ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่8: บรรพบุรุษสกุลหลินเลื่อนขั้น!? รีบไปแสดงความยินดีเร็วเข้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่10: ของกำนัลมากมาย ความสงสัยเริ่มเกิดขึ้น!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่9: การบ่มเพาะควรเริ่มตั้งแต่ยังเป็นทารก!


ตอนที่9: การบ่มเพาะควรเริ่มตั้งแต่ยังเป็นทารก!

เพียงไม่นาน ข่าวการเลื่อนขั้นของบรรพบุรุษสกุลหลินที่ทำให้ปราณม่วงจากทางตะวันออกกว่าแสนลี้พร้อมเสียงแห่งเต๋าที่สั่นสะเทือนไปทั่วปรากฏขึ้นก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองต้าหยาน และเมืองใหญ่ใกล้เคียงอื่นๆ  หลังจากได้รับรู้เรื่องนี้ ผู้นำตระกูลอื่น รวมทั้งเหล่าพ่อค้าใหญ่ของสมาคมการค้าต่างๆล้วนแต่ตกใจจนกรามแทบจะหล่นลงไปแทบเท้า!

......

ในพระราชวังที่วิจิตรงดงามและดูสูงส่งพร้อมทั้งมีกลิ่นจางๆปนอยู่ในอากาศ ไข่มุกราตรีถึงเก้าร้อยคู่คอยส่องแสงเพื่อให้ความสว่างในท้องพระโรงดูราวกับผืนฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

สมบัตินับพันที่มีค่ามากพอให้เหล่าผู้บ่มเพาะใดก็ตามที่ได้เจอพร้อมแย่งชิงกันจนตายเพื่อให้ได้มา กลับตั้งอยู่เป็นเพียงของประดับทั้งซ้ายและขวาของโถงทางเดิน

“ดื่ม!”  บุรุษในชุดแพงระยับจำนวนหนึ่งหัวเราะเฮฮาและกอดคอกันเมามาย  เบื้องหน้าพวกเขามีหญิงสาวนับร้อยที่แลดูสวยงามและยั่วยวนยืนอยู่ เสียงดื่มกินและพวกคุยของพวกเขาดังก้องไปทั้งราชวังแห่งนี้

“ทุกท่าน เพราะข้อตกลงที่ทำร่วมกันในวันนี้ สมาคมการค้าเมฆเคลื่อนคล้อยจะต้อนรับท่านเป็นอย่างดีแน่นอน!”  ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่มคนเหล่านี้พูดขึ้นพลางยกจอกสุราในมือขึ้นแล้วยิ้มให้คนอื่นรอบๆ

ทุกคนล้วนยิ้มแล้วชูจอกเหล้ารับ  แต่แล้วก็มีสาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วกระซิบบางอย่างข้างหูของหัวหน้าคนเหล่านี้

ชายคนนั้นพยักหน้ารับ สีหน้ายังคงเดิมหากแต่กลับลุกขึ้นพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ข้าต้องขออภัย  มีเหตุการณ์เล็กน้อยที่ข้าจำเป็นต้องไปจัดการ เนื่องจากข้าเองก็มิค่อยได้มายืนที่อาณาจักรฉีซานแห่งนี้บ่อยนัก ขอให้ทุกท่านสำราญกับงานเลี้ยงที่พวกเราได้เตรียมไว้รองรับ และหวังว่าสมาคมการค้าเมฆเคลื่อนคล้อยของเราจะได้มีโอกาสรับใช้ทุกท่านในเร็ววัน”

คนที่เหลือเพียงยิ้มรับพร้อมจอกเหล้าในมือ

ชายคนนั้นเดินออกไป สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปเป็นตื่นตกใจอย่างมาก

“เจ้าบอกว่าบรรพบุรุษแซ่หลินผู้นั้นกลับเลื่อนขั้นได้แล้วงั้นหรือ? เมื่อใดกัน?”

“เพียงไม่กี่ชั่วยามมานี้เองนายท่าน”  สาวใช้คนนั้นตอบกลับเขาด้วยความเคารพ

“ในท่านผู้นั้นจริงๆหรือ  เจ้ามิใช่ได้ข่าวผิดพลาดมาหรอกใช่หรือไม่?”

“ข้ามั่นใจ  ก่อนหน้านั้น มีเหตุการณ์พิเศษบางอย่างเกิดขึ้นที่เมืองต้าหยานเช่นกัน”

“ปราณม่วงจากทางตะวันออก และสำเนียงสวรรค์แห่งเต๋า..”

“ฮ่า!”

“เยี่ยม ยอดเยี่ยม!”

ภายใต้ท้องฟ้ายามราตรี ชายผู้นั้นหันหลังในกับสถานที่ที่เขาเพิ่งจากมา ในดวงตาเต็มด้วยประกายบางอย่างพร้อมความคิดแล่นพล่านอยู่ในสมอง

“เอาล่ะ”  เขาปรบมือแล้วพูดขึ้นว่า  “พวกเรายังมีของสิ่งนั้นจากอาณาเขตลึกลับทางตะวันตกอยู่สินะ นำมันออกมา แล้วพาไปพร้อมข้าพรุ่งนี้ ข้าจะมอบมันให้แก่บรรพบุรุษสกุลหลิน”

สาวใช้เบิกตากว้างด้วยความตะลึง  “ของสิ่งนั้นจากอาณาเขตลึกลับทางตะวันตก?  มูลค่าของมัน...”

ก่อนที่นางจะได้กล่าวจบ  ชายผู้เป็นนายก็พูดแทรกขึ้นมาพร้อมมองไปยังที่ไกลๆ   “ทำตามคำสั่งข้า เจ้าเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน คงยังมิสามารถเข้าใจได้ถึงสิ่งที่กำลังจะตามมา”

“เจ้าคงไม่เข้าใจความหมายแท้จริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการก้าวผ่านขั้นลมปราณนี้ของตระกูลหลิน”

....

สิ่งนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงกับสมาคมการค้าเมฆเคลื่อนคล้อยเท่านั้น หากแต่ครึ่งหนึ่งของอาณาจักรฉีซานก็ล้วนได้ยินข่าวนี้แล้วเช่นกัน และตัดสินใจทำเช่นเดียวกับชายจากสมาคมเมฆเคลื่อนคล้อย

“บรรพบุรุษตระกูลหลินตัดผ่านชั้นลมปราณ?  เร็ว เร็วเข้า เราต้องรีบนำของขวัญไปแสดงความยินดีกับเขาในวันพรุ่งนี้!”  กองกำลังหน้าใหม่บางแห่งกำลังตื่นเต้นกับข่าวนี้

“ฮะฮ่าๆๆๆ!  หลังจากขับเคี่ยวกันมาเป็นเวลานานถึงเพียงนี้  ไม่คาดคิดว่าตาแก่แซ่หลินจะนำข้าไปก้าวหนึ่งแล้ว!”  อาวุโสเลื่องชื่อของตระกูลเก่าแก่แห่งหนึ่งออกจากการกักตัวแล้วทอดถอนใจพลางมองยังที่ตั้งสกุลหลิน

“นำสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดจากห้องเก็บทรัพย์สินของพวกเราออกมา เราต้องมอบมันเป็นของขวัญแสดงความยินดีแก่ตระกูลหลิน!”  พ่อค้าแห่งสมาคมเมฆเคลื่อนคล้อยกล่าวออกมาด้วยเสียงที่กดต่ำลง

ทั้งตระกูลต่างๆ กองกำลังทั้งหลาย รวมทั้งสมาคมการค้าเริ่มกะทำบางอย่างเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งที่กำลังจะตามมา   และแน่นอนว่ามีบางตระกูลเช่นกันที่กำลังใบหน้าเขียวคล้ำอย่างน่าเกลียด

“ว่าเยี่ยงไรนะ? ไอ้แก่โง่เง่าแซ่หลินนั้นเลื่อนขั้นแล้ว??”

“ออกจากการกักตัวบ่มเพาะพร้อมการปรากฏของปราณม่วง?”

“บิดามันเถอะ! เจ้าลูกเต่านั่นจะทำข้าโกรธจนตาย!”

ทางตอนใต้ของอาณาจักรฉีซาน มีตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งซึ่งเป็นศัตรูของสกุลหลินมาช้านาน  เพียงได้ยินข่าวการเลื่อนขั้นนี้ พวกเขาทำได้เพียงตะโกนสาปแช่ง  และเมื่อบรรพบุรุษตระกูลนี้ได้รับข่าวก็ออกจากการกักตัวพร้อมสีหน้ามืดทะมึน  ในคืนนั้นพายุสายฟ้าสาดซัดไปทั่ว กองกำลังที่กระด้างกระเดื่องกับตระกูลบางส่วนที่อยู่ในระยะใกล้เคียงล้วนโดนกวาดล้างหายไปผ่านในคืนเดียว

“พวกลูกเต่าแซ่หลิน! เลื่อนขั้นแล้วอย่างไร! พวกข้ามีอัจฉริยะรุ่นเยาว์อยู่ในตระกูล  แต่สกุลหลินของพวกเจ้าไร้ซึ้งอัจฉริยะมานานกว่าร้อยปีแล้ว!!”

“แม้พวกเจ้าจะแต่งงานกับสกุลซวนแล้วอย่างไร!  เจ้าทารกปิศาจร้อยปีนั่นสมควรจะตายในครรภ์มารดามันแล้วเสียด้วยซ้ำ!”

“พวกเจ้าที่ไร้ซึ่งอัจฉริยะรุ่นเยาว์ หากเวลาผ่านไป สุดท้ายพวกเจ้าก็จะต้องล่มสลายอยู่ดี!”

“ข้าเพียงแค่ต้องรอเวลาให้มาถึงเท่านั้น!”

.....

หลินซวนไม่ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์รอบนอก

ในตอนนี้ เขาไม่ได้ตระหนักถึงความบ้าคลั่งจากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดกับตระกูลของตน และมิได้ทราบด้วยว่าโลกภายนอกยังไม่ได้รับรู้ถึงการกำเนิดมาของเขา ล้วนแต่เข้าใจกันไปเองว่าเหตุการณ์ต่างๆเกิดเพราะบรรพบุรุษของเขาก้าวผ่านชนชั้นปราณเพียงเท่านั้น

ถึงอย่างไรก็ตาม ต่อให้หลินซวนรับรู้ เขาก็หาได้สนใจไม่

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เพราะความสามารถของเขาได้ปรากฏให้คนในตระกูลรับรู้แล้ว ดังนั้น หากสกุลมิได้โงเง่าจนเกินไปก็ย่อมต้องรักษาดูแลเขาประดุจไข่ในหิน

ภายในค่ำคืนนั้น หลินซวนขดตัวในผ้าอ้อมของเขาอย่างสบายตัว และยังคงบ่มเพาะด้วยทักษะลมหายใจปราณม่วงปฐมกาลของเขาต่อไป

ในฐานะคนที่เคยใช้ชีวิตมาครั้งหนึ่งแล้วแบบเขา หลินซวนหาได้หลงตัวเองไปกับความสำเร็จแค่ชั่วครู่ไม่ เขารู้ว่าตนเองควรจะสร้างรากฐานให้มั่นคงเพื่อจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างยืนยาวในโลกแห่งนี้

และคำตอบของทุกอย่างคือความแข็งแกร่ง เขาควรจะพึ่งพาพลังของตัวเองเป็นหลัก การบ่มเพาะต้องเริ่มตั้งแต่เกิด สกุลหลินอาจจะปกป้องเขาได้ในตอนนี้ หากแต่มิใช่ตลอดไป ถ้าอยากจะมีชีวิตรอดที่นี่ สิ่งสำคัญที่สุดคือพละกำลังของเขา

ทุกครั้งที่หลินซวนหายใจเข้า ปราณม่วงที่อยู่ในกายเขาก็เปล่งแสงเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า

เพราะการกำเนิดของดาวดวงใหม่เช่นหลินซวน ตระกูลหลินกำลังเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข ล้วนดื่มกินเต้นรำเพื่อฉลองให้กับการกำเนิดของเซียนน้อยแซ่หลินผู้นั้นรวมถึงดีใจกับการเลื่อนขั้นครั้งใหญ่ของตัวเอง

ในผ้าอ้อม หลินซวนที่กำลังกลั้นหายใจและมุ่งสมาธิไปที่บางอย่าง  เขาพยายามจะเรียนรู้ทักษะลมหายใจปราณม่วงปฐมกาลอย่างเต็มความสามารถ เขามุ่งมั่นและตั้งใจค่อยๆสร้างพื้นฐานการบ่มเพาะของตัวเองเพื่ออนาคตที่รุ่งเรือง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด