ตอนที่แล้วตอนที่ 93 คิดว่าเย่เทียนคนนี้เป็นใครกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 95 คนเจ้าปัญหา

ตอนที่ 94 ยืมเงินกลับหมู่บ้านกลายเป็นเรื่องใหญ่


กำลังโหลดไฟล์

เมื่อคิดถึงสายโทรเข้าเมื่อคืนที่เรียกคู่สามีภรรยากลับไปหมู่บ้านเพื่อหารือเรื่องการบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษครั้งใหญ่ พ่อแม่ของของเย่เทียนก็กังวลกันจนไม่ได้นอนทั้งคืน

ไม่นานก็ถึงยามเช้า

เดิมทีเธอยากถามลูกชายเธอว่าเขาหาเงินได้ง่ายไหม ถ้าเขามีเงินเหลือสักสองสามพันพวกเขาจะได้มีคําตอบดีๆเมื่อกลับไปหมู่บ้าน

หลังจบปัญหาใหญ่ครั้งนั้นทำไมพวกเขาถึงออกจากหมู่บ้าน?

มีพ่อบ้านชุดดำที่ไม่พูดมากแต่ก็ยังหัวเราะได้ ขับรถลีมูซีนของเจ้านายลูกชายมารับคู่สามีภรรยาสูงอายุไปอาศัยอยู่ในเมือง

แม้พวกเขาจะรู้ว่านี่เป็นรถของเจ้านายลูกชาย แต่พวกเขาก็ยังจมอยู่ในรุ่งเรืองของลูกชายและเข้ามาอาศัยในวิลล่าระดับไฮเอนด์ที่สวยงามของเมืองนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้านายของลูกชายที่เห็นคุณค่าในตัวเขาจึงทำให้พวกเขาสามารถเข้ามาอยู่ที่นี่ได้

แต่ถ้าจำไม่ผิดด้วยการไปเฉี่ยวรถใหม่ของคนอื่นที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ลูกชายจึงเสียเงินฝากทั้งหมด20,000 หยวนที่เก็บได้จากการตื่นเช้าไปขายเครปทุกวัน แล้วเงินที่เหลือไปไหนหมด?

เงินที่พวกเขาทำงานด้วยความยากลำบากใช้ไปกับการรักษาโรคร้ายของแม่เย่เทียน

ปัจจุบันพวกเขามีเงินไม่ถึง 500 หยวนด้วยซ้ำ

ถ้าทั้งคู่กลับไปที่หมู่บ้านด้วยมือเปล่าเกรงว่าพวกเขาจะถูกด่าจนตายหรือไม่ก็โดนลอบนินทาเรื่องมีเงินนั่งรถลีมูซีนเข้าไปอยู่ในเมืองแต่ไม่มีเงินบริจาคบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษของหมู่บ้าน

“ตาเฒ่า เรามีเงินเหลืออยู่แค่469 หยวน ตอนกลับไปหมู่บ้านเราจะอธิบายให้พวกชาวบ้านฟังยังไงดี? หรือให้เสี่ยวเทียนไปถามเพื่อนเขาก่อนดีไหม วันก่อนฉันเห็นเขาพาสาวสวยมารยาทดีกลับมาด้วย ไม่อย่างนั้น...” แม่เย่ไอด้วยความกังวล

เธอเคยป่วยกะทันหันจนต้องเข้าผ่าตัดครั้งใหญ่มาก่อน ตอนนี้เธอยังอยู่ในระยะพักฟื้นและฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า ดังนั้นเธอจะทนอดนอนทั้งคืนได้ยังไง?

แม้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไรแต่ก็รู้สึกอึดอัดอยู่ดี สุดท้ายเธอก็ไม่เห็นทางเลือกอื่นนอกจากสาวสวยแต่งตัวดีที่เย่เทียนพากลับมาก่อนหน้านี้

อย่างน้อยก็ค่อยมาคุยกันหลังผ่านปัญหาใหญ่ของเธอไปก่อน

ปัญหาใหญ่ที่ว่าคือเมื่อเธออาการดีขึ้นจนสามารถปลูกพืชผลขายหาเงินได้ เธอจะจ่ายคืนให้ทันที

แต่ก่อนที่แม่เย่เทียนจะพูดจบพ่อเย่เทียนที่เคยชินกับความเป็นลูกผู้ชายก็ปฏิเสธทันที “ไม่ได้ เธอสับสนอยู่หรือไงยายเฒ่า ต่อให้ตาแก่คนนี้ต้องไปเป็นขอทานแต่ฉันไม่สามารถอ้าปากขอยืมเงินจากผู้หญิงหรอกนะ ถ้าเรื่องนี้กระจายออกไปมันคงไม่เป็นปัญหาของเราทั้งคู่ที่ต้องไปตั้งหลักในหมู่บ้าน แต่การแต่งงานในอนาคตของเสี่ยวเทียนเกรงว่าจะย่อยยับน่ะสิ ในหมู่บ้านเราจะมีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งงานกับผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินบ้าง?”

เมื่อแม่เย่เทียนคิดเรื่องในอนาคตของลูกชายตัวน้อยเธอจะกล้าทำต่อได้ยังไง เธอกลืนน้ำลายแล้วปล่อยให้ชายชราตัดสินใจ

“ฉันว่าอากวงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเสี่ยวเทียนของเรา พอเกิดเรื่องอะไรขึ้นเขาจะเป็นคนไปบอกเสี่ยวเทียนทุกครั้ง ฉันเห็นแบบนี้มาสองสามครั้งแล้ว อากวงไม่ได้ทำอะไรนอกจากทำตามคำสั่งของเสี่ยวเทียน...หรือจะไปถามอากวงดูว่าเขามีเงินพอให้เรายืมไหมแล้วพอกลับหมู่บ้านค่อยไปจัดการเรื่องบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษ ถ้าเป็นเรื่องใหญ่จริงๆเราค่อยขายที่ดินหลังบ้านให้แม่ม่ายจางในราคาถูกแล้วค่อยเอาเงินไปคืนอากวง”

พ่อเย่เทียนพูดหลายครั้งว่าอากวงปฏิบัติตามคำสั่งของเย่เทียนโดยตรง ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการยืมเงินอากวงได้

หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนสุดท้ายเธอก็พยักหน้า ชายชราเสมือนทำเรื่องใหญ่สำเร็จเขาจึงเดินไปหาอากวง

เธอเอาแต่โทษตัวเองอยู่ในใจ

มันเป็นความผิดของเธอเองที่ร่างกายแย่ลง

ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องป่วยอยู่ดี แต่เธอมาล้มป่วยกะทันหันตอนที่เสี่ยวเทียนพึ่งเรียนจบ

การผ่าตัดครั้งนี้ไม่ใช่แค่ใช้เงินเก็บทั้งหมดของครอบครัวแต่ยังต้องยืมเงินจากญาติ เพื่อนฝูงและเพื่อนบ้านด้วย

ในตอนนั้นยังขาดเงินมากกว่า 100,000 หยวน

แต่ในที่สุดเสี่ยวเทียนก็มีงานมีเงินและได้เจอเจ้านายใจดี

เขาไม่เพียงให้ยืมเงิน 150,000 หยวนเพื่อช่วยเสี่ยวเทียน แต่ยังให้เสี่ยวเทียนเข้ามาอาศัยในบ้านที่หรูหราแบบนี้ด้วย

แม้ปกติจะไม่เห็นพวกเขางานยุ่งหรือแค่ไปขับรถไปส่งเจ้านาย แต่เธอก็มักเข้าไปช่วยงานอากวงกับเหล่าแม่บ้านบ้าง

ถ้าเสี่ยวเทียนไม่ได้ทำงานหนักมากเขาก็จะออกไปขายเครปเพื่อหารายได้เพิ่มให้พวกเขา

ผ่านไปไม่กี่นาทีพ่อเย่ก็กลับมาพร้อมเงินในมือ “ยายเฒ่า เธอคิดว่าเราโชคดีและได้เจอคนดีๆบ้างไหม ฉันเพิ่งคุยกับอากวงมา ลองเดาดูสิว่าเขาทำอะไร เขากลับไปที่ห้องนอนแล้วให้ฉันยืม 5,000 หยวน ฉันบอกเขาว่าฉันจะคืนเงินให้ถ้าฉันกลับไปแล้วขายที่ดินให้แม่ม่ายจางได้ แต่เขาไม่ได้ตอบอะไรแล้วกับไปทำงานของตัวเอง เธอว่าเขาแปลกคนไหม?”

“อย่าห่วงเลยเขาไม่แปลกหรอก ยืมเงินได้แล้วก็รีบไปกันเถอะ ถ้าไปช้าเดี๋ยวพวกชาวบ้านก็บ่นกันอีก...”แม่เย่เร่งชายชราซ้ำแล้วซ้ำเล่า

การไปที่หมู่บ้านหยิ่นหลงด้วยการขี่สามล้อจากเมืองต้องใช้เวลามาก

เมื่อชายชราเบื่อกับการขี่ พวกเขาก็จะเข็นรถสามล้อเดินด้วยกันซักพักก่อนจะขี่กลับหมู่บ้าน

แม่เย่คิดไม่ออกเลยว่าในโลกนี้จะมีคนที่ชอบขับรถรูปทรงแปลกๆที่จอดอยู่ในโรงรถด้วย ทั้งต่ำทั้งเตี้ยแถมนั่งได่แค่สองคน ใช้งานได้ไม่ดีเท่ารถตู้เลย

เธอเคยเห็นคนในหมู่บ้านซื้อรถตู้มาก่อน ไม่ใช่แค่ช่วยครอบครัวขนปุ๋ยกับอาหารได้เท่านั้นแต่เวลาว่างยังขับรถไปส่งของได้ด้วย แม้จะหาเงินได้ไม่เร็วแต่ครอบครัวก็มีชีวิตที่ดีขึ้น ในหมู่บ้านก็มีคนพูดถึงและเวลาไปไหนก็มีแต่คนยกนิ้วโป้งให้

ไม่เหมือนเจ้านายโง่ๆของลูกชายฉันที่เอาแต่ซื้อรถหน้าตาแปลกๆเก็บไว้เยอะแยะ มีรถหลายคันพร้อมกันจะมีประโยชน์อะไร?

ก่อนหน้านี้เขายังส่งรถมาให้ทั้งคู่ขับด้วย แต่เธอไม่รู้วิธีขับรถเลยส่วนชายชราก็เคยขับแค่รถแทรกเตอร์ในหมู่บ้าน ซึ่งเขาขับรถหน้าตากแปลกๆที่จอดอยู่ในโรงรถไม่เป็น

นอกจากนี้พวกเขาเพิ่งออกมาข้างนอกเป็นครั้งที่สาม พวกเขาไม่รู้ว่าต้องรถประจำทางสายไหนและนั่งแท็กซี่ยังไง

สุดท้ายรถสามล้อที่มีตัวอักษรสีแดงสี่ตัว 'เย่เครปทำมือ' ก็ถูกเลือก

พ่อเย่บอกภรรยาให้นั่งรถสามล้อไปหมู่บ้านหยิ่นหลง

ในขณะที่พ่อบ้านกวงทำงาน แม่บ้านก็เตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว อากวงนึกได้ว่าเขาไม่เห็นพ่อแม่เย่มาสักพักหนึ่งแล้ว

แต่ก่อนคู่สามีภรรยาสูงวัยมักจะรีบเข้ามาช่วยงาน

เย่เทียนบอกพ่อแม่เขาอยู่หลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่สามารถห้ามพวกเขาได้ เขาจึงปล่อยให้คู่สามีภรรยาสูงอายุช่วยงานและหาอะไรให้พวกเขาทำแก้เบื่อตอนว่าง

แต่วันนี้มันผิดปกติจริงๆ ไม่ใช่แค่พ่อเย่แอบมาขอยืมเงินเขาห้าพันหยวนแต่ตอนนี้เขาไม่เห็นคู่สามีภรรยามากินอาหารเช้าด้วย อากวงจึงไปเคาะที่ประตูห้องของทั้งคู่

ก๊อกก๊อก

“พ่อเย่ แม่เย่ อาหารเช้าพร้อมแล้วนะครับ”

แต่เมื่ออากวงเคาะประตูกี่ครั้งก็ไม่มีใครในห้องตอบกลับ

อากวงจึงเปิดประตูตรวจสอบดูด้วยความเคารพ ทันทีที่เปิดประตูเขาก็เห็นผ้าห่มที่พับเก็บเรียบร้อยในห้อง จากนั้นเขาก็พูดด้วยเสียงเบาว่า “แย่แล้ว”

ทั้งคู่ออกไปแล้ว?

แล้วพวกเขาไปไหน?

หรือว่ามันจะเกี่ยวกับการยืมเงิน 5,000 หยวนก่อนหน้านี้?

มันจบแล้ว นี่เป็นการละเลยหน้าที่ในฐานะพ่อบ้านของเขา

ก่อนหน้านี้เย่เทียนได้เน้นย้ำให้พวกเขาดูแลพ่อแม่ของเขาอย่างดี โดยบอกว่าพ่อแม่ของเขาไม่ค่อยมาที่เมืองและถ้าพ่อแม่ของเขาไม่รู้จักสถานที่พวกเขาต้องขับรถไปส่งรถและส่งคนตามไป

นับตั้งแต่ผู้อาวุโสคนทั้งสองมาอาศัยในวิลล่าอ่าวอมพีเรียลที่มีการป้องกันอย่างเข้มงวด อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็แค่ไปเดินเล่นในสวนหรือในชุมชน และเขาไม่เคยเห็นพวกเขาออกไปไหน ดังนั้นเขาจึงประมาทและเห็นว่าเย่เทียนอยู่บ้านด้วยผู้อาวุโสทั้งสองจึงไม่น่าจะออกไปไหน

แต่ใครจะรู้ว่าการละเลยหน้าที่ทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองออกจากวิลล่า A1ภายใต้จมูกเขา

พ่อบ้านอากวงแจ้งแผนกรักษาความปลอดภัยของอ่าวอิมพีเรียลทันทีและขอให้พวกเขาส่งคนไปหา

ตัวเขาเองก็รีบขึ้นไปชั้นบนและรายงานเรื่องนี้กับเย่เทียน

สุดท้ายเขาถูกลงโทษหรือไล่ออก เขาไม่มีข้อตำหนิใดๆ

“ว่าไงนะ? พ่อแม่ฉันแอบมายืมเงินคุณ 5,000 หยวนแล้วออกไป? คุณได้ถามพวกเขาไว้หรือเปล่าว่าพวกเขาไปไหน?”

เมื่อเย่เทียนรู้เรื่องนี้เขาลุกขึ้นนั่งทันที เขาเป็นห่วงทั้งคู่มากและโทรหาพวกเขาในขณะที่เปลี่ยนเสื้ออยู่ แต่ไม่ว่าเขาจะโทรเข้าโทรศัพท์ของทั้ง 2 ยังไง เสียงแจ้งเตือนอันไพเราะก็ดังมาจากผู้รับว่า

“สวัสดี หมายเลขที่คุณโทรออกถูกปิดอญู่ โปรดลองอีกครั้งในภายหลัง”

“สวัสดี หมายเลขที่คุณโทรปฎิเสธการรับ โปรดลองอีกครั้งในภายหลัง”

คนหนึ่งปิดโทรศัพท์ ส่วนอีกคนไม่รับสาย

ก่อนหน้านี้เนื่องจากทั้งคู่อยู่ในชนบทและทำเกษตรกรรมจึงใช้แค่โทรศัพท์บ้าน

สุดท้ายพวกเขาก็ถูกพามาที่อ่าวพอมพีเรียลเพื่อพักผ่อนและหาความสนุกให้ตัวเอง เพื่อความสะดวกในการติดต่อพวกเขาจึงได้รับสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากตลาด

นอกจากนี้ยังใช้เวลาช่วงบ่ายในการให้เย่เทียนสอนเพื่อโทรออกและสอนรับสาย ในที่สุดก็สอนคู่สามีภรรยาก็ใช้รับสายเป็น อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องพยายามอยู่ครั้งเพื่อปลดล็อกโดยใช้ Face ID

พูดตามตรงแล้วสมาร์ทโฟนประเภทนี้มีความน่าเชื่อถือและใช้งานได้ง่ายกว่าโทรศัพท์รุ่นเก่าเหล่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องกดปลดล็อคแค่ยกโทรศัพท์ขึ้นแล้วแสกนใบหน้าของคุณก็พอ

แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนหรือที่ไม่คุ้นเคยกันแน่ เพราะพวกเขามักลืมว่าตัวเองมีโทรศัพท์อยู่กับตัว

เย่เทียนโทรหาลูกชายของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เขาจึงได้รู้ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญที่หมู่บ้านจะหารือเรื่องการระดมทุนบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษ

เขาไปอาบน้ำล้างตัวแล้วลงไปข้างล่าง

เขาขึ้นแมคลาเรนพี1สีดำของเขาแล้วรีบไปที่หมูบ้านหยิ่นหลง!

เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเวลาการเดินทางไปทำงาน ไม่ว่าเย่เทียนจะกังวลแค่ไหนก็ตามแมคลาเรนพี1ของเขาก็เหมือนกับมดที่เดินต่อแถว เขาติดแหงกบนถนนและไม่ได้ขยับไปไหนอยู่นาน

ในอีกด้านหนึ่ง พ่อแม่เย่ขี่รถสามล้อโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ พวกเขาขี่สามล้อมาก่อนแล้วค่อยลงเดินซึ่งใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงหมู่บ้านหยิ่นหลง

“นั่นไม่ใช่เฒ่าเย่เหรอ? ทำไมวันนี้เขาถึงกลับมาด้วยรถสามล้อขายเครปพังๆของลูกชายล่ะ?”

“ใช่เลย ฉันได้ยินมาว่าลูกชายของพวกเขาได้โชคครั้งใหญ่และส่งรถมารับพวกเขาไปอยู่ในเมืองด้วย”

“แต่พวกเขายังดูจนอยู่เลยนี่ ไม่เข้าใจจริงๆว่าหัวหน้าหมู่บ้านคิดอะไรอยู่ถึงได้เรียกพวกเขากลับมาที่หมู่บ้านเพื่อหารือเรื่องการบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษ”

“นายจะโทษหัวหน้าหมู่บ้านที่ตาบอดไม่ได้หรอก นายยังไม่เห็นตอนที่พวกเขาส่งคนมารับเฒ่าเย่ ตอนนั้นฉันอยู่ที่นั่นด้วย คนที่มาน่ะเป็นพ่อบ้านขับรถมารับพวกเขา…”

“แล้ววันนี้ที่พวกเขาขับรถสามล้อพังๆมาจะว่ายังไงล่ะ?”

“น่าจะ...”

“เป็นแบบนี้นี่เอง งั้นตามไปดูเรื่องสนุกๆกันดีกว่า เดี๋ยวรอดูหัวหน้าหมู่บ้านจะเป็นยังไงในการประชุม เขา ยืนยันว่าครอบครัวของเฒ่าเย่มีอนาคตที่สดใสและทำเงินได้มากมายจากภายนอก แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านมองยังชายชราสูงขึ้น หมู่บ้านระดมทุนเพื่อบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษและยืนกรานให้เฒ่าเย่กลับมาที่หมู่บ้านเพื่อจัดประชุมชาวบ้าน เขาทำเหมือนว่าถ้าไม่มีเฒ่าเย่และภรรยาของเขาเราจะไม่สามารถบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษได้...”

“ฉันได้ยินผู้อำนวยการหญิงข้างบ้านพูดว่า หัวหน้าหมู่บ้านเห็นเสี่ยวเทียนของเฒ่าเย่ทำเงินได้มากมาย เดิมทีเขาต้องการให้เย่เทียนมาเป็นหัวหน้าในการหาทุนบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อหมู่บ้านของเรา ยังไงแล้วเย่เทียนก็เติบโตมาจากกินอาหารในหมู่บ้านหยิ่นหลงอยู่ดี ก่อนที่หญิงชราเย่จะไปโรงพยาบาลเธอก็ยืมเงินเพื่อนบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ใช่หรือไง? ดังนั้นการเรียกเฒ่าเย่ให้กลับหมู่บ้านเป็นแค่ข้ออ้างในการขอเงินจากเย่เทียนเพิ่ม”

“ฉันบอกเลย ตอนที่เจอปัญหาหัวหน้าหมู่บ้านกับคนอื่นๆไม่เคยคิดถึงเฒ่าเย่เลยสักนิด ใครจะไปเคารพพวกเขาถ้าไม่ใช่เพราะเย่เทียนประสบความสำเร็จ เพราะเขาได้เป็นนักศึกษามหาลัยคนแรกในหมู่บ้านที่เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ ทั้งหมู่บ้านใครจะไปดูถูกเฒ่าเย่ล่ะ?”

“หยุดพูดแล้วไปกันเถอะ ตามไปดูความสนุกจากเฒ่าเย่กันดีกว่า คราวนี้หัวหน้าหมู่บ้านดันไปประจบขาม้าซะได้...”

“ฮ่าฮ่าฮ่า...”

“มีเรื่องสนุกๆให้ดูอีกแล้ว…”

“...”

เมื่อผู้เฒ่าเย่ทั้งสองเห็นกรรมการหมู่บ้านอยู่ตรงกลางระหว่างต้นไม้สองต้นที่มีป้ายเขียนว่า “ยินดีต้อนรับคุณเย่กลับบ้านเกิด” ตาของเขาเบิกกว้างและอ้าปากค้างโดยไม่รู้ว่าจะพูดหรือจะทำอะไรดี

ใครคือคุณเย่?

คงไม่ใช่เขาหรอกใช่ไหม?

ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมหัวหน้าหมู่บ้านจึงสั่งให้คนในหมู่บ้านที่อยู่ข้างหลังถึงเตรียมจุดประทัด?

“หัวหน้าหมู่บ้านแสดงอะไรกันอยู่ ฉันแค่กลับมากับหญิงชราเองนะ” พ่อเย่ต้องทำงานหนักมาตั้งแต่เกิด ในหมู่บ้านไม่มีใครสนใจเขาหรือสิ่งที่เขาทำ ถ้าไม่ใช่เพราะความสำเร็จของลูกชายเมื่อ 4 ปีก่อนที่สามารถเข้ามหาลัยที่มีชื่อเสียง เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องทนโดนดูถูกไปอีกนานแค่ไหน

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเห็นรถสามล้อพังๆที่เฒ่าเย่เข็นอยู่ข้างๆหน้าของเขาก็มืดลงในทันที เขาไม่อยากเชื่อเรื่องนี้จนต้องเบือนหน้าหนีแล้วกัดฟันถาม “อะไรกัน...บ้านของนายทะยานขึ้นไปแล้วไม่ใช่เหรอ นี่มันไม่ถูกต้อง ทำไมประธานเย่ไม่มาส่งผู้เฒ่ากลับหมู่บ้านเพื่อบูรณะห้องโถงบรรพบุรุษล่ะ?”