ตอนที่แล้วบทที่ 23 ความประทับใจแรกของหนิงชิงเชวี่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 เต้นรำครั้งแรก

บทที่ 24 ของขวัญราคาถูก


“ขอโทษนะจ้าวหง  แต่พวกเรายังมีเรื่องต้องคุยกันอยู่  นายช่วยเปลี่ยนที่นั่งเถอะ”  หนิงชิงเชวี่ยรู้สึกไม่พอใจ  เพราะไม่ง่ายเลยที่เธอจะรวบรวมความกล้าพูดขึ้นมาแต่กลับถูกขัดจังหวะแบบนี้

จ้าวหงมองเย่โม่ด้วยอาการสับสนงุนงง  คนจนๆ ที่ไม่รู้ว่าคลานเข้ามาได้ทางไหนแบบนี้  เป็นไปได้อย่างไรจะมีความเกี่ยวข้องกับหนิงชิงเชวี่ยได้

“สวัสดี  ผมชื่อจ้าวหง  เพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์  ตอนนี้อยู่ที่หน่วยงานราชการชั่วคราว  ถ้านายอยู่ที่หนิงไห่แล้วมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็มาหาผมได้เลย  ถ้าเป็นเรื่องทั่วๆ ไปผมก็พอจะช่วยได้อยู่”  คำพูดของหนิงชิงเชวี่ยไม่ได้ทำให้จ้าวหงเดินจากไปแต่อย่างใด  เขากลับยื่นมือไปหาเย่โม่ด้วยท่าทางเหนือกว่า  ในความคิดของเขาการยื่นมือไปจับเย่โม่ก่อนถือเป็นการให้เกียรติหนิงชิงเชวี่ย  ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรหนิงชิงเชวี่ยถึงได้มาพูดคุยกับคนแบบนี้ได้  เขาแค่อยากให้หนิงชิงเชวี่ยประทับใจเท่านั้น

ที่ทำให้จ้าวหงแปลกใจก็คือเย่โม่เดินไปหยิบผลไม้บนถาดของบริกรโดยไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย  ราวกับเขามองไม่เห็นมือของจ้าวหงที่ยื่นออกมา

ใบหน้าของจ้าวหงแดงขึ้น  เขาลดมือลงอย่างกระอักกระอ่วน  เขาจ้องมองเย่โม่เขม็ง  ขณะที่จ้าวหงกำลังรู้สึกว่าไม่น่ายื่นมือออกไปอยู่นั่นเอง  หวังซู่ก็เดินเข้ามา

หวังซู่พอมาถึงก็เข้ามาตบบ่าเย่โม่ด้วยความตื่นเต้น  “น้องชาย!  นายสุดยอดจริงๆ  ทักษะเมื่อกี้ของนายยังหลอกได้แม้กระทั่งพี่เลย  เป็นทักษะที่ดีนะ  นี่เบอร์โทรศัพท์พี่  ไว้ว่างๆ พวกเราต้องมาคุยกันซักหน่อยแล้ว”  หวังซู่ยื่นนามบัตรที่มีเพียงเบอร์โทรศัพท์ของเขาให้เย่โม่

ความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อหวังซู่ถือว่าไม่เลวเลย  คนๆ นี้ไม่ได้เลวร้ายอะไร  อย่างน้อยก็คบหาได้  ด้วยเหตุนี้เองเมื่อเย่โม่ได้ยินแบบนั้นจึงยิ้มบางๆ แล้วพูดขึ้น  “ได้สิ  ผมยินดีมาก”

เมื่อเห็นเย่โม่ปฏิบัติต่อ 2 คนนี้ด้วยทัศนคติที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแบบนี้  หนิงชิงเชวี่ยก็ครุ่นคิด

“พี่ซู่มาแล้ว  ฮ่าฮ่า!”  จ้าวหงที่เห็นหวังซู่เดินมาก็หัวเราะออกมาอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย

“ไอ้ฝรั่งเก๊…นายมาได้ยังไงเนี่ย?  ไม่ใช่ว่าอยู่อังกฤษหรือไง?”  หวังซู่พูดออกมาตรงๆ

จ้าวหงพูดอย่างอึดอัดเล็กน้อย  “ผมเรียนจบแล้ว  คราวนี้ผมมาทำงานที่หน่วยงานราชการของเมืองหนิงไห่  คิดไม่ถึงว่าพี่ซู่จะมีเวลาว่างมาด้วย”

“พอดีถือโอกาสกลับหนิงไห่ด้วยน่ะ”  หวังซู่พูดจบก็หันหน้ามาทางเย่โม่อีกครั้ง  “น้องเย่  กลับไปแล้วต้องโทรหาพี่ด้วยนะ  เบอร์โทรก็ให้ไปแล้ว”

เสียงของซูจิ้งเหวินดังขึ้นพอดี  “เขาไม่มีโทรศัพท์น่ะ”

เย่โม่ยิ้มฝืดๆ ในใจ  ไม่ว่าเขาจะนั่งตรงไหนก็จะมีคนตามมาเยอะแยะเสมอเลย  เขาไม่ชอบที่ๆ เสียงดังแบบนี้  เขาจึงคิดจะให้ของขวัญกับซูจิ้งเหวินแล้วรีบจากไปทันที

“จิ้งเหวิน!  สุขสันต์วันเกิด  ฉันเตรียมจี้เพชรจากอังกฤษนี้เพื่อเธอเป็นพิเศษเลย  หวังว่าเธอจะไม่รังเกียจนะ”  เมื่อจ้าวหงเห็นว่าตัวเองถูกเบียดออกมาด้านข้างแล้ว  เขาจึงรีบหยิบของขวัญส่งให้ทันที

“ขอบคุณนะจ้าวหง  ทำให้นายเปลืองเงินแล้ว”  พูดจบซูจิ้งเหวินก็ส่งจี้เพชรนั้นให้กับสาวใช้ที่อยู่ด้านหลัง  เมื่อจ้าวหงเห็นซูจิ้งเหวินนำของขวัญที่เขาให้  ยื่นส่งให้สาวใช้ที่อยู่ด้านหลังโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำ  ในดวงตาของเขาก็ปรากฏแววผิดหวังออกมา

“พี่จิ้งเหวิน  ฉันเองก็เอาของขวัญมาอวยพรวันเกิดพี่เหมือนกัน”  ซูเหมยที่เห็นเหตุการณ์นี้ก็รีบเบียดเข้ามายื่นชุดเครื่องสำอางให้ 1 เซ็ต

เวลานี้เองที่แขกทั้งหลายที่มาร่วมงานวันเกิดต่างก็ทยอยนำของขวัญที่เตรียมไว้เอามาให้ซูจิ้งเหวิน  ทว่าของขวัญส่วนใหญ่นั้นได้ให้ตั้งแต่หน้าประตูแล้ว  แขกที่มาให้เอาตอนนี้คือแขกที่ต้องการสนิทกับซูจิ้งเหวิน  หรือไม่ก็เพื่อนสนิทของเธอเอง

เมื่อเย่โม่เห็นหนิงชิงเชวี่ยส่งเข็มกลัดอันประณีตงดงามเป็นของขวัญ  เย่โม่จึงพบว่าถึงแม้ของขวัญของเขาจะล้ำค่าที่สุด  แต่เมื่อเทียบกันทางด้านงานฝีมือแล้วของเขาเทียบไม่ได้กับของขวัญชิ้นอื่นๆ เลย

แต่ตอนนี้ซูจิ้งเหวินกลับมองมาที่เขาอย่างคาดหวังอยู่บ้าง  เย่โม่ยิ้มฝืดๆ เขาหยิบสร้อยข้อมือออกมาจากกระเป๋ายื่นส่งให้ซูจิ้งเหวิน  “สร้อยเส้นนี้ผมทำขึ้นมาเอง  อาจจะหยาบไปบ้าง  ไม่มีเงินจะซื้อชิ้นที่แพงกว่านี้แล้ว”

สร้อยข้อมือเส้นนี้ทำออกมาอย่างหยาบๆ  ที่สำคัญที่สุดสร้อยเส้นนี้มีก้อนหยกขนาดเม็ดถั่วแค่ 6 เม็ดเท่านั้น  เม็ดหยกพวกนี้กระจายไปตามส่วนต่างๆ ของสร้อย  อีกทั้งดูก็รู้ว่าหยกคุณภาพไม่ดี  พูดกันตรงๆ ก็คือรูปร่างไม่สวยนัก

ผู้คนโดยรอบต่างจ้องมองของขวัญของเย่โม่ด้วยความประหลาดใจ  ต่างคิดกันในใจว่าถ้าไม่มีเงินล่ะก็  ซื้องานฝีมือมาสักชิ้นก็ยังดีกว่าสร้อยทำเองเส้นนี้เยอะ  พอมองดูหยกรูปร่างอัปลักษณ์บนสร้อยข้อมือนี้แล้ว  บางทีอาจจะเป็นของปลอมก็ได้  ถ้าเป็นของปลอมจริงล่ะก็สร้อยเส้นนี้ก็มีค่าแค่ 2-3 หยวนเท่านั้น  เทียบกับงานฝีมือทั่วไปแล้วยังถือว่าราคาถูกกว่ามาก

พุฟ!... ในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหวหัวเราะออกมา  คนๆ นี้สุดยอดจริงๆ  ใส่เสื้อผ้าซอมซ่อก็แล้วไปเถอะ  ยังจะให้ของขวัญแบบนี้อีก

“ของขวัญชิ้นนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจริงๆ  คิดว่าคงมีชิ้นเดียวในโลกแล้ว  ฮ่า!ฮ่า!”  จ้าวหงเมื่อได้เห็นของขวัญของเย่โม่แล้ว  ในที่สุดก็หาช่องหัวเราะเยาะเย่โม่จนได้

ซูจิ้งเหวินกลอกตาใส่จ้าวหงแต่กลับรับสร้อยข้อมือของเย่โม่ไปด้วยความยินดี  เธอสวมสร้อยข้อมือนั้นด้วยอาการดีใจ  “เย่...ขอบคุณนะ  ขอบคุณสำหรับของขวัญที่นายทำด้วยตัวเองนะ  ฉันชอบสร้อยเส้นนี้มากเลย  มันมีชื่อไหม?”

เย่โม่หัวเราะเบาๆ  "ผมเรียกมันว่า  'หกเคราะห์พ้นภัย' ”

“หกเคราะห์พ้นภัย?  เป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์จริงๆ”  ซูเหมยเมื่อเห็นท่าทีดีใจของซูจิ้งเหวินจึงอยากจะพูดซักอย่างเกี่ยวกับเย่โม่แต่ก็ห้ามตัวเองเอาไว้

หนิงชิงเชวี่ยมองเย่โม่ที่ส่งของขวัญราคาถูกแบบนี้แต่กลับแสดงท่าทีสงบเยือกเย็น  ไม่กระวนกระวายใจแม้แต่น้อย  แล้วมองไปยังท่าทางมีความสุขของซูจิ้งเหวินหลังจากได้รับของขวัญแล้ว  ภายในใจของหนิงชิงเชวี่ยก็เกิดความรู้สึกอันซับซ้อนยากจะบรรยายขึ้นมา

เวลานี้เองที่เสียงเพลงอันอ่อนละมุนได้ดังขึ้น  การเต้นรำรอบแรกกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ขณะที่ทุกคนกำลังคาดเดากันว่าซูจิ้งเหวินจะหาใครมาเต้นด้วยเป็นเพลงแรกนั้นเอง  ซูจิ้งเหวิน  กลับมองมายังเย่โม่แล้วพูดขึ้น  “เย่โม่  เพลงนี้นายช่วยเต้นรำกับฉันได้ไหม?”

ที่แท้เขาก็คือเย่โม่?  แน่นอนว่าจ้าวหงต้องเคยได้ยินเรื่องของเย่โม่กับหนิงชิงเชวี่ย  สีหน้าของเขาแปลกประหลาด

ตั้งแต่ซูจิ้งเหวินรับสร้อยข้อมือไปใส่  จนกระทั่งเชิญเย่โม่ไปเต้นรำเป็นเพลงแรก  คนอื่นๆ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมากนักยังมองออกว่าเย่โม่อาจจะเป็นไม้กันหมาของซูจิ้งเหวินก็ได้  เอาไว้ป้องกันคนที่คิดอยากจะเต้นรำกับเธอในงานนี้

แต่หนิงชิงเชวี่ยกลับไม่คิดแบบนั้น  เธอรู้สึกได้เลยว่าซูจิ้งเหวินเชิญเย่โม่เต้นรำด้วยความจริงใจ  ถึงจะรู้สาเหตุที่ซูจิ้งเหวินทำแบบนี้  แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจ

เย่โม่เองก็คาดไม่ถึงว่าที่ซูจิ้งเหวินเชิญเขามางานวันเกิดเธอก็เพื่อการนี้  เขาพูดขึ้นอย่างอึดอัดใจอยู่บ้าง  “แต่ผมเต้นไม่เป็นเลยนะ”

ซูจิ้งเหวินตะลึงไปครู่หนึ่ง  ตัวเธอที่วางแผนมาแล้วอย่างรอบคอบกลับคิดไม่ถึงว่าเย่โม่จะเต้นไม่เป็น  เย่โม่เป็นคนที่ถูกตระกูลเย่ทอดทิ้ง  จะดีร้ายยังไงก็ยังเคยเป็นถึงคุณชายตระกูลเย่  อีกทั้งยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหนิงไห่  เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะเต้นรำไม่เป็น?

มีแค่หลี่มู่เหมยเท่านั้นที่รู้ว่าเย่โม่อาจจะเต้นไม่เป็นจริงๆ ก็ได้  ถึงเย่โม่จะเป็นคนชอบโอ้อวดแต่เขาก็ไม่เคยไปห้องบอลรูมหรือผับบาร์ที่ไหนเลย  อีกทั้งเพื่อนของเขายังน้อยมาก  เขาก็แค่ชอบทำตัวหยิ่งยโสโอ้อวดอย่างไร้แก่นสารก็เท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด