ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่7: ตาเฒ่าสองคนนี้เสียสติไปแล้วหรือ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่9: การบ่มเพาะควรเริ่มตั้งแต่ยังเป็นทารก!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่8: บรรพบุรุษสกุลหลินเลื่อนขั้น!? รีบไปแสดงความยินดีเร็วเข้า!


ตอนที่8: บรรพบุรุษสกุลหลินเลื่อนขั้น!? รีบไปแสดงความยินดีเร็วเข้า!

 

เมื่อต้องเจอกับอุ้งมือของตาแก่สติเลอะเลือนทั้งสอง ยังนับว่าเป็นโชคดีที่ซวนยู่กลับมาช่วยบุตรชายไว้ในท้ายที่สุด

“ท่านลุง ซวนเอ๋อยังเล็กนัก ให้เขานอนต่ออีกสักหน่อยเถิด”  นางเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล ซวนยู่ได้ช่วยเหลือหลินซวนน้อยออกจากมือของตาแก่ทั้งสอง

หลังจากได้ยินประโยคนี้ ตาเฒ่าทั้งสองเลยได้แต่หยุดการกระทำของตัวเองได้ความอับอาย แล้วหันไปเล่นงานหลินเฮ่าแทนด้วยการหิ้วแขนสองข้างของหลินเฮ่าขึ้นเหมือนเขาเป็นลูกแมวตัวน้อย แล้วลากเขาออกไปข้างนอกเพื่อถามว่าเขามีเคล็ดลับอันใด หรือแอบกินโอสถวิเศษตัวไหนไปหรือเปล่า ทำไมถึงได้มีบุตรชายที่อัจฉริยะถึงเพียงนี้

หลินเฮ่าที่ดูต้องการความช่วยเหลือและกระอักกระอ่วนไม่สามารถทำอะไรได้  ส่วนทางด้านข้างๆของจวนเขาตอนนี้นั้น มีเหล่าเด็กๆมากมายทั้งชายและหญิงวิ่งวุ่นวายอยู่เต็มไปหมด พวกเขาล้วนจ้องมองไปยังหลินซวนแล้วเอ่ยถามออกมาด้วยสายตาเป็นประกาย

“นี่คือน้องเล็กของพวกเราใช่หรือไม่?”

เจ้าเด็กใจกล้าบางคนกำลังยื่นนิ้วสั้นๆออกมาแล้วจิ้มไปที่แขนของหลินซวน

ด้วยความที่พวกเขาเป็นตระกูลของเหล่าผู้บ่มเพาะลมปราณทำให้มีชั่วชีวิตที่ยาวนาน  สำหรับคนที่อายุน้อยกว่าร้อยปีแล้วนั้น ล้วนแล้วแต่นับว่าเป็นรุ่นเยาว์ของสกุลทั้งสิ้น

เด็กๆที่สามารถเข้าใกล้หลินซวนได้ในตอนนี้ นับว่าเป็นเหล่าศิษย์หลักของตระกูลทั้งหมด แล้วยังอาศัยอยู่ใกล้กับจวนหลินเฮ่าที่สุดอีกด้วย   ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลินซวนเริ่มหายใจและปราณม่วงเริ่มหลั่งไหลมาจากทางทะวันออก รวมทั้งตอนที่หลินซวนร้องไห้พร้อมกับสำเนียงแห่งเต๋าก็ด้วย  เจ้ากลุ่มของเด็กน้อยพวกนี้นับว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเหตุการณ์นี้  และในบรรดารุ่นเยาว์กลุ่มนี้เกือบจะทั้งหมดถึงกับสามารถบรรลุขั้นลมปราณได้ถึงสองขั้นภายในวันเดียว!  หากข่าวนี้กระจายออกไป คงจะทำให้ผู้คนมากมายตกใจจนลูกตาแทบหลุดออกจากเบ้า

อย่าไปสบประมาทว่าเป็นเพียงแค่ชั้นลมปราณสองขั้นเล็กๆเท่านั้น  การเลื่อนขั้นนี้นับได้ว่าช่วยพวกเขาประหยัดเวลาไปได้อย่างน้อยนับสิบปี!  การร่นระยะเวลาไปถึงสิบปีสำหรับเหล่ารุ่นเยาว์แล้วนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเด็กๆยิ่งนัก  ในตอนนี้ ชายหนุ่มหญิงสาวศิษย์ที่เป็นศิษย์หลักล้วนแต่มีความรู้สึกที่ดีกับหลินซวนเป็นอย่างมาก

ร่วมกับการที่หลินซวนตอนนี้นอนขดตัวดูราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวน้อยๆที่กำลังเรืองแสงสีม่วงอ่อนๆจากปราณม่วงที่หายใจเข้าไปแล้วนั้น ช่างน่ารักน่าชังและดูน่าทะนุถนอมยิ่ง  หลินซวนตัวน้อยที่กำลังเปล่งแสงทำให้เด็กสาวบางส่วนดวงตาเป็นประกายราวกับกำลังมองเห็นสิ่งที่น่ารักที่สุดในโลกนี้อยู่

เจ้าเด็กพวกนี้ยังคงจิ้มแขนขาของหลินซวนอยู่ตลอด แม้จะทำอย่างระมัดระวังก็ตามที

“อ๊า!”

“น่ารักเกินไปแล้ว!”

“อา ใจข้ากำลังละลายแล้ว น้องเล็กหลินซวนช่างงดงามและเปี่ยมด้วยพรสวรรค์  จะมีนางจิ้งจอกสาวตนใดกันนะที่จะได้เจ้าตัวน้อยคนนี้ไปครอง”

“เขาดูราวกับหยกชั้นยอด ช่างน่ารัก!”

เหล่าเด็กสาวพวกนี้ทำราวกับกำลังเจอดวงดาว ประคองใบหน้าหลินซวนแล้วยังคงแตะต้องแขนขาของเขาไม่หยุด ยิ่งมองยิ่งคิดว่าเขาช่างคล้ายตุ๊กตาตัวน้อยยิ่งนัก หัวใจของพวกนางล้วนหลอมละลาย

เด็กหนุ่มรอบๆในตอนนี้ทำได้เพียงยิ้มอย่างไร้ทางช่วย

พวกเด็กผู้ชายไม่สามารถจะเข้าใกล้หลินซวนได้เลยด้วยซ้ำ ทำได้เพียงยื่นคอให้ยืดยาวขึ้นและพยายามเท่าที่จะทำได้เพื่อจะเห็นหน้าของเซียนน้อยแซ่หลินว่าเป็นอย่างไร  แม้จะเกิดความริษยาขึ้นเล็กน้อย แต่พวกเขาก็มีความสุขมากกว่า  ส่วนหลินซวนนั้น กลับไม่ได้รู้สึกว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากเหล่าเด็กน้อยพวกนี้เป็นการรบกวนเขาแต่อย่างได้

บัดนี้ หลินซวนอยู่ในสภาวะแปลกประหลาดบางอย่าง เพราะการหายใจและร้องไห้ก่อนหน้านี้ของเขา ปราณม่วงจำนวนมหาศาลรวมทั้งเสียงแห่งเต๋าอันเข้มข้นกำลังไหลเวียนอยู่ในกาย

และแม้ปราณทั้งหลายจะเข้ามาในร่างกายเขาแล้ว แต่ยังคงมีไอปราณเบาบางไหลอยู่ภายนอกในเวลาที่เขาหายใจเข้าออก

หลินซวนกำลังใช้ทักษะ “ลมหายใจปราณม่วงปฐมกาล” เพื่อซึมซับปราณทั้งหมดที่เขาได้รับ นี่คือเหตุผลที่เขาขดตัวอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ขยับไปไหน

“ปราณม่วงมากมายถึงเพียงนี้ อืม..พวกเจ้าได้สังเกตหรือไม่? ลมหายใจของน้องเล็กต้องนี้มีจังหวะบางอย่างแฝงอยู่  พี่หญิงเจ้าคะ มิใช่ว่าน้องซวนกำลังบ่มเพาะลมปราณอยู่หรอกหรือ?”  เด็กสาวคนหนึ่งได้เอ่ยถามกับซวนยู่

ซวนยู่ทำเพียงพยักหน้าพร้อมกับโอบกอดหลินซวนเอาไว้ เนื่องจากการตั้งครรภ์มานานกว่าหนึ่งร้อยปี แม้นางจะนับว่าเป็นหนึ่งในผู้บ่มเพาะลมปราณ หากแต่การคลอดหลินซวนก็ส่งผลต่อปราณชีวิตของนางพอสมควรทำให้ในตอนนี้นางดูอ่อนแอกว่าปกติ หากแต่ดวงตาก็ยังคงเต็มไปด้วยความรักในตัวบุตรชายของตน

“ก่อนท่านบรรพบุรุษจะจากไป ท่านกล่าวว่าซวนเอ๋อดูคล้ายกำลังบ่มเพาะปราณอยู่”

เพียงกล่าวจบประโยคนี้เท่านั้น ทุกคนในที่นี้ก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง

“อ๋า! เขาเรียนรู้การบ่มเพาะได้ด้วยวัยที่เป็นเพียงทารกเช่นนี้น่ะหรือ?”

“ข้าได้ยินมาว่า สำหรับเหล่าอัจฉริยะแล้วนั้น การบ่มเพาะกลับเป็นไปโดยสัญชาตญาณของพวกเขา”

“อ๊า! ช่างน่าอิจยิ่งนัก!”

“นี่คือความต่างระหว่างเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายกับคนธรรมดาสินะ?”

หลินซวนที่ไม่ได้สนใจสิ่งใดรอบตัวเขาในตอนนี้ เขาเพียงทำตามความรู้จากทักษะลมหายใจปราณม่วงปฐมกาลและบ่มเพาะอย่างเงียบๆเท่านั้น เพราะต้องการที่จะซึมซับทั้งปราณม่วงและเสียงแห่งเต๋าทั้งหมดให้ได้โดยสมบูรณ์ แต่ถึงกระนั้น ครู่ต่อมาเขากลับไม่สามารถจะบ่มเพาะต่อไปได้

“ตัวเล็กจังเลย”

สาวงามที่ผมแดงผู้ผูกหางม้าไว้ด้านหลังกำลังกะพริบดวงตาโตๆของนางอยู่ นางกางนิ้วทั้งสองของหลินซวนออกมาวัดแล้วพูดกับซวนยู่อย่างตื่นเต้นว่า  “พี่สาวซวน มันใหญ่เท่านี้เลยนะ!!”

ซวนยู่บัดนี้ยิ้มก็มิได้ร้องไห้ก็ไม่ออก

หลินซวนในกำมือผู้อื่นนั้นกำลังมีสีหน้ามืดมนเต็มที  เขารีบเร่งดูดซึมปราณม่วงอย่างสุดกำลัง  เขาจำเป็นต้องเร่งรีบขนาดนี้ เพื่อที่จะสามารถขยับตัวให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ใครจะรู้ว่าเจ้าเด็กน้อยแสนซนพวกนี้จะพยายามแตะต้องร่างกายตรงส่วนใดของเขาอีก  พวกเจ้าไม่มีอะไรให้ทำกันหรือยังไง!?

.....

ตระกูลหลินตอนนี้ประดับประดาไปด้วยโคมไฟและป้ายผ้าหลากสีสัน  มีคนมากมายไม่ได้หลับลงในคืนนี้ พวกเขาล้วนยินดีกับโชคก้อนใหญ่อย่างปราณม่วงจากฟากฟ้า และการได้ยินเสียงแห่งเต๋านั้นเมื่อรวมกันแล้วทำให้คนเหล่านี้สามารถจะพัฒนาลมปราณและเลื่อนขั้นได้ถึงสองขั้นได้ภายในวันเดียว  แถมการที่สกุลหลินของพวกเขายังมีเซียนน้อยมาเกิดด้วยแล้ว ช่างเต็มไปด้วยน่าเฉลิมฉลองยิ่งนัก

ถึงแม้ตระกูลหลินจะตั้งอยู่ในเมืองต้าหยานก็ตาม  หากแต่ชาวเมืองด้านนอกล้วนแต่ไม่ได้รับรู้ว่าสิ่งใดเกิดขึ้นกันแน่

ขณะที่สกุลหลินกำลังวุ่นวายกันอยู่นั้น  ตระกูลอื่นๆรวมถึงพ่อค้ามากมายที่อาศัยอยู่ในเมืองต้าหยานกลับกำลังส่งคนของตัวเองออกไปกระจายข่าวใหญ่!

“เร็วเข้า!”

“รีบไปบอกที่ตระกูลหลักเดี๋ยวนี้ บรรพบุรุษแซ่หลินเลื่อนขั้นแล้ว!”

“ปราณม่วงจากทางตะวันออกไกลกว่าแสนลี้!  แถมยังเสียงแห่งเต๋านั่นอีก!  จากเหตุการณ์นี้คงเพียงพอจะบอกได้ว่า ท่านผู้นั้นได้ก้าวหน้าครั้งใหญ่แล้ว!”

ในเมืองต้าหยาน  ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังเผยแพร่ข่าวสำคัญนี้  สำหรับพวกเขาแล้ว การเลื่อนขั้นของบรรพบุรุษสกุลหลินนับได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งนัก!

“ส่งสาส์นไปถามสาขาหลักของสมาพันธ์การค้าเร็วเข้า พวกเขาต้องรีบไปแสดงความยินดีกับพวกเขา ควรนำของขวัญใดติดไม่ติดมือไปด้วย?”

“บอกครอบครัวใหญ่ ส่งผู้อาวุโสของเรามาที่นี่...ไม่สิ ข้าจะกลับไปรายงานเรื่องนี้โดยตรงและให้พี่ใหญ่ของข้าเป็นคนมาที่นี่ด้วยตัวเอง บรรพบุรุษแซ่หลินผู้นั้นนับเป็นยอดยุทธ เราควรจะให้หัวหน้าตระกูลไปทักทายด้วยตนเอง!”

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด