ตอนที่แล้ว39.ตรวจร่างกาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป36.เปลี่ยนบทบาทกัน

40.ลืมมันเสีย


หลังได้ยินวาจาของแม่เฒ่าหนาน ชาวบ้านหลายคนก็พูดคุยกัน

หลิ่วเจินส่งสายตาให้ผู้ใหญ่บ้านกับคนอื่น ๆ เปิดปากพูดก่อน

“เรื่องนี้..มิสู้ลืมมันไปเสียได้ไหม?” เขาอึกอักชั่วครู่ แล้วกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ออกมาช้า ๆ

ทว่าที่ตอบกลับมาคือความเงียบ เงียบงันเสียจนได้ยินเสียงลมหนาวที่พัดอื้ออึงอยู่

“ตอนนี้นางถูกตรวจร่างกายไปแล้ว เจ้ายังต้องการอันใดอีก?” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านโพล่งขึ้นมาอย่างเหลืออด ทำลายความเงียบที่ไม่ไปไหนเสียที

หลิ่วเจินตวัดสายตาหงุดหงิดใส่สตรีผู้นี้ นับวันอีกฝ่ายก็ยิ่งน่ารังเกียจขึ้นทุกที นางเป็นแพทย์นะ ต้องคอยดูแลตารางเวลาชีวิตประจำวันของตนเองอย่างเข้มงวดกวดขันอยู่เสมอ แล้วตอนนี้เวลานี้ หากยังไม่รีบเข้านอน ตับก็ไม่อาจเข้าสู่กระบวนการขจัดสารพิษได้! หากเป็นแบบนี้ เชื่อได้เลยว่าร่างกายจะป่วยง่าย เจ็บออด ๆ แอด ๆ  ภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะลดต่ำลง แล้วยิ่งสภาพอากาศแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งล้มป่วยง่ายที่สุด รู้เอาไว้เสียด้วย

ในยุคสมัยนี้ซึ่งไม่มีองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงใด ๆ หากนางป่วยเป็นมะเร็งหรืออะไรขึ้นมา คงไม่มีใครที่นี่คอยผ่าตัดช่วยชีวิตนางเป็นแน่ นางยังคิดจะมีอายุยืนเป็นร้อยปีอยู่นะ !

กู้หรูเฟิงเห็นหลิ่วเจินทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็นึกรู้ว่าหญิงสาวใกล้จะหมดความอดทนเต็มทีแล้ว

“ก็ไม่มากมายอันใด เพียงแค่อยากให้ป้ากระจ่างแจ้งในเรื่องนี้ขึ้นมาสักหน่อย  และก็อยากให้ดูความสามารถตัวเองด้วยว่ามีเพียงพอหรือไม่ หากมีความฉลาดอย่างน่าเอน็จอนาถเช่นนี้ ก็อย่าไปทำร้ายใครเลยเป็นดีที่สุด” หลิ่วเจินตวัดสายตาเย็นชาไปให้เซียงเช่าและภรรยาผู้ใหญ่บ้าน

กระทั่งชาวบ้านที่อยู่รายรอบ ก็โดนหญิงสาวส่งสายตาเตือนเป็นกลาย ๆไปให้ด้วย พาให้สันหลังพวกเขาเย็นเยือกไปถึงกระดูก

หลิ่วเจินมองว่านี่เป็นแค่การเตือนแบบนิ่มๆ  มีคนอีกหลายคนที่สร้างปัญหาให้กับพวกนางด้วย หลังเหตุการณ์นี้  หญิงสาวคาดว่าคงไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่องไปอีกนาน

“พูดเช่นนี้หมายความว่าอะไร! เห็นเซียงเช่าดูถูกดูหมิ่น แล้วข้าจะไปช่วยลูกสาวข้าไม่ได้เลยหรือไร?” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านผู้ซึ่งขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของลูกสาวตัวเอง เริ่มโวยวายอีกแล้ว

หลิ่วเจินแค่นเสียง “เป็นท่านสองคนที่หาเรื่องเรา ไม่ใช่เราสามีภรรยาไปหาเรื่องท่าน ผู้ใหญ่บ้าน...” หลิ่วเจินพลันร้องเรียก

“ใช่แล้ว” ผู้ใหญ่บ้านตอบกลับทันใด

“ข้าไม่ได้จะมาขอให้พวกท่านชดเชยอันใดให้เรา และตอนนี้เรื่องมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว และครอบครัวท่านก็ใส่ร้ายป้ายสีครอบครัวเราจริง ๆ ทั้งหมดที่ข้ากำลังจะขอคือคำขอโทษ ก็แค่นั้น” หลิ่วเจินไม่ต้องการต่อความยาวสาวความยืดอีกต่อไป

ตอนนี้พวกเขาหาได้สูญเสียอะไร แต่สำหรับเซียงเช่า ชื่อเสียงนางคงถูกทำลายไปมาก

ยามนี้กู้หรูเฟิงเอ่ยช้า ๆ “ข้าไม่รู้ว่าไปทำอันใดให้พวกท่านขุ่นเคือง ถึงได้ใช้วิธีเช่นนี้ทำร้ายข้า หากเซียงเช่าถูกขืนใจจนเสียความบริสุทธิ์จริง ถึงข้าจะหาหลักฐานมาเท่าไร ก็คงไม่อาจล้างมนทินได้หมดจด ซ้ำยิ่งทำให้อาเจินเสียใจอีก ทว่าข้า...กู้หรูเฟิงเกิดมาเพื่อแต่งอาเจินเป็นคู่ชีวิต และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างที่สุด ต่อให้เซียงเช่าไม่มีความบริสุทธิ์แล้วจริง ๆ ข้า..กู้หรูเฟิงจะไม่ยอมรับ จะไม่ยอมทำให้อาเจินเสียใจเพราะเรื่องนี้เด็ดขาด”

ผู้คนที่อยู่รายรอบไม่เชื่อคำกล่าวนี้  เพราะทุกคนรู้ว่ากู้หรูเฟิงและหลิ่วเจินต่างมีเรื่องระหองระแหงกันตลอด แล้วทำไมวันนี้พวกเขาช่างกลมเกลียวกันดีนักเล่า? น่าแปลกแท้ ๆ!

กู้หรูเฟิงเข้ามายืนข้างๆหลิ่วเจิน แล้วเป็นฝ่ายจับมือนาง ครั้นแล้วก็พูดต่อ “หากอาเจินขอเช่นนั้น ข้าก็เอาตามอาเจินว่า”

น้ำเสียงของชายหนุ่มเปี่ยมด้วยความรักใคร่เอ็นดู

ทุก ๆคนสงสัยว่ากู้หรูเฟิงป่วยหรือไม่?

เซียงเช่าเห็นกู้หรูเฟิงจับมือหลิ่วเจิน ก็กัดฟันกรอด ทว่านางยังรู้จักอดกลั้นอยู่บ้าง  เพราะตอนนี้ชาวบ้านที่อยู่รายรอบมองพวกนางด้วยความรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

“ได้ ๆ ๆ  ข้าให้คำมั่นเจ้า  เอาไว้กำหนดวันได้ เราจะมาขอโทษเจ้าถึงบ้านด้วยตนเอง” ผู้ใหญ่บ้านพูดขึ้น

กู้หรูเฟิงดึงตัวหลิ่วเจินหันหลังเดินจากไป

ชาวบ้านที่อยู่รายรอบเมื่อเห็นนักแสดงนำจากไปแล้ว จึงแยกย้ายกลับไปบ้านใครบ้านมัน

ในท้ายสุดหลิ่วเจินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ใหญ่บ้านและครอบครัวบ้าง แต่หลังจากนางและกู้หรูเฟิงกลับเข้าบ้านแล้ว หญิงสาวก็จ้องมองกู้หรูเฟิงอยู่เป็นนาน และในที่สุดก็หลุดคำพูดออกมาสองสามคำ

“ปล่อยมือ ล้างหน้า เข้านอน”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด