ตอนที่แล้วตอนที่ 5 ลงมาเกิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 ความผิดพลาด

ตอนที่ 6 วิชาอัญเชิญ


ตอนที่ 6

วิชาอัญเชิญ

“ช่างง่ายดายเสียเหลือเกิน....เท่านี้พลังของข้าก็จะกลับมาอีกครั้ง”หญิงสาวที่กำลังจับไปที่ลำคอของทารกหญิงพูดด้วยใบหน้าพึงพอใจก่อนจะเริ่มออกแรงกดที่คอน้อยๆของทารกอย่างไม่ไยดี ชั่วพริบตาที่ร่างมนุษย์ตาย วิญญาณของเทพก็จะกลับขึ้นไปบนสวรรค์ พริบตานั้นล่ะคือช่วงเวลาที่นางจะสามารถลงมือดูดซับพลังเทพได้

วูบ!!

ขณะกำลังลงมือสังหาร แสงสีทองก็สว่างวาบขึ้นมาเบื้องหน้าหญิงสาวก่อนที่จะ

เปรี้ยง!!

ร่างของหญิงสาวที่กำลังจะลงมือสังหารเด็กทารกถูกพลังบางอย่างโจมตีกลับอย่างจังก่อนที่ร่างของนางจะแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผงไปในทันที

“...........”ช่างไม่เจียมเนื้อเจียมตัวยิ่งนัก นี่คือสิ่งที่ชายหนุ่มคิดในใจเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ไม่ทราบหรอกว่านางเป็นมารหรือเทพอะไร แต่ลงมือทำร้ายท่านเทพต้นกำเนิดแบบนี้ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น ในตอนที่เขาโจมตีท่านเทพต้นกำเนิดลำดับ 2 เขาต้องใช้เกราะที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อต้านรับพลังเทพที่จะสะท้อนกลับมาตอนโจมตี แต่ถึงอย่างนั้นเกราะนั่นก็สลายหายไปทันทีที่ฝ่ายเทพต้นกำเนิดโจมตีกลับมา คิดว่าคงไม่มีสสารใดป้องกันพลังของเหล่าเทพต้นกำเนิดได้จริงๆหรอกกระมัง

“เมื่อครู่เสียงอะไรกัน”แม้เมื่อครู่จะมีเหตุการณ์อย่างมารตนหนึ่งโดนพลังของท่านเทพต้นกำเนิดทำให้สลายไป แต่เสียงที่คนภายนอกได้ยินกลับเหมือนมีสิ่งของบางอย่างตกลงพื้นเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นเพียงเสียงเล็กน้อยแต่ หลี่เอ้อหลาง มารดาของเด็กทั้งสองกลับอดไม่ได้ที่จะเข้ามาตรวจสอบว่าภายในห้องที่ตนทิ้งเด็กทั้งสองเอาไว้เกิดอะไรขึ้น

“.............”แม้มารดาผู้เข้ามาจะไม่พบสิ่งใดผิดปกติ แต่ฝ่ายชายหนุ่มผู้อยู่ในร่างของบุตรชายของนางกลับมองไปทางผู้เป็นมารดาไม่วางตา นี่นะหรือตระกูลหงสานิรันดร์ที่เจียอีพูดถึง เท่าที่ฟังมาเผ่าหงสานิรันดร์เป็นลูกหลานของมนุษย์ผู้หนึ่งที่ได้ดื่มเลือดของวิหคอมตะตนหนึ่งซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานของโลกใบนี้ หลังจากนั้นบุตรหลานของคนในตระกูลนี้ก็สืบสายเลือดของวิหคอมตะสีทองตนนั้นเรื่อยมาจนถูกเรียกว่าตระกูลหงสานิรันดร์

ร่างกายภายนอกส่วนใหญ่แล้วไม่ต่างจากมนุษย์เท่าไหร่โดยคนในตระกูลหงสานิรันดร์จะมีเส้นผมและดวงตาสีทองเป็นเอกลักษณ์และมีพลังวิญญาณที่มากกว่าคนปกติหลายเท่า และเหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้ท่านเทพต้นกำเนิดต้องการจะลงมาจุติเป็นคนในตระกูลหงสานิรันดร์ก็คือ อายุขัยที่ยืนยาวกว่าคนปกตินั่นเอง

“ลู่ชิง ตื่นแล้วเหรอลูก”หลี่เอ้อหลางมารดาของเด็กทั้งสองเห็นบุตรชายมองตนไม่วางตาก็พลันยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน นามของชายหนุ่มในร่างนี้ก็คือ หลี่ลู่ชิง ส่วนทารกหญิงข้างๆก็มีนามว่า หลี่หลินเยว่ นั่นเอง ด้วยการจัดการของเจียอีและเทพสูงสุดของโลกใบนี้ทำให้ทั้งสองลงมาเกิดอย่างปลอดภัยในหมู่บ้านเล็กๆที่แสนสงบสุข ทำให้ในช่วงวัยเด็กพวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายใดๆ

.

.

.

“พี่ลู่ชิง ท่านยังฝึกอยู่อีกเหรอ”เผลอเพียงครู่เดียว หลี่ลู่ชิงและหลี่หลินเยว่ก็อายุครบ 10 ปีเสียแล้ว ยามนี้หลี่หลินเยว่กลายเป็นสาวน้อยน่ารักที่ผู้คนทั้งหมู่บ้านพากันรักใคร่ ส่วนหลี่ลู่ชิงเองก็ไม่ต่างกัน แม้จะเป็นเด็กผู้ชายแต่เพราะเด็กหนุ่มที่นั่งรวบรวมพลังวิญญาณอยู่ใต้ต้นไม้ผู้นี้เป็นฝาแฝดของหลี่หลินเยว่ทำให้ใบหน้าของหลี่ลู่ชิงออกไปทางงดงามเสียมากกว่าหล่อเหลาเสียอีก ไม่ใช่เท่านั้น บางทีหลี่ลู่ชิงก็แอบคิดว่าท่านเทพสูงสุดของโลกใบนี้ต้องแอบทำอะไรแน่ๆ ใบหน้าของหลี่หลินเยว่ผู้เป็นร่างจุติของท่านเทพต้นกำเนิดถึงได้ดูจะงดงามเสียกว่ามารดาเสียอีก เพราะแบบนั้นเขาเลยได้รับผลกระทบจากรูปร่างหน้าตานั้นไปด้วย

“คราวนี้ต้องสำเร็จแน่ๆ”หลี่ลู่ชิงยิ้มออกมาก่อนจะเริ่มใช้ พรสวรรค์ ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด พริบตาที่ลู่ชิงใช้พรสวรรค์ออกมาเบื้องหน้าของเขาก็ปรากฏอักขระมนตร์ถูกเขียนขึ้นมาบนพื้น ก่อนที่พรสวรรค์แห่งผู้อัญเชิญจะเริ่มทำงาน

ตุบ....

ใช้พลังวิญญาณไปจนแทบหมดร่างจนวิชาอัญเชิญสำเร็จผล ในที่สุดลูกม้าตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของหลี่ลู่ชิงและหลี่หลินเยว่จนได้ แม้หลี่หลินเยว่จะไม่เข้าใจก็ตามว่าเหตุใดพี่ชายฝาแฝดของนางถึงต้องทุ่มพลังทั้งหมดเพื่ออัญเชิญม้าตัวหนึ่งออกมาก็ตาม

“เยี่ยม ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้าเสียทีเจ้าเพื่อนยาก”ทันทีที่อัญเชิญลูกม้าตัวหนึ่งออกมาได้ ใบหน้าของหลี่ลู่ชิงก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด แถมเจ้าม้าเองพอเห็นผู้อัญเชิญมันออกมาก็ทำท่าทีดีใจพร้อมวิ่งเข้าไปคลอเคลียเจ้านายของมันอย่างรู้ใจอีกต่างหาก

“เจ้านี่มัน...ม้าที่ท่านขี่มาตอนนั้นงั้นเหรอ”หลี่หลินเยว่อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพี่ชายของนางถึงได้ดีใจขนาดนั้น นางจึงลองเพ่งมองเจ้าม้าตรงหน้าอย่างตั้งใจจนพบว่าม้าตัวนี้ไม่ใช่ม้าของมิตินี้ แต่เป็นม้าที่ถูกอัญเชิญมาจากมิติอื่นต่างหาก ซึ่งนั่นก็เป็นการทำงานของวิชาอัญเชิญอยู่แล้ว ทว่า....สามารถเลือกสัตว์อัญเชิญจากมิติอื่นได้ตามต้องการเช่นนี้คงต้องใช้ความสามารถไม่น้อย มันยากกว่าการอัญเชิญปีศาจจากมิติอื่นแบบสุ่มมาเสียอีก สมแล้วที่เขาเคยบุกเข้าไปในมิติต้นกำเนิด

“ใช่แล้ว แต่เพราะพลังวิญญาณของข้าไม่พอก็เลยอยู่ในร่างลูกม้าแบบนี้ แต่ได้พบกับมันอีกครั้งก็ถือว่าสำเร็จแล้ว”หลี่ลู่ชิงยิ้มกว้างออกมาอย่างดีอกดีใจขณะเล่นกับเจ้าลูกม้าที่อัญเชิญออกมาอย่างคุ้นเคย

“นี่ท่านอุตส่าห์เลือกพรสวรรค์ติดตัวมาเพื่อม้าของท่านงั้นเหรอ”หลี่หลินเยว่ยิ่งฟังก็ยิ่งตกใจ ตอนนั้นที่เขาเลือกวิชาอัญเชิญมาเป็นพรสวรรค์ติดตัวก็น่าสงสัยพออยู่แล้ว ยิ่งได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเพียงต้องการอยากพบม้าของเขาอีกครั้งก็ยิ่งทำให้หลี่หลินเยว่แปลกใจมากขึ้นไปอีก ตอนนั้นนางให้เขาเลือกพรสวรรค์ได้ตามใจ ต่อให้เขาเลือกพรสวรรค์ที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้ก็ไม่มีใครกล้าห้ามแท้ๆ

“เจ้าไม่เข้าใจหรอก ม้าตัวนี้เป็นสหายร่วมศึกกับข้ามานับครั้งไม่ถ้วน สายสัมพันธ์ของข้ากับมันเป็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเสียยิ่งกว่าพี่น้องเสียอีก”ลู่ชิงตอบออกมาโดยไม่สนใจท่าทีแปลกใจของน้องสาวเสียด้วยซ้ำ แต่พอได้รับคำตอบแบบนั้นหลี่หลินเยว่กลับมีท่าทีไม่ค่อยพอใจเสียอย่างนั้น

“เช่นนั้นท่านก็หมายความว่าท่านรักม้าตัวนี้มากกว่าน้องสาวอย่างข้าอีกนะสิ”หลี่หลินเยว่ทำท่าทีงอนๆออกมาให้เห็นทำเอาหลี่ลู่ชิงอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ ไหนตอนแรกเกิดนางยังไม่ยอมจะเป็นน้องสาวอยู่เลยไม่ใช่หรือ เหตุใดตอนนี้ถึงมาทวงสิทธิ์การเป็นน้องเสียเล่า

“ถูกแล้ว เจ้านี่เป็นน้องชายที่แสนดีเชียวล่ะ”หลี่ลู่ชิงตอบพลางลูบหัวของเจ้าลูกม้าอย่างเอ็นดู แต่คำตอบของเขากลับทำให้หลี่หลินเยว่ยิ่งแก้มป่องขึ้นเรื่อยๆเสียอย่างนั้น

“แต่น่าเสียดายนะที่เจ้านี่กินขนมแบบพวกเราไม่ได้ ขนมชิ้นนี้คงต้องให้น้องสาวกินแทนกระมัง”แหย่น้องสาวไปนิดหน่อย หลี่ลู่ชิงก็นำขนมถั่วตัดออกมาชิ้นหนึ่ง น่าเสียดายที่ท่านเจียอีเหมือนจะไม่ได้บอกเรื่องอาหารให้ท่านเทพสูงสุดได้ทราบ ทำให้ท่านเทพสูงสุดไม่ได้สนใจเรื่องอาหารในหมู่บ้านเสียเท่าไหร่ แม้โลกนี้จะมีวัฒนธรรมการกินอาหารที่ยอดเยี่ยม แต่ถูกส่งมาอยู่ในหมู่บ้านห่างไกลเช่นนี้เลยหาขนมหวานกินไม่ค่อยได้ แม้อาหารอื่นๆจะไม่เลว แต่กับเด็กแล้วเรื่องขนมหวานนี่เกรงว่าจะแยกกันไม่ออก

“.............”แม้จะยังงอนพี่อยู่นิดหน่อยที่ลู่ชิงเห็นม้าเป็นพี่น้องมากกว่าตน แต่พอพูดเรื่องขนมหลี่หลินเยว่ก็ลดท่าทีโกรธๆลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนแรกแค่นางได้ดื่มนมของมารดาเป็นครั้งแรกมันก็ทำให้นางตื่นตาตื่นใจกับการกินอาหารของมนุษย์ไม่น้อย พอโตมาอีกหน่อยท่านแม่และท่านพ่อก็เริ่มให้กินอาหารหลากหลายมากขึ้น เรียกได้ว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาอันแสนยอดเยี่ยมของนางเลยก็ว่าได้ ทว่า...ในเหล่าอาหารมากมายที่ได้กิน ขนมรสหวานนี่ล่ะคือของที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว แถมในหมู่บ้านยังไม่ค่อยมีพ่อค้าผ่านมาทำให้ขนมง่ายๆอย่างถั่วตัดชิ้นนี้ก็ถือเป็นของหายากแล้ว พี่ชายของนางเอาขนมชิ้นนี้มาล่อจะถือว่าเป็นเรื่องขี้โกงก็ไม่เกินไปนัก

“นับว่าท่านยังรู้จักแยกแยะ”หลี่หลินเยว่ว่าพลางเดินเข้าไปรับขนมจากมือพี่ชายมานั่งกินอยู่ข้างๆด้วยใบหน้ามีความสุขเสียอย่างนั้นทำเอาหลี่ลู่ชิงอดที่จะอมยิ้มตามไม่ได้

ตั้งแต่ลงมาเกิดในโลกใบนี้ก็ผ่านไปแล้ว 10 ปีเต็ม เวลาขนาดนี้ทำให้ท่านเทพต้นกำเนิดกลายเป็นน้องสาวแสนน่ารักอย่างเต็มตัวเสียแล้ว แม้ตอนแรกนางจะไม่ยอมรับเท่าไหร่เพราะนางสั่งให้เทพสูงสุดทำให้นางเกิดก่อนลู่ชิงนางจะได้มีศักดิ์เป็นพี่ แต่เพราะทั้งสองเป็นฝาแฝดกันทำให้เวลาเกิดห่างกันไม่มาก สุดท้ายหลี่ซุนผู้เป็นพ่อเลยให้หลี่ลู่ชิงเป็นพี่เพราะอยากให้บุตรชายคอยดูแลบุตรสาวเสียอย่างนั้นทำให้ศักดิ์ของหลี่หลินเยว่กลายเป็นน้องเสียอย่างนั้น

แน่นอนว่าตอนแรกนางยังไม่ยอมเสียเท่าไหร่ แต่เพราะโดนท่านแม่ปะเหลาะอยู่บ่อยครั้งนางเลยยอมแต่โดยดี แถมคำพูดคำจาที่ติดมาจากการเป็นพี่ใหญ่แห่งเหล่าเทพต้นกำเนิดก็เริ่มหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ตอนนี้หลี่หลินเยว่เรียกหาหลี่ลู่ชิงเป็นพี่ชายได้อย่างเต็มปาก แถมว่ากันตามตรงร่างกายเป็นเด็กเช่นนี้เหมาะกับท่านเทพต้นกำเนิดเสียยิ่งกว่าร่างเทพของนางเสียอีก เพราะนางยามได้ลงมายังโลกก็ทำตัวเหมือนเด็กทั่วๆไปทันที นอกจากจะชอบของกินแล้วยังตื่นตาตื่นใจกับสิ่งรอบข้างอยู่ตลอด ไม่ว่าใครจะพูดเรื่องอะไรนางก็ตื่นเต้นดีใจไปกับคนเหล่านั้นทั้งนั้น เพราะแบบนี้กระมังนางถึงกลายเป็นขวัญใจของคนในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ไปจนถึงเหล่าอาวุโสทั้งหลายอีกด้วย

แม้จะลำบากกับการต้องไล่เจ้าพวกเด็กผู้ชายที่พยายามจะมาจีบหลี่หลินเยว่อยู่บ้าง แต่ชีวิตเช่นนี้ก็สุขสบายดีไม่น้อย หากสามารถพาสหายในชาติก่อนมาร่วมผ่อนคลายได้คงดีไม่น้อยเลย

.

.

.

ตุบ.....

แม้หมู่บ้านจะสงบสุขเพียงใด ก็ไม่มีที่ไหนในโลกที่จะไม่ต้องเผชิญกับอันตรายเลย ยามนี้ภายในป่าที่ควรจะมีเพียงสัตว์ป่าทั่วไปอาศัยอยู่กลับปรากฏร่างของหมียักษ์ตนหนึ่งกำลังเดินผ่านต้นไม้เข้ามาใกล้หมู่บ้านอย่างเชื่องช้า ร่างกายของมันใหญ่โตกว่าหมีทั่วไปแถมที่อกยังมีลวดลายสีแดงเพลิงราวกับบนผิวหนังมีดวงไฟกำลังลุกโชนอยู่ไม่มีผิด หมีตนนี้คือสัตว์อสูรที่อยู่อาศัยในโลกเดียวกันกับที่ท่านเทพต้นกำเนิดลงมาจุติ และมันก็เป็นต้นเหตุของความเปลี่ยนแปลงของอนาคตอันแสนสงบสุขของหลี่ลู่ชิงอีกด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด