287 - ความโกรธเกรี้ยวของผู้สูงสุด
1598 - ความโกรธเกรี้ยวของผู้สูงสุด
เมิ่งเทียนเจิ้งเคยต่อสู้จนบุกเข้าสู่ตระกูลหวัง ก่อนหน้านี้เขาโจมตีดินแดนบรรพบุรุษของพวกเขาทั้งยังได้ต่อสู้กับเซียนอมตะหวังจนไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ
ตอนนี้เขาเสียชีวิตแล้ว ในที่สุดคนของตระกูลหวังก็รู้สึกราวกับว่าเมฆสีดำถูกแยกออกเผยให้เห็นดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลัง
“ผู้อาวุโสใหญ่!” เด็กหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งกรีดร้องออกมาด้วยความเศร้าโศก
ในขณะเดียวกันก็มีคนที่อยู่ห่างออกไปได้พากันหัวเราะเบาๆ
“เฮ้เฮ่…”
นี่คือผู้คนจากตระกูลจิน การกระทำของพวกเขาสร้างความโกรธแค้นให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก
แม้ว่าพวกเขาจะพยายามซ่อนมันไว้อย่างดี แต่ก็ยังมีใครบางคนสังเกตเห็น
สิ่งนี้ทำให้ความโกรธแค้นของฝูงชนปะทุขึ้นทันที คนมากมายปลดปล่อยไอสังหารออกมา ไม่ว่าจะอย่างไรวันนี้ต้องสังหารคนจากตระกูลจินเหล่านี้ให้หมดสิ้น
เมื่อคนทั้งสองฝ่ายกำลังจะลงมือต่อสู้กัน วังโบราณก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ฮ่อง!
เกิดเสียงดังกึกก้องรัศมีพลังอันรุนแรงแผ่ออกมาปกคลุมเมืองจักรพรรดิ
ยิ่งไปกว่านั้นตะเกียงวิญญาณที่ดับแล้วก็ปะทุขึ้นพร้อมกับความสว่างไสวอย่างหาที่เปรียบมิได้ มันส่องแสงเหมือนดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆดวงหนึ่ง
"อา! ผู้อาวุโสใหญ่ฟื้นคืนชีพแล้ว! เขายังไม่ตายเขายังมีชีวิตอยู่!” มีคนส่งเสียงโห่ร้องดังลั่น
ตะเกียงวิญญาณนั้นสุกใสจริงๆ เห็นได้ชัดว่าการที่ตะเกียงดับไปเมื่อสักครู่นี้ต้องเกิดจากการที่ผู้อาวุโสใหญ่ได้กระทำบางอย่างที่สำคัญยิ่ง เรื่องนี้ย่อมหมายความว่าผู้อาวุโสใหญ่ได้ “นิพพานสำเร็จ”
กวงดัง!
ประตูใหญ่ของวังยักษ์ถูกเปิดออกคลื่นแห่งความผันผวนที่ไร้ขอบเขตพุ่งออกมาจากภายใน หลายคนสั่นสะท้านไม่กล้าต่อต้านได้แต่คุกเข่าลง
ผู้คนเหล่านี้มาจากตระกูลจินและคนของตระกูลหวัง การแสดงออกของพวกเขาเคร่งเครียดเป็นอย่างยิ่ง
คนที่กำลังหัวเราะอยู่ตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดขาวฟันของเขากระทบกันไม่หยุดอย่างไม่อาจควบคุม
ปูตง!
ผู้คนจากตระกูลจินล้มลงบนพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัว คนของตระกูลหวังก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีไปกว่ากัน
ในตอนนี้แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักปลดปล่อยตัวตนเองก็ไม่สามารถยืนอยู่ได้
ในระหว่างขั้นตอนนี้ตะเกียงวิญญาณเปลี่ยนจากสุกสกาวเป็นมืดสลัวอีกครั้ง
ทุกคนสั่นสะท้าน พวกเขารู้ดีว่าสถานการณ์ของผู้อาวุโสใหญ่ยังไม่ปกติดี พลังของเขาจึงเต็มไปด้วยความผันผวน
จากนั้นเด็กหนุ่มเมิ่งเทียนเจิ้งก็เดินออกมาโดยยังคงสวมชุดเกราะสีทองที่ขาดรุ่งริ่งและถูกชโลมไปด้วยเลือด ตั้งแต่ที่กลับมาจากชายแดนรกร้างเขายังไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย
“ผู้อาวุโสใหญ่ สือฮ่าวแย่แล้ว…” กระต่ายหยกจันทราร้องไห้ออกมาไม่สามารถพูดได้จบประโยค
เมิ่งเทียนเจิ้งถอนหายใจและพูดว่า "ข้ารู้ทุกอย่าง!"
สาเหตุที่เมิ่งเทียนเจิ้งตื่นขึ้นได้อีกครั้ง ก็เพราะมีคลื่นอารมณ์รุนแรงอยู่รอบๆสถานที่แห่งนี้
มันทำให้เขาฟื้นขึ้นมาจากสภาวะที่ลึกที่สุดของการบ่มเพาะ เมื่อเขารับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเขาก็ปะทุขึ้นด้วยความโกรธ
แม้ว่าเขาจะดูสงบนิ่งในตอนนี้ แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงความกดดันระดับหายนะ ผู้อาวุโสใหญ่จะยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
เปง!
ผู้อาวุโสใหญ่ออกจากวังยักษ์เพียงก้าวเดียวมาที่ด้านหน้าของทุกคน
เมื่อเขายืนอยู่ที่นั่นร่างของทุกคนจากตระกูลจินและตระกูลหวังก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว พวกเขาทั้งหมดนอนอยู่บนพื้นไม่สามารถลุกขึ้นได้ กระดูกทุกชิ้นในร่างกายของพวกเขาถูกป่นเป็นผุยผง
นี่คือความโกรธเกรี้ยวของสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาสามารถทำลายสวรรค์และปฐพีแห่งนี้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
หากไม่ใช่เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองจักรพรรดิ์ ตอนนี้ที่ที่พวกเขายืนอยู่คงกลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว
แม้จะเป็นเช่นนี้แต่คนของตระกูลจินและตระกูลหวังก็ยังไม่สามารถทนต่อมันได้ หลายคนที่ก่อนหน้านี้หัวเราะอย่างสนุกสนานร่างกายของพวกเขาระเบิดขึ้นโดยตรงเสียชีวิตไปทั้งอย่างนั้น
ในทางตรงกันข้ามผู้ฝึกฝนรุ่นเยาว์ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย แม้ว่าผู้อาวุโสใหญ่จะเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว แต่เขาก็ยังสามารถควบคุมพลังของตนเองได้ดี
หลังจากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็เดินไปเพียงก้าวเดียวแต่มันสามารถข้ามมาหลายหมื่นลี้จนปรากฏตัวอยู่บนกำแพงของเมืองจักรพรรดิ!
“ผู้อาวุโสหมิ่ง!” ใครบางคนร้องออกมา
ทุกคนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเมิ่งเทียนเจิ้งและฮวงเป็นอย่างดีและรู้ว่าไม่นานมานี้เขาเข้าสู่การนิพพานอันยิ่งใหญ่ที่สุดจนทุกคนคิดว่าเขาจะไม่สามารถรอดชีวิตมาได้
ทุกคนไม่คาดคิดว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเร็วถึงขนาดนี้
ใบหน้าของทุกคนจากตระกูลจินเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ในขณะเดียวกันผู้คนจากตระกูลหวังตระกูลตู้เผ่าพันธุ์ปี่เซียะและคนอื่นๆที่สนับสนุนให้ส่งตัวฮวงออกไปเป็นเครื่องบูชายัญล้วนสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ
พวกเขารู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่จะไม่พอใจอย่างแน่นอน
ความโกรธเกรี้ยวของสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดจะส่งผลให้มีคนตายมากมาย ตอนนี้ตระกูลจินพบปัญหาร้ายแรงแล้ว
ปัจจุบันเมิ่งเทียนเจิ้งกลับมาสู่ช่วงที่เข้มแข็งที่สุดในชีวิต ร่างกายของเขาสง่างามเต็มไปด้วยความองอาจกล้าหาญ
ชุดเกราะสีทองที่มีสภาพยับเยินถูกอาบไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม เส้นผมสีดำของเขากระจัดกระจายอยู่ข้างหลังเป็นลักษณะข่มขู่อย่างรุนแรง
แสงศักดิ์สิทธิ์ในดวงตาของเขาสว่างไสวทันทีเมื่อเห็นกระบี่เซียนถูกเหน็บอยู่ที่ข้างเอวของสือยี่
คิ้วของเมิ่งเทียนเจิ้งขมวดเข้าหากัน เขายกมือขึ้นกระบี่เซียนถูกดึงเข้าหามือเขาทันที
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป ผู้คนที่อยู่ในระยะไกลรีบหันหน้าหลบหนีอย่างไม่รอช้า!
ผู้อาวุโสใหญ่ดึงกระบี่ขึ้นมา เขากำลังจะปลดปล่อยการเข่นฆ่าครั้งใหญ่ที่นี่หรือไม่!
เมิ่งเทียนเจิ้งถือกระบี่เซียนเปลี่ยมไปด้วยเจตนาสังหารที่เอ่อล้นขึ้นสู่สวรรค์ เกราะสีทองที่เปื้อนเลือดปลดปล่อยรัศมีอันทรงพลังออกมาจนทุกคนไม่กล้าเคลื่อนไหว
นอกจากผู้สูงสุดไม่กี่คนแล้วทุกคนที่อยู่บนกำแพงเมืองต่างคุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว สิ่งนี้เกิดจากความโกรธเกรี้ยวของสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุด
ความกดดันที่เขาปลดปล่อยออกมาทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน แสงสีทองแผ่ออกมาจากร่างกายของเขาจนเหมือนกับดวงอาทิตย์ดวงหนึ่ง
“เมิ่งเทียนเจิ้ง!”
แม้ว่าจะมีค่ายกลที่ทรงพลังปกป้องกำแพงเมืองจะปิดกั้นพลังนี้ไว้ แต่หลายคนก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยมานาน กลิ่นอายนี้แข็งแกร่งมากเกินไป และยังแข็งแกร่งมากกว่าที่เคยเป็นด้วยซ้ำ
ผู้คนมากมายตัวสั่นสะท้านพร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวช
เสียงร้องเตือนดังมาจากหญิงชราที่อยู่เคียงข้างจินไท่จุน ทันทีที่นางพูดออกมาร่างของนางก็ปลิวไปในอากาศพร้อมกับแยกเป็นชิ้นๆเสียชีวิตทันที
สิ่งนี้เกิดจากคลื่นรัศมีรุนแรงของเขา เมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้ขยับตัวเพียงมองไปที่หญิงชราคนนั้นแต่ร่างกายของนางก็ระเบิดทันที
นี่คือพลังที่จุดสูงสุดของเต๋ามนุษย์ นับได้ว่าขาดอีกเพียงครึ่งก้าวเท่านั้นเขาก็จะเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ!
ใบหน้าของผู้คนมากมายที่อยู่รอบๆตัวของจินไท่จุนซีดเผือดไร้สีเลือด คนเหล่านั้นมีทั้งชายทั้งหญิงล้วนแต่เป็นคนรับใช้ทั้งนั้น
“สหายเต๋าเมิ่งหมายความว่าอย่างไร?” การแสดงออกของจินไท่จุนเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า นางจับไม้เท้าในมือแน่นนิ้วของนางซีดลงเล็กน้อย นี่เป็นผลมาจากการจับมันแน่นเกินไป
นางรู้สึกทั้งโกรธและตกใจ เมิ่งเทียนเจิ้งมาพร้อมกับความโกรธและตั้งใจจะทำการเข่นฆ่าครั้งใหญ่! คนอื่นๆตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว
มีผู้คนล้มตายลงอย่างต่อเนื่องจากรัศมีพลังของเขา ทุกคนล้วนมาจากตระกูลจิน ด้วยการเหลือบมองเพียงครั้งเดียววิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาก็สูญสลายไปในทันที
ในทันใดนั้นทุกคนที่คอยสนับสนุนผู้คนตระกูลจินก็ล้มลงกับพื้นพร้อมกับกระอักเลือดออกมาไม่หยุด วิญญาณดั้งเดิมมีทีท่าว่าจะสูญสลายไปได้ทุกเมื่อ
ไม่ว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองหรือผู้ฝึกตนวัยกลางคนและเด็กหนุ่มสาวอายุเยาว์วัย พวกเขาทั้งหมดต่าง สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่กล้าส่งพลังออกมาต้านทานแม้แต่น้อย
“ ผู้อาวุโส!
คนของตระกูลตู้ร้องออกมา
ฮ่อง!
ดวงตาของผู้อาวุโสใหญ่เคลื่อนไหวมองที่เขาทันที คนผู้นั้นปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้าร่างกายระเบิดแยกออกจากกันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเสียชีวิตโดยไม่สามารถกล่าวอะไรออกมาอีก
นี่คือพลังของสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเพียงการจ้องมองของเขาก็ยังทรงพลังถึงขนาดนี้! ผู้นำของตระกูลทั้งหมดร่างกายสั่นสะท้านหมอบกราบลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว