ตอนที่แล้วบทที่ 31 ไอ้ขยะจ้าวซืองั้นเหรอ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33 เทพเจ้าสงครามทองคำกำลังจะตายแล้ว!

บทที่ 32 เขานำพาสต้าไปส่งให้หลี่หยุนหลง!


บทที่ 32 เขานำพาสต้าไปส่งให้หลี่หยุนหลง!

“ช่างเป็นคนบ้าอะไรแบบนี้! นี่เขาคิดว่ากำลังเล่นขายของอยู่งั้นเหรอ?”

“ก็แค่เพ้อฝันล่ะน่าจางเมิ่ง เขาพูดยังกับว่าเขาจะทำได้ยังงั้นแหละ!”

ยิ่งจ้าวซืออดเปรี้ยวไว้กินหวานมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้พวกของหลิวฉินหยางก็ยิ่งได้ใจมากยิ่งขึ้น

“คอยรับคำสั่งงั้นเหรอ?” หลิวฉินหยางตะลึงงันไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเข้าใจความหมายที่จ้าวซือพูดถึง เขารู้สึกว่าเขาแสนจะอับอายแต่ในวินาที่ต่อมาเมื่อคิดได้ว่าจ้าวซือไม่มีทางที่จะก้าวขึ้นมาสู่สิบอันดับแรกของมหาวิทยาลัยได้อย่างแน่นอน!

“ยังจะต้องลังเลอะไรอีกล่ะ? หลิวฉินหยาง รับปากเขาไปเลยสิ!”

“เจ้าเด็กนั่นไม่มีทางทำได้หรอก ถ้างั้นฉันก็จะยอมสระผมแบบกลับหัวให้ดูก็แล้วกัน!”

“ฮ่าๆๆ ถ้างั้นฉันก็จะกินก๋วยเตี๋ยวกลับหัวให้ดูเหมือนกัน!”

บรรดานักศึกษาที่เข้าข้างหลิวฉินหยางต่างก็แสดงความคิดเห็นออกมาทีละคนๆ

หลิวฉินหยางจึงไม่ลังเลใจอีกต่อไปและรีบรับปากทันที เมื่อเป็นเช่นนั้นพายุลูกนี้จึงสงบลงได้

“วันนี้ฉันจะกลับบ้านไปเตรียมตัว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปฉันจะช่วยพี่เรื่องเรียนเองนะ” หลี่ซินพูดกับจ้าวซือ เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็ไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวของพี่ชายคนนี้เท่าไรนัก

จ้าวซือทำได้เพียงแค่ยิ้ม “ฉันไม่ใช่อัจฉริยะนะ เธอเองก็ไม่ได้ติดในสิบอันดับแรกเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นเธอยังจะกล้ามาเสนอช่วยฉันเรื่องเรียนอีกงั้นเหรอ?”

“ก็เพราะว่านายตกลงรับปากกับพวกนั้นไปแล้วไง!” หลี่ซินพูดอย่างโกรธจัด ราวกับว่าคนที่กำลังจะเสียโอกาสในการเป็นนักศึกษาในที่ปรึกษาของศาสตราจารย์หูก็คือตัวเธอเอง

จ้าวซือไม่ตอบ เขาแค่มองออกไปนอกหน้าต่าง

ตราบใดที่เขาสามารถติดหนึ่งในสิบอันดับแรกในการทดสอบครั้งต่อไปได้ เขาก็จะสามารถทำให้หลิวฉินหยางและคนอื่นๆ หุบปากได้

หลังเลิกเรียน จ้าวซือก็ไปตระเวนส่งของตามออเดอร์เดลิเวอรี่ของเขา เขาไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบอีกเลยตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อน

“บี๊บ! บี๊บ! มีออเดอร์จากโลกแห่งดาบวาดลาย! หลี่หยุนหลง ผู้บัญชาการคนใหม่ของกรมทหารที่ 386 กำลังจะนำกองทหารอิสระเพื่อซุ่มโจมตีหน่วยลาดตระเวนของกองทัพบกประเทศอาร์ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เร่งด่วน แต่ทว่าหลี่หยุนหลงอยู่ในสภาพที่หิวโหยและกระหายน้ำ เขาต้องการการจัดส่งออเดอร์เพื่อเติมเต็มความแข็งแกร่งของเขาอย่างเร่งด่วน!”

ดาบวาดลาย หลี่หยุนหลง!

เมื่อได้ยินดังนั้น แววตาของจ้าวซือก็เป็นประกายขึ้น ละครแนวทหารเรื่องนี้และตัวละครตัวนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของความคลาสสิก ในตอนนี้เขาจะได้เห็นความสง่างามของละครเรื่องนี้ด้วยตาของตัวเองและอาจจะสามารถช่วยหลี่หยุนหลงต่อต้านกองทัพของประเทศอาร์ได้

ยอมรับ!

"บี๊บ! บี๊บ! [พาสต้ามะเขือเทศสับ] ได้ถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติในกล่องส่งอาหารแล้ว!"

" บี๊บ! บี๊บ! อุโมงค์อนันตภพจะเปิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที โฮสต์ โปรดเข้าไป!"

ไม่นานหลังจากนั้นจ้าวซือก็บิดคันเร่งจนสุดและพุ่งตรงเข้าไปในอุโมงค์อนันตภพ หลังจากที่ลอดผ่านมายังสถานที่ที่ไม่รู้จักแล้ว ล้อรถของเขาก็ร่อนลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่จ้าวซือลงจอด เขาพบว่ามีหอกนับสิบอยู่ล้อมรอบตัวและ หอกทั้งหมดนั้นก็เล็งมาที่เขา

“นั่นใครกัน!?” หลี่หยุนหลง ซึ่งสวมชุดเครื่องแบบทหาร เขาสะพายมีดดาบแมเชเทขนาดใหญ่ไว้บนหลังและเลอะเทอะไปด้วยดินโคลน เขาตะคอกด้วยเสียงเบาแต่ก็ไม่อาจจะปกปิดความกลัวในดวงตาของเขาได้

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจ้าวซือที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมาต่อหน้าพวกเขา รวมถึงทหารคนอื่นๆ รอบตัวเขาก็มีท่าทีคล้ายคลึงกัน

เมื่อเห็นหอกจำนวนมาก จ้าวซือก็ยังไม่ตื่นตระหนกแต่เขาก็ไม่คิดที่จะมีความขัดแย้งกับหลี่หยุนหลงเช่นกัน

“สหายทั้งหลาย อย่าได้ตกใจไป! ข้าเป็นคนจีน ข้าเป็นคนจีนเหมือนกัน!” จ้าวซือชูมือขึ้นทั้งสองแขนเพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้มาร้าย

เนื่องจากจ้าวซือรู้ดีว่าหลี่หยุนหลงนั้นเป็นหัวหน้าในการซุ่มโจมตีกองทัพของประเทศอาร์ จ้าวซือจึงลดเสียงลง

“เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่?” หลี่หยุนหลงมองดูจ้าวซืออย่างระมัดระวัง "ไม่เพียงแต่เจ้าจะสวมเสื้อผ้าแปลกๆ เท่านั้นนะแต่ข้าไม่เคยเห็นสิ่งที่เจ้ากำลังขี่อยู่นั่นเลย"

จ้าวซือมองดูชุดยูนิฟอร์มส่งอาหารที่สว่างสดใสและรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า “ข้าก็เป็นคนจีนนี่แหละ และยังเป็นพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพอีกด้วย ข้าเดินทางข้ามอนันตภพมาเพื่อช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือเพียงเท่านั้น สหายหลี่หยุนหลง ท่านหิวไหม ข้านำอาหารมาให้ท่านแล้ว”

“อาหารงั้นรึ?” หลี่ยุนหลงโบกมือและถอนหายใจ “ข้าไม่รู้ว่าจะมีพี่น้องต้องล้มตายกันอีกกี่คนในการต่อสู้ครั้งนี้ นอกจากนี้ข้าก็ยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องดูแล แล้วข้าจะไปมีอารมณ์กินอาหารได้อย่างไรกันเล่า?”

เมื่อจ้าวซือได้ยินดังนั้น ก็ดูเหมือนเขาจะได้ตัดสินใจเอาไว้แล้ว จึงพูดว่า “เอาน่า สหายหลี่หยุนหลง ตราบใดที่ท่านกินสปาเก็ตตี้นี้จนหมด ข้าจะช่วยท่านด้วยกำลังทั้งหมดที่ข้ามีและจะเป็นแนวหน้าให้ท่านด้วย ข้าขอรับประกันชัยชนะเหนือหน่วยลาดตระเวนของประเทศอาร์ให้แก่ท่าน! รวมถึงการบาดเจ็บล้มตายของพี่น้องของพวกเราก็จะลดลงด้วย!”

“จริงหรือ!” ดวงตาของหลี่หยุนหลงเบิกกว้าง เราควรจะตระหนักไว้ด้วยว่าคำพูดของจ้าวซือนั้นมีเสน่ห์เพียงใด

สิ่งที่หลี่หยุนหลงให้ความสำคัญมากที่สุดคือผลของการต่อสู้ อีกอย่างก็คือชีวิตของพี่น้องของเขา!

จ้าวซือกล่าวอย่างหนักแน่น "แน่นอน!"

เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว จ้าวซือก็หยิบพาสต้ามะเขือเทศสับออกมาแล้วยื่นให้กับหลี่หยุนหลงในทันที

หลี่หยุนหลงเปิดกล่องอาหารออกและกลิ่นหอมก็ตลบอบอวลอยู่ในอากาศ เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มลงมือกิน

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ หลี่หยุนหลงถึงกับเรอออกมาและยกนิ้วโป้งให้จ้าวซือ “สปาเก็ตตี้นี้อร่อยมาก เมื่อข้ากลับไป ข้าจะขอให้ผู้บัญชาการกองพันที่สองลองทำดู!”

หลังจากกินพาสต้าแล้ว หลี่หยุนหลงก็กลับเข้าสู่โหมดการต่อสู้ของเขาทันทีและอธิบายสถานการณ์ให้จ้าวซือฟัง

“ผู้บัญชาการ ชายผู้นั้นที่เรียกตัวเองว่าพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพ  ถึงแม้ว่าจะฟังดูลึกลับ แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่มีแรงแม้แต่จะมัดไก่เลยนะแล้วท่านยังจะกล้าให้เขาเป็นแนวหน้าได้จริงๆ งั้นเหรอ?” มีคนหนึ่งยืนขึ้นและถาม

“ใช่ ถ้าเด็กคนนั้นหนีไประหว่างการต่อสู้ พวกเราก็จะลำบากถ้ากระบวนทัพของพวกเราระส่ำระสาย”

“แล้วเขาจะเป็นแนวหน้าคนเดียวได้ยังไงกัน มันไม่น่าจะได้ผลเลย!”

นี่เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง และทหารเหล่านี้ก็ไม่คิดที่จะปกปิดจ้าวซือ

จ้าวซือไม่ได้โกรธ และสิ่งที่พวกเขาสงสัยก็ไม่สมเหตุสมผล

ในทางกลับกัน หลี่หยุนหลงก็มีสัญชาตญาณที่แรงกล้าว่าชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ จะนำมาซึ่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

โดยไม่ต้องรอให้หลี่หยุนหลงออกโรงปกป้อง จ้าวซือกล่าวด้วยความมั่นใจว่า “สหายหลี่หยุนหลงและนักรบทุกท่าน คอยดูเถอะ!”

เมื่อพวกเขาเห็นดังนั้น คนที่ถามจ้าวซือในตอนแรกก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแต่แววตาของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ

ระหว่างรอการมาถึงของหน่วยลาดตระเวนของประเทศอาร์ จ้าวซือก็ยัคงได้ยินว่าทหารบางคนที่เห็นพ้องกันว่าว่าพวกเขาเองก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะเป็นแนวหน้าและไม่ล่าถอยเช่นกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้จ้าวซือไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร เขาเพียงแต่ต้องใช้ความแข็งแกร่งของเขาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

“พวกมันกำลังมาแล้ว พวกมันมาจริงๆ แล้ว!”

ทหารคนหนึ่งพูดอย่างตื่นเต้น

หลี่หยุนหลงเริ่มออกคำสั่ง โดยบอกผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาว่าอย่าหวงกระสุนและระเบิดมือ หน่วยลาดตระเวนของประเทศอาร์เข้ามาใกล้ ให้พวกเขาทำลายหน่วยลาดตระเวนของประเทศอาร์ให้ได้มากกว่าครึ่งในคราวเดียว

“จากนั้น สหายพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่แห่งอนันตภพ ถึงเวลาที่เจ้าจะได้ออกโรงแล้ว! พี่น้องคนอื่นๆ จะติดตามเจ้าไปอย่างใกล้ชิดและร่วมต่อสู้กับเหล่าปิศาจตัวน้อยด้วยดาบของพวกเขา ไม่มีใครที่จะสามารถหลบหนีไปได้!”

จ้าวซือพยักหน้าและนำชุดเกราะนักรบสีทองพร้อมทั้งดาบตรามังกรทองคำออกมาจากกล่องส่งของทัน ภายในชั่วพริบตาเขาได้กลายร่างเป็นเทพเจ้าที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ทำให้ทหารที่โดยรอบๆ ต้องกลั้นหายใจเล็กน้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด