ตอนที่แล้วชีวิตของสาวน้อยในโลกออนไลน์ ตอนที่3: Beta Testers
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปชีวิตของสาวน้อยในโลกออนไลน์ ตอนที่5: คาถายับยั้งความทรงจำ

ชีวิตของสาวน้อยในโลกออนไลน์ ตอนที่4: Little Guardian


ตอนที่4: Little Guardian

“ถึงผู้พิทักษ์ตัวน้อย” อาดัมเริ่มบรรยายจดหมายของเอวาฉบับที่สอง

อเล็กซานเดรียฟังเนื้อหาในจดหมายอย่างกระตือรือร้น

ยิ่งเธอฟังข้อความของเอวามากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเข้าใจถึงความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในอนาคตของเธอมากเท่านั้น

อาดัมพูดต่ออยู่เกือบสองนาที เหลือเวลาอีกเพียง 1 นาทีเกมจะถึงจุดจบ

“นี่คือทั้งหมดที่เอวาอยากให้เจ้าได้ฟัง เจ้ามีคำถามอะไรอีกไหม?” อาดัมเอ่ยหลังจากจบการบรรยายข้อความของเอวา

อาดัมลุกจากเก้าอี้ เหมือนกับเขากำลังเตรียมส่งอเล็กซานเดรีย

“ข้าลืมบอก ข้าจะลบความทรงจำที่เราพบกันจนกว่าเจ้าจะออกจากเกมนี้และออกจากแคปซูลโลกเสมือน ดังนั้นเจ้าจะลืมเกี่ยวกับสิ่งที่เราคุยกันทุกอย่าง เพราะฉะนั้นคำถามต่างๆที่เจ้าถามข้าทั้งหมดนั้นช่างไร้ประโยชน์” อาดัมหัวเราะ แล้วมองอเล็กซานเดรียเหมือนกับจะเยาะเย้ยเธอที่ถามคำถามมากมาย แล้วรู้ว่าเธอจะจำอะไรไม่ได้เลย

“อะไรนะ!?” เธองงกับสิ่งที่อาดัมพูด อเล็กซานเดรียลุกขึ้นจากเก้าของเธอแล้วจับดาบคาตานะ อยากจะฟันหน้าตาเยาะเย้ยของอาดัมที่ไม่บอกเธอให้เร็วกว่านี้

แต่เธอก็เข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเราอยู่ข้างใน กับเวลาที่แทบจะเหลือไม่ถึงนาที อเล็กซานเดรียเลือกที่จะไม่ฟันเข้าที่ใบหน้าอันน่าหมั่นไส้ของอาดัมแล้วถามเขาแทน “ทำไมถึงต้องลบความทรงจำของฉัน? ถ้าหากฉันต้องการข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่เราพูดถึงเพื่อจะได้มีโอกาสเป็นพระเจ้ามากขึ้นล่ะ”

“ในระยะเริ่มต้น ข้อมูลพวกนี้ยังไม่จำเป็นสำหรับเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าจะจำมันได้เองในเวลาที่เหมาะสมเพราะข้อมูลพวกนี้จะส่งผลกระทบในแง่ลบกับเจ้าแทนที่จะส่งผลในแง่บวก ลองนึกดูสิ หากเจ้ารับรู้อยู่ตลอดว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเจ้าออกไปจากโลกนี้ เจ้าจะไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้ ทุกๆวันเจ้าจะกดดันตัวเองเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น เจ้าก็รู้ บางครั้งสัญชาตญาณของมอนสเตอร์นั้นปรับมาจากพื้นฐานของสถานการณ์ปัจจุบัน มันจะดีกว่าหากหลงเหลือเพียงเศษเสี้ยวข้อมูลที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเจ้า ว่าจะเกิดอะไรให้ในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา” อาดัมตอบ เขายกย่องสัญชาตญาณของอเล็กซานเดรีย

“แต่ไม่ต้องห่วง เจ้าอาจจะจำสิ่งที่เราคุยกันไม่ได้ แต่ข้าจะทิ้งของขวัญจากลาไว้ให้”

“ของขวัญอะไร?” อเล็กซานเดรียถามเกี่ยวกับของขวัญที่อาดัมเตรียมไว้ให้ เธอนึกถึงชุดเกราะอันทรงพลัง หรือความสามารถอันไร้เทียมทาน หรือแม้กระทั่งอสูรร่วมทางที่เธอจะขอกับเขา

“ไม่ใช่ชุดเกราะที่ทรงพลังหรือความสามารถที่ไร้เทียมทาน” อาดัมพูดขัดขณะอ่านความคิดของเธอ เขาแบมือออก เปลวไฟสีขาวลุกโชนอยู่บนฝ่ามือของเขา “ของขวัญของข้าไม่ได้เป็นสิ่งพิเศษอะไร แต่ต้องส่งมอบให้ถูกคนเท่านั้นถึงจะแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาได้ เพลิงธวัลเหล่านี้จะช่วยเพิ่มสัญชาตญาณของมนุษย์” อาดัมเอ่ย เขายกมือขึ้นและค่อยๆผลักเปลวไฟเข้าสู่หน้าอกของอเล็กซานเดรีย ตรงสู่หัวใจของเธอ อาดัมหยุดมือก่อนที่จะถึงหน้าอกของเธอในระยะหนึ่งนิ้ว เขาใช้เวทย์มนต์เคลือบดวงตาของตัวเองแล้วมองไปยังภายในตัวของอเล็กซานเดรีย มองไปยังที่ตั้งหัวใจของเธอ

หัวใจของอเล็กซานเดรียตอนนี้ ดูเหมือนกับมีเปลวเพลิงสีขาวลุกไหม้และล้อมรอบไปด้วยแสงออร่า

“มันดูดีมาก” มองไปยังเปลวเพลิงและหัวใจของเธอที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

อเล็กซานเดรียมองผ่านอาดัมไป เธอกำลังเขิน ใบหน้าของเธอขึ้นสีเหมือนกับมะเขือเทศเมื่อเจอการกระทำที่คาดไม่ถึง เธอสับสน

“การเพิ่มสัญชาตญาณของตัวเองจะช่วยฉันในอนาคตได้ยังไง?” อเล็กซานเดรียถาม แสร้งทำเป็นนิ่งเฉยให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

“ของขวัญชิ้นนี้สามารถช่วยเจ้าได้ในหลายๆทาง อย่างแรก สัญชาตญาณของเจ้าจะไม่ลืมได้ง่ายไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม อย่างที่สอง เจ้าอาจจะไม่รู้ แต่สัญชาตญาณของเจ้าจะบอกให้เจ้าไปต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่เสมอ เผชิญหน้ากับการท้าทายที่ทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น และปรารถนาที่จะค้นพบสิ่งใหม่ๆ อย่างสุดท้าย ยิ่งสัญชาตญาณของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ เจ้าก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น”

“กับสัญชาตญาณนี้ของเจ้า มันจะช่วยให้เจ้าก้าวไปข้างหน้าเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่เฝ้ารอเวลาเพื่อให้ประตูมิติเปิดขึ้นในทุกโลก และเชื่อมโยงโลกของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจากอิกดราซิลทั้งหมดสู่โลกของพาราเบลลัม”

หลังจากอธิบายเสร็จ อาดัมมองไปข้างบนอีกรอบ เวลาเหลืออีกเพียง20วินาทีเท่านั้น

“ข้าคาดว่านี่คงต้องเป็นเวลาแห่งการบอกลาแล้ว ผู้พิทักษ์ตัวน้อย” อาดัมกางแขนออก เปิดประตูมิติให้อเล็กซานเดรียออกจากโลกใบนี้

“ฉันไม่ใช่เด็กน้อย!” อเล็กซานเดรียอุทาน

“ฮ่าๆๆ แล้วค่อยมาพูดกับข้าเมื่อเจ้าแข็งแกร่งขึ้น” อาดัมหัวเราะเมื่อเขาเห็นว่าอเล็กซานเดรียน่ารักแค่ไหน

“ฮึ่มมม คุณจะได้เห็นแน่นอน จะดีกว่าถ้าคุณไม่มาให้ฉันเห็นหน้าอีกในอนาคต หรือฉันจะมาฟันเข้าที่หน้าของคุณ ตาแก่” อเล็กซานเดรียตอบ เธอรีบวิ่งไปยังประตูมิติ “ลาก่อนนะ ตาแก่” อเล็กซานเดรียหันมาบอกลาแล้วโบกมือให้

“เจ้าคงแข็งแกร่งกว่าข้าเมื่อเราเจอกันในครั้งต่อไป ไม่งั้นข้าจะเป็นคนไล่ฟันเจ้าเอง” อาดัมพึมพำ มองไปข้างหน้าแล้วกลายเป็นเงาหายไป

อเล็กซานเดรียได้ออกไปจากโลกแล้ว และด้านข้างของอาดัมนั้น ได้ปรากฏหญิงสาวคนหนึ่งขึ้น เมื่อมองดูแล้วคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นเอวา

“พวกเราไม่ได้ให้ภาระที่ยิ่งใหญ่กับเด็กอายุ16มากเกินไปหน่อยหรือ เอวา?” อาดัมถามเอวาที่อยู่ข้างๆ

“มันไม่มีทางเลือกแล้ว อเล็กซานเดรียเป็นผู้พิทักษ์เพียงคนเดียวที่ยืนหยัดอยู่จนวินาทีสุดท้าย หากมีผู้อื่นที่แข็งแกร่งพอจะอยู่รอดจนถึงจุดสิ้นสุด เราคงไม่ต้องยัดเยียดภาระอันยิ่งใหญ่ให้กับเด็ก” เอวาตอบอย่างเคร่งขรึม เธอเอื้อมมือไปกุมมือของอาดัม

“มนุษย์ผู้อ่อนแอเหล่านั้นชนะเกมนี้ ไม่จำเป็นสำหรับพลังอันยิ่งใหญ่นี้ด้วยซ้ำไป ความอุตสาหะคือสิ่งสำคัญของพวกเขา เพราะยิ่งอดทนนานเท่าไหร่ในนาทีสุดท้าย ค่าประสบการณ์ที่ได้จากการกำจัดมอนสเตอร์ยิ่งทวีคูณเป็นสามเท่า ทำให้ผู้เล่นแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆนาทีที่ทนจัดการกับเหล่ามอนสเตอร์” อาดัมเอ่ย เขาโกรธตัวเองอย่างเห็นได้ชัดที่ให้เด็กแบกอนาคตของเหล่ามนุษยชาติ

“พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว อะไรที่สำเร็จก็สำเร็จไปแล้ว อย่างนั้นเราไปกันเลยไหม? ยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำ”

“ข้าหวังว่าอเล็กซานเดรียจะเจอสหายร่วมทางกับเธอ ข้าค่อนข้างกังวลเพราะผู้ที่แข็งแกร่งมักโดดเดี่ยว แต่เราทั้งสองต่างรู้ดีว่าเธอคนเพียงคนเดียวไม่สามารถแบกรับภาระที่ยิ่งใหญ่นี้ได้” อาดัมพูดในขณะที่พวกเขากำลังเดินเข้าไปในประตูมิติอีกแห่ง

...

ในขณะเดียวกัน ผู้คนบนโลกต่างรอคอยผลลัพธ์ของโลก พ่อแม่ของครอบครัวในแดนไกลกำลังมองดูลูกสาวที่อยู่ในแคปซูลขณะอุ้มลูกสาววัยหนึ่งขวบ และลูกชายฝาแฝดวัยสองขวบ

นั่นคือครอบครัวของอเล็กซานเดรีย อาธีน่า พวกเขาเดินไปยังห้องของลูกสาวและตรวจดูความคืบหน้าของเกม ก่อนจะพบว่าลูกสาวของพวกเขายังไม่ออกมาจากเกมกับเวลาที่เหลืออยู่เพียง1นาทีเท่านั้น

“ที่รัก คุณคิดไหมว่าอเล็กตัวน้อยของเรากำลังต่อสู้เพื่อโลกอยู่ในเกม” แม่ของเธอหันไปถามพ่อของเธอ เธอกังวลต่อลูกสาวเป็นอย่างมาก

“ผมก็คิดอย่างนั้นที่รัก เธอยังอยู่ในแคปซูล” พ่อของเธอตอบ เขาไม่รู้จะให้เธอใจเย็นอย่างไร มันอาจจะส่งผลกระทบต่อครรภ์ของเธอได้

เวลาผ่านไป เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งวินาที แคปซูลของอเล็กซานเดรียได้เปิดออก ผู้ปกครองทั้งสองวิ่งเข้าไปหาลูกสาวของพวกเขาด้วยความกังวลใจ เขาเห็นลูกสาวกำลังนอนหลับอย่างสบายใจ ราวกับนางฟ้าที่ไม่ถูกความปั่นป่วนของโลกรบกวน

“ที่รัก เธอดูเหนื่อย” แม่ของเธอเอ่ย เธอกอดรัดไปที่หน้าของลูก

“ผมคิดว่าลูกสาวของเราพึ่งจะช่วยโลกมา เราควรปล่อยให้เธอพักแล้วค่อยกลับมาคุยกับเธอทีหลัง” พ่อของเธอพูดเช่นกัน ก่อนที่พวกเขาจะค่อยๆออกไปจากห้องของเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด