ตอนที่แล้วร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 18 บอนไซธรรมดา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 20 ข่าวของหลิวซิ่วเฟิง

ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 19 พืชวิญญาณ


กำลังโหลดไฟล์

ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 19 พืชวิญญาณ

ราวกับว่าองค์ชายสี่และผู้พิทักษ์ต้วนมู่ได้กลืนแมลงวันเข้าไปก็ว่าได้ พวกเขารู้สึกเหมือนจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของพวกเขา

“แม้แต่ความยิ่งใหญ่ของเขาก็อาจถูกสั่นคลอนถ้ามีคนอื่นเห็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ ปรมาจารย์ไวน์จิ่วไม่กลัวสายตาที่โลภมากของผู้ฝึกตนรึ? ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาไม่สามารถปกป้องร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ได้เมื่อเขาถูกปิดล้อมโดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจำนวนนับไม่ถ้วน” ผู้พิทักษ์ต้วนมู่ขมวดคิ้วหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกประทับใจเมื่อได้เห็นต้นมังกรต้นกำเนิดปฐพี มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่สามารถสงบสติอารมณ์ได้หลังจากเห็นสมบัติล้ำค่าดังกล่าว หากไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของเจ้าของร้าน เขาคงขโมยพืชวิญญาณนี้ไปนานแล้ว

“ผู้พิทักษ์ต้วนมู่ อย่าแม้แต่จะคิด ถึงมันอาจจะเป็นสมบัติที่หายาก แต่ก็ไม่คุ้มที่จะสร้างศัตรูกับปรมาจารย์ไวน์จิ่ว ท่านได้เห็นความแข็งแกร่งของเขาด้วยตัวเขาเองแล้ว ข้ายังสงสัยว่าแม้แต่ท่านพ่อจักรพรรดิก็ไม่อาจคู่ควรกับเขาด้วยซ้ำ” องค์ชายสี่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึมหลังจากเห็นดวงตาเป็นประกายของผู้พิทักษ์ชรา

หัวใจของผู้พิทักษ์ต้วนมู่เริ่มสั่นไหวหลังจากได้ยินคำพูดขององค์ชายสี่ แต่เขาก็ยังลังเลที่จะละทิ้งต้นมังกรกำเนิดปฐพีอยู่ดี เพียงแค่ผลไม้มังกรกำเนิดปฐพีที่ได้ผลิดอกออกผลมานั้นก็เทียบเท่ากับการบ่มเพาะมาหลายทศวรรษแล้ว เนื่องจากมันสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดสามารถบุกทะลวงไปสู่ขอบเขตต่อไปได้ทันที

ผู้พิทักษ์ต้วนมู่ทำใจแข็งและลุกขึ้นจากที่นั่ง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถขโมยพืชวิญญาณได้ แต่เขาก็ยังสามารถทำการค้ากับปรมาจารย์ไวน์จิ่วได้ หรือบางทีเขาอาจคิดไปเอง...

องค์ชายสี่ส่ายหัวหลังจากเห็นผู้พิทักษ์ต้วนมู่ได้ลุกขึ้นจากที่นั่ง แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนใจของชายชราได้

ด้วยระดับการฝึกตนในปัจจุบันของจิ่วเซินนั้นไม่มีปัญหาสำหรับเขาที่จะได้ยินการสนทนาเงียบ ๆ ระหว่างชายสองคน แต่เขาไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นเพียงมดตัวเล็ก ๆ เมื่อยู่ในสายตาของเขา

แม้จะหลับตา เขาก็รู้สึกได้ว่าผู้พิทักษ์ต้วนมู่กำลังเดินเข้ามาหาเขา ใบหน้าชราของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังราวกับว่าเขากำลังจะเจอข่าวร้าย เขาได้เปิดปาก แต่ก่อนที่เขาจะพูดได้ จิ่วเซินก็ยกมือขวาขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ “เก็บลมหายใจของเจ้าไว้เถอะ พืชวิญญาณนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อขาย และข้าก็ไม่มีแผนที่จะแลกเปลี่ยนมันกับอย่างอื่น”

คำพูดของผู้พิทักษ์ต้วนมู่ได้ติดอยู่ในลำคอของเขา เขายังไม่มีโอกาสได้พูดเลยด้วยซ้ำ แต่กลับโดนจิ่วเซินปฏิเสธไปก่อนแล้ว ‘เขารู้ความตั้งใจของข้าได้ยังไง? อย่าบอกข้าว่าเขาสามารถได้ยินการสนทนาของเราได้ แม้ว่าข้าจะทำการปิดกั้นเสียงในรัศมีสองเมตรระหว่างข้ากับองค์ชายสี่ไปแล้วงั้นรึ?’

“ชายชรา หากเจ้าต้องการสั่งอะไรก็สามารถสั่งได้เลย ถ้าไม่เช่นนั้นก็ขอลาก่อน ร้านข้าไม่อนุญาตให้คนเดินเตร็ดเตร่ไปมาอย่างอิสระ” จิ่วเซินโบกมืออย่างใจร้อนโดยที่ดวงตาของเขายังคงปิดแน่นอยู่เช่นเดิม

ผู้พิทักษ์ต้วนมู่กำลังจะพูดขึ้นอีกครั้ง แต่มีมือหนึ่งได้จับไหล่เขาไว้แน่น เมื่อเขาหันกลับมา เขาเห็นองค์ชายสี่ได้ส่ายศีรษะหลังจากถอนหายใจเบา ๆ “เราขอโทษที่รบกวนท่านปรมาจารย์ไวน์จิ่ว และข้างต้องการสั่งไวน์ใหม่ที่ได้เพิ่มมาในวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานไวน์นั้นยังไม่สามารถให้บริการได้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถลิ้มรสมันได้ ข้าสงสัยว่าตอนนี้ท่านมีไวน์นั่นอยู่ไหม ปรมาจารย์ไวน์จิ่ว...”

ในที่สุดจิ่วเซินก็ลืมตาขึ้น จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่องค์ชายสี่ด้วยใบหน้าที่ซุกซนและพยักหน้าช้า ๆ “ที่จริงแล้วเจ้าสามารถสั่งไวน์นั้นได้ในตอนนี้ แต่ข้าต้องขอเตือนเจ้าก่อน ชายชราจะไม่เป็นไรแม้ว่าเขาจะดื่มไวน์ไปทั้งขวด แต่สำหรับเจ้า… ตอนนี้เจ้าดื่มได้เพียงแก้วเดียวเท่านั้น หากมากกว่านั้น...” จิ่วเซินไม่ได้พูดต่อ แต่เขากลับส่งรอยยิ้มแปลก ๆ ให้องค์ชายสี่เป็นครั้งที่สอง

องค์ชายสี่คิดว่าเขากำลังประสาทหลอน เนื่องจากเขาเห็นจิ่วเซินได้ยิ้มออกมาอย่างแน่นอน เขารู้สึกว่าขนทั้งหมดบนร่างกายของเขาได้ชูชันขึ้นในขณะที่เขาพึมพำคำพูดของจิ่วเซินอยู่ภายในใจ ‘แค่แก้วเดียว แค่แก้วเดียว แค่แก้วเดียว’

แน่นอน เขารู้ว่าจิ่วเซินหมายถึงอะไร เมื่อวานนี้เขาก็ได้ประสบกับสิ่งเดียวกันเมื่อจุดตันเถียนของเขาเต็มไปด้วยแก่นแท้ที่แท้จริงหลังจากรับประทานอาหารโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ ‘หากไม่ใช่เพราะคำเตือนของจิ่วเซิน...’ องค์ชายสี่กำลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว แต่เขาก็ยังดูสงบนิ่ง

“ตกลง ปรมาจารย์ไวน์จิ่ว ข้าขอสั่งไวน์หนึ่งขวดให้เราหน่อย” องค์ชายสี่กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูผิดธรรมชาติ

จิ่วเซินพยักหน้าอย่างสงบและไปที่ห้องเก็บไวน์เพื่อหยิบไวน์ที่องค์ชายสี่สั่ง เขายังอยากเห็นปฏิกิริยาของพวกเขาเมื่อพวกเขาได้ชิมไวน์นี้ด้วยเช่นกัน

จิ่วเซินยิ้มและกวักมือขวาของเขา ไวน์ขวดหนึ่งได้ลอยออกมาจากชั้นวางและลอยอยู่ข้าง ๆ เขาอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเขาก็ก้าวออกจากห้องเก็บไวน์

“นี่คือคำขอของเจ้า ขอให้เพลิดเพลิน” จิ่วเซินวางขวดไวน์ลงบนโต๊ะเบา ๆ ก่อนที่เขาจะกลับไปนั่งที่ของเขา จากนั้นเขาก็หลับตาลงเช่นเคย แต่เขายังคงแอบสังเกตพวกเขาผ่านพลังวิญญาณของเขาเอง

นอกเหนือจากการบ่มเพาะแก่นแท้ที่แท้จริงแล้ว ผู้ฝึกตนยังสามารถเลือกที่จะบ่มเพาะพลังวิญญาณได้เช่นกัน แต่แน่นอนว่าการฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นยากกว่าการฝึกฝนแก่นแท้มากนัก

แก่นแท้ที่แท้จริงสามารถได้รับมาจากการกลั่นทรัพยากร เช่น พืชจิตวิญญาณ โอสถบ่มเพาะ และอื่น ๆ แต่การฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของผู้ฝึกตน ผู้ฝึกตนจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมโยงระหว่างชีพจรวิญญาณที่อยู่ในร่างกายของเขา และกระบวนการทั้งหมดนั้นท่าเจ็บปวดเสียจนหากใครได้ประสบกับประสบการณ์เช่นนี้ พวกเขาก็คงยินดีที่จะเลือกความตายมากกว่าที่จะประสบกับความเจ็บปวดนี้เสียอีก กล่าวอีกนัยหนึ่ง การฝึกพลังวิญญาณต้องการพลังใจที่สูงและความอดการทนต่อความเจ็บปวดที่เป็นเลิศ มีเพียงไม่กี่คนที่กล้าฝึกฝนพลังวิญญาณของพวกเขาเอง แต่เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จในการฝึกฝนให้ถึงระดับที่สูงขึ้นแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน พวกเขาจะได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนมากมาย

พลังวิญญาณนั้นยังขาดไม่ได้สำหรับปรมาจารย์ด้านการกลั่นโอสถ การฝึกสัตว์อสูร การหลอมอาวุธ การสร้างค่ายกล และอื่น ๆ เนื่องจากอาชีพเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้พลังวิญญาณทั้งสิ้น

ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญของอาชีพดังกล่าวจึงเป็นที่ต้องการของมหาอำนาจทั้งหมด

จิ่วเซินยังคงเฝ้ามองอย่างสงบและรอให้ชายทั้งสองได้ลิ้มรสน้ำค้างฤดูใบไม้ผลิในทะเลลึก เขากำลังมองไปยังองค์ชายสี่โดยเฉพาะ ‘หากไม่มีอะไรผิดพลาด เด็กคนนี้คงจะทะลวงไปสู่ขอบเขตที่ 5 ระดับวิญญาณ’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด