ตอนที่แล้วตอนที่ 3 เข้าพบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 ลงมาเกิด

ตอนที่ 4 พรสวรรค์


ตอนที่ 4

พรสวรรค์

“จะให้นางพาวิญญาณมนุษย์จากมิติอื่นไปเกิดในมิติของข้างั้นหรือเจ้าคะ ท่านเจ้าสวรรค์นี่มันผิดกฎเป็นร้อยๆข้อเลยไม่ใช่หรือเจ้าคะ”หลังจากเล่าเรื่องราวต่างๆให้เจียอีได้ฟัง แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจียอีผู้เป็นเทพปกครองมิติหนึ่งย่อมไม่เห็นด้วย นอกจากจะนำวิญญาณมนุษย์จากอีกมิติหนึ่งมายังมิติตนเองแล้ว ยังจะเอาเทพจากมิติอื่นลงไปเกิดด้วย แบบนี้มันจะไม่วุ่นวายเอาหรือ

“ไม่ต้องห่วง ท่านเทพต้นกำเนิดจะจำกัดพลังของนางเอาไว้ไม่ให้เกิดผลกระทบอะไรกับโลกที่เจ้าดูแลอยู่ นางเพียงต้องการพาวิญญาณที่หลงผิดดวงนี้ลงไปเกิดใหม่เพื่อจะอบรมบ่มนิสัยของวิญญาณดวงนี้ขึ้นมาใหม่เท่านั้น”ท่านเจ้าสวรรค์หวงซื้อหลงตอบพลางผายมือไปทางวิญญาณของชายหนุ่มผู้ติดตามมาด้วย แต่ทันทีที่ท่านเจ้าสวรรค์แนะนำตัวชายหนุ่มก็ประสานมือคารวะอย่างนอบน้อมพร้อมรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนจนท่านเจียอีต้องขยี้ตามองอีกรอบ วิญญาณที่หลงผิด? ถ้าพูดถึงวิญญาณหลงผิดที่ถึงขนาดเทพพระเจ้าต้องลงมาจัดการด้วยตนเองแล้วก็น่าจะหมายถึงเทพมารที่อาละวาดทำลายล้างไปทั่วมิติสิถึงจะถูก ปกติแล้ววิญญาณแบบนั้นไม่น่าจะคารวะตนพร้อมรอยยิ้มแบบนี้นี่นา

“แต่ว่า.....”แม้เจ้าสวรรค์จะเป็นคนพูดเอง แต่กฎข้อบังคับที่มีล้วนแล้วแต่เกิดจากการตกลงของเจ้าสวรรค์หลายท่านร่วมลงความเห็นกัน แม้ท่านเจ้าสวรรค์หวงซื้อหลงจะยินยอมแต่ไม่ใช่ว่าต้องรอคำยืนยันจากท่านเจ้าสวรรค์ท่านอื่นๆอีกงั้นหรือ อย่างน้อยก็ขอเป็นเจ้าสวรรค์ของมิติที่ชายคนนี้เคยอาศัยอยู่ก็ยังดี แล้วเทพต้นกำเนิดนี่มันอะไรกัน เหมือนจะเคยได้ยินแต่ก็ไม่รู้อะไรละเอียดขนาดนั้นเลย

“ไม่เป็นไร เจ้าสวรรค์องค์อื่นๆจะต้องเข้าใจแน่นอน เจ้าทำตามที่ท่านเทพต้นกำเนิดต้องการก็พอ”หวงซื้อหลงเห็นเจียอีมีท่าทีลังเลก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่ความต้องการของท่านเทพต้นกำเนิดนั้นสำคัญกว่ากฎข้อตกลงของพวกเจ้าสวรรค์เป็นไหนๆ เพราะต่อให้เจ้าสวรรค์ทุกองค์ที่มีอยู่ในตอนนี้มายืนเบื้องหน้า ก็มีแต่ต้องทำตามคำสั่งของท่านเทพต้นกำเนิดทั้งนั้น

“เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ”เจียอีพยักหน้าช้าๆก่อนจะมองไปที่แผนที่มิติของตนเองด้วยท่าทีจำใจ ในเมื่อท่านเจ้าสวรรค์ยืนยันอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ เช่นนั้นนางก็แค่เลือกโลกที่เหมาะสมกับการอบรมบ่มนิสัยของวิญญาณหลงผิดดวงนี้ก็พอสินะ

“ดี....ท่านเทพต้นกำเนิดขอรับ บอกความต้องการของท่านให้นางได้ฟังเถิดขอรับ”หวงซื้อหลงพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะเชิญท่านเทพต้นกำเนิดออกมาเลือกโลกที่นางต้องการจะลงไปเกิดได้ตามใจชอบ เรียกได้ว่าสิทธิพิเศษนี้มีให้เพียงท่านเทพต้นกำเนิดเท่านั้นก็ว่าได้

“ข้าลงไปในโลกเบื้องล่างครั้งนี้ก็เพื่ออบรมบ่มนิสัยของวิญญาณร้ายด้วยนี้”ท่านเทพต้นกำเนิดยิ้มบางๆออกมาก่อนจะเดินเข้าไปยืนหน้าแผนที่พร้อมกับวิญญาณร้ายที่เดินตามมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเดิม ท่าทางเขาจะไม่ใส่ใจเลยว่าเทพองค์ไหนจะเรียกตนว่าวิญญาณหลงผิดหรือวิญญาณร้าย

“ก่อนอื่นก็ต้องเป็นโลกที่มีสิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์อาศัยอยู่ และมีสภาพแวดล้อมสงบสุขและพร้อมจะทำให้วิญญาณร้ายตนนี้ได้ซึมซับความสุขและความสงบ”สิ้นเสียงของท่านเทพต้นกำเนิด เจียอีก็วาดมือออกไปทางแผนที่มิติก่อนที่แผนที่ตรงหน้าจะหมุนวนอย่างรวดเร็วก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงดาวดวงหนึ่ง

“เช่นนั้นข้าขอนำเสนอดาวดวงนี้เจ้าค่ะ ดาวดวงนี้เป็นดาวของเหล่าผู้ฝึกตน ในโลกนี้เหล่ามนุษย์ได้รับการสั่งสอนอย่างดีจากเหล่าเทพที่ปกครองดาวดวงนี้เอาไว้ มนุษย์ในโลกนี้ต่างบรรลุธรรมและอยู่กันอย่างสงบสุขไร้ซึ่งกิเลสเจ้าค่ะ”ทันทีที่เจียอีอธิบาย โลกที่นางเลือกก็ถูกขยายออกฉายให้เห็นภาพเหล่านักบวชชุดขาวนั่งสมาธิอยู่ในสวนกันอย่างสงบสุข เรียกว่าเป็นโลกที่เหมาะกับการมุ่งหน้าหาธรรมจริงๆ

“แล้ว.....อาหารของโลกใบนี้เป็นอย่างไรบ้างหรือ”อยู่ๆท่านเทพต้นกำเนิดก็ถามคำถามที่น่าประหลาดใจออกมาทำเอาเจียอีที่ยืนเฝ้าอยู่มีสีหน้างุนงงทันที อาหารงั้นหรือ?

“ในโลกใบนี้ผู้คนบรรลุพลังธรรมชาติไม่จำเป็นต้องกินอาหารเจ้าค่ะ”เจียอีตอบพลางยิ้มบางๆออกมา โลกใบนี้เป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของนางเชียวนะ เพราะมนุษย์บนโลกนี้ทั้งสงบสุขและมีชีวิตยืนยาว พวกเขาไม่ก่อเรื่องอะไรให้เหล่าพระเจ้าปวดหัวเลยแม้แต่น้อย

“งั้นไม่เอา....”ท่านเทพต้นกำเนิดพอได้ยินว่าโลกนี้ไม่กินอาหารกันนางก็ปฏิเสธออกไปทันทีเล่นเอาเจียอีสะดุ้งโหยง

“ท่าน....อยากจะได้โลกที่มีวัฒนธรรมการกินอาหารหรือเจ้าคะ”เจียอีถามด้วยท่าทีสงสัย ทำไมการกินอาหารถึงสำคัญขนาดมีผลกับการตัดสินใจเลือกโลกใบนี้ด้วยเล่า

“ระ เรื่องนั้นเป็นเพราะวิญญาณดวงนี้ต้องการจะกินอาหารในโลกมนุษย์ด้วย หากเป็นโลกที่ไม่มีอาหารให้ลิ้มลองเกรงว่าจะทำให้วิญญาณดวงนี้สงบลงไม่ได้”อยู่ๆท่านเทพต้นกำเนิดก็หลบสายตาไปทางอื่นก่อนจะเอาความต้องการของวิญญาณชายหนุ่มข้างๆมาอ้างเสียอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าคนที่ต้องการคือตัวท่านเองหรอกหรือ

“งั้นก็ได้เจ้าค่ะ......”เจียอีได้ฟังก็เปลี่ยนดวงดาวที่เลือกเสียใหม่ ในมิติหนึ่งมีดวงดาวนับไม่ถ้วน หากจะหาดาวที่มีวัฒนธรรมการกินดีๆละก็....

วูบ.....

ไม่นานดวงดาวจำนวน 12 ดวงก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเจียอีอย่างพร้อมเพรียงกัน ในดาวเหล่านี้ล้วนแล้วมีวัฒนธรรมอาหารอันยอดเยี่ยม มีทั้งดวงดาวที่อยู่ท่ามกลางสัตว์อสูรที่มีรสชาติยอดเยี่ยมเพราะพลังที่พวกมันดูดซับจากโลก หรือแม้แต่โลกที่ทั้งทันสมัยและเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาการทำอาหารขึ้นมาจนถึงขีดสุด

“จริงสิ ในโลกพวกนี้มีเผ่าพันธุ์ไหนที่เหมือนกับมนุษย์แต่อายุยืนยาวบ้างหรือไม่”ท่านเทพต้นกำเนิดมองโลกทั้ง 12 อย่างพึงพอใจก่อนจะไล่มองเหล่าสิ่งมีชีวิตในโลกนี้คร่าวๆ ในโลกทั้ง 12 มีเผ่าพันธุ์ที่เหมือนมนุษย์ก็จริง แต่เรื่องอายุยืนยาวหรือไม่นั้นมองด้วยตาเปล่าไม่ได้เสียด้วย

“อายุยืนยาวหรือเจ้าคะ”เจียอีได้รับคำขอร้องใหม่เข้ามาก็ยิ่งงุนงงเข้าไปอีก ปกติแล้วอายุของมนุษย์คือไม่เกิน 100 ปี บางโลกก็มีการฝึกฝนพลังวิญญาณหรือพลังเซียนเข้ามาทำให้มนุษย์บนโลกนั้นอายุยืนยาวกว่าปกติ แต่อายุของมนุษย์ในโลกนั้นเกี่ยวอะไรกับการอบรมบ่มนิสัยวิญญาณดวงนี้งั้นหรือ

“ถูกต้อง วิญญาณดวงนี้เป็นวิญญาณที่ดื้อดึงอย่างมาก เวลาเพียงหนึ่งร้อยปีเกรงว่าจะไม่พอต่อการบ่มเพาะนิสัยให้วิญญาณดวงนี้”ท่านเทพต้นกำเนิดบอกเหตุผลของตัวเองออกมาอย่างมั่นใจ แต่ทว่าชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังกลับส่ายหน้าช้าๆอย่างรู้ทัน ที่ท่านต้องการเผ่าพันธุ์ที่อายุยืนยาว นั่นเพราะท่านต้องการจะเที่ยวเล่นนานๆใช่หรือไม่

“งั้น.....ก็มีมนุษย์คนหนึ่งเจ้าค่ะที่ข้าพอจะแนะนำได้ นางเป็นผู้มีสายเลือดของสัตว์ในตำนานของโลกใบนั้นที่มีชื่อว่าหงสานิรันดร์.......”

“............”ระหว่างท่านเทพต้นกำเนิดกับเจียอีกำลังเลือกโลกที่จะลงไปเกิดอย่างละเอียดอยู่นั้น วิญญาณของชายหนุ่มผู้ถูกนำมาเป็นข้ออ้างการลงไปเกิดในโลกเบื้องล่างของท่านเทพต้นกำเนิดก็เผลอมองไปที่ใบหน้าของท่านเทพต้นกำเนิดอย่างประหลาดใจ ตัวเขาเป็นผู้บุกเข้าไปถึงมิติต้นกำเนิด ย่อมศึกษาเรื่องราวของพวกนางมาเป็นอย่างดีก่อนจะลงมือ แต่เพราะข้อมูลของนางมีน้อยเกินไปเลยจะเรียกว่าน่าประหลาดใจก็ไม่ผิดที่ท่านดูเหมือนเด็กไร้เดียงสามากกว่าที่เห็นจากภายนอกเสียอีก เห็นท่านเป็นแบบนี้แล้วก็อดนึกถึงเด็กๆในโลกของตนที่จากมาไม่ได้ เล่นเอาหวนคืนสู่ความหลังไปชั่วครู่เลย

“โลกใบนี้แต่ละคนจะได้รับพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเจ้าค่ะ แน่นอนว่าข้าสามารถมอบพรสวรรค์ที่ดีที่สุดให้กับท่านได้ทันทีเจ้าค่ะ...”ระหว่างกำลังคิดถึงความหลังอยู่นั้นชายหนุ่มก็ได้ยินการอธิบายความสามารถของเผ่ามนุษย์ในโลกใบนั้นจากเจียอีเข้าหูมาเสียก่อน ดูเหมือนโลกใบนั้นจะใช้พลังที่ชื่อว่าพลังวิญญาณโดยคนในโลกนั้นจะใช้พลังวิญญาณควบคู่ไปกับพรสวรรค์ของตนเพื่อสร้างความสามารถของตนขึ้นมา อย่างเช่นผู้ที่มีพรสวรรค์เกี่ยวกับไฟ ก็สามารถใช้พลังวิญญาณของตนในการบงการธาตุไฟได้ บ้างก็ใช้เพื่อการต่อสู้ บ้างก็ใช้เพื่อการดำรงชีพหรือทำสิ่งต่างๆมากมาย แต่หากไม่มีพรสวรรค์ที่เกี่ยวข้องก็จะไม่สามารถควบคุมธาตุอื่นหรือสิ่งอื่นได้ เพราะฉะนั้นพรสวรรค์ที่ได้มาตั้งแต่แรกเกินนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

“เช่นนั้นข้าขอเลือกพรสวรรค์นั้นได้หรือไม่ขอรับ”ระหว่างเจียอีกำลังอธิบายเรื่องพรสวรรค์ให้ท่านเทพต้นกำเนิดฟัง นางก็แสดงพรสวรรค์ทั้งหมดออกมาให้ท่านเทพต้นกำเนิดได้ดูด้วย ระหว่างกำลังไล่ตามองอยู่นั้นอยู่ๆชายหนุ่มก็พบพรสวรรค์หนึ่งเข้าพอดี และมันก็น่าสนใจพอจะทำให้ชายหนุ่มที่เงียบมาตลอดการเลือกของท่านเทพต้นกำเนิดจะสอดปากเข้ามาขอร้องได้

“เจ้า....เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกันถึงจะมาเลือกพรสวรรค์ตั้งแต่เกิดในโลกใบนั้นได้”แน่นอนวิญญาณมนุษย์มีหรือจะมาใช้สิทธิ์ของเทพได้ ทันทีที่ขอออกไปเจียอีที่รับหน้าที่ดูแลมิติที่พวกเทพต้นกำเนิดจะลงไปจุติก็แสดงท่าทีไม่พอใจออกมาทันที ขืนให้วิญญาณหลงผิดได้เลือกพรสวรรค์ตามใจชอบมีหวังได้เอาไปใช้ทำเรื่องวุ่นแน่ๆ

“เรื่องนี้ข้าต้องขอร้องจริงๆขอรับ หากข้าได้รับพรสวรรค์นี้ข้าจะตั้งใจกลับเนื้อกลับตัวเป็นวิญญาณที่ดีขอรับ”ชายหนุ่มประสานมือก้มลงขอร้องอย่างนอบน้อมเล่นเอาเจียอีชะงักไปนิดหน่อย แม้จะดูสุภาพแต่อีกฝ่ายเป็นวิญญาณหลงผิดนะ บางทีอาจจะแค่พูดขอร้องเพื่อหวังผลอย่างเดียวก็ได้

“ท่านเทพต้นกำเนิด หากท่านยอมให้ข้าได้รับพรสวรรค์นั้น ข้าจะช่วยท่านหาอาหารเลิศรสมาให้ท่านลิ้มลองดีหรือไม่ขอรับ”ไม่รอให้เจียอีตัดสินใจ อยู่ๆชายหนุ่มก็หันไปหาท่านเทพต้นกำเนิดเพื่อยื่นข้อเสนอเสียอย่างนั้น แถมท่าทางมันจะได้ผลเสียด้วยเพราะทันทีที่พูดถึงอาหารเลิศรนางก็เบิกตากว้างด้วยท่าทีสนใจทันที

“จริงสิ ในโลกนั้นน่าจะมีงานเทศกาลด้วย เอาไว้ข้าจะพาท่านไปเที่ยวงานเทศกาลที่มีทั้งดนตรีการแสดง และความสนุกสนานดีหรือไม่ขอรับ”ชายหนุ่มยิ้มพลางพูดเรื่องที่ทำให้ท่านเทพต้นกำเนิดสนใจออกมาหน้าตาเฉย แม้สำหรับเจ้าสวรรค์และเทพผู้ปกครองมิติอย่างเจียอีจะไม่เข้าใจว่าเรื่องพวกนั้นจะสามารถล่อลวงเทพต้นกำเนิดได้อย่างไร แต่ชายหนุ่มกลับเชื่อมั่นว่านางจะต้องสนใจแน่ๆ

“สมแล้วที่เป็นวิญญาณชั่วร้าย เจ้าคิดจะใช้สิ่งเหล่านี้มาหลอกล่อเรางั้นหรือ เราเป็นเทพย่อมไม่สนใจสิ่งยั่วยุเหล่านี้แต่อย่างไร”ผิดคาด ท่านเทพต้นกำเนิดที่ทำท่าทีสนใจสุดๆข่มความต้องการของตนเองเอาไว้ได้ ก่อนจะปฏิเสธคำขอของชายหนุ่มเสียอย่างนั้น

“แต่.....พรสวรรค์ที่เจ้าขอก็ไม่ได้เกินเลยไปนัก หากเจ้ายอมพาข้าไป.....เอ่อ หมายถึงคิดจะกลับตัวกลับใจจริงๆข้าย่อมให้โอกาสเจ้าได้รับพรสวรรค์อย่างที่เจ้าต้องการ”ท่านเทพต้นกำเนิดก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะยอมให้ชายหนุ่มได้พรสวรรค์ตามที่ต้องการจนได้ ก็มัน....ช่วยไม่ได้นี่นา เรื่องราวของโลกเบื้องล่างที่นางได้ยินมา มีทั้งอาหารที่พวกเขากิน งานเทศกาลที่พวกเขาจัด หรือสิ่งต่างๆที่น่าสนใจ นั่นเป็นเป้าหมายที่นางหาโอกาสลงมายังโลกเบื้องล่างทั้งนั้นเลยนี่นา ถึงจะเอาวิญญาณของเขามาเป็นข้ออ้างก็เถอะ แต่ถ้าเขาให้ความร่วมมือด้วยมันก็จะง่ายขึ้นไม่ใช่หรือไง

“แต่ว่า..พรสวรรค์นี้มัน”เจียอีกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะพรสวรรค์ที่ชายหนุ่มต้องการอย่าง ความสามารถของนักอัญเชิญ นั้นแม้จะไม่ใช้พลังที่น่าหวาดกลัว แต่ก็เป็นพลังที่หายากมากพลังหนึ่ง แต่สิ่งที่เจียอีกังวลที่สุดคือเป้าหมายของวิญญาณหลงผิดตนนี้ต่างหาก วิญญาณตนนี้ต้องการพลังอัญเชิญไปทำอะไรกันแน่....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด