288 - กระบี่เซียนในมือผู้สูงสุด
1599 - กระบี่เซียนในมือผู้สูงสุด
ผู้อาวุโสใหญ่ถือกระบี่เซียนเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ผู้คนมากมายที่หมอบกราบอยู่กับพื้นมีเสียงฟันกระทบกันดัง ‘กึกกัก’ อย่างไม่สามารถควบคุมได้
ดวงตาของพวกเขาพร่ามัวไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น
“เมิ่งเทียนเจิ้งเจ้าต้องการอะไรกันแน่? หรือเจ้าคิดจริงๆว่าข้าจะหวาดกลัวเจ้า!” ร่างกายของจินไท่จุนปะทุขึ้นด้วยกฎธรรมชาติของเต๋าอันยิ่งใหญ่พลังแห่งความโกลาหลถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของนาง
เป็นเพราะตอนนี้เป้าหมายของเมิ่งเทียนเจิ้งคือนางไม่ใช่คนอื่นอย่างแน่นอน เขาเดินไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างช้าๆดวงตาของเขาเย็นชาจนน่ากลัว แม้แต่ผู้สูงสุดอย่างนางก็ยังสั่นสะท้าน
ทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง โดยเฉพาะคนระดับสูงของตระกูลจิน พวกเขาทั้งหมดนอนอยู่บนพื้นพยายามทำตัวให้เล็กที่สุดเพื่อจะได้ไม่เป็นจุดสนใจ
พวกเขาไม่เคยคิดว่าเมิ่งเทียนเจิ้งจะทรงพลังมากถึงขนาดนี้ ภายใต้ความโกรธแค้นของเขาแม้แต่จินไท่จุนยังเอาตัวไม่รอดนับประสาอะไรกับการปกป้องลูกหลาน
ทุกคนตื่นตระหนกกังวลว่าผู้อาวุโสใหญ่จะกวาดล้างตระกูลจินทั้งหมดไปในคราวเดียว!
ต๋อง!
จินไท่จุนเขย่าไม้เท้าเตรียมรับการโจมตีของเมิ่งเทียนเจิ้ง แม้จะทราบดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่นางก็ไม่มีทางที่จะยอมตายโดยไม่ต่อสู้อย่างแน่นอน!
“สหายเต๋าเมิ่ง!” ผู้สูงสุดคนหนึ่งเอ่ยปากขึ้นมา อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นสายตาของเมิ่งเทียนเจิ้งเขาก็รีบปิดปากโดยไว
เกียง!
เมิ่งเทียนเจิ้งยังคงเดินหน้าต่อไป ยิ่งกว่านั้นเขายังฟาดฟันกระบี่เซียนไปข้างหน้าตรงๆโดยไม่มีความลังเล
“เจ้ากล้า!…” สีหน้าของจินไท่จุนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนางไม่คิดว่าเมิ่งเทียนเจิ้งจะกล้าลงมือจริงๆ
เขาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวทำให้นางไม่มีโอกาสได้อธิบายอะไรแม้แต่น้อย
รัศมีจากกระบี่เล่มนี้สว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า แสงสีเงินขนาดยักษ์ผ่าจักรวาลอันยิ่งใหญ่ออกเป็นสองซีก!
ผู้สูงสุดทุกคนที่อยู่บนกำแพงเมืองจักรพรรดิ์ตอนนี้ต้องสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ
จินไท่จุนไม่สามารถหลบหนีได้ทันนางทำได้เพียงยกไม้เท้าขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันตัวจากการโจมตีมันรุนแรงของกระบี่เล่มนี้
เป็นเพราะการคุกคามจากกระบี่เล่มนี้รุนแรงมากเกินไป
ผู้สูงสุดทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างจินตนาการว่าหากตนเองเป็นจินไท่จุนจะสามารถป้องกันกระบี่นี้ได้หรือไม่
เพียงไม่นานพวกเขาก็ส่ายหน้า การโจมตีครั้งนี้ทรงพลังเกินไปไม่มีทางที่พวกเขาจะรอดไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมิ่งเทียนเจิ้งทรงพลังถึงระดับนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เมิ่งเทียนเจิ้งจดจ่ออยู่กับเป้าหมายข้างหน้าเท่านั้น หากไม่เช่นนั้นแล้วทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องถูกรัศมีพลังอันโหดร้ายบดขยี้ร่างกายจนเป็นผุยผง
ไม่มีผู้นำตระกูลแม้เพียงคนเดียวที่อยู่ในบริเวณไม่สั่นสะท้านด้วยความกลัว ร่างกายของพวกเขาชักกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
เกียง!
รังสีกระบี่เป็นเหมือนสายรุ้งซึ่งมีความกระจ่างใสราวกับแม่น้ำสวรรค์ ขณะที่มันตกลงมาอาจทำให้ท้องฟ้าเบื้องบนและปฐพีเบื้องล่างสั่นไหวราวกับจะถูกทำลายลงในพริบตา
สายลมแห่งดวงดาวพุ่งขึ้นทั่วร่างของจินไท่จุน โซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งคำสั่งเทพเจ้าปกคลุมร่างกายของนางอย่างหนาแน่นพร้อมกับปลดปล่อยพลังอย่างเต็มที่เพื่อต้านทานการโจมตีครั้งนี้
แดง!
ไม้เท้าในมือของนางปะทะกันกับกระบี่เซียนอย่างรุนแรงเกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิ ประกายไฟบินกระจายไปทั่วท้องฟ้า
สถานที่ที่เกิดการปะทะกันนั้นปรากฏพลังแห่งความโกลาหลออกมาปิดบังทุกสิ่ง!
หลังจากนั้นไม่นานไม้เท้าของจินไท่จุนก็แหลกสลายกลายเป็นผุยผง แม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นจากทองคำเซียนแต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานกระบี่เล่มนี้ได้
เป็นเพราะกระบี่เล่มนี้คมเกินไป พลังศักดิ์สิทธิ์ของมันไม่มีสิ่งใดเทียบได้มันปลดปล่อยความสว่างไสวที่แม้แต่ดวงอาทิตย์ยังต้องหลบให้
ปู!
หน้าอกของจินไท่จุนถูกกระบี่เซียนฟันเข้าใส่อย่างรุนแรงจนร่างกายแทบจะแยกออกจากกันเป็นสองท่อน
สิ่งนี้น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เพียงกระบี่เดียวของเมิ่งเทียนเจิ้งก็เกือบจะเอาชีวิตจินไท่จุนได้!
จากไหล่ของนางลงไปที่หน้าท้อง กระบี่เล่มนี้ถูกฟันลงมาในแนวทแยงมุม ทิ้งบาดแผลอันน่าสยดสยองไว้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณยิ่งทวีความหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
บางคนหวาดกลัวมากจนเกินไปพวกเขารีบโขกศีรษะกับพื้นไม่หยุด แต่ถึงจะอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมาด้วยเกรงว่าเสียงของพวกเขาจะไปกระตุ้นโทสะของเมิ่งเทียนเจิ้ง!
ไม่ต้องกล่าวถึงคนอื่นแม้แต่ดวงตาของเซียนอมตะหวังก็ยังมีประกายหม่นหมองเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเมิ่งเทียนเจิ้งต้องได้รับโชควาสนาบางอย่างจนตอนนี้กลายเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถต้านทานได้
เมื่อมีคนแรกเริ่มโขกศีรษะกับพื้นหลังจากนั้นก็มีผู้คนมากมายที่ทำตาม
เมื่อได้โขกศีรษะไปแล้วหากไม่ได้รับอนุญาตจากเมิ่งเทียนเจิ้งพวกเขาก็ไม่กล้าหยุดโดยพละการเพราะเกรงว่าจะกระตุ้นโทสะและความสนใจของเขา
จินไท่จุนนั้นเป็นผู้ที่ทรงพลังมานับล้านปี แต่นางก็ยังถูกเมิ่งเทียนเจิ้งจัดการด้วยกระบี่เดียวจนร่างกายเกือบจะถูกตัดออกจากกันเป็นสองส่วน!
ทันทีที่ไม้เท้าถูกทำลายแก่นแท้ของทองคำเซียนก็ถูกกระบี่เซียนเล่มนี้ดูดกลืนทันที หากสังเกตอย่างถี่ถ้วนจะเห็นได้ว่าความยาวของมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
หลังจากจินไท่จุนได้รับบาดเจ็บนางก็เซถลาไปด้านหลังอย่างต่อเนื่องร่างกายครึ่งหนึ่งของนางชุ่มโชกไปด้วยเลือด รอยฝ่าเท้าของนางถูกกดอยู่บนพื้นจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ต้องเข้าใจว่าบนกำแพงเมืองแห่งนี้มีค่ายกลโบราณสลักไว้มากมายความแข็งแกร่งของมันอยากที่ใครจะจินตนาการถึง
แต่ตอนนี้มันปรากฏรอยเท้าขึ้นมานั่นแสดงให้เห็นว่าการโจมตีครั้งนี้ของเมิ่งเทียนเจิ้งรุนแรงมากแค่ไหน
คนของตระกูลจินต่างหวาดผวาอย่างถึงที่สุด พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดทั้งสองจะมีความแข็งแกร่งห่างไกลกันมากถึงขนาดนี้!
ใบหน้าของพวกเขาขาดสีสันไปหมดแล้ว ถ้าเมิ่งเทียนเจิ้งคุ้มคลั่งขึ้นมาจริงๆใครจะเอาตัวรอดได้? ในเมืองแห่งนี้จะมีใครหยุดเขา? ต่อให้ผู้สูงสุดทุกคนร่วมมือกันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถต้านทานเขาได้!
ผู้สูงสุดหลายคนเต็มไปด้วยความมึนงงไม่คิดว่าหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บกลับมาเขาจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้
ดวงตาของเซียนอมตะหวังลึกล้ำเขากำลังครุ่นคิดอยู่คนเดียวเงียบๆ ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเมิ่งเทียนเจิ้งและกำลังประเมินอาณาจักรบ่มเพาะของเขาว่าก้าวเข้าไปสู่ระดับนั้นแล้วหรือไม่
ปู!
หลังจากจินไทจุนเซถลาถอยหลังอย่างต่อเนื่องนางก็กระอักเลือดคำใหญ่ออกมาก่อนจะล้มลงที่พื้นพร้อมกับแน่นิ่งไป
อย่างไรก็ตามเเมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้กดดันต่อ เขายังคงก้าวไปข้างหน้าจนมาถึงกำแพงเมืองพร้อมกับจ้องมองเข้าไปในทะเลทรายอันยิ่งใหญ่!
ในตอนนี้กองทัพของศัตรูถอนตัวออกไปเหมือนกระแสน้ำพวกเขากำลังจะหายไปในขอบฟ้า
จิ!
เมิ่งเทียนเจิ้งกระโดดลงจากกำแพงเมืองก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นแท่นบูชาที่อยู่หน้าประตูเมืองก็ส่องแสงประกายระยิบระยับและถูกเปิดใช้งาน
ผู้อาวุโสใหญ่ออกจากเมืองจักรพรรดิเข่นฆ่าเข้าไปในกองทัพอันยิ่งใหญ่ของศัตรู!
“ด้วยกระบี่เพียงเล่มเดียวในมือ…เขาเป็นบ้าไปแล้ว!” มีคนตัวสั่นกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ
ผู้สูงสุดบางคนได้แต่ถอนหายใจออกมา สมกับที่เป็นเมิ่งเทียนเจิ้งผู้แข็งแกร่งที่สุดของเก้าสวรรค์สิบพิภพ ความองอาจกล้าหาญของเขานั้นไม่มีใครเทียบได้ถึงกับกล้าที่จะบุกฝ่าเข้าไปในกองทัพศัตรูนับล้าน
ตอนนี้ทุกคนเข้าใจเหตุผลจากการกระทำของเมิ่งเทียนเจิ้งแล้ว
เมิ่งเทียนเจิ้งอาจมีเจตนาต้องการฆ่าจินไท่จุน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลักเขาเขาเพียงลงมือจัดการทั้งสองอย่างไปพร้อมกันเท่านั้น
เหตุผลหลักๆแล้วเขาเพียงต้องการดูว่ากองทัพของศัตรูยังอยู่หรือไม่ ผู้คนที่อยู่ที่นี่ต่างคิดได้ทันที
ทุกคนในที่นี้ย่อมรวมไปถึงจินไท่จุน ตอนนี้ใบหน้าของนางกลายเป็นสีเขียวสลับกับสีขาว
เมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาอย่างแท้จริงเขาเพียงฟาดฟันกระบี่ลงมาคล้ายกับการไล่แมงวันออกไปเท่านั้น?
ในความคิดของจินไท่จุนนี่ถือเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของนางเลยก็ว่าได้
"ฆ่า!"
เสียงคำรามของผู้อาวุโสใหญ่ดังขึ้นอีกครั้งในทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ รัศมีพลังของเขากลืนไปหมื่นลี้สั่นสะเทือนทั้งภูเขาและแม่น้ำ
หลังจากที่เขาออกจากเมืองจักรพรรดิแล้วก็ไม่มีความลังเลใดๆเหลืออยู่ เขาถือกระบี่เซียนเพียงเล่มเดียวฝ่าเข้าไปในกองทัพของศัตรู
รัศมีกระบี่ล้นทะลักขึ้นสู่สวรรค์ มันเปล่งประกายเป็นพิเศษส่องสว่างไปทั่วทั้งจักรวาลทำให้หัวใจของนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองจักรพรรดิลุกชนขึ้นด้วยไฟต่อสู้อันแรงกล้า
ฮ่อง!
รถศึกสีดำถูกนั้นระเบิดออกโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเมิ่งเทียนเจิ้ง เศษโลหะสีดำกระจายไปทั่วท้องฟ้าทำให้ทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ตกอยู่ในความโกลาหล
ชายชราผอมสูงคนหนึ่งเดินออกมาจากรถคันนั้นพร้อมกับมุ่งหน้าไปหาเมิ่งเทียนเจิ้งด้วยสายตาอันคุ้มคลั่ง!