ตอนที่แล้วบทที่ 33 คนขายยาปลอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 35 เย่โม่ไม่กลับมาแล้ว

บทที่ 34 คุณชายตระกูลซ่ง


หนิงชิงเชวี่ยถอนหายใจ  ถึงแม้ห้าแสนหยวนของเธอจะไม่ใช่เงินมากมายอะไร  แต่จากมุมมองของเย่โม่แล้วก็คงนับว่าไม่น้อยเลย  แต่นี่เขายังไม่พอใจ  กลับมาหลอกลวงคนอื่นแบบนี้อีก  บอกว่าตัวเองรักษาได้ทุกโรค   ถ้าเก่งขนาดนั้นจะมีโรงพยาบาลไว้ทำไม

“ตำรวจมาแล้ว!...”  ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดคำนี้  แต่คนตั้งแผงลอยจำนวนมากต่างรีบเก็บข้าวของหนีทันที  หนิงชิงเชวี่ยจ้องมองเย่โม่  สุดท้ายเย่โม่เองก็จำใจเก็บกระเป๋าพยาบาล เขาไม่ได้รีบหนีแบบคนอื่นๆ  แต่กลับค่อยๆ เก็บข้าวของแล้วเดินจากไป

ถึงหนิงชิงเชวี่ยจะไม่ได้เห็นท่าทีวิ่งหนีของเย่โม่  แต่ได้เห็นท่าทางผิดหวังของเย่โม่แล้วเธอก็รู้สึกยินดีอยู่ในใจ  ใครใช้ให้เขาหลอกลวงคนอื่นเล่า

พอหนิงชิงเชวี่ยกลับมาถึงที่พัก  เย่โม่ก็อยู่ข้างในแล้ว  เขามองหนิงชิงเชวี่ยโดยไม่พูดอะไร  เธอเองก็ไม่สนใจคนแบบนี้เช่นกัน  เธอยังคิดอยู่เลยว่าวันมะรืนตอนเธอจะจากไป  ควรจะไปเตือนซู่เวยสักหน่อยดีไหมว่าเย่โม่เป็นคนแบบไหน?

ทำธุรกิจไม่ได้แถมยังโดนไล่ออกมาอีก  ตอนนี้เย่โม่เบื่อวันเวลาที่ต้องใช้อยู่ในหนิงไห่เอามากๆ  ตอนนี้เขาอยากออกไปจากที่นี่แล้ว  ส่วนเรื่องของหนิงชิงเชวี่ยเขาก็ช่วยเธอมามากพอแล้ว  พรุ่งนี้หลังบอกลาเธอ เขาก็จะไปแล้ว  ส่วนมหาวิทยาลัยหนิงไห่เขาก็ไม่จำเป็นต้องไปแล้ว  เพียงแต่อยากทิ้งจดหมายไว้ให้กับชือซิวก็เท่านั้น

ตอนที่ซู่เวยเข้านอนเย่โม่ก็เริ่มฝึกฝนเช่นทุกวัน

..........

“คุณชายเหวิน...อีกครึ่งชั่วโมงก็ถึงหนิงไห่แล้ว  เราจะไปที่ไหนกันก่อนดีครับ?”  รถ BMW ประเภท SUV (รถสปอร์ตอเนกประสงค์) คันหนึ่งแล่นบนทางด่วนมุ่งหน้าไปทางหนิงไห่ด้วยความรวดเร็ว  คนขับหันไปถามชายหนุ่มอายุไม่เกิน 30 ปีที่นั่งอยู่เบาะหลัง

ชายหนุ่มคนนี้มีใบหน้ายาวและขาวซีดเล็กน้อย  ตาคมราวกับเหยี่ยว  เส้นผมถูกหวีจนเรียบร้อย  เมื่อชายหนุ่มคนนี้ได้ยินคำของคนขับเขาก็หยิบมวนบุหรี่ขึ้นมา  ชายรูปร่างใหญ่อีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็รีบควักไฟแช็กขึ้นมาจุดให้ทันที

“อาฟา  เรื่องที่ให้ไปทำเรียบร้อยดีไหม?”  ชายหนุ่มพ่นควันออกมา

“เรียบร้อยแล้วครับ!  คุณชายเหวินวางใจได้  ผมไม่ทิ้งร่องรอยไว้แน่นอน”  ชายรูปร่างใหญ่รีบตอบทันที

ชายหนุ่มคนนั้นพ่นควันออกมาอีกครั้ง  หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดต่อ  “ที่เราต้องมาจากเหอเฟิงก็เพื่อไม่ให้ปู่และตระกูลหนิงสงสัยได้  ถ้าอยู่ที่หนิงไห่ 1 คืนตามแผนเดิมล่ะก็  ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดเรื่องเอาได้  ไม่สู้ลักพาตัวยัยนั่นมาตรงๆ เลยดีกว่า  จะได้ช่วยหยุดการรอคอยสักที  กูจะให้นังร่านนั่นรู้ซึ้งว่าความเสียใจมันเป็นยังไง!”

จากเดิมหน้าตาสงบนิ่ง  พอพูดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็กำหมัดแน่นจนเห็นเป็นเส้นเลือดผุดขึ้นที่มือ  เขาขว้างบุหรี่ที่เพิ่งจะสูบได้ 2 เฮือกทิ้งไป  ชายรูปร่างใหญ่ที่ชื่ออาฟารีบหยิบบุหรี่มวนนั้นแล้วทิ้งออกนอกหน้าต่างรถทันที

“ไอ้ขยะนั่นชื่อเย่โม่ใช่ไหม?”  ชายหนุ่มคนนั้นหลังจากโยนบุหรี่ทิ้งไป  เขาก็ค่อยสงบลงอีกครั้ง  แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีใครหน้าไหนกล้าปฏิเสธเขา  ‘ซ่งเฉ่าเหวิน’  คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนิงชิงเชวี่ยจะกล้าปฏิเสธเขา  นี่ยังไม่เท่าไหร่  เธอกลับไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น  ซ้ำยังอยู่กินด้วยกันอีกด้วย  นี่ไม่ใช่การตบหน้าเขาคุณชายใหญ่ซ่งอย่างนั้นหรือ?  ถ้าเขายอมอดทนล่ะก็  เขาก็ไม่ใช่ซ่งเฉ่าเหวินแล้ว

หากไม่ใช่เพราะผู้เฒ่าตระกูลซ่งห้ามไว้ล่ะก็  เขาคงมาหาที่หนิงไห่นานแล้ว  ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเส้นทางที่เหอเฟิงถึงค่อยวกกลับมาหนิงไห่

“ใช่แล้วครับ  คุณชายเหวิน  ไอ้ขยะนั่นมีชื่อว่าเย่โม่  พวกเขา 2 คนอยู่ด้วยกันจริง  ผมเคยเห็นรูปจากบางเว็บไซต์มาก่อน  ดูท่าจะรักกันมากซะด้วยสิครับ”  คนขับรีบพูดขึ้นมา

ซ่งเฉ่าเหวินจากเดิมที่อารมณ์เย็นลงแล้ว  ใบหน้าของเขาก็กลับมาแดงก่ำอีกครั้งด้วยความโกรธ  เขาพูดเสียงเย็น  “บิดาคนนี้ต้องให้เย่โม่เบิกตามองให้ดีๆ  บิดาจะเอายัยร่านนั่นต่อหน้าต่อตามัน  หลังจากนั้น...เย่โม่ใช่ไหม  เอามันไปด้วยเลย  ทางด่วนไปปักกิ่งมีหน้าผาอยู่ที่หนึ่งใช่ไหม  ตัดแขนตัดขามันออกให้หมดแล้วโยนมันไว้แถวนั้นนั่นแหละ  กล้าแย่งผู้หญิงกับคนอย่างซ่งเฉ่าเหวิน  ยังอ่อนประสบการณ์นัก!”

..........

ตอนนี้ก็เป็นเวลาตี 1 แล้ว  เย่โม่เดินลมปราณไปแล้ว 1 รอบใหญ่ 12 รอบเล็ก  เขาตัดสินใจไม่ฝึกต่อ  พรุ่งนี้เขาจะออกเดินทางแล้ว  เขาอยากจะหาที่นอนพักสักหน่อย  ซึ่งเขามักจะนอนตรงหินปูพื้นข้างๆ กอดอกไม้หลังจากฝึกเสร็จ

เย่โม่เพิ่งจะนอนลงไปก็มีตะขอเหล็กเกี่ยวกำแพงเอาไว้  มี 3 ร่างปีนขึ้นมาตามกำแพงอย่างรวดเร็วแล้วกระโดดลงบนสวนข้างหลังแห่งนี้

ซ่งเฉ่าเหวินแม้ดูแล้วจะหน้าตาขาวซีดอยู่บ้าง  แต่การปีนกำแพงของเขาถือว่ารวดเร็วไร้ที่เปรียบ

“นี่คือที่อยู่ของไอ้ขยะเย่โม่ใช่ไหม?  มันกับยัยร่านหนิงชิงเชวี่ยนอนที่ห้องนั้น?”  ทันทีที่ลงถึงพื้น   ซ่งเฉ่าเหวินที่หน้าขาวซีดก็ถามขึ้นมาทันที

“ใช่ที่อยู่ของเย่โม่ไม่ผิดแน่  แต่ไม่ใช่ไอ้ขยะ”  ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งตอบกลับมา  ครึ่งแรกของประโยคซ่งเฉ่าเหวินยังไม่ทันจะได้ตอบสนองอะไร  ครึ่งหลังของประโยคเขาหันกลับมามองเย่โม่ที่ตอบคำถามของเขาทันที

ผ่านไปครู่หนึ่งซ่งเฉ่าเหวินจึงถามด้วยใบหน้าตื่นตระหนก  “แกเป็นใคร!?”

เวลานั้นเองที่ชาย 2 คนข้างหลังซ่งเฉ่าเหวินมองเห็นเย่โม่  พวกเขาล้วนมองเย่โม่ด้วยอาการตกใจ   ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความระแวดระวัง

“ฉันคือเย่โม่  พวกนายอยากจะมาหาฉันหรือเมียฉันกันแน่?”  เย่โม่พูดเบาๆ

“แกคือเย่โม่?  หวังฉวน  อาฟา  หักขามัน  ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าที่แท้ไอ้ขยะนี่มันมีดีอะไรกันแน่  ยัยร่านนั่นถึงเต็มใจนอนกับมั...”  ซ่งเฉ่าเหวินยังไม่ทันพูดจบก็พบว่าข้อมือของเขาถูกฝ่ามือที่แข็งราวกับเหล็กจับเอาไว้

“ถ้าอยากจะสู้กันนั่นก็ได้อยู่…แต่ฉันจะบดขยี้ข้อมือนายให้แหลกก่อน ไม่เชื่อก็ลองดู” เย่โม่ไม่อยากจะสู้กันที่นี่เพื่อไม่ให้ไปรบกวนซู่เวย เขาพอจะรู้แล้วว่าคนพวกนี้มาตามหาหนิงชิงเชวี่ย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับซู่เวย

เมื่อเห็นซ่งเฉ่าเหวินโดนแบบนั้น  หวังฉวนและอาฟาก็รู้ทันทีว่าคุณชายเหวินของพวกเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของชายคนนี้แล้ว  พวกเขาจึงหยุดการเคลื่อนไหวของตัวเองเอาไว้

“นายชื่ออะไร  พูดมา!  ไอ้ขยะ” เย่โม่ออกแรงที่มือเล็กน้อย  ซ่งเฉ่าเหวินเกือบจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด  เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นบนหน้าผากของเขา

“ฉันคือซ่งเฉ่าเหวิน  คนตระกูลซ่งแห่งปักกิ่ง  ที่มาที่นี่ไม่ได้มาเพราะนาย  แต่มาตามหาหนิงชิงเชวี่ย นายรีบปล่อยมือซะ  ไม่อย่างนั้นตระกูลเย่ของนาย...ไม่อย่างนั้นนายเย่โม่ได้ตายไร้ที่ฝังแน่”  ทีแรกซ่งเฉ่าเหวินอยากจะพูดขู่ถึงตระกูลเย่  แต่ภายหลังก็คิดได้ว่าตระกูลเย่และตระกูลซ่งของเขานั้นเหมือนกัน  ถือเป็น 1 ใน 5 ตระกูลใหญ่แห่งปักกิ่ง  ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่กลัวตระกูลซ่งของเขาอยู่แล้ว  เขาจึงเปลี่ยนเป็นมาขู่ตัวเย่โม่แทน

“อ่อ… ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง  แต่ยังไงก็ตาม  ตระกูลซ่งอะไรนั่นของนายน่ะ  ตามความเห็นของฉันมันก็แค่ขยะกองหนึ่ง  ไม่อยู่ในสายตาฉันด้วยซ้ำ  หนิงชิงเชวี่ยเป็นเมียฉันแล้วนายยังกล้ามาหา  นายหูหนวก? หรือว่าตาบอดกันแน่?”  พูดถึงตรงนี้เขาก็ออกแรงนิดหน่อยที่มืออีกครั้ง  ในที่สุดซ่งเฉ่าเหวินก็ทนไม่ไหว   เขาร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด

“เย่โม่!  มีอะไรก็พูดกันดีๆ ไม่จำเป็นต้องลงมือ”  หวังฉวนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดขึ้น

“พวกนายขับรถมากันใช่ไหม?”  เย่โม่ถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกันขึ้นมา

“ใช่…” หวังฉวนตอบอย่างจำยอม  เขาไม่เข้าใจว่าเย่โม่จะถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องนี้ขึ้นมาทำไม

เย่โม่พยักหน้า  “ในเมื่อเป็นแบบนี้  พวกเราก็ออกไปเจรจากันข้างนอกเถอะ”  เย่โม่กำลังคิดจะจากที่นี่ไปอยู่พอดี  ในเมื่อคนพวกนี้ขับรถมาก็ถือเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้นั่งไปด้วย  เขาจะประหยัดค่าเดินทาง

เมื่อเห็นเย่โม่เต็มใจจะออกไปคุยกันข้างนอก  แน่นอนซ่งเฉ่าเหวินและชายอีก 2 คนต้องเห็นด้วย   เดิมทีพวกเขามีความมั่นใจเต็มที่ในแผนการครั้งนี้  แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเย่โม่จะมีฝีมือขนาดนี้  เหนือความคาดหมายของพวกเขาไปมาก  เรื่องนี้อยู่เหนือการควบคุมของพวกเขาไปแล้ว

ที่ทำให้พวกซ่งเฉ่าเหวินทั้ง 3 คนประหลาดใจก็คือ  เย่โม่ปล่อยข้อมือของซ่งเฉ่าเหวินออกแล้วจ้องมองพวกเขา  ซ่งเฉ่าเหวินและลูกสมุนทั้ง 2 มองตากันแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า  ว่ากันว่าเย่โม่เป็นขยะไร้ค่า  สมองของเขาดูท่าจะไม่ค่อยดี

ชายร่างใหญ่ที่ชื่ออาฟาปีนขึ้นกำแพงเป็นคนแรกแล้วกระโดดออกไป  ตามด้วยเย่โม่  ซ่งเฉ่าเหวินและหวังฉวนปีนตามหลังเย่โม่มาอีกที

ซ่งเฉ่าเหวินที่กระโดดลงมาก็เตรียมจะบอกให้อาฟาและหวังฉวนลงมือ  ทว่าเขายังไม่ทันถึงพื้น  ภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาต้องอ้าปากค้าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด