ตอนที่แล้ว726 - วานรศักดิ์สิทธิ์ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป728 - หินจักรพรรดิ 

727 - วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ 


727 - วิญญาณศักดิ์สิทธิ์

ผู้อาวุโสไท่ซ่าง(สูงสุด)หลายคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกมีอัธยาศัยที่ดีมาก ทุกคนต้อนรับพวกด้วยตนเองและสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกก็อยู่ข้างๆ

“หินก้อนนี้แตกต่างจากหินจักรพรรดิอื่นมาก เราไม่ต้องการที่จะปิดผนึกมัน แต่ต้องการให้สิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่ข้างในถือกำเนิดขึ้นมาอย่างปลอดภัย”

ผู้อาวุโสไท่ซ่างกล่าวถึงความปรารถนาที่แท้จริงซึ่งแตกต่างจากสิ่งที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกตกลงกับเย่ฟ่านในตอนแรก บางทีเหตุผลอาจเป็นเพราะเลือดราชาโบราณที่พวกนางได้รับจากวานรศักดิ์สิทธิ์เมื่อไม่กี่วันก่อน

ในสมัยก่อนผู้อมตะโบราณของทะเลสาบหยกได้ทิ้งหินก้อนนี้ไว้ ด้วยความคาดหวัง และมันได้รับการสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้

ผู้อาวุโสหลายคนของทะเลสาบหยกพาพวกเขาไปที่สระเทพธิดา ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของทะเลสาบหยก และเป็นที่มาของชื่อพวกเขา

ข้างหน้าเป็นทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด บนต้นไม้มีนกและสัตว์หายากมากมายกระจัดกระจายอยู่รอบนอก

ที่นี่มีแม้กระทั่งอีกาสีทองสามขา และลูกหลานของหงส์เพลิงรวมทั้งสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายกิเลนอาศัยอยู่ในป่าข้างเคียง

“ต้นท้อโบราณนั่นออกผลอีกแล้วจริงๆ!” จักรพรรดิดำพึมพำ

มีต้นไม้โบราณที่แข็งแรงราวกับมังกรขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มันมีความสูงหลายร้อยวา ทอดยาวขึ้นไปบนท้องฟ้าและมีความเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี

มีหินหลากสีแวววาวอยู่ใต้ต้นท้อโบราณ มันมีลักษณะคล้ายกับใบหน้าของมนุษย์ และตอนนี้มันกำลังดูดกลืนแสงอาทิตย์และดวงจันทร์โดยที่ผู้คนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

“บัดซบ มันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!”

สุนัขสีดำตัวใหญ่ตกใจและอดที่จะเห่าออกมาไม่ได้

ใต้ต้นท้อโบราณริมทะเลสาบเทพธิดา มีคนเฝ้าดูอยู่หลายคนพวกเขากำลังเฝ้าดูหินก้อนนี้อย่างจริงจัง หนึ่งในนั้นคือเย่ฟ่านและโอหยางเย่ซึ่งว่ากันว่าเป็นประมาจารย์ต้นกำเนิดระดับปฐพี

โอหยางเย่จ้องมองดูก้อนหินด้วยความไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทันใดนั้นรอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

เย่ฟ่านเกลียดผู้คนจากตระกูลศิลปะต้นกำเนิดโบราณดังนั้นจึงไม่คิดจะสนทนากับคนเหล่านี้ตั้งแต่แรก

"เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!"

ทันใดนั้นวานรศักดิ์สิทธิ์พ่นลมอย่างเย็นชาก่อนจะยื่นมือขนาดใหญ่เข้าหาโอหยางเย่

"เจ้ามีเจตนาจะฆ่าเพื่อนของข้าหรือ”

หลังจากที่วานรศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นร่างมนุษย์ ผิวของมันเป็นสีทองซีดแต่ร่างกายของมันยังคงอัดแน่นไปด้วยพลังของหายากสิ่งมีชีวิตอมตะ

ความแข็งแกร่งของมันน่ากลัวอย่างถึงที่สุด แม้ว่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ที่นี่ก็ไม่มีทางที่จะกล้าขัดขวางการลงมือของมันอย่างแน่นอน

“ครืน!”

นิ้วโป้งสีทองที่ยื่นออกไปข้างหน้าและขยายใหญ่ขึ้นกว่าสิบจั้ง จากนั้นแสงสีทองสดใสก็ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าทำให้โอหยางเย่หน้าเปลี่ยนสีด้วยความกลัว

เขาฝึกฝนดวงตาแห่งสวรรค์จนสำเร็จ และโดยธรรมชาติแล้วเขาสามารถเห็นร่างที่แท้จริงของวานรได้ หลังจากรู้ว่ามันเป็นทายาทของสิ่งมีชีวิตอมตะโบราณ หัวใจของเขาก็สั่นสะท้านอย่างถึงที่สุด

สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์เหล่านี้เชื่อมโยงกับภูเขาซากศพและทะเลโลหิตอยู่เสมอ พวกมันเคยเป็นผู้ปกครองที่สมบูรณ์ของดินแดนโบราณจนกระทั่งมนุษย์เข้ามาแทนที่

แต่ไม่ว่าพวกมันจะเคยยิ่งใหญ่มากแค่ไหน โอหยางเย่ก็ไม่สามารถรอความตายอยู่เฉยๆได้ ดังนั้นเขาจึงเรียกปราณมังกรให้ระเบิดขึ้นมาในบริเวณที่วานรศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่

“ตึง!”

ปราณมังกรในพื้นดินลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า กลายเป็นมังกรขนาดใหญ่นับสิบตัว แต่การก่อตัวของพวกมันยังไม่ทันเริ่มต้นขึ้นก็ถูกวานรศักดิ์สิทธิ์กระแทกกำปั้นออกไปทำลายอย่างง่ายดาย!

"บูม!"

มือใหญ่ของวานรไม่เปลี่ยน และยังคงกดไปข้างหน้าด้วยพลังอันชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด

“บูม!”

ร่างกายของโอหยางเย่สั่นสะท้าน โลหิตของชายชราไหลทะลักออกมาจากปากและจมูกอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ร่างกายของเขาตกไปอยู่ในมือวานรศักดิ์สิทธิ์แล้ว

“เจ้าจะทำอะไร!” เขาร้องออกมาด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด

“วิสุทธิชน(ผู้ที่มีสายเลือดเทพ)โปรดเมตตา”

ผู้อาวุโสไท่ชางของทะเลสาบหยกรีบเกลี้ยกล่อมจากด้านข้างและขอให้วานรศักดิ์สิทธิ์ปล่อยผู้อาวุโสจากตระกูลศิลปะต้นกำเนิดเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดของเขาแปดเปื้อนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

“กร็อบ”

วานรศักดิ์สิทธิ์ออกแรงเล็กน้อยและหักซี่โครงโอหยางเย่ไปหลายซี่ ก่อนจะโยนร่างกายที่บิดเบี้ยวของเขาลงไปบนพื้นราวกับเศษขยะ

“เจ้าเป็นใคร กล้าดีอย่างไรถึงทำกับผู้อาวุโสของเราแบบนี้!”

ผู้คนจากตระกูลศิลปะต้นกำเนิดโบราณคำรามด้วยความโกรธ

“สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกถ้าเจ้าไม่มีคำอธิบายเรื่องนี้พวกเราจะถอนตัวไปทันที!” หลายคนตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“อย่า…!”

โอหยางเย่พยายามห้ามปรามลูกหลานของตัวเองอย่างยากลำบาก เขาเป็นคนเดียวที่ฝึกฝนดวงตาสวรรค์ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านี้ไม่สามารถยั่วยุได้

“วิสุทธิชนโปรดระงับความโกรธ!”

คนของทะเลสาบหยกเข้ามาแทรกแซง ในฐานะเจ้าของสถานที่มันไม่มีทางที่พวกเขาจะอนุญาตให้วานรน้อยลงมือสังหารผู้คน

“เขามีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะฆ่าเพื่อนของข้า การไม่ฆ่าเขาทิ้งก็ถือเป็นความเมตตาของข้าแล้ว” วานรพึมพำและมีสีหน้าเฉยชา

สิ่งที่เขาพูดมันเป็นไปตามอารมณ์ของเขา ในตามปกติเขาคงลงมือฆ่าผู้คนจากตระกูลโบราณศิลปะต้นกำเนิดไปหมดแล้วหากไม่ใช่เพราะต้องการไว้หน้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก

“พวกเราออกไปจากที่นี่เถอะ!”

โอหยางเย่หันไปกล่าวกับลูกหลานโดยไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับวานรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอีก โดยตอนนี้เขาพยายามระงับความโกรธอย่างถึงที่สุด

“ดูเหมือนว่าไอสังหารของเจ้าจะยังไม่ลดลงเลย?”

ดวงตาที่เร่าร้อนของวานรศักดิ์สิทธิ์จ้องมองแผ่นหลังของโอหยางเย่ด้วยรอยยิ้ม

“วิสุทธิชนอย่าเพิ่งใจร้อน อย่าสร้างความวุ่นวายอีกเลย”

ผู้อาวุโสหลายคนของทะเลสาบหยกก้าวไปข้างหน้า เพราะกลัวว่าวานรน้อยจะฆ่าโอหยางเย่จริงๆ

“พี่วานรไม่จำเป็นต้องไปยุ่งกับพวกเขา” เย่ฟ่านก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อห้ามปรามว่านอนน้อย

จากนั้นเขาก็ชักชวนสหายทั้งหมดไปศึกษาต้นไม้โบราณที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้เซียนเพียงต้นเดียวที่อยู่นอกดินแดนต้องห้ามแห่งชีวิต

มันเติบโตมาเป็นเวลาหลายแสนปีแล้ว และลำต้นของมันก็ใหญ่โตจนเกรงว่าต้องใช้ผู้คนมากกว่าครึ่งร้อยในการโอบกอด

ต้นไม้โบราณเปรียบเหมือนมังกรขนาดยักษ์ เต็มไปด้วยใบสีเขียวโปร่งแสงและส่องประกาย กิ่งก้านของมันแผ่กระจายรอบ และมีผลเพียงสามผลเท่านั้น

ลูกท้อไม่ใหญ่มากแต่เป็นเหมือนหยกสีแดง ทั้งผลเป็นสีแดงสด ส่องประกายระยิบระยับและส่งกลิ่นหอมสดชื่นทำให้ผู้คนรู้สึกสบายไปทั้งตัว

สุนัขสีดำตัวใหญ่นั้นทนไม่ไหว มันอยากกลืนผลไม้ที่อยู่ตรงหน้าเข้าไปในคำเดียว หากไม่มีผู้อาวุโสระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์คอยเฝ้าอยู่ใต้ต้นท้อ มันคงลงมือไปแล้ว

ในตอนนี้วานรศักดิ์สิทธิ์มองต้นท้อด้วยความเศร้าโศกราวกับนึกถึงเรื่องราวบางอย่าง

“ชีวิตเต็มไปด้วยความผันผวน ในอดีตดินแดนภาคเหนือนั้นเคยงดงามมากแค่ไหน ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นทะเลทรายไปหมดแล้ว”

วานรน้อยใช้เวลาอยู่กับความคิดของตัวเองนานพอสมควรก่อนจะถอนใจและกล่าวว่า

"ต้นท้อนี้ก็ผ่านชีวิตมาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน"

จากนั้นมันก็เดินเข้าหาก้อนหินจักรพรรดิที่มีรูปร่างเหมือนใบหน้ามนุษย์

“ทะเลสาบหยกมีความมั่นใจว่าจะควบคุมวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในหินก้อนนี้ได้จริงหรือ?”

ดวงตาของสุนัขสีดำตัวใหญ่นั้นลึกซึ้ง แสดงออกอย่างชัดเจนวาดมันมีความกลัวต่อหินจักรพรรดิก้อนนี้

หินก้อนนี้รู้สึกได้ถึงความบริสุทธิ์และสวยงาม มันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยแท้

คนในทะเลสาบหยกรู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตอมตะไม่มีทางเกิดขึ้นจากมนุษย์ในดินแดนของพวกเขาได้ ดังนั้นทุกคนจึงได้แต่หวังพึ่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในหินก้อนนี้

“สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกจักรพรรดิคนนี้กำลังเล่นกับไฟ หากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้นมา เว้นแต่จักรพรรดินีแห่งตะวันตกจะฟื้นคืนชีพไม่เช่นนั้นทะเลสาบหยกทั้งหมดจะถูกทำลายอย่างย่อยยับ!” สุนัขสีดำตัวใหญ่พูดอย่างเคร่งขรึม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด