ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่6: เจ้าจะเสียงดังทำไม? เดี๋ยวเซียนน้อยก็หวาดกลัวหรอก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่8: บรรพบุรุษสกุลหลินเลื่อนขั้น!? รีบไปแสดงความยินดีเร็วเข้า!

เกิดใหม่เป็นทารกขั้นเทพ ตอนที่7: ตาเฒ่าสองคนนี้เสียสติไปแล้วหรือ?


ตอนที่7: ตาเฒ่าสองคนนี้เสียสติไปแล้วหรือ?

ดวงดาราเปล่งประกายบนท้องฟ้า ใต้ท้องนภานั้น ตระกูลหลินยังคงสว่างไปด้วยแสงไฟและเสียงหัวเราะแว่วมา  ข่าวการคลอดของหลินซวนแพร่กระจายไปทั่วทั้งตระกูลแล้ว

ทุกคนในสกุลหลินล้วนรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นต้นเหตุของปราณม่วง หรือเสียงร้องไห้ที่แฝงพลังแห่งเต๋าก็ตาม ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเจ้าทารกน้อยหลินซวน บุตรชายของหลินเฮ่า!

นอกจากความตกตะลึง บัดนี้ทั้งตระกูลกำลังเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและยินดี

หากให้กล่าวตามความเป็นจริงแล้ว นับตั้งแต่หลินเฮ่าเรื่อยมา สกุลหลินก็ไม่ปรากฏอัจฉริยะคนใดอีกเลยมากว่าร้อยปีแล้ว  นี่นับเป็นเรื่องร้ายแรงมากสำหรับตระกูลใหญ่ระดับสกุลหลิน และมันจะกลายเป็นยุคที่มืดมนเต็มไปด้วยปัญหามากมายหากไร้ซึ้งยอดคนรุ่นใหม่ในตระกูล

แต่ในที่สุด หลินซวนก็ถือกำเนิด!  ช่างเป็นโชคก้อนใหญ่ยิ่งนัก!

......

ภายใต้ความมืดยามราตรี จวนของหลินเฮ่ากลับเต็มไปด้วยคนมากมายจากในตระกูลที่มาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับเขา

“ฮ่าๆ!  ยินดีด้วย!  หลินเฮ่า ในที่สุดเจ้าก็ได้บุตรชายอันประเสริฐยิ่ง! กล้วยไม้เก้ากลีบพันปีนี้เป็นของขวัญแสดงความยินดีจากข้า!”

“ฮะฮ่า! หลินเฮ่า เมื่อลูกชายของเจ้าเกิดมาแล้ว ข้าได้รับอานิสงค์มากมายจนสามารถเลื่อนขั้นได้ถึงสองขั้นในวันเดียว ช่างดียิ่ง!  เจ้าต้องยอมรับหญ้าวิญญาณมังกรสามพันปีนี้จากข้า!”

“ผลกลายวิญญาณอายุหกพันปีผลนี้ไม่นับเป็นสิ่งใดได้เลย เมื่อเทียบกับที่ข้าสามารถเลื่อนชั้นปราณได้เพียงได้ฟังเสียงแห่งเต๋าจากบุตรชายของเจ้า นับว่าติดหนี้เจ้าตัวน้อยแล้ว เมื่อต้นไม้โบราณในทะเลตะวันออกเติบโตเต็มที่ ข้าจะไปหาผลกลายวิญญาณหมื่นปีมาเพื่อเขา!”

ในห้องโถง หลินเฮ่ากำลังมองผลไม้สีทองสามลูกในกล่องไม้หรูหรา  น้ำลายในคอเหนียวหนืดไปหมด ทำได้เพียงแย้มยิ้มขมขื่นพร้อมกล่าวปฏิเสธ

“นี่....ท่านบรรพบุรุษหลินเป่า มันมากเกินไป ข้ามิอาจรับไว้”

ผู้เฒ่าคนนี้เป็นหนึ่งในเหล่าอาวุโสที่เพิ่งออกจากการกักตัวบ่มเพาะวิชา  ส่วนผลกลายวิญญาณแบบนี้ก็นับได้ว่าเป็นของดีระดับที่แม้แต่หลินเฮ่าเองก็ยังไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน หากแม้เพียงหนึ่งออกไปสู่ภายนอกตระกูลได้ ก็มาพอให้ผู้คนฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิง ด้วยมูลค่าที่สูงเสียดฟ้าถึงหนึ่งหมื่นหินวิญญาณ

แต่เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฮ่า ผู้เฒ่าก็กกลอกตาใส่เขา “นี่สำหรับเซียนน้อยหลินซวนของข้า   ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าหลินเฮ่า  เจ้าจะทำท่าทางแบบนั้นไปเพื่อสิ่งใด”

เพียงกล่าวออกมา ตาเฒ่าก็รู้สึกไม่เหมาะสมไปหน่อย จึงได้จำใจเอาโอสถล้ำค่าของคนเม็ดหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้อแล้วโยนให้หลินเฮ่าไป

“เอ้า เอาไป เอาไปให้หมดนั่นล่ะ ด้วยการกำเนิดของเซียนน้อยคนนี้ เราเหล่าผู้เฒ่าล้วนแต่ได้ประโยชน์กันทั้งสิ้น หากเจ้ามิคิดรับของจากเรา จะไม่นับว่าเป็นการหักหน้าผู้อาวุโสหรอกหรือ?”

เมื่อมองไปเห็นเหล่าสมบัติล้ำค่าทั้งหลาย หลินเฮ่าทำได้เพียงรู้สึกหวานอมขมกลืนในอก เขาทำได้เพียงขอบคุณและรับพวกมันทั้งหมดไว้

......

ด้านนอกของจวนล้วนเต็มไปด้วยคนหนาแน่น บ้างก็เป็นคนที่ผ่านไปมาเท่านั้น  หลินซวนรับรู้สถานการณ์ได้อย่างชัดเจน

เขาตื่นจากสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้ว แม้จะยังคงหลับตาห่อตัวอยู่ในผ้าอ้อม และหายใจอย่างสงบก็ตาม

หลังจากนอนฟังเสียงพูดคุยไม่นาน หลินซวนก็เริ่มเข้าใจหลายอย่างมากขึ้น

เหมือนว่าโลกนี้จะเรียกตัวเองว่าทวีปแผ่นฟ้า

ลมปราณของที่นี่นั้นแบ่งออกเป็นเก้าดินแดน สามแดนแรกคือปรับปรุงกาย ปรับปรุงปราณ และสร้างรากฐาน  สามดินแดนต่อมานับเป็นขั้นกลางคือ หมุนวนทะเลปราณ อาณาเขตม่วง แก่นทองคำ   และดินแดงสุดท้ายได้แก่ ก่อตั้งจิต รวมวิญญาณ สู่นิพพาน

หลินซวนยังไม่แน่ใจว่ายังมีดินแดนที่สูงกว่านี้อีกหรือไม่  หากแต่ในเก้าแดนที่กล่าวถึงนี้แบ่งออกเป็นสิบขั้นด้วยกัน

ทวีปแผ่นฟ้าแห่งนี้กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ยังคงไม่มีผู้ใดพบว่ามันกว้างขวางเพียงใด ส่วนที่มีคนอาศัยและเป็นที่รู้จักตอนนี้แบ่งออกเป็นเจ็ดอาณาจักรใหญ่ซึ่งล้วนมีเนื้อที่มโหฬาร

สกุลหลินนั้นตั้งอยู่ในอาณาจักรที่มีนามว่าฉีซานทางตะวันออกของทวีปแผ่นฟ้า นับเป็นหนึ่งในตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้   นับว่ามีเบื้องหลังไม่เลวทราม อย่างน้อยที่สุดแล้ววัยเด็กของเขาก็ต้องนับว่ายังสงบและปลอดภัย

หลินซวนที่รับฟังเสียงพูดคุยต่างๆรอบตัวกำลังคำนวณเงียบๆอยู่ในใจ อย่างไรก็ตาม ไม่นานเขาก็ถอนหายใจออกมา

ความจริงแล้ว เขามีแผนเดิมว่าจะค่อยๆพัฒนาตัวเองอย่างระมัดระวังและไม่ประมาททำเกินตัว  กะว่าจะรอให้ตัวเองแข็งแกร่งเพียงพอก่อนค่อยเปิดเผยความอัจฉริยะในตัว

แต่กระนั้น ดูจากตอนนี้แล้ว คาดว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นอีกต่อไป

ระหว่างที่กำลังขบคิดเรื่องนี้ จู่ๆก็มีเงาจำนวนหนึ่งมาล้อมรอบเขา

สถานการณ์ของหลินซวนตอนนี้นับได้ว่าแปลกประหลาดอย่างมาก  แม้เขาจะหลับตาอยู่และไม่ได้ขยับเขยื้อนกาย แต่ดูเหมือนเขาจะสามารถ “เห็น” ทุกอย่างรอบตัวเขาได้

หากให้เรียกในแบบของโลกนี้แล้ว  ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับพรสวรรค์บางอย่างในการรับรู้ หรือกล่าวได้ว่าตอนนี้เขามี “เนตรสวรรค์” เข้าให้แล้ว

ในระหว่างที่คิดเรื่องนี้ หลินซวนก็ได้ “จ้องมอง” ร่างเงาเหล่านั้นไปพลาง และได้เห็นชายชราสองคนที่ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อใหญ่โตและมีกลิ่นอายสูงส่ง  นอกจากกล้ามเนื้อหนาแน่นเป็นมัดๆแล้ว ส่วนสูงถึงสองเมตรนั่นทำให้พวกเขายิ่งดูเหมือนภูเขาเคลื่อนที่ได้ไปในที  ตาเฒ่าพวกนี้มีจอนผมที่กลายเป็นสีขาว และหน้าตาดูคล้ายกับหลินเฮ่าบางส่วน

มองดูพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ หลินเฮ่ายิ้มออกมาและเดินเข้าไปหาพวกเขา “ท่านลุงหนึ่ง ท่านลุงสอง”

เมื่อชายแก่ที่ดูอ่อนวัยกว่าอีกคนข้างๆเห็นหลินเฮ่าเดินเข้ามา เขาก็หัวเราะเสียงดังลั่นแล้วตบบ่าของหลินเฮ่าอย่างแรงพร้อมกล่าวว่า  “ฮะฮ่า!! หลินเฮ่า เจ้าเด็กคนนี้ ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้บุตรชายแสนประเสริฐขนาดนี้ สิ่งนี้คือปะการังพันปีจากทะเลตะวันออก ปะการังที่ข้ามอบให้นับเป็นของบำรุงกายชั้นเลิศ อย่าลืมมอบมันให้แก่หลานสะใภ้ของข้าเพื่อใช้ดูแลร่างกายหลังคลอดเล่า!”

“ขอบพระคุณท่านลุงสองขอรับ”  หลินเฮ่าลูบไหล่ตัวเองเบาๆพร้อมยิ้มขมๆออกมา

ส่วนผู้เฒ่าอีกคนที่อายุมากกว่าก็ส่งกล่องบางอย่างให้กับเขา ท่านลุงคนนี้กระแอมไอออกมาเบาๆอย่างอับอายเล็กน้อย “ข้าไม่ควรกล่าวเช่นนั้นก่อนหน้านี้  ข้า...ยังมิได้ลืมเลือนคำพูดของตัวเอง หากแต่ไม่มีประโยชน์ใดที่จะกล่าวถึงในเวลานี้ ข้าอยากให้เจ้ารับเอาแก่นสายฟ้าของมังกรพายุหมื่นปีนี้ไว้ ในสถานการณ์ปัจจุบัน นี่นับเป็นโชคดีที่เจ้าควรรักษาไว้”

กล่าวเพียงครึ่งประโยค ตาเฒ่าผู้นี้ก็ไม่สามารถจะพูดต่อได้ เขากระแอมออกมาอีกครั้งพร้อมทุบเข้าที่หน้าอกของหลินเฮ่า

“หลินเฮ่า! ดูเหมือนร่างกายเจ้าจะยังอ่อนแออยู่บ้าง ฮ่า! เมื่อคิดว่าเจ้าเป็นคนทำให้เซียนน้อยมาจุติในสกุลหลินเราแล้ว มาๆ พาข้าไปดูหน้าเจ้าตัวน้อยซวนเอ๋อเร็วเข้า!”

หลินเฮ่าถูหน้าอกตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ มองไปทางภรรยาของเขา ซวนยู่  แล้วทำได้เพียงปั้นยิ้มการค้าขึ้นมา “ท่านลุง ท่านค่อนข้างแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ได้โปรดอ่อนโยนกับหลานตัวน้อยด้วย”

“พูดอะไรของเจ้า! เด็กน้อยนี้คืออนาคตของทั้งตระกูลหลินเลยนะ!”

ตาเฒ่าสองคนนั้นถูมืออย่างตื่นเต้น แล้วรับเอาห่อผ้ามาอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

ในมือของอาวุโสร่างยักษ์มีห่อผ้าเล็กที่ยาวไม่พ้นฝ่ามือของด้วยซ้ำนิ่งอยู่ พวกเขารู้สึกกดดันพอสมควร แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็เคลื่อนที่ได้นุ่มนวลราวกับเหล่าดรุณีน้อย หากแต่ก็ไม่กล้าจะเคลื่อนไหวมากเกินไป

“ดี ดียิ่ง! หลานปู่ของน้องสามคนนี้  ช่างน่าเสียดายที่น้องสามจำเป็นต้องไปทำภารกิจด้านนอก ไม่อาจได้พบเห็นช่วงเวลานี้   หากเจ้าสามกลับมา จงบอกแก่น้องสามว่าข้าเป็นคนแรกที่ได้กอดหลานน้อยคนนี้ วะฮะฮ่า!”  ตาแก่คนนี้ได้แต่หัวเราะออกมาดังๆ

ผู้เฒ่าที่อุ้มหลินซวนอยู่ ยืนนิ่งราวกับภูเขา  ความต่างของขนาดระหว่างหลินซวนตัวน้อยในห่อผ้ากับตาเฒ่าคนนี้ช่างมากมายยิ่งนัก  แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาอันอ่อนโยนของผู้อาวุโสกว่า หลินซวนก็อดไม่ได้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นบางๆ   แต่ความอบอุ่นนี้กลับไม่ได้อยู่ยาวนานนัก

“วะฮ่า! เจ้าเซียนน้อยแซ่หลินของข้า!”

“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

“ดูดวงตาเล็กและจมูกกะจ้อยร่อยนั่นสิ ช่างสมเป็นคนสกุลหลิน!”

“มาๆ ให้ข้าได้เห็นว่าเขาตัวโตเพียงใด!”

หลังกล่าวจบ ตาเฒ่าผู้นี้ก็ขยับมือและเริ่มเปิดห่อผ้าอ้อมของหลินซวนทันที!

หลินซวนถึงกับหมดคำพูด  ดูเหมือนว่าตาแก่สองคนนี้จะเป็นพวกสติไม่ดีใช่หรือไม่?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด