บทที่ 33 เทพเจ้าสงครามทองคำกำลังจะตายแล้ว!
บทที่ 33 เทพเจ้าสงครามทองคำกำลังจะตายแล้ว!
“เยี่ยมมากพี่ชาย” นักรบคนหนึ่งนำผ้าสีเทามาคลุมร่างของจ้าวซือเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เขาดึงดูดความสนใจของหน่วยลาดตระเวนของประเทศอาร์
จ้าวซือกระแอมสองครั้งและถอนหายใจ จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของชุดเกราะทองคำและดาบตรามังกรทองคำก็คือการที่พวกมันมองเห็นได้ชัดเจนเกินไป
“พวกมันมาแล้ว พลระเบิดมือเตรียมพร้อม!”
เมื่อเห็นกองทหารของหน่วยลาดตระเวนของประเทศอาร์เข้าสู่แนวรบที่พวกเขาตั้งขึ้นไว้นานแล้ว หลี่หยุนหลงได้ออกคำสั่งและพลระเบิดมือที่เขาได้เตรียมไว้นานแล้วก็พุ่งตัวไปข้างหน้าและขว้างระเบิดมือออกมา
ตูม! ตูม!
เสียงระเบิดดังกึกก้องในหูของทุกคน และด้วยควันที่พวยพุ่งออกมาก็ได้เปลี่ยนสถานที่ที่เงียบสงบในตอนแรกให้กลายเป็นสนามรบอย่างรวดเร็ว
“ทีมแนวหน้าประจำตำแหน่ง!” จ้าวซือฉวยโอกาสนี้และกวัดแกว่งดาบตรามังกรทองคำที่อยู่ในมือขณะที่เขากระโดดลงจากเนินเขา
ทหารที่อยู่โดยรอบพากันตกตะลึง "ช่างเร็วเสียนี่กระไร!"
พวกเขาเห็นจ้าวซือพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วเกือบร้อยเมตร และถนนบนภูเขาที่ขรุขระอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาดูเหมือนจะไม่ทำให้เขาสะทกสะท้านได้เลย
“แบบนี้เขาจะไม่เหนื่อยเหรอ?”
“คนที่มาจากโลกอื่น เขาเคยอยู่ในสนามรบมาก่อนหรือเปล่านะ?”
“ข้าไม่สนแล้ว ตามพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพไปเถอะและเข้าประจัญบาน!”
เมื่อเห็นว่าจ้าวซือดูองอาจมาก ทหารที่อยู่โดยรอบก็มีกำลังใจและติดตามเขาไปอย่างใกล้ชิด
ในขณะนี้ กองทหารของหน่วยลาดตระเวนของประเทศอาร์ได้ทำการตอบโต้ในระรอกแรกซึ่งรุนแรงที่สุดเช่นกัน
วัตถุระเบิด ปืนกล และกระสุนทั้งหมดต่างก็ถูกเล็งมาที่จ้าวซือซึ่งเป็นผู้นำแนวหน้าและทหารที่อยู่ด้านหลังของเขา
นี่คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดของปฏิบัติการทั้งหมด!
"นั่นมันอะไรกัน?"
“มันเป็นพวกทหารที่อยากตาย!”
"ไปลงนรกซะ!"
เมื่อกองทหารของหน่วยลาดตระเวนของประเทศอาร์เห็นการปลอมตัวของจ้าวซือพวกเขาก็รู้สึกตื่นตระหนกและแสดงสีหน้าที่โหดเหี้ยมและคิดว่ายังไงเสียจ้าวซือก็จะต้องตายอย่างแน่นอน
กระสุนพุ่งมาจากทุกทิศทาง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เล็งเป้าไปที่จ้าวซือทั้งหมดแต่ก็ถือว่าส่วนใหญ่นั้นเล็งมาทางเขา ถึงแม้ว่าอยากจะเล็งเป้ามาที่จ้าวซือจริงๆ ก็ทำได้ยากเพราะว่าจ้าวซือนั้นได้พุ่งเข้าใส่พวกเขาด้วยความเร็วสูง
ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้จ้าวซือหลับตาลง
ทหารคนหนึ่งจากอีกด้านสังเกตเห็นว่าจ้าวซือหลับตาลงและยิ่งแน่ใจมากขึ้นในสิ่งที่เขาคิด ว่าทหารจีนในชุดเกราะที่งดงามนั้นคือทีมที่จะสละชีวิตเพื่อดึงดูดแรงปะทะในระรอกแรก
“ไอ้ขี้ขลาด!” ที่เขาพูดเช่นนั้นก็เพราะว่าเขาเห็นว่าจ้าวซือหลับตาและคิดว่าเขาคงจะกลัวความตาย
วิชามโนภาพ - เปิดใช้งานแล้ว!
แต่ทว่าการกระทำของจ้าวซือนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขาขี้ขลาด แต่เพื่อที่จะเปิดใช้งานวิชามโนภาพต่างหาก
ทันใดนั้น โลกเบื้องหน้าเขาก็ตกอยู่ในความมืด แต่ทว่าในความมืดนั้นเขาสามารถที่จะมองเห็นโครงร่างของทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน แม้แต่ลูกกระสุนและวัตถุระเบิดก็ดูเหมือนจะลดความเร็วในการโจมตีลง!
ดาบเปลวเพลิงตะวันตก! ดาบนิรเนตร - เพลงดาบหยกล้ำค่า - เพลงดาบร้อยดอกท้อ!
ในตอนนี้ลมปราณภูติอุดรของจ้าวซือกำลังไหลเวียนอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นกำลังภายในของดาบเปลงเพลิงตะวันตกที่บริสุทธิ์ถ่ายเทลงไปในดาบตรามังกรทองคำที่อยู่ในมือของเขา หลังจากนั้น เขาได้ปลดปล่อยเพลงดาบนิรเนตรออกมา
เพลงดาบหยกล้ำค่า - เพลงดาบร้อยดอกท้อ แม้ว่าจะเป็นเพลงดาบ แต่แก่นแท้ของมันก็คือการขับเคลื่อนวิชามโนภาพไปให้ถึงจุดสุดยอด ให้สามารถรับการเคลื่อนไหวของทุกสิ่งในบริเวณโดยรอบ และใช้อาวุธในมือของเขาเพื่อโจมตีมัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งแม้ว่าเขาจะใช้ดาบตรามังกรทองคำแต่โดยพื้นฐานแล้วมันก็จะไม่ส่งผลต่อพลังของเคล็ดวิชานี้
ตูม! ฟิ้ววว! ฟิ้วววว!
ดาบดาบตรามังกรทองคำในมือของจ้าวซือดูราวกับดวงจันทร์ที่กำลังลุกโชน เต้นระบำอยู่ในอากาศ กระสุนและระเบิดทั้งหมดถูกบล๊อคเอาไว้และระเบิดในอากาศ
ความสามารถพิเศษ - ผ้าเหล็กสีทอง!
ถึงจะฟังดูซับซ้อน แต่เมื่อจ้าวซือวาดดาบตรามังกรทองคำที่อยู่ในมือเขาก็ได้เปิดใช้งานทักษะพิเศษบนชุดยูนิฟอร์มของเขา เพราะถึงแม้ว่าดาบตรามังกรทองคำจะสามารถบล๊อคระเบิดไม่ให้มาถึงตัวเขาได้แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดการระเบิดได้!
ตูม ตูม!
เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เปลวไฟที่เกิดจากการระเบิดได้กลืนร่างของจ้าวซือไปจนหมด
“สหายพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพ!” ทหารที่อยู่ด้านหลังของจ้าวซือถึงกับตกตะลึง สิ่งที่จ้าวซือทำนั้นเทียบเท่ากับการสร้างกำแพงเนื้อขึ้นมาซึ่งทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นพื้นที่รับระเบิดเพื่อปกป้องพวกเขาที่อยู่ด้านหลัง
“พวกเราจะจดจำเจ้าตลอดไป!” ทหารคนหนึ่งละล่ำละลัก
ในตอนนี้เองหลี่หยุนหลงก็รีบเข้ามา “อย่ามัวเสียเวลากับการเสียสละของสหายพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพอยู่เลย รีบฉวยโอกาสนี้ บุกตะลุยเข้าไปเลย!”
“แก้แค้นให้สหายพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพ!” เหล่าทหารตะโกนสุดเสียง
หลังจากที่พูดเช่นนั้น หลี่หยุนหลงและคนอื่นๆ ก็ข้ามเขตระเบิดของจ้าวซือเข้ามา และพุ่งเข้าหากองกำลังทหารของหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์จากทางด้านข้าง
“ช้าก่อน ดูเหมือนเขาจะยังไม่ตายนะ!”
ทหารเหล่านั้นสามารถเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าในกลุ่มควันไฟที่เกือบจะทำให้พวกเขามองไม่เห็นนั้น ยังคงมีร่างๆ หนึ่งที่โบกอาวุธไปข้างหน้า การระเบิดของเปลวเพลิงที่เกือบจะกลืนเขาเข้าไป แต่มันไม่ได้ทำให้เขาถึงกับเสียชีวิต!
“แน่นอนสิ ข้ายังไม่ตาย!”
จ้าวซือรีบวิ่งออกมาจากกลุ่มควันโดยฉวยโอกาสที่พลังการยิงของหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์ที่อ่อนแอลง ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้ด้ามของดาบตรามังกรทองคำกระทุ้งระเบิดกลับไปยังค่ายของหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์ซึ่งทำให้ศัตรูเกิดเสียสมดุล
เมื่อกองกำลังหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์เห็นว่าจ้าวซือยังคงปลอดภัยดีอยู่และยังโยนระเบิดกลับมาทางพวกเขา พวกเขาทั้งหมดก็ตกใจ แม้แต่พลปืนกลก็ยังลืมยิงเพราะไม่ว่าเขาจะระดมยิงมาสักเท่าไร เขาก็ไม่อาจที่จะทำอันตรายจ้าวซือได้เลย!
“พี่น้องเรา ฆ่ามันเลย!” ไพร่พลของหลี่หยุนหลงฉวยโอกาสนี้ในการเข้าปิดล้อมหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์ และเปิดดาบปลายปืนของพวกเขาออกเพื่อสังหารหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์
เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะสังหารศัตรูอย่างดุเดือด จ้าวซือก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะเคลื่อนไหว ในฐานะที่เป็นคนจีนเช่นกัน แล้วมีกองกำลังของหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์ที่บุกรุกดินแดนอยู่ตรงหน้าเขานี้ จะให้เขานิ่งเฉยและไม่ทำอะไรเลยได้อย่างไร?
“ฝั่งตะวันตก บุกเลย!” แม้ว่าทหารหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์จะกลัวมากจนมือที่จับดาบปลายปืนจะสั่น แต่พวกเขาก็ยังเลือกที่จะเข้าต่อสู้กับจ้าวซือ
จ้าวซือถูร่างกายของเขาและทำให้เสียงโลหะกระทบกัน ศรีษะของคนประเทศอาร์ก็ตกลงไปที่พื้นและกลิ้งไปสองรอบ
นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวซือได้ฆ่าคนในอนันตภพ แต่ใจของเขานั้นกลับสงบอย่างผิดปกติ เขารู้ว่าถึงแม้ว่าในครั้งนี้เขาจะยังไม่ได้ฆ่าใคร แต่วันนั้นก็ต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็ว สู้เผชิญหน้ากับมันซะก็น่าจะดีกว่า
“สหายพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพคนนี้ ช่างเป็นแม่ทัพที่โหดเหี้ยมจริงๆ แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นคนจากอีกโลกหนึ่ง เขาคงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้นาน ไม่เช่นนั้นหากเขาสามารถอยู่เคียงข้างข้าได้ล่ะก็ ศัตรูทั้งหมดของพวกเราก็คงจะเป็นเพียงแค่เสือที่เป็นภาพวาดอยู่บนกระดาษเท่านั้นเอง! ช่างเหมาะสมกับตำแหน่งผู้บัญชาการ แล้วถ้าพวกเราจะมอบตำแหน่งนี้ให้กับเขาล่ะ!”
เมื่อเห็นความแข็งแกร่งและทักษะการต่อสู้ของจ้าวซือแล้ว หลี่หยุนหลง ชายผิวเข้มผู้นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดเพ้อฝันอยู่ในใจ
ทหารคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกเคารพจ้าวซือ บางคนถึงกับคิดว่าถ้าหากจ้าวซือเป็นฝ่ายศัตรู จะเกิดเรื่องน่ากลัวขนาดไหน?
แต่ข้อสงสัยเหล่านั้นก็ได้อันตรธานหายไปจนหมดแล้ว!
ด้วยเวลาอันรวดเร็ว ในตอนนี้กองทหารของหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์เหลือเพียงแค่สมาชิกหลักซึ่งเป็นนายทหารระดับสูง ได้แค่แม่ทัพสูงสูดและแม่ทัพใหญ่อีก 6 นายเท่านั้น
เมื่อได้เห็นผลของการต่อสู้ครั้งนี้ หลี่หยุนหลงก็หัวเราะเสียงดัง เรียกได้ว่านี่คือปลาตัวใหญ่ที่เขาจับได้ในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน แววตาของเขาก็แสดงความขอบคุณต่อจ้าวซือ
ในการต่อสู้ครั้งนี้ ลูกน้องของเขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแต่ไม่มีใครเสียชีวิต นอกจากนี้ด้วยความเร็วที่เกินความคาดหมาย พวกเขายังสามารถเอาชนะกองทหารของหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์ได้ ซึ่งหากปราศจากจ้าวซือแล้วทั้งหมดนี้ก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
หลังจากที่หลี่หยุนหลงและคนอื่นๆ ได้กวาดล้างกองทหารของหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์ลงแล้ว พวกเขาได้ส่งล่ามภาษาจีนกลางออกมาและกล่าวกับพวกเขาทันทีว่าพวกเขาคนประเทศอาร์มีจิตวิญญาณของนักรบและหวังว่าพวกเขาจะได้มีการประลองในนาทีสุดท้ายพวกเขาจะได้ตายอย่างมีเกียรติ และพวกเขาจะบังคับให้หลี่หยุนหลงยอมรับคำท้านี้ด้วย
หลี่หยุนหลงไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งและตกลงที่จะรับคำท้า นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่าหากพวกเขาบดขยี้กองกำลังกองทหารของหน่วยลาดตระเวนประเทศอาร์เหล่านี้จนตายได้ครั้งเดียว มันก็คงไม่น่ายินดีสำหรับพวกเขานักที่จะชนะเช่นนี้!
ใจของจ้าวซือไหวระริกเล็กน้อย สถานการณ์กำลังพัฒนาไปสู่โครงเรื่องเดิม