39.ตรวจร่างกาย
หลิ่วเจินมองเข้าไปในกลุ่มชาวบ้าน “พวกนางอยู่ที่นี่ไหม?”
มีผู้คนเป็นอันมากมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ เพราะเหตุการณ์นี้ ทว่าดูแล้วชาวบ้านราวครึ่งหมู่บ้านมารวมตัวกันที่นี่เพื่อดูงิ้ว
ครั้นแล้วมีสตรีหน้าตาน่ารักอ่อนหวานประคองแม่เฒ่าคนหนึ่งก้าวออกมาจากฝูงชน สตรีผู้นั้นตั้งครรภ์ มือนางทาบอยู่บนท้องที่นูนใหญ่ หลิ่วเจินเห็นแล้ว ก็เดาว่าน่าจะถึงกำหนดคลอดในอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์ หรืออย่างมากไม่เกินหนึ่งเดือน
ผู้ใหญ่บ้านก้าวเข้ามาหา “ป้า..ท่านยินยอมตรวจให้ใช่หรือไม่?”
แม่เฒ่าหนานพยักหน้า “ได้ ไปเถิด ไปเถิด บาปกรรมจริง ๆ! เด็กน้อยแสนดีปานนี้เติบโตมาเป็นเช่นนี้เสียแล้ว คิดถึงตอนยังเล็ก นางฉลาดมีไหวพริบนัก พอโตขึ้น ก็ต้องเป็นเด็กสาวตัวน้อยที่เฉลียวฉลาดสิ แต่มินึกเลย มินึกเลย...”
พอเจอแบบนี้ ผู้ใหญ่บ้าน และภรรยาผู้ใหญ่บ้านไม่รู้จะพูดอะไรดี นี่ไม่ใช่การตบหน้าพวกเขาอย่างจังหรอกรึ? ว่าไม่มีปัญญาสอนลูกสาว กับหลิ่วเจินซึ่งกำพร้าบิดามารดายังพอเข้าใจได้ ไม่คิดเลยว่าเซียงเช่าจากเด็กที่น่าภูมิใจโตขึ้นมาจะอาจหาญกล้าทำเรื่องสกปรกเช่นนี้
“เชิญ แม่เฒ่าหนาน” ผู้ใหญ่บ้านเอื้อมมือจะเข้าไปช่วยประคองแม่เฒ่าหนาน ทว่าแม่เฒ่าหนานกลับเบี่ยงตัวหลบไปเงียบ ๆ มือผู้ใหญ่บ้านแข็งค้างกลางอากาศ เขาอับอายมาก ในที่สุดก็จำยอมต้องปล่อยมือลง
เซียงเช่าถูกมารดาช่วยประคองยืนขึ้น กลุ่มชาวบ้านต่างเฝ้ามองหลิ่วเจินเดินตามหลัง คนทั้งสามที่เข้าไปในห้อง
หลิ่วเจินไม่ได้แตะต้องอะไร นางแค่ยืนมองดูเงียบ ๆ
เซียงเช่าแอบจดจำช่วงเวลาอันอัปยศในชีวิตเช่นนี้ของนางไว้ คนที่นางชิงชังที่สุด เฝ้าดูการตรวจร่างกายของนาง นางเชื่อว่าหลิ่วเจินจงใจทำท่ายโสโอหังต่อหน้าตน เพื่อประกาศว่านางคือผู้ชนะ
เซียงเช่ากัดฟันกรอดๆตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเรื่อง นางจ้องหน้าหลิ่วเจิน อย่างจะกินเลือดกินเนื้อ หากดวงตาสามารถฆ่าคนได้ หลิ่วเจินคงได้ถูกแทงเป็นพันครั้งแล้ว
หลิ่วเจินรู้สึกงุนงง เซียงเช่าเป็นผู้กระทำความผิดแท้ ๆ ยังมีหน้ามาร้องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก นี่มันไม่ตลกไปหน่อยรึ?
ราวห้าเฟินจง(นาที)ต่อมา ประตูก็เปิดผางออก
ใจของกู้หรูเฟิงเต้นโลดมาถึงคอหอย เกิดความหวั่นวิตกเอาจริง ๆ หากกลายเป็นว่าเซียงเช่าสูญเสียความบริสุทธิ์ไปจริง ๆ เขาควรจะทำอย่างไรดี? แล้วเขาจะเผชิญหน้ากับหลิ่วเจินอย่างไรดี?
หลิ่วเจินเป็นคนแรกที่เดินออกมา แล้วยืนรอคนที่เหลือออกมาเพื่อประกาศผลตรวจ
“อาเจิน...” กู้หรูเฟิงเข้ามาหาและสบตาอีกฝ่าย เพื่อถามว่าได้ผลเป็นเช่นไร
หลิ่วเจินส่งสายตาเป็นนัยให้เขาวางใจ ทุกสิ่งเป็นไปตามคาด
กู้หรูเฟิงถอนหายใจออกมายาวเหยียด ทว่าเขานึกในใจ เรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนจบหลิ่วเจินเป็นผู้แก้ไขปัญหาจนคลี่คลายทั้งหมด เขาไม่เคยมีส่วนออกแรงช่วยเหลือใด ๆ เลย
เป็นผู้ชายตัวโตแท้ ๆ ทว่ายังต้องพึ่งพาผู้หญิงให้ปกป้อง เขามันคนไร้ประโยชน์ตัวจริง
“เป็นอย่างไรบ้าง?”ภรรยาเสี่ยวซานเข้ามาถาม
ผู้ใหญ่บ้านไม่ตรงเข้าไป คาดว่าคงรู้สึกเสียหน้าอยู่ จึงกลัวที่จะเดินเข้ามา
“ไม่มีอันใด นางยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่” แม่เฒ่าหนานเอ่ยอย่างเยือกเย็น แล้วเอ่ยขึ้นอีก “ไม่มีอันใดแล้ว รีบแยกย้ายกลับไปพักผ่อนกันเสีย นี่ก็ดึกมากแล้วด้วย เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันไม่เลิกเลย” ว่าแล้วก็เดินจากไป
เมื่อแม่เฒ่าหนานเดินผ่านหน้าหลิ่วเจิน นางมองหลิ่วเจินด้วยสายตาส่อความหมาย ซึ่งทำให้หลิ่วเจินอึ้งไปเล็กน้อย เมื่อครู่ สายตาที่ดูคล้ายง่วงงุน เพ่งจ้องนางเต็ม ๆ ซ้ำยังมีแววจนใจเจือมาด้วย คล้ายจะมีถ้อยคำมากมายที่อยากเอ่ย ทว่าไม่อาจเอ่ยออกไปได้ สรุปว่าเป็นสายตาที่ซับซ้อนนัก