ตอนที่แล้วตอนที่ 11 ค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 ทหารผู้จงรักภักดี การค้นพบของกุยแก

ตอนที่ 12 ความเสียหายจากสงครามที่น่าทึ่ง เตียวเลี้ยวตัดสินใจ


ตอนที่ 12 ความเสียหายจากสงครามที่น่าทึ่ง เตียวเลี้ยวตัดสินใจ

การแสดงออกของเตียวเลี้ยวนั้นจริงใจอย่างมาก

เมื่อมาถึง เขาก็เอ่ยถามทุกอย่างชัดเจน

กองทัพของเฉิงชงมาโดยไม่ได้รับคำสั่งจากราชสำนัก และไม่มีใครมอบหมายทั้งสิ้น

ทุกอย่างเขาทำมันด้วยตัวเอง!

เพื่อต้องการจะปกป้องผู้อื่น เขาต้องรีบเดินทางหลายสิบลี้เพื่อมาให้ทันสนามรบ

สิ่งนี้มันเรียกว่าอะไร?

มันเรียกว่าความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ มันเป็นความชอบธรรมอย่างแท้จริง!

ในขณะนี้ ความปลาบปลื้มและนับถือของเตียวเลี้ยวที่มีต่อเฉิงชงมาถึงจุดสูงสุดแล้ว

เฉิงชงค่อนข้างประหลาดใจ

เขายังไม่มีเวลาไปหาเตียวเลี้ยว

แต่เตียวเลี้ยวกลับเดินมาหาเองถึงที่!

นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์ และตีสนิท

“เหตุใดเวิ่นหยวน (เตียวเวิ่นหยวนชื่อรองเตียวเลี้ยว) ต้องเกรงใจถึงเพียงนี้!”

“มันเป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องปกป้องบ้านเมืองและความสงบสุขของผู้คน!”

“ยิ่งไปกว่านั้น จงหลิงและหม่าอี้อยู่ห่างกันเพียงไม่กี่สิบลี้ การดูแลและช่วยเหลือซึ่งกันและกันย่อมไม่มีสิ่งใดต้องขอบคุณ!”

เฉิงชงรีบก้าวไปข้างหน้าและพยุงเตียวเลี้ยวขึ้น

เตียวเลี้ยวมองไปยังเฉิงชงพร้อมเอ่ยถามอย่างสุภาพ

“ไม่ทราบว่าผู้มีพระคุณนั้นชื่อว่าอะไร?”

เฉิงชงหัวเราะเบา ๆ

“เฉิงชง ชื่อรองอู๋ฮวย!”

“พวกเราอายุไล่เลี่ยกัน อย่าเรียกว่าผู้มีพระคุณเลย”

“แค่เรียกข้าว่าอู๋ฮวยก็พอ!”

เตียวเลี้ยวสะบัดมือ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

“หามิได้”

“หนึ่งก็คือหนึ่ง สองก็คือสอง ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตชาวบ้านหม่าอี้ บุญคุณล้นฟ้า ข้าไม่อาจทำลายกฎข้อนี้ลงได้!”

เฉิงชงยิ้มอย่างขมขื่น

เตียวเลี้ยวไม่ยอมปล่อยวางเรื่องนี้จริง ๆ

มีการกล่าวในบันทึกประวัติศาสตร์ว่าเตียวเลี้ยวนั้นให้ความสำคัญกับความเมตตาและความชอบธรรม ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน

ทันใดนั้นเจี้ยงเฟิงได้นำทหารจงหลิงที่คุ้มกันเชลยจำนวนมากของกบฏโพกผ้าเหลืองมา

เขาดูมีความสุขและตื่นเต้นอย่างมาก

“นายท่าน!”

“เราชนะศึกอีกแล้ว!”

“พี่น้องของเราได้รับบาดเจ็บแค่หลักหน่วยเท่านั้น แต่พวกกบฏโพกผ้าเหลืองตายไปกว่าเจ็ดถึงแปดร้อย!”

“เรายังจับเชลบที่แข็งแรงได้ถึงหนึ่งพันคน!”

“ข้าได้บอกทางเลือกของนายท่านต่อเหล่าเชลยแล้ว และพวกเขายินดีที่จะสวามิภักดิ์กับนายท่าน!”

เตียวเลี้ยวเองก็ยืนฟังรายงานการรบอยู่ด้านข้าง

ท่าทีบนใบหน้าของเขาถึงกับเปลี่ยน

มันเป็นความเสียหายจากสงครามจริงหรือ?

ตัวเลขหลักหน่วยต่อเจ็ดถึงแปดร้อย?

พวกเขาป้องกันเมืองจากกบฏผ้าเหลืองมาหลายวัน และสามารถสังหารกบฏผ้าเหลืองได้เจ็ดร้อยกว่าคนเช่นกัน

แต่พวกเขาก็ต้องจ่ายราคาที่สาหัส

ทหารรักษาการณ์ของหม่าอี้สูญเสียไปมากกว่าครึ่ง อีกทั้งคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เต็มไปด้วยบาดแผล

แต่กองทัพของเฉิงชงเรียกได้ว่าแทบจะไม่เสียหายเลย!

ดูผ่าน ๆ ทหารจงหลิงเหล่านี้ผอมบางอย่างมาก พวกเขาไม่เหมือนกองทัพที่ต่อสู้ได้ดีนัก

เราไม่ทราบจริง ๆ ว่าเฉิงชงฝึกพวกเขาได้อย่างไร!

ด้วยความมีคุณธรรมของเฉิงชง และทหารที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีเช่นนี้ ไม่นานเขาจะต้องผงาดขึ้นมาแน่นอน!

บางทีเขาอาจจะเป็นผู้จุดชนวนของราชวงศ์ฮั่นก็ได้ แต่ไม่มีใครทราบถึงสิ่งนี้!

ดวงตาของเตียวเลี้ยวกะพริบขณะมองไปยังเฉิงชง

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากติดตามบุรุษตรงหน้า

บางทีนี้อาจจะเป็นโอกาส

ถึงแม้อำเภอหม่าอี้จะเป็นบ้านเกิด แต่มันก็เล็กเกินไปที่จะทำการใหญ่

นายอำเภอเองยังอิจฉาความสามารถของผู้มีพรสวรรค์ และจำกัดเขาอยู่แต่ในเมือง

ครั้งนี้เพื่อที่จะได้ออกไปรบนอกเมือง เขาได้ตัดขาดกับนายอำเภอไปแล้ว และในอนาคตคงเป็นเรื่องยากที่จะมองหน้ากัน

ติดตามเฉิงชงคงเป็นเรื่องที่ดีกว่าจมอยู่ในหม่าอี้แน่นอน!

ในอนาคตเฉิงชงจะต้องโด่งดังไปทั่วปฐพี และชื่อของเตียวเลี้ยวอาจจะโด่งดังตาม!

“ผู้มีพระคุณ...”

เตียวเลี้ยวกัดริมฝีปากด้วยความลังเลเล็กน้อย

ดูเหมือนจะมีบางอย่างอยู่ในใจเขา

การแสดงออกนี้ไม่พ้นสายตาของเฉิงชง

เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกล่าว

“เวิ่นหยวน ท่านกับข้าพบกันเพราะโชคชะตา หากมีสิ่งใดต้องการจะพูด เช่นนั้นก็อย่าเก็บมันไว้เลย”

เตียวเลี้ยวกัดฟันและรวบรวมความกล้าทั้งหมด

ร่างอันสูงใหญ่คุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น

“ผู้มีพระคุณ!”

“ข้าต้องการติดตามผู้มีพระคุณเพื่อทำการใหญ่ให้สำเร็จ!”

เฉิงชงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

เขาเคยคิดที่จะเป็นคนเอ่ยปากขอร้องเอง

แต่นี่เตียวเลี้ยวเป็นคนพูดเอง?

นี่มันความฝันใช่หรือไม่!

เมื่อเห็นเฉิงชงเงียบไป เตียวเลี้ยวถึงกับกังวลเล็กน้อย

“หรือเพราะผู้มีพระคุณยังไม่ไว้ใจเวิ่นหยวนผู้นี้?”

เฉิงชงเรียกสติกลับมาและรีบสะบัดมือ

“เวิ่นหยวนพูดอะไร!”

“ข้าชื่นชมวิทยายุทธ์ของเวิ่นหยวนมาเนิ่นนาน”

“ในเมื่อเวิ่นหยวนเต็มใจที่จะติดตามข้า เช่นนั้นย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุด!”

“ตราบใดที่ข้าสามารถขึ้นเป็นใหญ่ได้ เช่นนั้นเวิ่นหยวนย่อมได้อยู่ข้างกายและดื่มด่ำความสำเร็จไปด้วยกัน! ข้ารับรองได้ว่าภายในสามปี ท่านจะได้รับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่แน่นอน!”

เตียวเลี้ยวพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น

“ข้าเชื่อนายท่าน!”

เฉิงชงมองดูเตียวเลี้ยว ยิ่งมองมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งชื่นชอบเตียวเลี้ยวมากเท่านั้น

ทราบหรือไม่ นอกจากเตียวเลี้ยวจะเป็นแม่ทัพอันดับต้น ๆ เขายังมีพรสวรรค์ที่หาตัวจับยาก!

เขาสามารถบัญชาการกองทัพได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนั้นเขายังมีความสามารถในการฝึกฝนทหาร

ค่ายกลทรงลิ่มที่เขาเพิ่งได้รับมา มันจะต้องใช้ทหารม้าในการสร้างค่ายกล

ดังนั้นการฝึกทหารม้าจึงจำเป็นเช่นกัน

เมื่อมีเตียวเลี้ยวอยู่ด้วย เขาจะสามารถประหยัดเวลาได้อีกมาก

ในตอนนี้ เฉิงชงมีทั้งกุยแกและเตียวเลี้ยวอยู่ข้างกาย กล่าวได้ว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ดีอย่างยิ่ง!

*หมายเหตุ ในยุคสามก๊กเหมือนแต่ละคนจะมีชื่อรองเป็นของตัวเอง บางครั้งจะเรียกชื่อรองตอนสนทนา แต่ตอนบรรยายมักจะเป็นชื่อหลัก ถ้ามีอะไรสงสัยคอมเม้นถามได้นะครับ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด