ตอนที่แล้วตอนที่ 8 กำจัดวัชพืช
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 มุ่งหน้าไป

ตอนที่ 9 การอัญเชิญ


ตอนที่ 9 การอัญเชิญ

ลีต้องยอมรับเลยว่าเขาเองก็ประหลาดใจกับสิ่งที่เขาทำลงไป

แต่ก่อนอื่นเลยเขาต้องจัดการกับพวกโจรกระจอกที่อ่อนแอกว่า ลีดีดนิ้วแล้วพื้นดินข้างๆเขาก็แตกแยกออกจากกัน จากนั้นก็มีส่วนหัวของมดขนาดมหึมาโผล่ออกมาและมันมีขนาดใหญ่เกือบเท่ามนุษย์โตเต็มวัย ไม่อยากจะคิดเลยว่าส่วนร่างกายของมดที่เหลืออยู่ใต้พื้นดินนั้นจะมีขนาดมโหราฬขนาดไหน

นี่คือมดยักษ์กรามกับดักเมอร์เมิร์กคิ ซึ่งเป็นชนิดหนึ่งของสายพันธุ์มดยักษ์ที่เรียกว่า เมอร์เมิร์กคิ และเป็นที่รู้จักกันจากกรามขนาดใหญ่ที่โค้งงอออกมาจากด้านข้างของหัวเหมือนกับก้ามปูมีขน พวกเขาคลิกเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว เลียนแบบเสียงร้องของมด ลีลูบหัวของเมอร์เมิร์กคิและดวงตาของมดก็หลับลงด้วยความพึงพอใจ

การอัญเชิญอย่างเฉพาะเจาะจงนี้มีพื้นฐานมาจากแมลงช้างในชีวิตจริง ซึ่งกินเหยื่อโดยการลากพวกมันลงใต้พื้นดิน

นี่คือเลเวล 60 และไม่ได้ใช้การโจมตีมากนัก แต่มันมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อสำหรับการดึงศัตรูให้อยู่กับที่ในเวลาไม่กี่วินาทีอันมีค่า อย่างไรก็ตามหากปล่อยให้พวกโจรที่เลเวลประมาณสิบห้าหลุดรอดออกไปมันจะกลายเป็นเครื่องมือทำลายล้างที่ชั่วร้าย แต่ในไม่ช้าโจรที่ทำอะไรไม่ถูกก็ถูกลากตัวลงมาด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง

นี่เป็นครั้งแรกที่ลีได้อัญเชิญสิ่งมีชีวิตจริงๆ ในตอนที่เขาอัญเชิญพืชออกมาหลังจากนั้นไม่นานเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ดูเหมือนว่าพืชพันธุ์จะแห้งเหี่ยวเหลือเพียงความว่างเปล่า เว้นเสียแต่ว่าเขาจะร่ายมนตร์อย่างเช่นคาถา [ปลูกป่า] ใส่พวกมัน แต่ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตที่อัญเชิญมาจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างถาวร

ลีลูบหัวมดเมอร์เมิร์กคิเป็นครั้งสุดท้ายและพูดว่า "ไปเลย เป็นอิสระแล้วนะ เธอทำได้ดีมาก"

มดเมอร์เมิร์กคิคลิกที่กรามและมองลงต่ำ และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ การอัญเชิญครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างปลอมๆอีกต่อไป เนื่องจากพวกมันมีชีวิตอยู่และพวกมันสามารถแสดงความคิดและส่งความรู้สึกสื่อสารผ่านทางสายใยอัญเชิญทางจิตที่พิเศษกับลีได้

“เธออยากอยู่กับฉันเหรอ?” ลีกล่าว

มดเมอร์เมิร์กคิผงกศีรษะขนาดใหญ่ขึ้นและลง

"แต่เธอจะดึงดูดความสนใจมากเกินไปนะ" ลีกล่าว “ฉันมีเธออยู่รอบๆฟาร์มไม่ได้เหมือนกัน แม้ว่าฉันจะอยากให้เธออยู่ก็เถอะ แต่เธอจะทำให้คนทั้งเมืองแตกตื่นเอาได้”

มดเมอร์เมิร์กคิส่ายหัวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง

“เธอสัญญาว่าจะไม่เอะอะเหรอ?” ลีครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก มดพยายามตื้ออย่างไม่ลดละ “ถ้าอย่างนั้น เราลองมาหาทางประนีประนอมกันดีกว่า ให้เธอในป่าอยู่ที่นี่ตกลงไหม? แล้วฉันจะคอยมาหาเธอบ่อยๆนะ”

มดพยักหน้าด้วยความยินดีก่อนที่จะมุดลงไปใต้ดิน

และตอนนี้ยังมีอีกเรื่อง คือลีจะจัดการกับหัวหน้าของเหล่าโจรพวกนี้อย่างไรดี เขามองไปยังผลงานที่เขาทำสร้างเอาไว้

ก่อนหน้านี้ [กำปั้นแห่งยูมีร์] ได้สลักปล่องภูเขาไฟลงไปบนผืนแผ่นดิน ราวกับว่ามีดาวตกตกลงมาจริงๆ พื้นดินไหม้เกรียมมีลวดลายสีแดงร้อนแรงของหินหลอมเหลว ถ่านลุกเป็นไฟในอากาศและควันที่มีกลิ่นของพืชที่ถูกเผาไหม้อย่างหนักพัดปลิวไปตามสายลม

ทั้งหมดนี้กว้างขวางกว่าระยะประมาณบวกลบ 40 เมตรและมีสิ่งต่างๆถูกทำลายล้างอีกมากมาย ลีรู้ว่า [กำปั้นแห่งยูมีร์] ซึ่งเป็นคาถาระดับ A + ที่ต้องใช้ดรูอิดอย่างน้อยเลเวล 80 เป็นเวทย์ที่มีพื้นที่การทำลายล้างสูงซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมากในรัศมี 100 หน่วย สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือความหมายของหน่วยในเกมนั้นไม่ชัดเจน มันเป็นหน่วยวัดระยะทางในวิดีโอเกม แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าจากการที่มีปล่องภูเขาไฟแสดงว่าคาถานี่ทำให้หน่วยหนึ่งมีระยะประมาณหนึ่งเมตร

ลีก้มศีรษะลงเมื่อเขาเห็นว่าน้ำเริ่มเอ่อขึ้นจากฐานของปล่องภูเขาไฟ [กำปั้นแห่งยูมีร์] และเช่นเดียวกันกับคาถาดรูอิดอีกจำนวนมากนั้นมีทั้งการโจมจีและป้องกัน พื้นที่ใดๆที่ได้รับผลกระทบจากปล่องภูเขาไฟจะทำให้เกิดแหล่งน้ำแห่งการรักษา และนั้นมีประโยชน์อย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับดันเจี้ยนที่ซึ่งการรักษาเป็นทรัพยากรอันล้ำค่า

ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเต็มภายในหนึ่งนาที แม้จะอยู่ในความมืดลีก็รู้สึกตื่นตาและตกใจกลัวน้ำ มันส่องประกายภายใต้แสงจันทร์เป็นดั่งไพลินและมรกต สิ่งนี้ดูสวยงามน่าพิสมัยและมีค่ายิ่งกว่าเพชรพลอยใดๆที่เขาเคยซื้อมาในชีวิตก่อนหน้านี้

ผิวน้ำเริ่มส่องประกายระยิบระยับ มวลสีดำโผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำ ทำลายความแวววาวของอัญมณีด้วยความมืดอันน่าเกลียด มันทรุดลงบนผืนป่า

ลีเดินขึ้นไปหาและมองดูมัน มันคือปีศาจที่ให้พลังแก่พวกลุ่มโจร เขารู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นปรสิตและปีศาจสามารถเอาชีวิตรอดจากการถูกฆ่าตายในเกมได้ด้วยราคาที่ต้องจ่ายคือการที่ร่างกายอ่อนแอลง และดูเหมือนสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นที่นี่เช่นกัน

ปีศาจได้หดตัวเล็กลงจนมีขนาดและรูปร่างเหมือนสุนัขตัวใหญ่แต่ก็เป็นสุนัขปกติ มันหอบด้วยความเหนื่อยล้าขณะที่นัยน์ตาสีเหลืองมองตรงไปหาลี

“เมื่อคิดว่าเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาก็ทำให้ข้าเป็นถึงเพียงนี้ได้ ซาแกน ผู้สูบวิญญาณ ช่างตกต่ำ” ปีศาจพึมพำ "แต่จำคำพูดของข้าเอาไว้เลย เจ้ามนุษย์ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ท่านราชันเพลิงได้ตื่นขึ้นแล้วและกองกำลังปีศาจกำลังตื่นขึ้นตามคำเรียกของท่าน ชีวิตของเจ้าจะถูกริบคืนในไม่ช้า"

“จะราชันเพลิง, อสูร, มนุษย์, กองกำลังปีศาจหรืออะไรก็ช่างเถอะ” ลีพูด "ตัดเรื่องไร้สาระออกไปได้ไหม? ฉันไม่สนใจเรื่องพรรค์นั้นหรอกนะ และที่แกพูดว่า 'ราชันเพลิง' หรืออะไรก็ช่างเถอะ เขาจะทำอะไรก็เชิญตราบเท่าที่เขาจะไม่เข้าไปปย่างกรายเข้าใกล้ฟาร์มของฉัน"

"เจ้าพูดราวกับว่าเจ้าจะไว้ชีวิตข้า" ซาแกนกล่าว

“แกพูดถึงกองกำลังปีศาจด้วย” ลีพูดพลางยักไหล่ "เพราะอย่างนั้นแสดงว่ายังมีพวกแกอยู่อีกมาก แล้วก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะฆ่าแก ถ้าพวกแกยังจะปรากฏตัวมามากกว่านี้อีก ดังนั้นฉันจะให้แกทำงานเพื่อแลกกับชีวิตของแก: บอกเพื่อนเพลิงอะไรนั่นของแกซะว่าฉันไม่ต้อนรับให้พวกแกเข้ามายุ่งยามแถวฟาร์มของฉัน”

ซาแกนยืนบนขาทั้งสี่ของเขาอย่างอ่อนแรง "แล้วเจ้าจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ มนุษย์"

ลียกนิ้วขึ้น "และอีกอย่างนะ ฉันไม่รู้ว่านี่จะโน้มน้าวให้แกทำงานได้ดีขึ้นหรือเปล่า แต่ฉันไม่ใช่มนุษย์"

เขาปิดการเปลี่ยนรูปร่างของเขาและเปลี่ยนกลับไปสู่รูปร่างเดิมของเขา ร่างมนุษย์เริ่มละลายไปจากเขาขณะที่เขาเริ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว ผิวหนังลอกหลุดออกเผยให้เห็นเปลือกไม้ เถาวัลย์และใบไม้เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะรอบๆอกของเขาเหมือนดั่งเสื้อคลุมตามธรรมชาติ

กะโหลกศีรษะที่เปลือยเปล่าของเขาเป็นรูปร่างของกะโหลกมนุษย์อยู่เพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่กระดูกจะบิดเบี้ยว ขนาดของจมูกและกรามยืดเข้าไปในกะโหลกของกวาง กิ่งก้านสาขาของต้นไม้แตกงอกออกมาจากด้านข้างของกะโหลก กิ่งไม้บิดพันให้เห็นเป็นเขากวางขนาดใหญ่ที่มีจุดเรืองแสงเบาบางเชื่อเชิญให้นึกถึงหิ่งห้อย

ลีตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้กลับเข้าสู่ร่างแบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว และเขาไม่สามารถโกหกได้เลยว่านี่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า รูปร่างมนุษย์ของเขานั้นเหมือนกับการสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่พอดีกับตัวเขา แก่นแท้และธรรมชาติของเขาคือสิ่งดั้งเดิมที่มีชีวิตอยู่ในระดับสูงมาก สูงยิ่งกว่าเทพเจ้าหรือปีศาจ การมีอำนาจเหนือวัฏจักรของความเป็นและความตาย  กะโหลกของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากห้อยอยู่ที่คอของเขา ถูกตรึงไว้ด้วยหนามที่ทำหน้าที่ต่างตะขอ

พวกมันเป็นกะโหลกของสัตว์ร้าย, มังกรและยักษ์ ทั้งหมดนั่นถูกย่อขนาดลงและสวมใส่เป็นเครื่องประดับที่ดูน่ากลัวเหมือนดั่งเช่นหัวที่หดตัวเล็กลง  นอกจากนี้ยังมีกะโหลกของเทพเจ้าซึ่งแสงบารมีของทวยเทพยังคงวิบวับอยู่เหนือพวกเขา และของปีศาจที่เขาของพวกมันยังคงอยู่ครบสมบูรณ์แบบ สิ่งเหล่านี้เป็นของตกแต่งเพื่อความสวยงามอย่างไร้ที่ติในเอลเดน เวิลด์ที่ลีจ่ายไปในราคาที่ค่อนข้างแพง แต่ที่นี่ดูเหมือนว่าของเหล่านี้จะเปล่งพลังของตัวเองออกมาด้วย

หญ้ารอบๆจุดที่เขายืนอยู่ต่างร่วงโรยและเติบโตขึ้นอย่างคาดเดาไม่ได้ มีทั้งดอกไม้เบิกบานและแห้งเหี่ยว อากาศเริ่มนิ่งสงัด ความเป็นและความตายไหลเวียนอยู่รอบตัวเขา

ซาแกนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ หางของปีศาจซุกอยู่ที่หว่างขาของตนและเขาหายใจติดๆขัดๆ ถูกบดขยี้ด้วยพลังดิบที่เล็ดลอดออกมาจากสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่เหนือกว่าเหล่าทวยเทพและปีศาจสาง

ลีเห็นแล้วว่าการดำรงอยู่ของเขาสามารถเปลี่ยนแปลงโลกรอบตัวเขาได้ เขายื่นแขนไม้โอ๊กออกไปทางหมาป่าปีศาจ และปีศาจก็ส่งเสียงครวญคราง หูของมันแบนราบอย่างยอมจำนน

"ตามตำนานของแก" ลีกล่าว "ปีศาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้ลำดับขั้นกันสูง นั่นอธิบายได้ว่าทำไมทุกๆครั้ง ตัวที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษจึงมีบทบาทเป็นผู้นำและเรียกตัวเองว่าราชาปีศาจ หรืออย่างกรณีของแก ก็เรื่องมากเหมือนอยู่ในละครน้ำเน่านิดหน่อยแล้วเรียกตัวเองว่า'ราชันเพลิง' ที่ว่าเผ่าพันธุ์แกเคารพอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด นั่นจริงใช่ไหม?”

"นั่นเป็นเรื่องจริง" ซาแกนพูดออกมา แม้แต่การพูดก็เป็นเรื่องยากเมื่อมีพลังอำนาจล้นหลามท่วมท้นอยู่เช่นนี้

ลียื่นแขนที่เหมือนกิ่งก้านของเขาออกไป ชี้ออกไปที่ระยะไกล "ถ้าอย่างนั้นแกควรฟังฉัน ไปทำงานของแกและบอกเพื่อนของแกด้วยว่าพื้นที่นี้ห้ามเข้า"

"ขอรับ" ซาแกนพูด เขาก้มศีรษะลง จมูกสัมผัสพื้นหญ้า "ข้านั้นแสนโง่เขลาที่เข้าใจผิดคิดว่าท่านเป็นมนุษย์ ข้าขอวิงวอนให้ท่านอภัยให้ข้าด้วย โอ้ ราชันเอลเดอร์ ลอร์ดเหนือวัฏจักรอันยิ่งใหญ่ หากท่านจะกรุณาให้ความเมตตาข้าเท่านั้น ข้าขออุทิศตนเพื่อพละกำลังอันแข็งแกร่งของท่าน ข้าจะตามรับใช้ท่านไปจวนจบกว่าโลกนี้จะแหลกสลาย ผ่านเปลวไฟแห่งการต่อสู้และสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง "

“ฟังนะ ฉันให้แกทำแค่งานเดียว” ลีพูดขณะที่เขาเกาหัวกะโหลกของตน “แค่กลับไปบอกพวกของแกว่ามาที่นี่ไม่ได้”

"หากนั่นคือสิ่งที่ท่านปรารถนาข้าก็จะทำ" ซาแกนกระซิบ “แต่ราชันเอลเดอร์ ข้ารู้ว่าปีศาจต่ำต้อยเฉกเช่นข้า มิอาจจะเรียกร้องอะไรจากท่านได้ แต่ตัวข้านั้นมีชีวิตอยู่เพื่อรับใช้นาย โปรดพาข้าไปอยู่ในการปกครองของท่าน แล้วท่านจะไม่เสียใจเลย”

“แกนี่มันดื้อดึงจริงๆใช่ไหม?” ลีกอดอกและไตร่ตรองสักสองสามวินาที "ฉันไม่อยากให้มีอะไรมาดึงดูดความสนใจไปที่ฟาร์มของฉัน ฉันปฏิเสธเมอร์เมิร์กคิไปแล้วเพราะแบบนั้น แต่เอาล่ะ-"

ลีมองดูปีศาจตนนี้อย่างชิดใกล้ ตอนนี้มันไม่ได้ดูแตกต่างจากสุนัขแก่ๆทั่วไปมากนัก อาจจะตัวใหญ่ไปหน่อย และเอ่อ ดูเหมือนปีศาจ แต่โดยรวมแล้วก็ดูไม่น่าสงสัยเกินไป น่าสงสัยน้อยกว่ามดขนาดเท่าบ้านเป็นไหนๆ

"เอาล่ะ ทุกฟาร์มต้องการหมาเฝ้าฟาร์มที่ดี เพราะอย่างนั้นฉันว่านั่นคือสิ่งที่แกจะเป็น" ลีชี้อย่างไร้ความอดทน "ตอนนี้ ชู่ ไปบอกให้เพื่อนของแกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"

------------------------------------

ติดตามตอนล่าสุดได้ที่เพจ: ว่างๆก็เลยเอานิยายมาแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด