ตอนที่แล้วร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 17 เผาให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 19 พืชวิญญาณ

ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 18 บอนไซธรรมดา


กำลังโหลดไฟล์

ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 18 บอนไซธรรมดา

“ผู้เชี่ยวชาญระดับกลางหลายคนได้เสียชีวิตง่ายเช่นนั้นเลยรึ แม้แต่มู่เซิงซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตที่ 5 ระดับวิญญาณขั้นสูงสุดก็ยังเสียชีวิตโดยไม่สามารถตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย...” หัวหน้าสการ์พึมพำออกมาด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่า ส่วนหลิวซิ่วเฟิงและทหารรับจ้างคนอื่น ๆ พวกเขากำลังจ้องมองธีอาอย่างหวาดกลัว

“คุณชาย นี่คือไวน์เอเบิลส์ บล็องก์ของท่าน ขอให้เพลิดเพลิน!” เฮสเทียยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนขณะที่เธอวางขวดไวน์สองขวดไว้ข้างหน้าหลิวซิ่วเฟิงอย่างระมัดระวัง จากนั้นเธอก็เหลือบไปมองที่สการ์และคนอื่น ๆ และถามขึ้นด้วยรอยยิ้มอันแสนหวาน “สวัสดี คุณชายต้องการสั่งอะไรหรือไม่”

ความรู้สึกกลัวของหัวหน้าสการ์และคนอื่น ๆ ได้ลดลงเล็กน้อยหลังจากที่พวกเขาได้เห็นรอยยิ้มอันสดใสของเฮสเทีย แต่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดลามกอนาจารกับเธอ ใครจะไปรู้ว่าเธออาจเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แฝงตัวอยู่ในร้านนี้ด้วยเช่นกัน? หากเป็นเช่นนั้น พวกเขาอาจตายไปโดยไร้ที่ฝังศพจริง ๆ

“ข้าขอ กุ้งเทมปุระทอดจุ่มพริกอสรพิษแมกม่าหนึ่งจานและไวน์เอเบิลส์ บล็องก์อีกสองขวด” หัวหน้าสการ์พูดออกมาอย่างแข็งทื่อพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างผิดธรรมชาติ ฉากก่อนหน้านี้ยังฉายอยู่ภายในใจของเขา และเขาอาจต้องใช้เวลานานเพื่อที่เขาจะสามารถลืมฉากเหล่านั้นได้

ทหารรับจ้างที่เหลือยังคงสั่งอาหารด้วยสีหน้าที่แข็งทื่อราวกับท่อนไม้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองไปยังส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของเฮสเทียด้วยซ้ำ เนื่องจากเกรงว่าพวกเขาอาจจะเป็นคนต่อไปที่จะถูกแผดเผาจนตายเช่นนั้น เมื่อนึกถึงความตายอันน่าสยดสยองของมู่เซิงและลูกน้องของเขา พวกเขาทั้งหมดต่างรู้สึกสั่นสะท้านอยู่ในใจ

แม้ว่ามู่เซิงและลูกน้องของเขาอาจจะชอบดูถูกเหยียดหยามคนอื่นก็ตาม แต่คนเหล่านั้นก็ยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มทหารรับจ้างชั้นยอด การที่ได้เห็นพวกเขาตายไปอย่างง่ายดายเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป

“คุณชายต้องการอะไรอีกหรือไม่” เฮสเทียถามด้วยรอยยิ้มที่สดใส

หัวหน้าสการ์และคนอื่น ๆ ส่ายหัว

หลังจากได้คำตอบแล้ว เฮสเทียก็ดำเนินตามคำขอพวกเขา

“เฮสเทีย เจ้าไปทำอาหาร ข้าจะไปเอาไวน์เอง” จิ่วเซินลุกขึ้นจากที่นั่งและพูดขึ้นอย่างสงบ

“รับทราบ นายท่าน” เฮสเทียก้มศีรษะและเดินไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหาร ขณะที่จิ่วเซินเข้าไปในห้องเก็บไวน์

ไม่กี่นาทีต่อมา จิ่วเซินก็ได้เดินออกมาจากห้องเก็บไวน์พร้อมกับไวน์จำนวนมากกว่าหนึ่งโหลที่กำลังลอยอยู่รอบตัวเขา จากนั้นเขาก็ควบคุมไวน์อย่างชำนาญให้ไวน์เหล่านั้นลอยลงไปบนโต๊ะของหัวหน้าสการ์ “นี่คือคำขอของเจ้า”

หลังจากที่ได้เห็นไวน์ของพวกเขา ดวงตาของพวกเขาก็สว่างขึ้นทันใด พวกเขาลืมแม้กระทั่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ราวกับว่ามันเป็นเพียงความทรงจำที่ไม่สำคัญ

กลิ่นไวน์ทุกประเภทได้ฟุ้งไปทั่วร้านในขณะที่ทหารรับจ้างได้เปิดขวดไวน์อย่างรีบร้อน

“ไวน์ของปรมาจารย์จิ่วยังคงเป็นไวน์ที่ดีที่สุดเช่นเคย!”

“เห็นด้วย! ไวน์เอเบิลส์ บล็องก์ได้ช่วยข้าละลวงผ่านขอบเขตย่อยเมื่อวานนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ !”

“หากไวน์ที่มีราคา 5 ทรูคริสตัลยังมีผลกระทบเช่นนี้ แล้วไวน์ที่มีราคา 120 ทรูคริสตัลจะสุดยอดขนาดไหนกัน?”

“เจ้าหมายถึงไวน์ใหม่นั่นรึ ว่าแต่ไวน์นั่นมีชื่อว่าอะไรแล้วรึ?”

“ข้าจำได้ว่าไวน์นั้นเรียกว่าน้ำค้างฤดูใบไม้ผลิในทะเลลึก”

พวกทหารรับจ้างต่างพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวาในขณะที่ดื่มไวน์ของพวกเขาอย่างมีความสุข

ริมฝีปากของจิ่วเซินโค้งเล็กน้อยหลังจากได้ยินการสนทนาของพวกเขา จากนั้นเขาก็หลับตาลงและทำสมาธิ ความแข็งแกร่งของเขาได้ลดลงอย่างมากหลังจากที่เขาได้กลับชาติมาเกิดในโลกใหม่นี้ ในช่วงรุ่งโรจน์ของเขา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทพสวรรค์ชั้นยอดที่มีความแข็งแกร่งเป็นรองแค่จักรพรรดิสวรรค์ทั้งสามคนเท่านั้น แต่ตอนนี้ เขาเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่อยู่ในขอบเขตที่ 9 ระดับนักบุญขั้นต้น เขายังมีหนทางอีกยาวไกลก่อนที่เขาจะฟื้นความแข็งแกร่งในอดีตของเขากลับมาได้ ส่วนนานแค่ไหนนั้น... อาจจะเป็นร้อยปี หมื่นปี หรือล้านปีก็ได้ ก็ไม่มีใครรู้...

- ติ๊ง!

- ในฐานะที่โฮสต์จะกลายเป็นเทพไวน์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในอนาคต ท่านจะต้องไม่ถูกรบกวนจากความคับข้องใจจากอดีตของท่าน การที่มีหัวใจที่สงบแม้จะอยู่ภายใต้การต่อสู้เท่านั้นจึงจะสามารถทำให้การฝึกฝนสามารถก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดได้

จิ่วเซินตั้งใจฟังเสียงเคร่งขรึมของระบบ แม้ว่าระบบจะบังคับให้เขาหมักไวน์ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ระบบนี้ก็ยังมอบอาวุธศักดิ์สิทธิ์อันล้ำค่าให้แก่เขา ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่พอใจกับระบบเล็กน้อย แต่เขาก็ยังรู้สึกขอบคุณต่อระบบนี้อย่างเหลือล้น

หนึ่งชั่วโมงต่อมา องค์ชายสี่และผู้พิทักษ์ต้วนมู่ได้เข้ามาในร้านด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง พวกเขาประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของร้านในชั่วข้ามคืน

“นี่... ทำไมพื้นที่ในร้านถึงใหญ่กว่าข้างนอกถึงห้าเท่า เป็นไปได้ไหมว่าปรมาจารย์ไวน์จิ่วสามารถควบคุมเคล็ดวิชาห้วงมิติอันลึกลับได้” ผู้พิทักษ์ต้วนมู่พึมพำด้วยอารมณ์ที่เหลือเชื่อ

องค์ชายสี่ก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน แต่เขาก็สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็ว เขาบอกตัวเองว่าเขาจะไม่ทำตัวเป็นคนโง่เขลาเมื่ออยู่ในร้านนี้อีก

จากนั้นพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เด่นชัดหลังจากเดินเข้ามาในร้าน ชายทั้งสองคนต่างขมวดคิ้วและเหลือบมองไปที่ด้านข้าง พวกเขาเห็นสาวผมบลอนด์ที่มีความงามไร้ที่เปรียบกำลังจ้องมองพวกเขาอย่างเย็นชา

“สวัสดี แม่นาง ข้ามีนามว่าดันเต้ ท่านจะให้ข้าเรียกท่านว่าอย่างไรดี” องค์ชายสี่นั้นมีชื่อว่า ดันเต้ ซิลเวอเรีย เขาไม่ต้องการบอกนามสกุลของเขาให้นางทราบ เพราะนางอาจคิดว่าเขาพยายามใช้ชื่อของราชวงศ์เพื่อบังคับให้นางต้องยอมจำนน

ธีอาชำเลืองมองไปยังองค์ชายสี่อย่างเย็นชา แต่เธอไม่เห็นความอาฆาตพยาบาทใด ๆ จากสายตาของเขา สายตาของเธอได้อ่อนโยนลงเล็กน้อยและเธอก็ตอบเขาอย่างเฉยเมย “ธีอา”

“เป็นแม่นางธีอา ข้ารู้สึกยินดียิ่งนักที่วันนี้ข้าได้พบท่าน” องค์ชายสี่ยิ้มออกมาและป้องหมัด ขณะที่ธีอาพยักหน้าตอบเพียงเล็กน้อย

หลังจากที่รู้ว่าเธอไม่สนใจจะคุยกับเขา เขาก็ยิ้มออกมาอย่างเขินอายก่อนจะโดนผู้พิทักษ์ต้วนมู่ลากตัวไป

“ฝ่าบาท ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ข้าไม่สามารถอ่านระดับการบ่มเพาะของแม่นางคนนั้นได้เลยแม้แต่น้อย แต่นางได้สร้างแรงกดดันที่ทรงอำนาจกว่าข้าเสียอีก ความแข็งแกร่งของนางควรจะเทียบเท่ากับท่านจักรพรรดิหรือแม้กระทั่งเหนือกว่าด้วยซ้ำ” ผู้พิทักษ์ต้วนมู่กระซิบบอกองค์ชายสี่อย่างเงียบ ๆ

ผู้พิทักษ์ต้วนมู่ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าองค์ชายสี่ยังคงเหม่อลอย เขาเหลือบมองไปที่องค์ชายสี่และเห็นว่าเขากำลังมองไปในทิศทางหนึ่ง เขาจึงได้มองตามและใบหน้าที่แก่ชราของเขาก็ได้หยุดนิ่งเช่นกัน ชายสองคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างดูราวกับขอนไม้ที่มีดวงตาเบิกกว้างและกำลังอ้าปากค้าง

“ต้นไม้นั่น... มันคล้ายกับต้นไม้ที่ข้าเคยอ่านเจอจากหนังสือโบราณ นั่นมัน...” องค์ชายสี่พึมพำด้วยเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย

“นั่น... นั่นคือต้นไม้มังกรกำเนิดปฐพีระดับ 9 จริง ๆ พืชล้ำค่าเช่นนี้มาอยู่ในร้านแห่งนี้ได้อย่างไร ไม่คาดคิดว่ากลับมีถึงสี่ต้น… ว่ากันว่าสมบัติสวรรค์ที่หายากเช่นนี้เป็นเพียงสมบัติล้ำค่าจากสวรรค์เท่านั้น แต่ต้นไม้เหล่านี้เป็นได้เพียงแค่บอนไซธรรมดาเมื่ออยู่ต่อหน้าปรมาจารย์ไวน์จิ่ว ข้าไม่รู้ว่าควรพูดเช่นไรดี...” ผู้พิทักษ์ต้วนมู่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด