร์ เท่านั้น ถ้านายทำไม่ได้ ฉันเกรงว่านายคงต้องรู้สึกผิดหวังในตัวเองที่แม่ของนายคลอดนายออกมาแล้ว”

“...”อัลดิช ได้พยักหน้า เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการปฏิเสธประเภทนี้ และ ตามจริงแล้ว เขาก็ได้เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว เพราะถึงอย่างไร นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกกลั่นแกล้ง

จนถึงตอนนี้มันก็เหมือนกับที่ อัลดิช คำนวณไว้ เขาเต็มใจยอมโดนดูถูกกหรือกลั่นแกล้งเพื่อให้ได้รับใบอนุญาติของฮีโร่ในการล่า

“ตามฉันมา”เจ้าหน้าที่เฟล็ทเชอร์ ได้กล่าวพูดห้วน ๆ

อัลดิช ได้เดินตามเจ้าหน้าที่เฟล็ทเชอร์ไปอย่างเงียบ ๆ โดยด้านนอกอาคารของเขามันมีรถโฮเวอร์คาร์หุ้มเกราะขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะสามารถนั่งได้ประมาณ 6 คน เสียงของเครื่องยนต์ที่รุนแรงได้ดังก้องกระทบหูของ อัลดิช

“เข้ามา”เจ้าหน้าที่เฟล็ทเชอร์ได้พูดขณะแตะโทรศัพท์ สิ่งนี้มันทำให้ประตูบานใหญ่บานนึงของรถเหล็กสีดำได้เปิดออก และ ภายในรถก็สว่างไปด้วยแสงสีแดงหม่น โดยที่นั่งสองแถวได้หันเข้าหากัน

อัลดิช ได้เข้าไปนั่งข้างในโดยไม่พูดอะไร เขาได้สังเกตุการปรากฏตัวของคนอื่น ๆ รอบตัวเขา ดูเหมือนว่าเพื่อนนักเรียนของเขาจะยังดูเด็กเพื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของเขา ขณะที่ประตูรถปิดลง เจ้าหน้าที่เฟล็ทเชอร์ ก็ได้ขับรถออกไปในทันที

ภายในพื้นที่รถคันนี้มันคล้ายกับรถในเรือนจำมากกว่าการขนส่งนักเรียนทางการทหาร

“เฮ้ นายก็เป็นส่วนนึงในโครงการพัฒนาการต่อสู้ด้วยใช่มั้ย?”ชายหนุ่มที่อายุราว ๆ 16 ปี เหมือนกับ อัลดิช ดวงตาของเขาได้เบิกกว้างและฉีกยิ้มให้กับ อัลดิช ที่นั่งตรงข้ามเขา

“อืม”อัลดิช ได้ตอบกลับอย่างเรียบง่าย เขาได้มองไปรอบ ๆ และ พบว่ามีนักเรียนอีก 3 คนอยู่ในรถ

มีผู้ชาย 2 คน และ ผู้หญิง 1 คน ทั้งหมดคงจะเป็นส่วนนึงของโครงการพัฒนาการต่อสู้

“ดีเลย!”ชายผมหยิกได้ตอบกลับ เขายื่นมือออกมาและจับมือ อัลดิช “ฉันชื่อ อดัม มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่จะพบพวกเราหลายคนที่เป็นผู้ผิดปกติเช่นนี้ ตลอดชีวิตของฉัน ฉันคิดว่าตัวเองเป็นเพียงคนเดียวเสียอีก ในตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองนั้นถูกสาปแช่ง นายคงรู้ใช่ไหมว่าฉันคิดยังไง?”

อัชดิล จ้องมองไปที่มือของ อดัม ที่กำลังเขย่ามือของเขา อัลดิช ไม่ใช่คนที่กระฉับกระเฉงในด้านนี้ แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่เช่นเดียวกัน

“อืม”อัชดิช ได้ตอบกลับ นั่นคือทั้งหมดที่เขาพูด และ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนช่างพูดด้วย

“เห้ยตรงนั้นน่ะหุบปากกันได้แล้ว!”เสียงที่หยาบคายของเจ้าหน้าที่เฟล็ทเชอร์ได้ดังผ่านระบบเสียง สิ่งนี้ทำให้ทุกคนในรถสะดุ้ง ยกเว้นอัลดิช “เห้อวันนี้ช่างเป็นวันที่เลวร้ายสำหรับฉันยิ่งนักที่ต้องถูกส่งมาดูแลพวกแกเนี่ย ฟังนะ ฉันชอบขับรถแบบเงียบ ๆ ถ้าฉันได้ยินเสียงแว่ว ๆ ผ่านหู ฉันสัญญาเลยว่าเมื่อเราไปถึง แบล็ควอเตอร์ ฉันจะทำให้ชีวิตของพวกแกสังเวชมากยิ่งขึ้นมากกว่าตกนรกทั้งเป็นอีก!”

“เห้อ ใครบ้างที่รู้สึกว่ามันเป็นวันที่ดีของตัวเอง”อดัม ได้กล่าวกระซิบกระซาบ

อัชดิช ได้เพิกเฉยต่อ อดัม เพื่อให้เด็กคนนี้หุบปากเพื่อความปลอดภัยของเขา และ ของ อัลดิช แน่นอนว่าเขาได้กอดอกและเอนหลังพิงเบาะนั่งพร้อมกับจ้องมองไปที่เพดานสีแดงหม่นและหลับตาเพื่อพักผ่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด