ตอนที่แล้วตอนที่ 4 พรสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 วิชาอัญเชิญ

ตอนที่ 5 ลงมาเกิด


ตอนที่ 5

ลงมาเกิด

วูบ.....

ท่ามกลางช่วงวันอันแสนธรรมดาของเหล่าเทพเซียนที่อาศัยอยู่บนสวรรค์ อยู่ๆท้องฟ้าเบื้องบนก็ปรากฏแสงสว่างสีทองเรืองรองพร้อมร่างของเทพ 2 องค์และวิญญาณมนุษย์ผู้หนึ่งลอยลงมาจากแสงสีทองราวกับกำลังเดินทางกันออกมาจากก้อนเมฆเบื้องบนไม่มีผิด ซึ่งแต่เดิมการเดินทางเช่นนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องผิดแปลกอะไร ทว่าครั้งนี้ที่ทำให้เหล่าเทพบนสวรรค์พากันแตกตื่นใจเป็นเพราะผู้ที่ลงมาคือ เจียอี เทพผู้ปกครองทั้งมิติแห่งนี้เอาไว้ด้วยตนเอง หากเทียบกับเหล่าเทพของโลกเพียงใบเดียวแล้วเจียอีก็นับเป็นเทพชั้นสูงที่แม้แต่เทพสูงสุดของโลกใบนี้ก็ยังต้องเกรงใจ แถมท่านยังพาแขกมาด้วยทำเอาเหล่าเทพพากันหันมาสนอกสนใจเรื่องน่าประหลาดใจที่นานๆจะได้เห็นสักครั้งนี้กันอย่างพร้อมเพรียง

“มีเรื่องอะไรกันงั้นหรือ”ระหว่างเหล่าเทพกำลังแปลกใจกับการมาถึงของท่านเจียอี เทพหญิงนางหนึ่งที่มาไม่ทันได้มองเห็นการมาถึงของท่านก็แสดงท่าทีสงสัยออกมาก่อนจะเลือกถามคำถามจากเทพองค์หนึ่งที่กำลังรุมล้อมวิหารของท่านเทพสูงสุดกันอย่างตื่นเต้น

“ได้ยินว่าท่านเจียอีเดินทางมาที่นี่ แถมยังพาเทพอีกองค์พร้อมวิญญาณมนุษย์ดวงหนึ่งมาด้วยกันอีกต่างหาก”เทพองค์ที่โดนถามคำถามตอบโดยไม่หันไปมองทางผู้ถามเสียด้วยซ้ำ บนสวรรค์นั้นมีเรื่องต่างๆมากมายแต่นานๆทีจะมีเรื่องน่าประหลาดใจเช่นนี้เกิดขึ้น

“เจ้าว่านี่มันเรื่องอะไรกัน วิญญาณมนุษย์กับเทพองค์หนึ่งเหตุใดถึงโดนท่านเทพผู้ปกครองมิติพาตัวมาด้วยกันได้”ท่าทางเหล่าเทพเบื้องบนก็มีความอยากรู้อยากเห็นไม่น้อย พากันสืบข่าวกันอย่างจริงจังทีเดียว

“หรือว่าจะเป็นเรื่องราวความรักระหว่างเทพและมนุษย์งั้นหรือ”เทพสาวองค์หนึ่งใช้มือสองข้างประกบแก้มตนเองเอาไว้ก่อนจะคาดเดาเรื่องราวออกมาในทางความรักเสียอย่างนั้น

“ไม่หรอก เรื่องเช่นนั้นใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น ครั้งก่อนที่เกิดเรื่องเช่นนั้นก็ไม่ได้มีการลงมาจัดการของท่านเทพผู้ปกครองมิตินี่นา บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่กว่านั้นก็เป็นได้”เทพอีกองค์ส่ายหน้าด้วยท่าทีไม่เห็นด้วย เรื่องราวอย่างความรักระหว่างมนุษย์และเทพเบื้องบนนั้นใช่ว่าจะเคยมีเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะโลกที่มีการฝึกฝนพลังวิญญาณจนทำให้มนุษย์มีความสามารถขึ้นมาเทียบเท่ากับเหล่าเทพได้ในบางกรณีด้วยแล้ว

“พวกเจ้า ข้าได้ยินมาว่าเทพที่ติดตามท่านผู้ปกครองมิติมาจะถูกส่งลงไปเกิดเป็นมนุษย์ร่วมกับวิญญาณดวงนั้น ท่าทางเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องเล่นๆเสียแล้ว”ระหว่างเหล่าเทพกำลังคาดเดาไปต่างๆนาๆ อยู่ๆก็มีข่าวหลุดออกมาจากภายในวิหารเสียอย่างนั้น วันนี้เจียอีท่าทางจะตื่นเต้นเกินไปเลยพาท่านเทพต้นกำเนิดกับวิญญาณของชายหนุ่มลงมายังโลกที่ท่านเทพต้นกำเนิดเลือกแล้วตรงเข้าไปสั่งการเทพสูงสุดของโลกใบนี้โดยไม่ทันได้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้ยิน ผลที่ตามมาคือข่าวสารเพียงครึ่งเดียวที่หลุดออกมาให้เทพองค์อื่นๆได้พากันคาดเดาเสียอย่างนั้น

“ลงไปเกิด.....แบบนั้นมันเป็นการลงโทษไม่ใช่หรืออย่างไร”เทพองค์หนึ่งพูดออกมาด้วยท่าทีตกใจ ปกติแล้วการส่งเทพลงไปเกิดเป็นมนุษย์นอกจากบางกรณีแล้วก็จะเป็นการลงโทษเทพผู้กระทำความผิดเสียส่วนใหญ่ เพราะการใช้ชีวิตเป็นมนุษย์นั้นลำบากกว่าการเป็นเทพมากมายนัก ตอนนี้เหล่าเทพเลยพากันเดาว่าเทพองค์ที่ติดตามท่านเจียอีมานั้นคงกระทำความผิดอะไรลงไปแน่ๆ

“ส่งเทพลงไปเกิดงั้นหรือ.....”เทพสาวผู้ถามคำถามเมื่อตอนแรกได้ยินเรื่องราวก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางวิหารของท่านเทพสูงสุดด้วยท่าทีครุ่นคิด สิ่งหนึ่งที่ทำให้การลงไปเกิดใหม่เบื้องล่างนั้นเป็นการลงโทษสำหรับเทพที่กระทำความผิด นั่นเพราะวิญญาณของเทพที่ลงไปสถิตยังร่างกายมนุษย์นั้นจะอ่อนแอกว่าตอนเป็นเทพอยู่เบื้องบนมาก แม้การตายของร่างมนุษย์จะไม่ทำให้วิญญาณของเทพแตกสลายก็ตาม แต่หากมีมารคอยจ้องจะเล่นงานในช่วงพลังเทพของเทพองค์นั้นอ่อนแรงเพราะการอยู่ในร่างของมนุษย์ก็อาจจะทำให้เทพองค์นั้นถึงขั้นแตกสลายได้ก็ได้

“เป็นข่าวที่ดีจริงๆ”เทพสาวนางนั้นยิ้มออกมาด้วยใบหน้าราวกับนางมารร้ายไม่มีผิด ทันทีที่นางได้ทราบข่าวว่ามีเทพองค์หนึ่งกำลังจะโดนลงโทษให้เกิดเป็นมนุษย์ นางก็ถอยห่างออกมาจากเทพองค์อื่นก่อนจะมุ่งหน้าออกไปจากแดนสวรรค์ทันที ช่างเป็นวันที่โชคดียิ่งนัก นางลอบเข้ามาในแดนสวรรค์ก็เพื่อสร้างเหตุการณ์ยุแยงให้เทพองค์ใดสักองค์กระทำความผิดจนโดนลงโทษให้ลงไปเกิดเป็นมนุษย์ จะได้ใช้โอกาสนั้นดูดพลังเทพของเทพองค์นั้นเป็นของตนเอง ไม่นึกเลยว่ายังไม่ทันได้ลงมืออะไรก็มีเทพโดนลงโทษเสียแล้ว หากไม่นับวันนี้เป็นวันโชคดีจะนับเป็นอะไรเล่า

.

.

.

“..............”ขณะเดียวกันนั้น ชายหนุ่มผู้อยู่ในสภาพวิญญาณหลงผิดที่กำลังรอให้เทพสูงสุดของโลกใบนี้จัดการเรื่องการลงไปเกิดของท่านเทพต้นกำเนิดและตัวเขาเองก็พลันสังเกตเห็นใบหน้าของท่านเทพต้นกำเนิดที่กำลังแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาอย่างปิดไม่มิดเข้าพอดี หากนางมีหางงอกออกมาละก็มันคงกระดิกไปมาไม่หยุดเป็นแน่

“ก่อนหน้านี้ท่านบอกเทพองครักษ์ว่าท่านวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ท่านวางแผนเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือขอรับ”เพราะต้องรอให้เทพสูงสุดจัดการเรื่องการลงไปเกิดใหม่ ทำให้ทั้งสองมีเวลาว่างพอจะพูดคุยกันได้บ้างพอดี จะว่าไปนอกจากตอนกำลังจะเข้าไปในวิหารของเจ้าสวรรค์เขาเองก็แทบไม่ได้คุยกับนางเลย เรียกได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเหมือนเขาจะโดนลากไปตามแผนของนางอยู่ตลอดโดยไม่ได้ขัดขืนอะไรเลย

“ตั้งแต่ที่เจ้าโดนน้องรองขังเอาไว้นั่นล่ะ”ท่านเทพต้นกำเนิดตอบด้วยท่าทียิ้มแย้มและอ่อนโยนเช่นเดิม นางได้ยินเรื่องโลกเบื้องล่างจากเจ้าสวรรค์คนหนึ่งมานานแล้ว ก็เลยอยากจะลองออกไปจากมิติต้นกำเนิดเพื่อลงไปดูโลกเบื้องล่างมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว พอได้ทราบว่าน้องรองของนางจับตัวมนุษย์ผู้หนึ่งเอาไว้เพราะเขาบุกเข้ามาในมิติต้นกำเนิด แถมยังคิดจะสังหารน้องรองอีกต่างหาก

“แล้วทำไมท่านถึงพาตัวข้าออกมาล่ะขอรับ สำหรับพวกท่านแล้วข้าน่าจะเหมือนมารร้ายที่น่ารังเกียจไม่ใช่หรือขอรับ”ชายหนุ่มถามออกไปด้วยความสงสัย เช่นนั้นนางก็รู้อยู่แล้วว่าเขาลงมือทำอะไรลงไปตั้งแต่แรก ถึงสาเหตุที่นางพาเขาออกมาจะเพื่อเป็นข้ออ้างในการออกมาเที่ยวเล่นก็ตาม แต่การพาอาชญากรที่คิดจะสังหารน้องสาวของตนออกมาจากมิติทรมานเพื่อจะพาลงมายังโลกด้วยเหตุผลเท่านั้นมันออกจะเบาบางเกินไปหรือไม่

“เพราะข้ารู้ว่าเจ้าทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรนะสิ และข้าก็คิดว่าการตัดสินใจของเจ้ามันเป็นเรื่องยาก”เทพต้นกำเนิดตอบคำตอบที่ตัวชายหนุ่มไม่คาดคิดออกมาเสียอย่างนั้น ที่แท้นางก็แอบสืบสาเหตุที่เขาคิดจะสังหารท่านเทพต้นกำเนิดลำดับที่ 2 มาแล้วนี่เอง

“ถึงข้าจะมีเหตุผลที่ทำลงไป แต่ข้าก็ไม่คิดว่ามันจะทำให้โทษของข้าหายไปหรอกนะขอรับ”ชายหนุ่มตอบพลางถอนหายใจออกมา ถึงจะมีเหตุผลหนักแน่นเพียงไรแต่การกระทำก็ชั่วร้ายอยู่ดี มันไม่ใช่ความผิดที่จะให้อภัยได้เลยนี่นา

“ถูกต้อง แต่มันก็ทำให้ข้ามั่นใจว่าการพาเจ้ามาด้วยจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆที่จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของข้าแน่ๆ”ท่านเทพต้นกำเนิดหัวเราะออกมาเบาๆเพราะความผิดของชายหนุ่มไม่ได้หายไปไหนอยู่แล้ว นางแค่ตั้งใจพาเขามาเพราะรู้ว่าเขาไม่ใช่อสูรร้ายบ้าคลั่งที่ทำอะไรลงไปโดยไม่มีเหตุผล และเขาก็สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปจนไม่จำเป็นต้องมีการอบรมบ่มนิสัยของวิญญาณเขามาตั้งแต่แรกแล้วเสียด้วยซ้ำ

“อย่างน้อยท่านก็ยอมรับแล้วว่าท่านต้องการลงมาท่องเที่ยวจริงๆ”ชายหนุ่มหัวเราะออกมากับคำตอบที่ได้ยิน แม้ความจริงจะปรากฏออกมานานแล้วแต่นางก็ไม่เคยยอมรับเลยสักครั้ง ไม่นึกว่าครั้งนี้นางจะหลุดยอมรับออกมาด้วยตัวเองเช่นนี้

“อะแฮ่ม....เจ้าอย่าลืมที่สัญญาเอาไว้ก็แล้วกัน อยู่ที่นี่เจ้าก็ไม่ต้องรับการทรมานด้วย ถือว่าเราเป็นผู้รับผลประโยชน์ร่วมกันนะ”ท่านเทพต้นกำเนิดทำแก้มป่องออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจที่โดนจับคำที่เผลอหลุดออกไปได้ แต่นางก็ไม่คิดจะปิดบังอะไรชายหนุ่มอยู่แล้วเพราะอย่างไรอนาคตข้างหน้าก็ต้องร่วมมือกันอีกนาน

“ท่านเทพต้นกำเนิดเจ้าคะ ทุกอย่างพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”หลังจากให้เทพสูงสุดจัดการเรื่องสถานที่เกิดให้กับท่านเทพต้นกำเนิดเรียบร้อย เจียอีก็เดินกลับเข้ามาหาท่านเทพต้นกำเนิดก่อนจะเชิญท่านให้ลงไปเกิดยังโลกมนุษย์ตามที่ต้องการเสียที แถมร่างของท่านเทพต้นกำเนิดยังได้รับพรสวรรค์อันแสนหายากที่ทำให้ชีวิตท่านสุขสบายในโลกมนุษย์เสียด้วย เรียกได้ว่าตัวตนของนางนั้นหากไม่ใช่เพราะได้รับอนุญาตจากท่านเจ้าสวรรค์ต่อให้มีดวงเท่าไหร่ก็ไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้หรอก

“ดี งั้นเราไปกันเลย”ท่านเทพต้นกำเนิดได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีดีใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เท่านี้แผนการทั้งหมดของนางก็สำเร็จผลเสียทีไม่นึกเลยว่าวันที่จะได้ออกมาจากมิติต้นกำเนิดจะเกิดขึ้น

วูบ......

.

.

.

“.............”เพียงพริบตาเดียวเท่านั้นหลังจากการลงมาเกิดใหม่เริ่มขึ้น ภาพเบื้องหน้าของชายหนุ่มก็เปลี่ยนจากภายในวิหารเทพสูงสุดกลายเป็นภายในบ้านหลังหนึ่งแทน นอกจากนี้ความรู้สึกของร่างกายที่เบาหวิวของวิญญาณก่อนหน้านี้ก็หายไปในพริบตา โดยมีความรู้สึกของแขนขาเล็กๆเข้ามาแทนที่ นี่สินะการเกิดใหม่ ความรู้สึกของทารกที่ลืมเลือนไปนานแล้วมันเป็นเช่นนี้นี่เอง

“แอ๊.....”เสียงเล็กๆของเด็กทารกอีกคนหนึ่งดังมาจากข้างหูของทารกที่มีวิญญาณของชายหนุ่มสถิตอยู่ แน่นอนว่านางก็คือพี่หรือน้องสาวฝาแฝดของเขาที่เกิดมาพร้อมวิญญาณของท่านเทพสูงสุดนั่นเอง เห็นนางบอกว่าเพื่อการอบรมบ่มนิสัยก็เลยให้เกิดมาพร้อมกันในฐานะฝาแฝด แต่ท่าทางนางก็คงกลัวว่าหากเขาไปเกิดเป็นเผ่าอื่นแล้วอายุจะไม่ยืนยาวเท่านางแล้วทำให้เวลาเที่ยวเล่นของนางสั้นลงกระมัง

“ในที่สุดก็ตื่นแล้ว”ระหว่างกำลังซึมซับความรู้สึกของร่างใหม่อยู่นั้น ตัวทารกที่มีวิญญาณของชายหนุ่มอยู่ในร่างก็ได้ยินเสียงอีกเสียงดังออกมาจากภายในห้องเข้าเสียก่อน หรือว่านั่นจะเป็นเสียงของท่านแม่ในโลกนี้งั้นหรือ?

“ตอนเป็นทารกนี่ล่ะโอกาสดีที่สุดแล้ว”เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นอีกครั้งพร้อมมือข้างหนึ่งที่ยื่นเข้ามาคว้าคอของทารกเพศหญิงที่อยู่ข้างๆร่างของชายหนุ่มเอาไว้อย่างแผ่วเบา แม้จะไม่ได้บีบรัดอย่างรุนแรง แต่การกระทำเช่นนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่มารดาผู้ให้กำเนิดจะทำกับลูกแน่ๆ หญิงสาวนางนี้เป็นใครกันแน่ แล้วกำลังคิดจะทำอะไรกัน....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด