ตอนที่แล้วตอนที่ 10 ภายในควรร่วมมือกับภายนอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 ความเสียหายจากสงครามที่น่าทึ่ง เตียวเลี้ยวตัดสินใจ

ตอนที่ 11 ค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า!


ตอนที่ 11 ค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า!

เฉิงชงมองจากระยะไกล ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม

ชิวฉ่วยนั้นมีวิทยายุทธ์ที่ไม่ธรรมดา แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเตียวเลี้ยว เขาก็เป็นเพียงลูกแกะที่รอรับคมมีด!

เด็ดหัวแม่ทัพกลางกองทัพนับหมื่นได้

สิ่งนี้ควรค่าแก่ยกย่องให้เป็นยอดนักรบอย่างแท้จริง!

เฉิงชงอดไม่ได้ที่จะชื่นชม

เจี้ยงเฟิงที่อยู่ด้านข้างยิ้มออกมาเล็กน้อย

“นายท่านคงจะไม่ทราบ ชายผู้นี้คือนักรบที่มีชื่อเสียงของหม่าอี้ เตียวเลี้ยวชื่อรองเตียวเวิ่นหยวน”

“อย่างไรก็ตาม โชคชะตาของเขากลับอาภัพ แม้ว่าจะมีพรสวรรค์และความสามารถ แต่ก็ถูกจำกัดไว้โดยนายอำเภอเมือง”

“ตำแหน่งของเขาตอนนี้ยังด้อยกว่าข้าด้วยซ้ำ!”

ดวงตาของเฉิงชงเป็นประกาย

เตียวเลี้ยว!

หนึ่งในห้าทหารเอกของวุยก๊ก

ครั้งศึกในยุทธการเซียวเหยาจิน เตียวเลี้ยวสามารถใช้ทหารแปดร้อยคนเอาชนะทหารนับแสนของซุนกวนได้ มันทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วแผ่นดิน!

จากนั้นเขาได้กลายเป็นหนึ่งในรูปปั้นสักการะบูชาและมีผู้คนกราบไหว้

ด้วยความสามารถของเตียวเลี้ยว อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นแม่ทัพอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างแน่นอน!

ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากเตียวเลี้ยวจะมีความสามารถที่โดดเด่น เขายังเป็นคนที่มีความจงรักภักดีอย่างมาก

เขาเป็นหนึ่งในแม่ทัพแห่งยุคสามก๊กที่เฉิงชงชื่นชอบ

แน่นอนว่าเวลานี้เตียวเลี้ยวยังเป็นเพียงลูกนกที่กำลังจะบิน

ถึงจะมีความสามารถแต่ก็ถูกจำกัดให้อยู่แต่ในหม่าอี้เท่านั้น

“ตามประวัติศาสตร์ที่แท้จริง เตียวเลี้ยวน่าจะปรากฏตัวช่วงยุคกบฏโพกผ้าเหลือง จากนั้นเขาได้เข้าไปรับใช้เต๊งหงวนผู้ว่าราชการแห่งแคว้นปิ้งโจว”

“หลังจากนั้นเขาได้กลายเป็นแม่ทัพคนโปรดของลิโป้และโจโฉ”

“นับตั้งแต่ข้าถึงมาที่นี่ ทั้งลิโป้เฟิ่งเซียนและโจโฉเมิ่งเต๋อคงต้องพลาดแม่ทัพคนนี้เสียแล้ว”

*เฟิ่งเซียนและเมิ่งเต๋อเป็นชื่อรองของลิโป้และโจโฉนะครับ

เฉิงชงหัวเราะและกล่าวพึมพำกับตัวเอง

“ฮืม? นายท่าน เมื่อครู่หมายความอย่างไรขอรับ?”

เจี้ยงเฟิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อย

เฉิงชงยิ้มและสะบัดมือ

“ไม่มีอะไร พวกกบฏโพกผ้าเหลืองพ่ายแพ้แล้ว”

“รีบพาพี่น้องของเจ้าไปจับเชลยมา พยายามเลือกคนหนุ่มและคนแข็งแรง!”

“คนพวกนี้จะสามารถช่วยขยายกองทัพของเราได้ด้วยการฝึกฝนเพียงเล็กน้อย และยังจะเป็นเกษตรกรที่มีคุณค่า!”

เจี้ยงเฟิงรับคำสั่งและจากไปพร้อมทหารจงหลิง

เหลือทหารเพียงยี่สิบคนที่ดูแลความปลอดภัยของเฉิงชง

ทันใดนั้นเสียงของระบบได้ดังขึ้นในหูของเขา

“ติ๊ง! โฮสต์นำทหารสองร้อยนายร่วมกับทหารอีกหนึ่งร้อยนายของหม่าอี้พิชิตกบฏโพกผ้าเหลืองสำเร็จ!”

“คะแนนโดยรวมคือ C !”

“ได้รับแต้มสงครามสองร้อยแต้ม!”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉิงชงก็อดไม่ได้ที่จะไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ง

อาจเป็นเพราะจำนวนศัตรูที่มากกว่า และขนาดของสงครามที่ใหญ่ขึ้น

คะแนนโดยรวมได้ถึงระดับ C

แต้มสงครามก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

มันทำให้ได้สองร้อยแต้มสงครามโดยตรง

เมื่อรวมกับแต้มสงครามก่อนหน้านี้ เฉิงชงจึงมีอยู่สามร้อยแต้ม และสามารถปลดล็อคค่ายกลใหม่ได้

เมื่อนึกได้เช่นนี้ เขาจึงเปิดแผงระบบขึ้นมา

เลือกไปยังปลดล็อคค่ายกลใหม่

“ติ๊ง! แต้มสงครามสามร้อยแต้มถูกใช้เรียบร้อย ค่ายกลใหม่ปลดล็อคสำเร็จ!”

“รับค่ายกลใหม่ ค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า (ระดับที่1) !”

......

“ค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า (ระดับที่1)”

“รายละเอียด: เหมาะสำหรับกองทหารม้า กองทัพจะถูกจัดเรียงเป็นรูปกรวย มันทรงพลังและไร้เทียมทาน!”

“ผลที่ได้: ค่าต้านทานการโจมตีของทหารม้าเพิ่มขึ้นสองเท่า ความเร็วในการพุ่งชนของทหารม้าเพิ่มขึ้นสองเท่า การต้านทานสิ่งกีดขวางอย่างเขากวาง หรือหอกเพิ่มขึ้นสามเท่า!”

......

กระแสข้อมูลของค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้าถูกส่งเข้าไปในหัวของเฉิงชง

ดวงตาของเขาเผยความปีติยินดีทันที

ผลที่ได้รับนั้นร้ายกาจเกินไป

ค่าต้านทานการโจมตีที่ได้รับการปรับปรุงยังอยู่ในขอบเขตของจินตนาการ

แต่คุณสมบัติสองสิ่งสุดท้ายนั้นน่าสะพรึงอย่างมาก

ทหารม้าพุ่งชนเร็วขึ้นห้าเท่านั้นหมายความว่าอย่างไร?

หมายความว่าแม้แต่ม้าศึกระดับต่ำก็สามารถพุ่งทะยานด้วยความเร็วทัดเทียมได้กับม้าชั้นยอด!

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับทหารม้านั้น คือการพุ่งกระแทกก่อนที่อีกฝ่ายจะตอบสนอง มันจะทำให้ศัตรูถูกบดขยี้รวดเร็วดั่งถูกฟ้าผ่า

ลิโป้มีม้าม้าเหงื่อโลหิต (เซ็กเธาว์ ) ที่ทำให้ทั้งแผ่นดินต้องสั่นสะเทือน

กวนอูเองที่ได้เป็นเจ้าของม้าเหงื่อโลหิตหลังจากนั้น เขาสามารถสังหารงันเหลียงและบุนทิวได้อย่างง่ายดาย

จูล่งมีม้าสิงห์หยกราตรีที่เปล่งแสงได้ในยามค่ำคืน เขายังสามารถควบมันเข้าออกที่สะพานเตียงปันเกี้ยวได้ถึงเจ็ดครั้ง

เพียงเท่านี้ก็เห็นประโยชน์ของม้าที่มีผลต่อระดับแม่ทัพ

แต่ม้าชั้นยอดนั้นหายาก

ในยุคสามก๊กนั้นมีม้าชั้นยอดเพียงไม่กี่ตัว

แต่ตอนนี้ ทหารม้าของเฉิงชงจะสามารถต่อกรกับม้าชั้นยอดเหล่านั้นได้ หลังจากสำเร็จค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้า!

ยอดเยี่ยมมาก!

นอกจากนั้นยังมีค่าต้านทานสิ่งกีดขวางอย่างเขากวางและหอก

ทราบหรือไม่ว่าในยุคนี้ก็มีวิธีต่อกรกับทหารม้า มันคือการป้องกันเหล่านี้

แต่มันกลับมีผลต่อค่ายกลทรงลิ่มขั้นเทพเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!

สำหรับเขามันนับว่ามีประโยชน์อย่างมาก

น่าตื่นเต้นนัก!

เฉิงชงอยากสร้างทหารม้าให้เร็วที่สุด และเห็นพลังของค่ายกลนี้!

“นายท่าน มีคนต้องการจะพบ”

เสียงของทหารดังขึ้น

เฉิงชงได้สติกลับมาและเงยหน้าขึ้นมอง

เขากำลังเผชิญหน้ากับดวงตาอันแหลมคมของเตียวเลี้ยว

เตียวเลี้ยวหัวเราะและรีบลงจากหลังม้า จากนั้นได้เดินไปหาเฉิงชงอย่างรวดเร็ว

เขาโค้งคำนับลงทันที

“ผู้มีพระคุณ!”

“หากไม่ใช่เพราะผู้มีพระคุณนำทหารเข้ามาช่วยในวันนี้ อำเภอหม่าอี้จะต้องแตกแน่นอน จากนั้นพวกเราก็จะถูกปล้นสะดมโดยพวกกบฏโพกผ้าเหลือง!”

“ผู้มีพระคุณมีเมตตาต่อชาวหม่าอี้อย่างยิ่ง!”

“เตียวเลี้ยวผู้นี้ขอขอบพระคุณท่านแทนชาวเมืองนับพันของหม่าอี้จากใจจริง!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด