Returning From The Immortal World - 349
.......................................................................................................................................................................................
ถังซิ่วได้วางสายไปพร้อมกับส่งข้อมูลของรองผู้จัดการที่ได้รับมาจากเสวี่ยเจี่ยไปให้ฝ่ายตรงข้ามทันทีก่อนที่จะมองไปที่เธอแล้วพูดว่า
“เรารีบไปที่ชางบูเพื่อรอฟังข่าวก่อนแล้วกัน หากว่าฝ่ายนู้นสามารถหาที่อยู่ของรองผู้จัดการได้ก่อนเราก็จะรีบไปที่นั่นทันทีแต่หากว่าไม่เราก็ทำได้แค่ลองไปเหยียบกับดักของพวกมันดู”
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยสายตาแปลกๆ
ถังเหว่ยเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
“น้องชาย นายเพิ่งให้ใครไปช่วยหาข่าวงั้นหรอ ? อย่าบอกนะว่ามีคนรู้จักอยู่ที่นี่ด้วย ?”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดว่า
“ไม่มีหรอกแต่ทางฝั่งจังหวัดฟูคังยังมีอยู่บ้าง รอไปก่อนและหวังว่าจะหาที่อยู่ของรองผู้จัดการเจอ”
ถังเหว่ยที่เห็นว่าถังซิ่วไม่อยากจะพูดถึงสถานะของฝ่ายตรงข้ามเองก็ไม่อยากจะถามต่อไปเพราะอย่างไรก็ตามหากว่าสามารถได้รับข้อมูลมาจากถังซิ่วก็พอแล้ว
เมืองชางบู
อำเภอกวนซึ่งเป็นอำเภอที่ใหญ่เป็นอันดับสอง โรงงานสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกหัวมุมถนนซึ่งทำให้เศรษฐกิจในที่นี่เฟื่องฟูเป็นอย่างมากแต่จากการที่มีประชากรจากภายนอกเข้ามาอาศัยมากมายก็ทำให้พบว่าที่นี่เต็มได้ด้วยคนที่มีรูปลักษณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง
โรงงานทำตู้เมืองชางบูเป็นโรงงานที่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ระดับหรูและส่งออกไปต่างประเทศ
ที่นี่ถูกล้อมไปด้วยกำแพงในพื้นที่กว่า50เมตร ตรงกลางนั้นเป็นศูนย์ทำงานของเหล่าคนงาน นอกจากสำนักงานทั้งสองห้องภายในแล้วที่เหลือเองก็เป็นพื้นที่ทำงานทั้งหมด
ก่อนหน้านี้
ที่นี่เป็นสถานที่ที่คึกคักเป็นอย่างมาก คนงานมาทำงานกันไม่ขาดสาย รถขนส่งเองก็เข้าออกอย่างไม่หยุดหย่อนแต่วันนี้มันเป็นอะไรที่เงียบสงบมากๆ มันแถบไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่เลย
บนหลังคานั้นได้มีชายชาวต่างชาติยืนอยู่ตรงแผงโซล่าเซลล์พร้อมกับถือกล้องส่องทางไกลไว้ในมือและกำลังตรวจสอบสถานการณ์รอบๆตัวโรงงานแต่ข้างหลังของเขาเองก็มีชายรูปร่างกำยำหลายคนที่ถือปืนพร้อมทั้งใบหน้าที่เต็มไปด้วยท่าทางเย็นชา
“ไอ้มู่รุย สถานการณ์รอบข้างเป็นอย่างไรบ้าง ?”
ชายชาวต่างชาติที่ชื่อท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้โทรมาถามเขาด้วยเสียงที่หนักแน่น
“ยังไม่มีวี่แววของศัตรู กำลังเฝ้าดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ”
“ดี ติดต่อหากันเข้าไว้”
เมื่อท๊อปเฟอร์สันพูดจบแล้วก็ได้เก็บโทรศัพท์มือถือกลับเข้าไปในกระเป๋าพร้อมทั้งหันไปมองที่ชายชาวต่างชาติหลายคนด้วยใบหน้าที่ดูถูกเป็นอย่างมากเพราะในความคิดของเขาแล้วคนเหล่านี้อาจจะมองแล้วพอใช้ได้แต่จริงๆแล้วไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยแม้แต่น้อย
“ตื่นตัวเข้าไว้ หากว่าหลังจากที่ศัตรูมาแล้วแต่พวกแกกลับไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ก็บอกได้เลยว่าฉันจะเป็นคนตัดหัวพวกแกหลังจากเสร็จงานด้วยตัวเอง”
ชายวัยกลางคนเองก็ได้แสยะออกมาพร้อมพูดว่า
“ท๊อปเฟอร์สันแม้ว่านายน้อยของตระกูลเราจะสั่งให้เราเชื่อฟังคำสั่งของนายทว่าอย่าได้ทำตัวเหิมเกริมให้มากนัก แม้ว่าก็จะมีวิทยายุทธอยู่บ้างแต่มันเร็วจนหลบกระสุนได้ไหม ?”
ท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้ยิ้มกว้างจนเห็นฟันออกมาพร้อมกับพูดว่า
“อยากลองไหม ?”
“ฮึ่ม.......”
ชายวัยกลางคนเองก็อยากจะลองเหมือนกันแต่ว่าเขาไม่กล้า เขารู้ดีถึงสถานะของพ่อตาของนายน้อยในหัวใจของเขา หากว่าเขาสู้กับท๊อปเฟอร์สันก็คงจะต้องถูกฆ่าตายอย่างอนาถ
หลังจากผ่านไปหลายนาที
โทรศัพท์ของท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้สั่นขึ้นมาทันที
“มีอะไร ?”
“ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยทั้งหมด4คัน ในแต่ละคันเองมี3คนรวมทั้งหมด12คน ไม่มีใครออกมาจากรถพร้อมกับใครบางคนที่กำลังสำรวจที่นี่อยู่ด้วยกล้องส่องทางไกล”
เสียงของไอ้มู่รุยเองก็ถูกส่งผ่านมาทางปลายสาย
ท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“อย่างแรกคืออย่าเพิ่งทำให้พวกมันรู้ตัว ที่ประเทศจีนมันมีคำพูดอยู่คำหนึ่งว่า : เชิญท่าน เชิญลงหม้อต้ม หากว่ามันเข้ามาที่นี่แล้วเราก็ค่อยล้อมมันแล้วฆ่าให้หมดซะ”
ไอ้มู่รุยเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ท๊อปเฟอร์สัน ฉันรู้ว่านายอยากจะฆ่าคนแต่หัวหน้าเองก็ได้บอกมาว่ามันจะดีมากหากว่าเราสามารถจับพวกมันมาเป็นๆเพราะเราสามารถเค้นข้อมูลระดับสูงจากคนเหล่านั้น”
“ฉันรู้แล้ว”
ท๊อปเฟอร์สันเองก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
ที่ใกล้ๆโรงงาน
รถ SUV สี่คันเองก็จอดอยู่ข้างถนนพร้อมกับหลี่เสี่ยวจี่ที่กำลังส่องกล้อง เขาหันมาทางที่นั่งข้างคนขับแล้วพูดว่า
“แจ้งคนอื่นไปว่าห้ามใครออกจากรถโดยเด็ดขาด หัวหน้าเสวี่ยเองก็ได้โทรมาหาฉันและบอกให้พวกเรารอเธอมาถึงที่นี่”
“ได้”
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างคนขับเองก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาทันที
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ
อำเภอชางบู ลานสเก็ต
เจียงเสี่ยวฮูนั้นทำตัวเป็นธรรมชาติมากๆ นี่เป็นสถานที่นัดพบกับน้องชายของเขาเพราะก่อนหน้านี้เขาได้ช่วยเจ้าของลานสเก็ตนี่จัดการปัญหาบางอย่างดังนั้นถึงได้มาหาบอสของที่นี่เพื่อให้มารับเงินในวันนี้
อย่างไรก็ตาม
วันนี้เป็นวันที่จะหักเปอร์เซ็น เขาได้นำน้องชายของเขาทั้งสี่คนมาจากด้านนอกพร้อมกับเดินทอดน่องไปทั่วลานสเก็ตแห่งนี้แต่กลับไม่พบใครเลยแม้แต่น้อย
“นี่มันอะไรกัน ? ก่อนหน้านี้ก็มีคนมากมายแล้วทำไมวันนี้ไปไหนหมด ?”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้หันกลับไปถาม
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเองก็ได้ส่ายศีรษะพร้อมกับตอบไปว่า
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไม่เห็นเคยได้ยินเลยว่าวันนี้.... อ๊า บอสดูด้านในสิ ที่ทางเข้านั้นมีชายยืนอยู่สองคนทำไมตรงนั้น ?”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้จ้องมองพร้อมกับขมวดคิ้วโดยทันที หลังจากที่เขาพาน้องชายทั้งสี่คนเข้าไปแล้วก็ตะโกนออกมาว่า
“พวกนายมาทำอะไรที่นี่ ? นี่เป็นลานสเก็ตของเรา พวกนาย..........”
ปากกระบอกปืนกลเองก็ได้ชี้ไปที่พวกเขาทั้งห้าคนโดยทันที
ชายรูปร่างกำยำเองก็ได้ปลดปล่อยจิตสังหารออกมาพร้อมกับพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า
“หากว่ายังไม่อยากตายก็ออกไปซะ”
ท่าทางของเจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้เปลี่ยนไปพร้อมกับน้องชายที่อยู่ข้างหลังทั้งสี่เองก็แสดงใบหน้าที่หวาดกลัวออกมา เจียงเสี่ยวฮูได้ถามออกมาด้วยน้ำเสียงลึกว่า
“นี่เป็นที่รวมตัวของพวกฉัน แม้ว่าพวกนายนะมีปืนพวกฉันก็ไม่กลัว พวกนายมาทำอะไรที่ถิ่นของเรา แล้วบอสเราล่ะ ?”
ทันใดนั้นชายอ้วนวัยกลางคนเองก็ได้เดินออกมาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นพร้อมกับโบกมือว่า
“เสี่ยวฮู วันนี้ที่นี่ปิดทำการดังนั้นพวกเธอไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ กลับไปก่อน”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้มองไปที่ชายคนนั้นพร้อมกับเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
“บอส เราจำเป็นต้องใช้เงิน”
“พรุ่งนี้ฉันจะจัดการให้”
ชายอ้วนเองก็ได้ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“บอสครับ หากว่าไม่ได้วันนี้ผมก็ตายน่ะสิ ผมได้ติดเงินฮูซี่เอาไว้และฝ่ายนู้นเองก็บอกว่าหากผมไม่มีเงินไปคืนเขาในวันนี้ก็จะถูกตัดมือทิ้ง คุณให้ผมมาก่อนได้ไหมแล้วเราจะกลับไปทันที”
ชายอ้วนเองก็ได้มองไปที่ชายวัยกลางคนข้างๆเขา
ชายวัยกลางคนเองก็ได้ถามออกมาว่า
“พวกเขาเชื่อถือได้ไหม ?”
ชายอ้วนเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“เชื่อถือได้มากๆ เสี่ยวฮูนั้นอยู่กับฉันมากว่า4-5ปีและเป็นคนที่มีความสามารถยิ่งไปกว่านั้นบอสของเขาเองก็เป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ ได้ยินมาว่าเขาอยู่ด้วยกันกว่าหลายปีแล้ว”
ชายวัยกลางคนเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“งั้นก็ให้เงินพวกเขาไปซะ”
“ได้ ได้”
ชายอ้วนเองก็ได้โบกมือให้กับเจียงเสี่ยวฮูก่อนที่จะพูดว่า
“ให้พวกเขารออยู่ด้านนอก เธอเข้ามาเอาเงินกับฉันด้านใน เธอนี่มันดีไปหมดทุกอย่างยกเว้นเรื่องการพนันนี่แหละ ไม่นานเธอจะตายเพราะติดหนี้พนันนะ”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้แสดงท่าทางประหลาดใจออกมาพร้อมกับตั้งใจทำท่าทางอึดอัดออกมาแล้วพูดว่า
“บอส แต่ละคนเองก็มีความชอบที่แตกต่างกัน คุณไม่ต้องเป็นห่วงเพราะผมยังรู้จักขีดจำกัดของตัวเองดี หากว่าเล่นมากไปก็คงอยู่ไม่ได้เหมือนกัน”
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้มองไปรอบๆแล้วพบว่าชายอ้วนไม่ได้มีชายวัยกลางคนคุ้มกันแล้วจึงได้ถามออกมาด้วยน้ำเสียงกระซิบว่า
“บอส พวกเขาเป็นใครกัน ? ทำไมถึงได้กล้าถือปืน ? พวกเขาไม่กลัว......”
ท่าทางของชายอ้วนเองก็เปลี่ยนไปพร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงกระซิบว่า
“อย่าได้ถามมาก สถานะของพวกเขาเป็นอะไรที่เธอไม่สามารถรู้ได้”
“บอส คุณหมายความว่ายังไง ?”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้แสดงท่าทางโกรธออกมาอย่างจงใจพร้อมกับถามออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ชายอ้วนเองก็ได้ถอนหายใจออกมา เขาได้คิดถึงเรื่องที่ว่าตลอดมานี้เจียงเสี่ยวฮูและคนอื่นๆเองก็ช่วยดูแลที่นี่ดังนั้นจึงได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงกระซิบว่า
“เสี่ยวฮู ฉันและเธอเป็นเหมือนพวกเดียวกันและหวังว่าเธอจะไม่ถามถึงสถานะของพวกเขาอย่างไม่ระวังเพราะฉันไม่อยากให้เธอเป็นอะไรไป อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่คนนอกดังนั้นฉันจะบอกเธอนิดหน่อยแล้วกันว่านี่เป็นคนของตระกูลซันจากเมืองกวน พวกเขาได้จับคนเอาไว้ที่นี่และเค้นข้อมูลจากเขา เธอก็น่าจะรู้หนิว่าคนหนุนหลังฉันคือตระกูลซัน”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็รู้สึกดีใจเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เขารู้ว่าวันนี้ตัวเองได้รับผลประโยชน์มากมายแน่นอน อาจจะมีความเป็นไปได้ถึงขั้นที่เขาจะได้ออกจากเมืองเล็กๆนี่แล้วอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆที่เจริญรุ่งเรือง
เขาได้พูดออกมาด้วยท่าทางนิ่งเฉยว่า
“บอส ก่อนหน้านี้ที่คุณบอกว่าคุณมีตระกูลซันหนุนหลังนั้นผมก็คิดว่าคุณขี้โม้ซะอีก ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นจริง คุณไว้ใจได้เลยว่าผมไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นและคุณก็ไม่ได้บอกอะไรผมเช่นกัน ผมจะไปหาพี่ชายฮูซี่เพื่อคืนเงินให้กับเขา หลังจากนั้น.....ผมก็จะพาพี่น้องเหล่านี้ไปหาอะไรทำช่วงเย็น”
“ไปสิ”
ชายอ้วนเองก็ได้พยักหน้า
หลังจากผ่านไป7-8นาที
เมื่อเจียงเสี่ยวฮูออกห่างลานสเก็ตมาได้ไม่ไกลนั้นก็ได้โทรออกไปยังหมายเลขหนึ่งทันที
“พี่ชายฮ่วง ผมเจียงเสี่ยวฮูที่เมืองชางบู ให้ความสนใจกับเมืองชางบูเข้าไว้ ผมพบว่าที่ลานสเก็ตนี่มีคนจากตระกูลซันจับคนมาเค้นข้อมูลที่นี่ ยามเองก็คุ้มกันอย่างแน่นหนา.....อื่มอื่ม ผมเข้าใจแล้ว สบายใจได้เลย ผมจะแอบเฝ้าดูที่นี่เอาไว้.........ได้ ได้ ได้ หากว่าพวกเขามาแล้วผมจะนำทางให้เอง...ขอบคุณพี่ชายฮ่วง........”