ตอนที่แล้วบทที่ 34 คุณชายตระกูลซ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 คงเป็นฝีมือเย่โม่

บทที่ 35 เย่โม่ไม่กลับมาแล้ว


สาเหตุที่ซ่งเฉ่าเหวินตื่นตกใจก็เพราะเขาเห็นเย่โม่ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบหน้าอกของอาฟาไว้  เย่โม่มองมาทางเขาและหวังฉวนอย่างเย็นชา  เขาไม่เข้าใจว่าเพียงช่วงเวลาสั้นแค่นี้ทำไมเย่โม่ถึงจัดการอาฟา  ลูกน้องมือ 1 ของเขาได้แบบนี้

แต่ซ่งเฉ่าเหวินก็ไม่มีโอกาสได้คิดต่อแล้ว  ขณะที่เขายังลงไม่ถึงพื้นและยังไม่มีโอกาสได้ตอบสนองอะไร  เย่โม่ก็พุ่งทะยานเข้ามาถีบเขาจนเกิดเป็นเสียง ‘กร๊อบ’ กระดูกขาของซ่งเฉ่าเหวินถูกเย่โม่ถีบจนหัก

“อ๊ากกกกกก!”  เหงื่อเย็นๆ ของซ่งเฉ่าเหวินไหลออกมา  หวังฉวนรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างเย็นเฉียบเมื่อจ้องมองเท้าที่ราวกับจะลอยเข้ามาของเย่โม่  แท้จริงแล้วชายคนนี้เป็นใครกันแน่?  ลงมือได้น่ากลัวขนาดนี้?  พวกเขาไม่ใช่แค่สะดุดก้อนหินเท่านั้น  นี่มันแผ่นเหล็กแล้ว!

“ขึ้นรถ!”  แววตาของเย่โม่ทำให้หวังฉวนสั่นสะท้าน  เขาไม่กล้าแม้แต่จะต่อต้านจึงได้แต่เดินไปขึ้นรถ   หวังฉวนยิ่งรู้สึกเหมือนศีรษะชาหนึบเมื่อเห็นเย่โม่แบกร่างของซ่งเฉ่าเหวินและอาฟาเดินตามหลังเขามา

ซ่งเฉ่าเหวินรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะหมดสติ  หากเขามีโอกาสอีกครั้งล่ะก็  เขาจะยอมให้คนอื่นชี้หน้าด่าดีกว่ามาหาเรื่องปีศาจอย่างเย่โม่!  ตอนที่เขาทรมานคนอื่นอย่างน้อยในใจก็มีวิธีการ  ใบหน้าปรากฏอารมณ์ความรู้สึก  ทว่าตอนเย่โม่ถีบขาของเขาจนหักนั้นราวกับว่าเย่โม่กำลังเหยียบมดสักตัวหนึ่ง…อย่าพูดถึงการแสดงอารมณ์เลย  เย่โม่ไม่แม้แต่กะพริบตาด้วยซ้ำ

รถจอดไม่ไกลห่างไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น  เพราะพวกซ่งเฉ่าเหวินไม่อยากให้คนอื่นพบเจอจึงเลือกถนนเล็กๆ ไร้ผู้คนเป็นที่จอด  รวมถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาตี 2 แล้วจึงไม่พบเจอผู้คนเลย  พวกเขาขึ้นรถ BMW คันนั้นไป

เย่โม่ทิ้งซ่งเฉ่าเหวินและอาฟาไว้ที่เบาะหลัง  รวมถึงเอาเงินสดจากตัวพวกเขาออกมาด้วย  เขามานั่งข้างๆ คนขับแล้วพูดกับหวังฉวน  “ขับไปกุ้ยหลิน”

กุ้ยหลินเป็นพื้นที่ที่ซ้อนทับกันระหว่างจีนและประเทศเล็กๆ จำนวนหนึ่ง  ที่แห่งนี้อยู่ในเขตภูเขาจึงมีผู้คนผ่านมาน้อย  เหมาะแก่การฝึกฝนของเย่โม่มาก  อีกอย่าง  ถึงแม้เรื่องที่เขาฆ่าซ่งเฉ่าเหวินจะหลุดออกไป  ก็คงเป็นการยากหากคิดจะจับเขาที่กุ้ยหลินนี้

“อะไรนะ!  ไปกุ้ยหลิน!?”  หวังฉวนตกใจไปพักหนึ่งก็ตะโกนออกมา  กุ้ยหลินห่างไกลจากหนิงไห่เกือบๆ 1000 กิโลเมตร  จะขับไปถึงได้อย่างไร?

“ไม่ต้องพูดมาก ออกรถ!”  เย่โม่ออกคำสั่ง  ทำให้หวังฉวนต้องกลืนคำพูดลงไป  เขาทำได้เพียงขับออกไปให้เร็ว  พริบตาเดียวรถ BMW คันนั้นก็หายไปจากเขตเมืองหนิงไห่

รถแล่นออกมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ   ทันใดนั้นเย่โม่ก็คิดได้ว่าตัวเองวางกระเป๋าพยาบาลทิ้งไว้ที่ระเบียงห้อง  จะวกกลับไปเอาตอนนี้ฟ้าก็คงสว่างแล้ว  ช่างเถอะ  ถึงยังไงในนั้นก็มีแค่ซุปสมุนไพร  ยาเม็ด จดหมายและของเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

ตอนนี้ไม่เพียงแต่ซ่งเฉ่าเหวินเท่านั้นที่รู้สึกหดหู่  ทั้งอาฟาและหวังฉวนเองก็รู้สึกกังวลใจเช่นกัน  แต่ไหนแต่ไรมาพวกเขาก็มักจะเป็นฝ่ายสั่งสอนคนอื่น  มาวันนี้กลับถูกคนที่เดิมทีเป็นแค่ขยะไร้ค่าอย่างเย่โม่สั่งสอนเสียได้  แถมเงินของพวกเขาก็ยังถูกเอาไปจนหมดอีก

“คุณชายโม่…ครั้งนี้ผมซ่งเฉ่าเหวินมาหาเรื่องคุณชาย  แต่คุณชายก็น่าจะรู้ดีถึงอำนาจของตระกูลซ่งดี  ถ้าเกิดเรื่องอะไรกับผมล่ะก็  คุณชายจะหนีไปไกลแค่ไหนก็ไม่รอด  แต่ถ้ายอมปล่อยผมไปล่ะก็  ผมจะไม่ทำอะไรคุณชายแน่นอน  แต่ถ้า...” ซ่งเฉ่าเหวินเริ่มใช้ไม้อ่อนขอร้องเย่โม่  เขารู้สึกว่าเย่โม่เป็นพวกโหดเหี้ยมมากกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ

แต่ซ่งเฉ่าเหวินยังพูดไม่ทันจบเสียงตบหน้า  ผัวะ! ผัวะ!  ก็ดังขึ้น  เย่โม่ตบหน้าซ่งเฉ่าเหวินไป 2 ทีแล้วพูดขึ้นอย่างช้าๆ  “ต่อหน้าบิดาคนนี้พูดจาไร้สาระให้มันน้อยๆ หน่อย  ตระกูลซ่งไม่มายุ่งวุ่นวายก็แล้วไป  แต่ถ้ามาหาเรื่องบิดาคนนี้ล่ะก็  บิดาจะลบชื่อของตระกูลซ่งออกจากปักกิ่งซะ!  ฉันเย่โม่พูดจริงทำจริง  แต่บางทีนายอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันแล้ว”

“นาย!...”  ซ่งเฉ่าเหวินถุยฟันออกมา 2 ซี่  เขาตัวสั่นไปทั้งร่าง  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโกรธหรือความกลัวกันแน่  แต่ครั้งนี้ซ่งเฉ่าเหวินกลับรู้สึกหวาดกลัวจริงๆ แล้ว  จากคำพูดของเย่โม่นั้นเหมือนกับว่าอยากจะได้ชีวิตของเขา  ถึงซ่งเฉ่าเหวินจะมั่นใจว่าเย่โม่ไม่กล้าแต่เขาก็มีแค่ชีวิตเดียวเท่านั้น  ถ้าความเสียใจมีประโยชน์ล่ะก็เขาคงนำมันมาใช้เป็นพันเป็นหมื่นครั้งแล้ว

ผ่านไปอีก 1 ชั่วโมงกว่าๆ  เย่โม่มองไปยังทางด่วนที่ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาสูงแห่งนี้แล้วคิดในใจ  อีกเดี๋ยวก็จะเช้าแล้ว  หากทำให้รถตกหน้าผาตรงนี้ล่ะก็คงเหมาะที่สุด  แน่นอนว่าเขาไม่ได้กะจะให้รถคันนี้ไปส่งเขาถึงกุ้ยหลินจริงๆ  นั่นมันฆ่าตัวตายชัดๆ

คิดถึงตรงนี้เย่โม่ก็มองไปยังกล้องวงจรปิดข้างหน้าไกลๆ  ทันใดนั้นเขาก็หมอบร่างลงต่ำแล้วดึงพวงมาลัยทันที!

หวังฉวนที่เดิมทีคิดว่าจะแจ้งตำรวจยังไงดี  เขาคิดไม่ถึงว่าเย่โม่จะนั่งยองๆ แล้วหมุนพวงมาลัยในมือของเขาอย่างกะทันหันแบบนี้!  รถหักเลี้ยวอย่างกะทันหันแล้วพุ่งทะลุทางด่วนร่วงตกจากหน้าผาไป

ช่วงเวลาที่รถกำลังร่วงลงจากหน้าผานั้นเองที่เย่โม่ได้ถีบประตูรถออกมา  จากนั้นเขาก็ใช้ทักษะควบคุมสายลมเพื่อลอยไปยังผนังหน้าผาแล้วเกาะติดแน่นอยู่อย่างนั้น  การจะใช้ทักษะควบคุมสายลมนี้ให้ได้เต็มประสิทธิภาพนั้นเขาต้องถึงระดับ 3 เสียก่อน  ตอนนี้เย่โม่อยู่เพียงระดับ 2 เท่านั้น  การใช้ทักษะนี้จึงกินแรงอยู่บ้าง  แต่นั่นก็เพียงพอให้เขาเอาชีวิตรอดได้

รถ SUV ร่วงหล่นหน้าผาไป  ผ่านไปไม่นานก็มีเสียง  บึ้มม! ดังขึ้น  เกิดเป็นเปลวไฟม้วนขึ้นมา  เย่โม่ถอนหายใจอย่างโล่งอก  เขายังคิดอยู่เลยว่าหากรถไม่เกิดไฟไหม้ล่ะก็  เขาคงต้องลงไปจุดไฟด้วยตัวเองเสียแล้ว   ไม่คิดว่ารถจะว่านอนสอนง่ายจนถึงกับเผาตัวเองขนาดนี้

เย่โม่หลบเลี่ยงกล้องวงจรปิดอย่างระมัดระวัง  เขาเดินเข้าไปในป่าบนภูเขา  ไม่นานเย่โม่ก็หายไปในความมืด

..........

หนิงชิงเชวี่ยตื่นขึ้นมาในตอนเช้า  ซู่เวยออกไปทำงานแล้ว  แต่เธอก็ต้องรู้สึกแปลกใจเมื่อพบว่าเย่โม่ไม่ได้ซื้ออาหารเช้ามาให้เธอ  อีกทั้งเธอยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเย่โม่ด้วยซ้ำ  ในใจยิ่งรู้สึกดูถูกเขามากขึ้นไปอีก  ครั้งที่แล้วก็แค่พาเพื่อนสมัยเรียนมากินอาหารด้วยกันเท่านั้นเอง  ผลสุดท้ายไม่เพียงแต่ไม่มีอาหารเช้ากิน  แม้แต่เจ้าตัวก็ยังหายไปอีก  ถึงแม้เธอจะสั่งไวน์แดงไปราคาถึงสองพันหยวน  แต่เขาก็เป็นคนดื่มไม่ใช่หรือ?

โชคดีที่พรุ่งนี้เธอก็จะไปแล้ว  ไม่อย่างนั้นทุกครั้งที่เห็นหน้าเย่โม่เธอจะต้องรู้สึกไม่ชอบหน้าเขาอย่างยากจะบรรยาย  บางครั้งคนเราไม่อาจตัดสินใครจากความประทับใจเมื่อแรกพบได้  ถึงยังไงความเห็นของคนอื่นๆ ที่มีต่อเย่โม่ก็คงมีเหตุผลอยู่จริงๆ

แต่หนิงชิงเชวี่ยก็ต้องรู้สึกผิดหวัง  เพราะถึงช่วงกลางวันแล้วเธอก็ยังไม่เห็นเย่โม่อีก  ตอนนั้นเองที่ หนิงชิงเชวี่ยเริ่มรู้สึกว่าตัวเธอดูจะพึ่งพาเย่โม่เกินไปหน่อยแล้ว  หรือถ้าเย่โม่ไม่กลับมาแล้วเธอจะไปหาข้าวกินเองไม่ได้?

ตั้งแต่ที่คนตระกูลซ่งไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับเธอในช่วงนี้  ทำให้หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกเบาใจลงมาก  อีกทั้งเร็วๆ นี้เธอกับพ่อและแม่ก็จะออกจากปักกิ่งแล้ว  ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงมากยิ่งขึ้น

เมื่อกินข้าวกลางวันเสร็จแล้ว  หนิงชิงเชวี่ยก็เดินไปดูแปลงดอกไม้ของเย่โม่  แปลงดอกไม้ของเขาดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลรักษามาเป็นเวลา 10 วันแล้ว  มีแม้แต่ดอกไม้ที่เฉาตายแล้วด้วย  และหนิงชิงเชวี่ยก็ได้พบว่าดอกไม้สีเงินที่เย่โม่ตั้งใจดูแลเป็นพิเศษนั้นได้หายไปเสียแล้ว

อยู่ๆ หนิงชิงเชวี่ยก็รู้สึกหงุดหงิดอึดอัดในหัวใจ  ขณะที่กำลังจะโทรหาหลี่มู่เหมยอยู่นั่นเอง  โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ชิงเชวี่ย!  ฉันมีข่าวใหญ่ดีๆ มาบอกเธอด้วย!  เธอรู้ไหม  เมื่อวานประมาณตี 4 รถของซ่งเฉ่าเหวินหลุดจากทางด่วนเฟิงจิ้นร่วงตกหน้าผาไป  ในรถซ่งเฉ่าเหวินกับลูกน้องอีก 2 คนตายเรียบ  เรื่องนี้ทำให้ฉันโล่งใจเลย  คงไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายกับเธอแล้วล่ะ  พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวฉันไปรับนะ...” น้ำเสียงยินดีของหลี่มู่เหมยดังมาตามสาย ข่าวนี้ทำให้หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกราวกับฝันไป

นานกว่าที่เธอจะวางสายไป  หนิงชิงเชวี่ยยังไม่อยากจะเชื่อ  ปีศาจร้ายในฝันของเธอตัวนั้นตายไปแล้ว  เธอรู้สึกโล่งใจได้ในที่สุด

หนิงชิงเชวี่ยผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ  สิ่งแรกที่เธอทำคือวิ่งเข้าไปในห้องแล้วหยิบทะเบียนสมรสของเธอและเย่โม่ออกมา  รอเย่โม่กลับมาเธอค่อยไปหย่าด้วยกันกับเขา

สำหรับหนิงชิงเชวี่ยแล้วบ่ายวันนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุด  เย่โม่จากเดิมที่มักจะรีบกลับมาทำอาหารให้เธอ  ตกดึก 2 ทุ่มแล้วก็ยังไม่กลับมาอีก  แต่เป็นซู่เวยที่เลิกงานกลับมาถึงก่อน

นี่ถือเป็นครั้งแรกสำหรับซู่เวยที่กลับมาแล้วเห็นหนิงชิงเชวี่ยไม่อยู่ในห้อง  แต่กลับยืนรออยู่ที่ประตูด้านนอกแทน  แต่ซู่เวยก็ยังไม่เห็นเย่โม่

“เธอคือซู่เวยใช่ไหม?”  หนิงชิงเชวี่ยถามขึ้นอย่างลังเล

.......

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด