ตอนที่แล้วSTY-ตอนที่ 37 ปรมาจารย์อาวุโสหนุ่ม!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSTY-ตอนที่ 39 ยกแก้วเหล้าหลายรอบ!

STY-ตอนที่ 38 ทะลวงสู่อาณาจักรเทวะ!


ในวันต่อมา แม้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด จะยังคงท้าทายดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ และ ศิษย์ที่พวกเขาส่งออกมาก็ได้เผชิญหน้ากับศิษย์พี่หญิงของ เย่เฉิน

อย่างไรก็ตาม คุณภาพความแข็งแกร่งของเหล่าศิษย์ที่ส่งออกมาคราวนี้กลับด้อยลงเป็นอย่างมาก

นี่เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่กล้าส่งผู้อาวุโสออกมาสู้อีกต่อไป หาก เป็นเพียงแค่เหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ ศิษย์พี่ของเย่เฉินสามารถบดขยี้ศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดได้หลายสิบคน

ดังนั้น ในทุกการแข่งขัน ศิษย์พี่ของเย่เฉิน จึงได้ชนะอย่างง่ายดายโดยการบดขยี้พวกเขา

ในกรณีนี้ เย่เฉิน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม เย่เฉิน ก็พบว่ามันแปลก ที่ศิษย์อัจฉริยะที่ชื่อ หลัวเฟิง ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย เย่เฉิน ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่

หากมีโอกาส เย่เฉิน ก็อยากจะพบ หลัวเฟิง คนนั้น อย่างไรก็ตาม หลัวเฟิง กลับซ่อนตัวอยู่ในห้องรับแขกของยอดเขาอวี๋เซียว ดังนั้น เย่เฉิน จึงมองไม่เห็นเขาเช่นเดียวกัน…

ในช่วงเวลานี้ เย่เฉิน ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่ยอดเขาอวี๋เซียวและฝึกฝนในทุกวัน

ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ดังนั้นเขาจึงได้ซ่อนตัวต่อไป

ตราบใดที่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาด ไม่ได้ทำอะไรมากเกินไป เย่เฉิน ก็ไม่คิดที่จะเคลื่อนไหว

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่ยอดเขาอวี๋เซียว ได้รับตราประทับล้ำค่าของกงล้อสวรรค์!]

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่หอคัมภีร์ของยอดเขาอวี๋เซียว ได้รับเทคนิคบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์ ‘มนต์ศักดิ์สิทธิ์แห่งฤดูใบไม้ผลิ’!]

[ติ๊ง โฮสต์ได้ลงชื่อเข้าใช้ที่ลานฝึกฝนของยอดเขาอวี๋เซียว คุณได้รับพรความเร็วในการึกฝนเพิ่มขึ้น 10 เท่า!]

ในขณะนี้ เย่เฉิน ได้ลงชื่อเข้าใช้และได้รับหลายสิ่งหลายอย่าง

โดยเฉพาะความเร็วในการฝึกฝน 10 เท่า

เดิมความเร็วในการฝึกฝนของ เย่เฉิน ก็เร็วอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาได้รับพรความเร็วในการฝึกฝนเพิ่มขึ้น 10 เท่า ทำให้ความเร็วในการฝึกฝนของเขามากยิ่งขึ้นไปอีก

ดังนั้น เย่เฉิน จึงได้เพิกเฉยต่อผู้คนเหล่านั้นจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดและจดจ่ออยู่กับการฝึกฝนของเขา

โดยเขาได้นั่งไขว่ห้างอยู่ในถ้ำของเขาบนยอดเขาหยกอมตะ และ ฝึกฝนอย่างช้า ๆ

ทันใดนั้นคลื่นพลังจิตวิญญาณที่ทรงพลังมากมายก็ได้พุ่งเข้าหา เย่เฉิน อย่างต่อเนื่อง พลังงานทางจิตวิญญาณที่พุ่งพล่านเหล่านี้ ได้ไหลเข้าสู่แขนขา และ กระดูกของ เย่เฉิน

จากนั้น เย่เฉิน ก็จมอยู่ในการบ่มเพาะพลังของเขา โดยเขาสัมผัสได้ถึงกระแสพลังงานจำนวนมากภายในร่างกาย

เขาได้มองดูโลกภายในร่างกายของเขา ซึ่งมันได้กลายเป็นทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล

มหาสมุทรเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงานในตันเทียนของเขาทั้งหมด

โดยพลังงานเหล่านี้ยังคงรวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง และ ก่อให้เกิดมหาสมุทรขนาดใหญ่ โดย เหนือมหาสมุทร ก็มีสะพานศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้ข้ามน้ำข้ามทะเลถูกตั้งเอาไว้

กระทั่งในเวลานี้ ยังมีดอกบัวสีเขียวที่ถูกหล่อเลี้ยงปรากฏขึ้น

เย่เฉิน ไม่รู้ว่า ดอกบัวสีเขียวนี้ก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไร แต่มันน่าจะเกี่ยวข้องกับเทคนิคสร้างสวรรค์ของเย่เฉิน

เดิมการบ่มเพาะพลังของ เย่เฉิน ก็รวดเร็วอยู่แล้ว พอได้รับความเร็วในการฝึกฝนเพิ่มขึ้น 10 เท่ามันก็ยิ่งเร็วขึ้นไปอีก

พลังงานจิตวิญญาณที่กลิ้งไปมาอย่างต่อเนื่อง ได้ไหลเข้าสู่ร่างกายของ เย่เฉิน จากโลกภายนอก

ในขณะนี้ เย่เฉิน ก็รู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาด

“เกิดอะไรขึ้น?”

เย่เฉิน รู้สึกตกใจ

เขาพบว่าวิญญาณของเขากำลังลอยออกจากร่างและหลอมรวมเข้ากับสวรรค์และปฐพี

“นี่ข้า…กำลังจะทะลวงขั้นพลังงั้นหรือไม่?”

เย่เฉิน รู้สึกสับสนเล็กน้อย

เขาเพิ่งจะทะลวงเข้าสู่ขั้นปลายของอาณาจักรมหายานเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้น มันจึงไม่ง่ายสำหรับเขาที่จะก้าวไปสู่อาณาจักรเทวะในระยะเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตาม เขาที่ได้รับความเร็วในการฝึกฝนเพิ่มขึ้น 10 เท่า ดังนั้นความเร็วในการฝึกฝนของเขาจึงได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก

เพราะอย่างนั้นเอง พลังงานจิตวิญญาณจำนวนมากจึงได้หลั่งใหลเข้าสู่ร่างกายของ เย่เฉิน และ ผลักดันให้เขาก้าวเข้าสู่อาณาจักรเทวะ

เย่เฉิน ยังคงดูดซับ พลังงานอย่างเต็มที่ โดยที่เขาไม่ได้ระงับพวกมันเลย

ฐานการบ่มเพาะพลังของ เย่เฉิน ได้พัฒนาไปอย่างราบรื่น ดังนั้นเขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความยากลำบากให้กับตัวเอง ที่เขาต้องทำก็มีแต่การก้าวไปข้างหน้าโดยตรง

ในขณะนี้ เย่เฉิน รู้สึกว่า จิตวิญญาณของเขากำลังผสานเข้ากับสวรรค์และปฐพี และ เขาสัมผัสได้ถึงพลังของสวรรค์และปฐพีจำนวนมาก

อีกอย่างจะต้องรู้ว่าในอดีต เย่เฉิน สัมผัสได้ถึงพลังของตัวเองเท่านั้น มี เพียงเฉพาะตอนที่เขาสร้างรูปแบบก่อตัวเท่านั้น จึงจะสามารถดึงพลังสวรรค์และปฐพีมาใช้งานผ่านรูปแบบได้

แต่ตอนนี้ เย่เฉิน ที่กำลังหลอมรวมเข้ากับสวรรค์และปฐพี นอกจากพลังของเขา เขายังสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์และปฐพี

ตอนนี้ เย่เฉิน รู้สึกว่าตัวเองได้กลายเป็นไม่สำคัญยิ่งขึ้น

แม้ว่าตอนนี้ เขาจะกำลังทะลวงเข้าสู่อาณาจักรเทวะ แต่เขาก็ยังอ่อนแอเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าพลังที่ยิ่งใหญ่ของสวรรค์และปฐพี

ไม่ว่าร่างกายของมนุษย์จะแข็งแกร่งเพียงใด มันก็ไม่สามารถแข็งแกร่งไปกว่าสวรรค์และปฐพีได้

หลังจากที่ไปถึงอาณาจักรเทวะแล้ว เขาก็สามารถใช้พลังสวรรค์และปฐพีได้

ขณะนี้พลังงานจำนวนมากได้ถูกฉีดอัดเข้าไปในร่างกายของเขาอย่างช้า ๆ และ เย่เฉิน ก็ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับถอนหายใจออกมายาว

ในที่สุด เขาก็ทะลวงขั้นพลัง

ตอนนี้เขาอยู่ในช่วงต้นของอาณาจักรเทวะแล้ว

และในขณะนี้ พลังงานโดยรอบร่างกายของเขาก็กำลังหลอมรวมเข้ากับร่างกายของ เย่เฉิน อย่างต่อเนื่อง ทุกการเคลื่อนไหวโดย มือและเท้าของเขา จะเต็มไปด้วยจังหวะที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

“นี่คืออาณาจักรเทวะ?”เย่เฉิน ได้พึมพัมออกมา

อาณาจักรเทวะคือเสียงสะท้อนระหว่างสวรรค์และปฐพี

อาจกล่าวได้ว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างอาณาจักรเทวะและอาณาจักรพลังก่อนหน้านี้

ก่อนที่จะถึงอาณาจักรเทวะ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการบ่มเพาะพลังระดับสวรรค์ใด ๆ ก็ตาม มันจำเป็นจะต้องมีความแข็งแกร่งโดยเฉพาะของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจาก ที่ทะลวงสู่อาณาจักรเทวะ ความแข็งแกร่งของ คน ๆ นึง ก็ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเองอีกต่อไปเพราะในทางกลับกัน เราสามารหยิบยืมกำลังภายนอกอย่างเช่นพลังงานสวรรค์และปฐพีมาช่วยเหลือได้

เย่เฉิน ได้ถอนหายใจออกมายาว และ ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ พร้อมกับเดินออกไป

ในขณะนี้ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขา ได้มองมาที่ เย่เฉิน ด้วยความประหลาดใจ เมื่อนางมองไปที่ใบหน้าของ เย่เฉิน นางพบว่า เย่เฉิน ดูดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย

สิ่งนี้ทำให้นางประหลาดใจเป็นอย่างมาก

เหตุใดนางถึงรู้สึกว่า เย่เฉิน ดูแตกต่างจากเมื่อก่อน?

ราวกับว่า เย่เฉิน ดูหล่อขึ้นเล็กน้อยและมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อน?

“อะไร?มีบางสิ่งติดอยู่บนใบหน้าของข้างั้นหรือไม่?”เย่เฉิน มองไปที่ ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาและกล่าวถาม

“หึ่ม!”จ้าวซือเหยา ได้พ่นลมหายใจออกมาและเพิกเฉยต่อ เย่เฉิน

เนื่องจาก ศิษย์พี่หญิงเจ็ดของเขาไม่ได้สนใจตัวเอง เย่เฉิน จึงไม่ได้รบกวนและเดินจากไปโดยตรง

แต่จนถึงเวลานี้หัวใจของ จ้าวซือเหยา ได้เต้นแรงไม่หยุด

นางรู้สึกสับสนว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้

“เป็นไปได้หรือไม่ว่าข้า…”

“ไม่เป็นไปไม่ได้ เขาก็แค่เด็กอายุ 13-14 ปีเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะต้องไปชอบเขา”

จากนั้น เย่เฉิน ก็เดินจากไปไกล

แต่ในขณะนี้ เย่เฉิน ก็ได้พบ ศิษย์พี่หญิงสามของเขา

ศิษย์พี่หญิงสามของเขารู้สึกอารมณ์ดีหลังจากที่นางเอาชนะผู้บ่มเพาะพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ธุลีสีชาดได้

เมื่อนางเห็น เย่เฉิน ศิษย์พี่หญิงสามก็ดึงเขาเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนของนางโดยทันที

“เฉินน้อย ทำไมวันนี้เจ้าถึงดูดีมากกว่าเดิม?”เหมี่ยวหาน ได้มองไปที่ เย่เฉิน และ กล่าวถาม

“ข้าก็ดูดีอยู่ทุกวันไม่ใช่เหรอ?”เย่เฉิน ได้ตอบกลับ

“เพียงแต่วันนี้ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างที่แตกต่างออกไป”เหมี่ยวหาน ได้ตอบกลับ

“หืม?”เย่เฉิน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ศิาย์พี่หญิงเจ็ดของเขาก็ยังเหมือนเดิม แม้แต่ ศิษย์พี่หญิงสามของเขาก็เหมือนเดิม

ที่เปลี่ยนไปก็คือ เย่เฉิน เป็นไปได้หรือไม่ว่าหลังจากที่ทะลวงสู่อาณาจักรเทวะจะทำให้คนดูหล่อขึ้น?

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ เย่เฉิน คิดเกี่ยวกับมัน เขาก็พอจะเข้าใจได้

หลังจากที่เขามาถึงอาณาจักรเทวะ เขาก็สามารถสื่อสารกับสวรรค์และปฐพีได้ โดยทุกการเคลื่อนไหวของเขาจะเต็มไปด้วยแก่นแท้ของเต๋าดังนั้นอารมณ์ของเขาจึงดูดีมากยิ่งขึ้น และ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม ศิษย์พี่หญิงเจ็ดและศิษย์พี่หญิงสามของเขาจึงบอกว่าเขาดูดีกว่าเดิม

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์

ยอดเขาอวี๋เซียว

ห้องรับแขก

“นายน้อย พวกเราได้พ่ายแพ้ในการแลกเปลี่ยนการประลองในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าศิษย์รุ่นเยาว์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทพธิดาทั้ง 7 ของยอดเขาหยกอมตะ พรสวรรค์ของพวกนางช่างน่าสะพรึงกลัวมากจริงๆ!”ผู้อาวุโสคนนึงได้กล่าวพูดออกมา

แต่ในเวลานี้ หลัวเฟิง ก็ได้เปิดเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า และ เขาได้ตอบกลับอย่างเฉยเมย “อย่าได้ลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเรา เนื่องจากศิษย์รุ่นเยาว์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโชคชะตานิรันดร์มีพรสวรรค์มากขนาดนี้ พวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลังเลอีกต่อไป!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด