ตอนที่ 24 ผลเก็บเกี่ยว
ตอนนี้หลิงอี้กำลังถูกล้อม
บนดินแดนสีแดงเข้มที่มีไฟพุ่งออกมาจากรอยแยกบนพื้นดินเป็นครั้งคราว เขากำลังถูกผีเสื้อไฟหลายสิบตัวล้อม
ส่วนที่เป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะหีบสมบัติอยู่ตรงหน้าเขา
เขาเจอหีบสมบัติไม้ พอเห็นว่าไม่มีมอนสเตอร์อยู่รอบๆเขาก็รีบวิ่งเข้ามาโดยไม่คิดทันที
พอรู้ตัวอีกทีก็มีผีเสื้อไฟหลายสิบตัวบินออกมาจากรอยแยกรอบๆหีบสมบัติ
นี่พวกมันตกปลาหรือไง?
ต่อให้โดนล้อมแบบนี้หลิงอี้ก็ไม่กลัว สิ่งสำคัญที่สุดคือดูของในหีบสมบัติ
เพราะยังไงผีเสื้อไฟก็ตามเขาไม่ทันอยู่ดี
[ยันต์เทเลพอร์ต(D)]: สุ่มเทเลพอร์ตไปยังภายในหนึ่งกิโลเมตร(ดีเลย์3วินาที)
เพราะเขาไม่มีสกิลตรวจสอบจึงดูเอฟเฟกต์ของไอเทมได้แค่ในกระเป๋า
นอกจากยันต์แล้วยังมีเหรียญทองมากกว่า1,000เหรียญ
“ขยะ”
หลิงอี้แสดงความรังเกียจทันที
พอเห็นว่ายันต์มีศักยภาพกลายพันธุ์ระดับปานกลางเขาจึงกลายพันธุ์มัน
[ยันต์เทเลพอร์ต(D)]: เทเลพอร์ตไปยังทิศทางที่กำหนดได้ทันทีในระยะ10กิโลเมตร, คูลดาวน์1นาที
“หืม?”
หลังกลายพันธุ์แล้วเอฟเฟกต์ของยันต์ก็ไม่ได้แย่เลย
ตอนนี้มันทำให้หลิงอี้นึกถึงตอนที่กลายพันธุ์[ยันต์คุ้มกันบ้าน ]
ยันต์ในเสินลู่เป็นไอเทมสิ้นเปลืองแบบใช้แล้วทิ้ง แต่หลังจากเขากลายพันธุ์พวกมันก็กลายเป็นของที่ใช้แล้วไม่หายไป
สิ่งนี้ทำให้เขายืนยันได้ว่าการกลายพันธุ์เป็นไปตามความคาดหวังของเขา
พอเห็นผีเสื้อไฟเข้ามาล้อมรอบ หลิงอี้จึงใช้เทเลพอร์ตอย่างไม่ลังเล
วินาทีถัดมา
ร่างกายของเขากลายเป็นแสงสีฟ้าหายไป!
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งเขาก็ปรากฏข้างเนินหญ้าสูงตรงทางแยกของป่ากับสวนผลไม้คริมสัน
“จิ๊จิ๊จิ๊”
หลิงอี้พอใจกับประสบการณ์การใช้ยันต์เทเลพอร์ตครั้งแรกมาก
“ฉันเทเลพอร์ตมาที่นี่ทันที แปลว่าหลังจากนี้ฉันไม่ต้องเสียเวลาเดินทางแล้ว”
แม้ว่าไอเทมชิ้นนี้จะไม่ช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ แต่มันเป็นสิ่งที่ดีมากเมื่อใช้ในการหลบหนี
สิ่งนี้ทำให้เขาทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น
และยังไม่ใช่แค่นั้น ยันต์เทเลพอร์ตยังเทเลพอร์ตได้ทันทีที่ใช้ หมายความว่าเขาสามารถใช้มันหลบการโจมตีของศัตรูได้
[เวลาจุติที่เหลือ: 22 นาที]
พอดูเวลาและเห็นว่าเหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลิงอี้จึงไม่คิดจะไปต่อ
เขานั่งลงและดูผลเก็บเกี่ยวในวันนี้
[
ชื่อ: หลิงอี้
เลเวล: 13 (12/2800)
พรสวรรค์: ย้อนกลับความน่าจะเป็น
ความแข็งแกร่ง: 3
พลังเวท: 65
ความว่องไว: 3+32
ร่างกาย: 3
ความทนทาน: 3
สกิล: ดาวตก(3ดาว,สามารถเติบโต), คัดลอกคุณสมบัติ(6ดาว)
ตำแหน่งดาวที่เหลือ: 4
การประเมินพลังต่อสู้: ผู้เชี่ยวชาญในหมู่ผู้เล่นใหม่
]
เลเวลเลื่อนเป็น13 แต้มพลังเวทสูงขึ้นอีก
สกิล[ดาวตก]เพิ่มขึ้นเป็น3ดาวทำให้ระยะทางกับพลังทำลายเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้
ธาตุไฟที่ฆ่าไปยังดรอปสกิลมาเยอะด้วย เดิมทีหลิงอี้อยากจะเก็บไว้ก่อน
แต่เมื่อไม่มีตำแหน่งดาวเพียงพอให้เรียนรู้สกิล10ดาว[อัญเชิญจักรพรรดิแข็ง] เขาจึงไม่เก็บสกิลพวกนี้ไว้
แม้แต่วัสดุที่เก็บไว้ในกระเป๋าก็เอาไปรีไซเคิล
ตอนนี้
ในกระเป๋าเขามีไอเทมแค่ห้าอย่างเท่านั้น: [ผึ้งงาน], [จิตวิญญาณราชาหมาป่า], [ลูกปัดค่าประสบการณ์], [อัญเชิญจักรพรรดิน้ำแข็ง]และ[ยันต์เทเลพอร์ต]
ตอนนี้เขามีเหรียญทองมากกว่า30,000เหรียญ
30,260เหรียญ!
“นอกจากเหรียญทองจะเอาไว้ซื้อของในร้านเสินลู่แล้ว มันยังซื้อไอเทมกับวัสดุในตลาดผู้เล่นได้ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเก็บวัสดุพวกนี้ไว้”
เสินลู่ปรากฎขึ้น20ปีแล้ว
วัสดุทั่วไปจึงมีมากมายและมีราคาต่ำ
ถ้าหลิงอี้ต้องการใช้มันในอนาคต เขาสามารถไปหาซื้อได้
......
หลังจากปิดกระเป๋าเป้ หลิงอี้มองไปรอบๆ
แสงแดดในสวนผลไม้ด้านล่างสว่างจนเขาต้องหรี่ตาลง
อากาศร้อนอบอ้าวบนทุ่งหญ้าแห่งนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางแสงแดดในตอนบ่ายของฤดูร้อน
รู้สึกว่าที่นี่จะร้อนกว่าตอนที่เข้ามาครั้งแรกซะอีก
หลิงอี้ใช้มือข้างหนึ่งบังแสงแดดและบังเอิญเห็นว่ามีผู้เล่นกลุ่มเล็กกำลังสู้กับผลไม้คริมสันอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
“หืม...ทีมนั้นไม่ประมาทไปหน่อยเหรอ?”
พอพูดจบก็มีคนข้างหลังตอบกลับมา “ไม่ใช่แค่ประมาท แต่พวกเขากำลังจะตาย”
หลิงอี้เลิกคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อหันไปมองก็พบว่ามีคนมากมายยืนกระจัดกระจายอยู่หลังเขา
คนกลุ่มนี้ดูไม่ค่อยสนใจเขาที่เพิ่งเทเลพอร์ตมา
“นั่นไม่ใช่ทีมหรอกแต่เป็นคนกลุ่มน้อยที่มีประมาณสามร้อยคน และตอนนี้พวกเขากำลังโดนผลไม้คริมสันล้อมอยู่”
“ฮ่าฮ่า คนพวกนั้นน่าตลกจริงๆ พวกเขาเสียเวลาอันมีค่ามาเพื่อหาใครบางคน”
“ถ้าเป็นช่วงปกติคงไม่เป็นไรหรอก แต่ตอนนี้เป็นเวลาของมือใหม่ซึ่งทุกนาทีเป็นสิ่งที่มีค่า”
“....”
คำพูดจากคนไม่กี่คนทำให้หลิงอี้เข้าใจมากขึ้น
'ที่แท้พวกเขากำลังตามหาฉันอยู่’
เขามองด้านหลังกลุ่มคนที่อยู่ห่างไกลและคิดอย่างรวดเร็ว
'ยอมเสียเวลาอันมีค่าในช่วงแรกเพื่อตามหาฉันแบบนี้ หรือว่าเบื้องหลังของคนพวกนั้นจะให้รางวัลมากมาย?!’
'คงมีใครบางคนเริ่มกังวลเรื่องนี้แล้ว’
หลิงอี้รู้สึกกังวลเล็กน้อยในตอนแรก
เขากังวลว่าจะโดนเจอตัวจริงๆ
แต่พอเห็นคนกลุ่มนี้ ความกังวลในใจเขาจึงหายไป
ทุกวันนี้ทุกคนต่างรีบเพิ่มเลเวล แต่คนกลุ่มนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปช่องว่างระหว่างคนพวกนั้นกับเขาจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ขนาดตอนนี้ยังหาไม่เจอ แล้วต่อจากนี้จะหาเจอเหรอ?
ขณะที่หลิงอี้คิดแบบนั้น คนหนุ่มด้านข้างเขาก็เริ่มคุยกัน
“ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนเรียกดาวเพลิงลูกนั้นมา”
“นั่นน่ะสิ? ถ้าใช้สกิลแบบนั้นตอนนี้เลเวลคงเพิ่มขึ้นเยอะแล้วล่ะ”
“อย่างน้อยก็ต้องเลเวล5!”
“ยังน้อยไป ฉันรู้สึกว่าเป็นเลเวล6ไม่ก็เลเวล7!
“จิ๊จิ๊จิ๊ ช่างกล้าคิดเนอะ วันที่สองเลื่อนเป็นเลเวล7…”
หลิงอี้หันหน้าไปดู ตอนเห็นครั้งแรกเขายังจำไม่ได้
แต่ดูแล้วเหมือนเคยเจอที่ไหนสักแห่ง
คนหนุ่มสองคนนั้นเห็นว่ามีคนมองอยู่พวกเขาอยู่ พวกเขาจึงมองกลับไป
“หืม? เป็นนายที่ไม่ได้ขโมยมอนสเตอร์ของเรานี่เอง”
เฉินต้าเจี๋ยประทับใจคนที่ไม่ได้ขโมยมอนสเตอร์พวกเขา
เมื่อเห็นใบหน้าที่งุนงงของหลิงอี้ เขาและน้องชายจึงไม่ได้เขาไปใกล้
พวกเขาหันกลับมากระซิบกันแทน
“พี่คิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนเรียกดาวเพลิงหรือเปล่า?”
“น่าจะไม่”
เฉินเสี่ยวอี่ส่ายหัวและถอนหายใจ “ตอนแรกฉันสงสัยว่าเป็นเขาหรือเปล่า แต่เขาอยู่ที่นี่เลยต้องตัดตัวเลือกนี้ไป”
“เพราะไม่กี่นาทีก่อนมีคนเห็นดาวเพลิงบนท้องฟ้าแผ่นดินแผดเผา ถ้าเขามาที่นี่คนข้างล่างคงเห็นเขาแล้ว”
“แล้วไอเทมเทเลพอร์ตล่ะ?” เฉินต้าเจี๋ยถามอีกครั้ง
เมื่อได้ยินแบบนั้นเฉินเสี่ยวอี่ก็ต้องกลอกตา “จะมีไอเทมที่เทเลพอร์ตได้ไกลกว่าสามกิโลเมตรในแผนที่เริ่มต้นได้ยังไง?”
“โอ้!” เฉินต้าเจี๋ยตบหน้าผากตัวเองแล้วยิ้ม “จริงด้วย”