ตอนที่แล้วตอนที่ 92 ชาวเน็ตตั้งฉายาให้ว่ากงกง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 94 ยืมเงินกลับหมู่บ้านกลายเป็นเรื่องใหญ่

ตอนที่ 93 คิดว่าเย่เทียนคนนี้เป็นใครกัน


กำลังโหลดไฟล์

“พวกคุณ...”

เย่เทียนนอนอยู่ทั้งวันตื่นขึ้นอีกทีก็ปาเข้าไปตอน 3 ทุ่มแล้ว

ทันทีที่ลืมตาเขาก็เห็นฉากแปลกๆตรงหน้า

ชายแปลกหน้าสวมเสื้อผ้าขาดๆคุกเข่าอยู่บนพรม

หญิงสาวพราวเสน่ห์ที่เหมือนสาวใช้โบราณกำลังใช้พัดพัดให้เขาอยู่ด้านหลัง

และผางเหว่ยที่ฟื้นตัวอย่างอัศจรรย์หลังกินยากำลังจับตาดู'หญิงสาวตัวน้อย'ที่นำโดย'ขันทีซ่าง'ในขณะที่เล่นเกมโทรศัพท์อยู่

ผางเหว่ยกลัวว่าซ่างหรงจะใช้โอกาสนี้เอาเปรียบเย่เทียน

ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเย่เทียนแม้เล็กน้อย เกรงว่าต่อให้เขามีเก้าชีวิตก็คงไม่พอชดใช้

เมื่อผางเหว่ยได้ยินเสียงเย่เทียน เขาก็ปิดเกมในโทรศัพท์และเดินไปหาเย่เทียนที่พึ่งตื่นทันที “พี่เย่ตื่นแล้วเหรอ หลับสบายดีไหม ดื่มน้ำสักแก้วก่อนนะ แล้วก็เหล่าฉินชวนไปกินข้าวที่บ้านด้วย”

หลังเหล่าฉินเจอเหตุการณ์คาดไม่ถึง เขาก็ได้เรียนรู้อยู่ร่วมกับคนdมากขึ้น

ไม่ว่าเขาจะเชิญเย่เทียนไปทานอาหารเย็นที่บ้านด้วยความบังเอิญหรือเปล่า

แต่อย่างน้อยจากมุมมองของผางเหว่ย ฉินเยี่ยนได้เปลี่ยนตัวเองครั้งใหญ่ตั้งแต่เขาได้เจอเย่เทียน

ถ้าเป็นในอดีตเขาและทุกคนต่างมีกลอุบายกันมากมาย ใครก็ตามที่มีอยู่หน้าฉินเยี่ยนเขาคนนั้นจะโดนวิเคราะห์ภายในกี่วินา แต่ดูสิว่าวันนี้ฉินเยี่ยนจริงใจแค่ไหน?

“ผางเหว่ย นายกำลังทำอะไรอยู่ สองคนนี้เป็นใครทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?” เย่เทียนเอามือก่ายหน้าผากแล้วมองชายแปลกหน้าที่คุกเข่าด้วยความประหลาดใจ “ตอนนี้สังคมของเราต่างเป็นคนมีอารยะแล้ว ฉันไม่ชอบให้มาทำแบบนี้”

เย่เทียนคว้าพัดจากมือของหญิงสาว “พอได้แล้วล่ะ”

แต่หลังจากที่เย่เทียนพูดจบ ซ่างหรงกับแมรี่ก็ไม่กล้าทำอะไรและมองผางเหว่ยที่อยู่ข้างๆ

“แค่กๆ พี่เย่บอกให้ลุกแล้วยังไม่ลุกอีก พวกนายหูหนวกแล้วยังไม่เข้าใจภาษาคนด้วยหรือไง” ผางเหว่ยแตะจมูกของเขาและให้ซ่างหรงฟังคำสั่งเย่เทียน

ด้วยคำสั่งที่ซ่างหรงได้รับล่าสุด เขาได้คุกเข่าอยู่หนึ่งวันซึ่งขาของเขาไม่ได้ขยับนานเกินไปทำให้ขาชาจนยืนขึ้นไม่ได้ เขาพยายามอยู่หลายครั้งจนเหงื่อเย็นไหลออกมาที่หน้าผากแต่เขาก็ยังยืนไม่ได้

สุดท้ายเย่เทียนที่ดูอยู่ก็ต้องลุกจากโซฟาไปช่วยผยุงเขาขึ้นและปล่อยให้เขานั่งบนโซฟาเดี่ยวสำหรับแขก

พอแมรี่รู้ว่าในที่สุดเธอสามารถหยุดพัดได้แล้ว เธอก็ถอนหายใจแล้วนวดข้อมือเงียบๆเพื่อไม่ให้เจ็บข้อมือมากนัก

“สวัสดี ผมคือซ่างหรงอดีตผู้จัดการบริษัทฮั่วเหยาสาขาไห่จิงและนี่คือเลขาของผมแมรี่ วันนี้เรามาที่นี่เพื่อขอให้คุณเย่ไว้ชีวิตพวกเราและปล่อยให้พวกเรามีชีวิตอยู่” ซางหรงกล่าว โทร ไอ้เลว.

หลังจากฟังการแนะนำตัวเองที่เรียบง่ายและชัดเจนของซ่างหรง ท่าทางของเย่เทียนก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก “ฉันรู้แล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ ถ้าผู้จัดการซ่างเต็มใจก็สามารถไปที่บริษัทต้าเฟิงในวันพรุ่งนี้ได้หรือไม่ก็ไปที่บริษัทต้าฉิน ส่วนจะได้งานไหมไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉัน”

เย่เทียนไม่ได้เสียใจกับการมาไปธนาคารใหญ่ 5 แห่งในตอนเช้า เนื่องจากเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้วเรามาดูกันว่ามีวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมหรือไม่

คนอย่างซ่างหรงที่มีความทะเยอทะยานและต้องการกลืนบริษัทอื่นด้วยกลอุบาย เขาไม่ชอบคนแบบนี้แม้แต่น้อย

แต่พอเห็นว่าเขาจงรักภักดีต่อบริษัทฮั่วเหยาถึงขั้นยอมคุกเข่างอ้อนวอนเพื่อขอการให้อภัยและขอทางออกให้บริษัทฮั่วเหยา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เย่เทียนต้องการให้เขามาอยู่ในบริษัทต้าเฟิงหรือบริษัทต้าฉิน อย่างน้อยความสามารถในการทำงานของเขาก็แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้ว

“แต่ว่า...”

“ผู้จัดการซ่างไม่ต้องรีบตอบตอนนี้ ลองเอากลับไปคิดดูก่อน” หลังจากเย่เทียนดื่มน้ำเย็นที่ผางเหว่ยมอบให้เสร็จ เขาก็กำลังจะออกจากห้องและไปวิลล่าของฉินเยี่ยนเพื่อกินอาหารเย็น

“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนค่ะคุณเย่ ฉัน...ฉันขออยู่ที่นี่กับคุณสักครู่ได้ไหม” เมื่อเห็นเย่เทียนกำลังจะออกจากวิลล่า เลขาสาวเจ้าเสน่ห์แมรี่ก็ได้รับสายตาเตือนจากซ่างหรง หลังจากได้รับการเตือนเธอก็รีบวิ่งไปจับมือเย่เทียนทันที

หมายความว่าไง?

เธอพยายามจะทำอะไร?

อยากนอนกับเขา?

เธอคิดว่าเย่เทียนเป็นใครกัน?

เย่เทียนสะบัดมือของแมรี่อย่างไม่ใยดีและมองดูเธอด้วยหน้าตลกๆ “ฉันหิวมาทั้งวันแล้ว ถ้าเธอไม่รังเกียจเธอสามารถไปกินข้าวเย็นที่บ้านเหล่าฉินกับฉันได้”

แน่นอนว่าหลังมื้อเย็นจบเย่เทียนต้องให้คนไปส่งแมรี่กลับบ้าน

“ขอบคุณค่ะคุณเย่” แมรี่ไม่คิดว่าเย่เทียนจะเห็นด้วยในทันทีแบบนี้ เธอจึงตกอยู่ในความสับสน

แต่เนื่องจากทุกคนอยู่ที่นี่เธอจึงทำได้แค่ทำไปที่ละขั้นเท่านั้น เมื่อมองที่ซ่างหรงก็เห็นว่าเขาตามเย่เทียนไปกินข้าวที่วิลล่าของฉินเยี่ยนด้วยเหมือนกัน

“อะไรกัน? ผู้จัดการซ่างอยากไปกินข้าวเย็นที่วิลล่าเหล่าฉินด้วยเหรอ?” ผางเหว่ยกับเย่เทียนเดินนำเลขาเจ้าเสน่ห์ลงไปชั้นล่างก่อน ผางเหว่ยจ้องซ่างหรงด้วยความโกรธที่เขาไม่ยอมออกไปจากห้อง เขาเยาะเย้ยซ่างหรงอย่างไม่ปิดบังสักนิด

ซ่างหรงที่ถูกผางเหว่ยเยาะเย้ยลุกจากโซฟาด้วยตัวที่สั่นเทาก่อนเดินออกจากห้องแล้วลงไปชั้นล่าง เขาออกไปนอกวิลล่าแล้วขับแลมโบกินี่จากไป

เมื่อซ่างหรงขับรถออกไป นักข่าวธุรกิจการบันเทิงรวมถึงเน็ตไอดอลหลายคนที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่นอกประตูทางเข้าหลักอ่าวอิมพีเรียลก็รนีบวิ่งเข้ามา หลังจากวุ่นวายไปเกือยชั่วโมงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดในห้องรักษาความปลอดภัยของอ่าวอิมพีเรีบลถึงกลับมาได้

เย่เทียนพาแมรี่กับผางเหว่ยขึ้นรถของชุมชุนไปที่วิลล่าที่ฉินเยี่ยนอาศัยอยู่ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า A1และB1 มาก เขาพบว่าฉินเยี่ยนกำลังรอเขาอยู่ที่หน้าประตู

“คุณเย่มาแล้ว เชิญเข้ามาเลย” ฉินเยี่ยนเหลือบมองเลขาสาวเจ้าเสน่ห์ที่ตามเย่เทียนมาด้วยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและบอกแม่บ้านหลิวให้เริ่มทานอาหารเย็น

พอเห็นว่าฉินเยี่ยนเป็นคนเดียวที่รอพวกเขาอยู่ที่ประตู เย่เทียนจึงถามหาหลิวหรุเยียนกับเจียงเซิ่งเฟิงโดยไม่รู้ตัว “ทำไมนายอยู่คนเดียวล่ะ แล้วคนอื่นไปไหน?”

“ประธานหลิวรีบกลับไปบริษัทต้าเฟิงเพื่อจัดการซื้อบริษัทฮั่วเหยา คุณเจียงได้รับสายจากโรงพยาบาลเรื่องคุณพ่อเขาประมาณบ่ายสองโมงเขาจึงรีบไปโรงพยาบาล เมื่อทั้งสองจากไปพวกเขาให้ฉันบอกเรื่องนี้ตอนคุณเย่ด้วย ส่วนโหยวฉินเสี่ยวเหยากับสาวๆอีก4คนไปฝึกร้องเพลงกับฝึกเต้นหลังอาหารเย็น”

“เอาล่ะ ทุกคนคงหิวกันแล้ว มากินข้าวกันเถอะ” เย่เทียนเรียกให้คนที่อยู่มาดกินข้าวด้วยกัน ด้วยการที่เขาหลับทั้งวันจึงทำให้ท้องของเขาร้องด้วยความหิว

ใน๘ระที่เย่เทียนไปกินอาหารเย็นที่วิลล่าฉินเยี่ยน พ่อแม่ของของเย่เทียนที่กำลังดูทีวีอยู่ในวิลล่าA1ก็ได้รับสายจากหมู่บ้านหยิ่นหลงตามพวกเขาให้กลับมาที่หมู่บ้าน...