ชีวิตของสาวน้อยในโลกออนไลน์ ตอนที่3: Beta Testers
ตอนที่3: Beta Testers
“ในโลกนี้ สถานที่แห่งนี้ สิ่งมีชีวิตต่างๆที่เจ้าฆ่า และทุกอย่างที่ได้มาซึ่งประสบการณ์ในโลกนี้ล้วนเป็นของจริง” อาดัมพูดต่อ
“ถ้านี่ไม่ใช่เกมแล้วทำไมฉันถึงเกิดใหม่ทุกครั้งที่ตายในช่วง3ปีที่ผ่านมาล่ะ?” อเล็กประหลาดใจ
อาดัมสร้างต้นไม้จิ๋วขึ้นมาบนโต๊ะ มันลอยอยู่ เหมือนกับภาพโฮโลแกรม
“เหตุผลที่เจ้าสามารถคืนชีพได้ในช่วง3ปีนั้นเป็นเพราะร่างที่เจ้าใช้ในโลกนี้ไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของเจ้า ร่างที่เจ้าอยู่เป็นเพียงภาชนะที่รองรับวิญญาณของเจ้า เมื่อภาชนะถูกทำลาย อิกดราซิลจะสร้างภาชนะใหม่ขึ้นมาเพื่อเคลื่อนย้ายวิญญาณ”
อาดัมหยุดพูดไปสักพักหนึ่ง เขามองไปที่ต้นไม้จิ๋วข้างหน้าก่อนจะเริ่มเล่าต่อ
“ถ้าหากสิ่งมีชีวิตนั้นเกิดมาจากผลของอิกดราซิล” ทันใดนั้น ที่ต้นไม้จิ๋วได้มีผลไม้ตกลงมา จากนั้นก็ได้กลายเป็นนกตัวเล็กๆ
“ร่างภาชนะของเจ้าก็เกิดมาจากใบของอิกดราซิล” อาดัมมองใบไม้ที่ค่อยๆร่วงลงมา
“หลังจากที่ร่างภาชนะถูกทำลาย ใบไม้จะร่วงหล่นแล้วค่อยๆเหี่ยวเฉาลง” ใบไม้ที่หล่นลงมาเริ่มเหี่ยวเฉา อาดัมสะบัดมือของเขาให้ภาพมายาตรงหน้าหายไป
แต่ถึงอย่างนั้น อเล็กซานเดรียก็ยังคงไม่เชื่อใจอาดัมสักเท่าไหร่แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีก
“ถ้าสิ่งที่คุณพูดเป็นความจริงทำไมคุณถึงไม่ไปเข้าร่วมกับซาตาน แต่มาล่อลวงให้ฉันกบฏต่อพระเจ้าเนี่ยนะ”
“อะไรนะ?! เจ้ากล้าพูดเยี่ยงนี้ต่อหน้าข้า เด็กหนุ่มผู้งดงามและเป็นมิตรเช่นนี้หรือ? หน้าตาที่น่ารังเกียจของปีศาจไม่สามารถมาเทียบเคียงกับข้าผู้งดงามได้หรอกเจ้าเด็กน้อย” อาดัมอุทานแล้วกระแทกแก้วชาลงบนโต๊ะ
“เอ่อ…ก็…” อเล็กซานเดรียเริ่มอายนิดๆ เธอรู้สึกผิดที่พูดออกไป
“ฉันยอมรับ คุณหล่อจริงๆนั้นแหละ แต่เรื่องราวที่พูดถึงอาดัมกับเอวาบนโลกของฉันบอกว่าอาดัมกับเอวาถูกปีศาจล่อลวง เป็นเหตุผลที่ทำไมกึ่งเทพถึงลงโทษพวกเขา ถ้าหากคุณล่อลวงฉันให้ไปสู้กับพระเจ้าล่ะ?”
“เรื่องราวพวกนั้นถูกเปลี่ยนแปลงมานับครั้งไม่ถ้วนจากรุ่นสู่รุ่น ความจริงคือเอวาไปเจอความจริงที่กึ่งเทพหลอกลวงพวกข้าจากมังกรที่เธอไปปราบมา มังกรตัวนั้นแลกเปลี่ยนการบอกสถานการณ์ของพวกข้าเพื่อขอให้เธอไว้ชีวิตมัน ในตอนแรกเอวาไม่เชื่อในคำบอกเล่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอถึงทิ้งจดหมายไว้ให้ข้าแล้วพาข้าไปยืนยันถึงสิ่งที่เธอค้นพบจากกึ่งเทพ” อาดัมแก้ตัว
“อีกอย่าง ทั้งซาตานหรือปีศาจ สิ่งที่เจ้าพูดถึงนั้นก็คือกึ่งเทพที่เป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ กึ่งเทพจะไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกันยกเว้นแต่พวกมันต้องการที่จะหลีกหนีการก่อความกลหน” อาดัมตอบ เขารินชาเพิ่มเมื่อเห็นแก้วที่ว่างเปล่า
อาดัมเหมือนจะใจเย็นขึ้นเล็กน้อย อเล็กซานเดรียจึงถามคำถามต่อไป
“แล้วกึ่งเทพของเหล่ามนุษย์มีชื่อว่าอะไรหรอ”
“พวกข้าไม่มีใครรู้ มันไม่เคยบอกว่าควรเรียกมันว่าอะไร ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของพวกมัน ดังนั้นเอวากับข้าจึงตัดสินใจเรียกมันว่าไลท์ เพราะทุกครั้งที่เจอ พวกข้าเห็นแต่แสงรูปทรงมนุษย์ที่สว่างจนดวงตาแทบบอด”
“แบบนี้ ถ้าซาตานมาจากอีกโลกหนึ่ง หมายความว่ามันไม่มีสิ่งที่เรียกว่านรก และผู้คนที่ตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ใช่ไหม?” อเล็กซานเดรียถามอีกประโยค
“เจ้าก็รู้ สำหรับคนที่ไปถึงจุดจบและไม่เชื่อในเรื่องพวกนี้ง่ายๆ เจ้าถามเยอะจริง” อาดัมอุทาน
เธอรู้สึกอายกับคำพูดของอาดัม อเล็กซานเดรียมองไปรอบๆแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“อย่างไรก็ตาม นรกและสวรรค์ไม่ใช่สถานที่แรกที่มีอยู่” อาดัมเล่าต่อ
“อะไรนะ!? แล้วผู้คนไปที่ไหนหลังจากพวกเขาตาย?” อเล็กซานเดรียถามต่อ เธอค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่อาดัมเล่า
“ลองคิดแบบนี้ ถ้าข้ากับเอวาเป็นตัวทดลองในระบบalpha test จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากalpha test กลายเป็นclose beta และในระหว่างช่วงเวลาclose beta สิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่สูญเสียตัวตนในโลกของพวกเขา จะได้รับโอกาสที่สองในการแลกเปลี่ยนผลไม้ที่ถือครองวิญญาณของพวกเขาเพื่อสร้างร่างกายใหม่ในโลกของอิกดราซิล พวกนั้นจะได้รับมอบหมายให้ปกป้องอิกดราซิล แต่หากพวกเขาตายอีกครั้ง วิญญาณจะหายไปตลอดกาล เนื่องจากร่างภาชนะนั้นเป็นผลจากต้นอิกดราซิลและแต่ละผลมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ไม่เหมือนกับใบไม้ที่มีแทบไม่จำกัด”
ถึงแม้ว่าเธอจะเหนื่อยกับสิ่งที่ได้ฟัง อเล็กซานเดรียก็ยังคงถามต่อ “แล้วทำไมไลท์ถึงฆ่ามนุษย์อย่างน้อย60% จากทั้งหมดในปีที่ผ่านมา”
“Closed beta ใช้เวลาเกือบสองพันปีตั้งแต่alpha testจบลง มนุษย์มากมายได้ตายลงในช่วงสองพันปีของการclose beta พวกเขาตายจากสงคราม โรคระบาด และปรากฏการณ์ธรรมชาติ มนุษย์ไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเพราะมันเกิดจากสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้น หรือเจอสาเหตุการเกิดภัยพิบัติแล้วหาทางแก้ไขมัน แต่ในปี2022นั้นเป็นปีสุดท้ายที่การclose betaจะจบลง ไลท์จึงสร้างสถานการณ์ให้พระเจ้ามาพิพากษามนุษย์ มนุษย์จะได้เต็มใจเข้าไปในแคปซูลและโฟกัสกับเวทีที่เรียกว่า open beta” อาดัมอธิบาย
อาดัมอธิบายเพิ่ม “ถ้าหากข้ากับเอวาคือตัวทดลองalpha test มนุษย์ที่ตายไปก็คือตัวทดลองระบบclose beta ทำให้เจ้ากับคนอื่นๆที่ใช้แคปซูลโลกเสมือนจริงเป็นตัวทดลองของระบบopen beta”
“คุณมีน้ำไหม?” อเล็กซานเดรียตะลึง เธอร้องขอน้ำจากอาดัมเผื่อจะทำให้เธอใจสงบขึ้น
อาดัมตบมือ เสกแก้วน้ำขึ้นมาข้างหน้าก่อนจะยื่นให้อเล็กซานเดรีย “อ่ะ สักหน่อยสิ”
“ขอบคุณค่ะ” อเล็กซานเดรียตอบกลับความใจดีที่เขามีให้เธอ
“ไม่มีปัญหา เจ้าคงต้องการเวลาพักสักหน่อย ต้องต่อสู้อย่างหนักหน่วงเพียงลำพังมาตลอดสามปี ใช้เวลากับตัวเอง เจ้าสมควรได้รับมัน” อาดัมพูด เขามองเห็นความเหนื่อยล้าในดวงตาของเธอ อาดัมไม่สามารถปกปิดเรื่องราวเหล่านี้ได้ เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญที่เธอควรรับรู้ไว้
เกิดความเงียบปกคลุมทั่วห้อง อเล็กซานเดรียกำลังรวบรวมความคิดของเธอ
“ถ้าหากการต่อสู้ในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาเป็นเพียงบททดสอบ นั่นหมายถึงฉันจะได้เจอการท้าทายเจ๋งๆและคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคตสินะ?” อเล็กซานเดรียถาม
“ใช่แล้ว แต่ในเวลานี้เจ้าจะไม่อยู่คนเดียวอีกต่อไป อาจจะมีคนที่ต่อต้านเจ้า แต่เจ้าจะมีคู่หูที่พร้อมสู้ไปกับเจ้า” อาดัมตอบ เขาตกใจกับสิ่งที่เห็นในดวงตาของเธอ เหมือนกับมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ภายใน อเล็กซานเดรียรู้สึกตื่นเต้นเมื่อนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
อาดัมคิดในใจ “นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเธอถึงมีชีวิตรอดมาจนถึงสุดท้ายได้ ข้ารู้สึกสงสัยที่ในตอนแรกเธอดูโง่เง่า ถามหลายคำถามเหลือเกิน และไม่รู้อะไรเลย แต่เด็กคนนี้คือมอนสเตอร์ มอนสเตอร์ที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อและมีสัญชาตญาณของผู้หญิงฉลาดที่สุดยอด”
“มีคำกล่าวที่ว่า ผู้หญิงฉลาดถามในขณะที่คนโง่เมินเฉย” อาดัมพึมพำ
“คุณพูดอะไรน่ะ?” อเล็กซานเดรียได้ยินที่อาดัมพึมพำ
“ไม่มีอะไร ข้าขอเล่าเกี่ยวกับจดหมายฉบับที่สองต่อแล้วกัน เจ้าจำเป็นต้องฟังถึงสิ่งที่เอวาต้องการบอกแก่เจ้า” อาดัมพูด
“เวลาของเราใกล้หมดลงแล้ว เราต้องรีบแล้วละนะ” มองเวลาที่เหลืออยู่เพียงสามนาที อาดัมเตือนอเล็กซานเดรีย
“โอเค” อเล็กซานเดรียตอบ เธอหยุดถาม เข้าใจถึงความเลวร้ายของสถานการณ์