Returning From The Immortal World - 350
.......................................................................................................................................................................................
การสนทนาได้สิ้นสุดลง
ใบหน้าของเจียงเสี่ยวฮูนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เขาได้รับการยืนยันมาแล้วว่าหากข่าวสารของเขาถูกต้องก็จะได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ของตระกูลฮ่วง เขาไม่ใช่แค่จะได้รับรางวัลอย่างงามแต่จะได้รับตำแหน่งเช่นกัน
เขา.....
จริงๆแล้วเขาเป็นหน่วยข่าวกรองของทางตระกูลฮ่วงซึ่งถูกประจำอยู่ที่จังหวัดกวนหยางนี้
จากตัวโรงงานทำตู้หลายกิโลเมตร , รถสี่คันกำลังพุ่งมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ในรถคันที่สามนั้นถังซิ่วเองก็กำลังนั่งปิดตาของเขาส่วนถังเหว่ยและเสวี่ยเจี่ยก็กำลังพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน
“ริ้งงงงงง ริ้งงงงงงง ริ้งงงง”
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของถังซิ่วก็ดังขึ้น เมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับเห็นรายชื่อแล้วก็ได้กดปุ่มตอบรับทันทีก่อนที่จะถามว่า
“มีข่าวบ้างไหม ?”
“คุณถัง ตอนนี้หน่วยข่าวกรองที่เมืองกวนของเรานั้นได้ส่งข่าวสำคัญมาให้ เนื้อหาคือตระกูลซันได้จับตัวใครคนหนึ่งมาเค้นข้อมูลอยู่ในลานสเก็ตอย่างไรก็ตามด้วยเหตุที่ว่าการคุ้มกันของฝ่ายนั้นเข้มงวดเป็นอย่างมากจึงไม่สามารถยืนยังได้ว่าคนที่ถูกลักพาตัวไปนั้นคือหว่านเหออึน หากว่าคุณต้องการไปที่นั่นผมก็สามารถให้เบอร์ติดต่อหน่วยข่าวกรองของเราได้”
“เข้าใจล่ะ ขอบคุณ”
“คุณถังไม่จำเป็นต้องสุภาพ นี่เป็นสิ่งที่เราสมควรทำ ยังมีเรื่องอะไรให้เราช่วยอีกไหม ?”
“ตอนนี้ยังไม่มี หากว่ามีเรื่องอะไรที่จำเป็นผมก็จะติดต่อไปอีกครั้ง”
“อื่ม อื่ม อื่ม โทรศัพท์ของผมเปิดอยู่ตลอด24ชั่วโมง”
เมื่อวางสายไปแล้วถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เปลี่ยนเส้นทาง เราจะไปที่ลานสเก็ตเมืองชางบูกัน หากว่าข่าวที่ให้มาถูกต้องคนที่ชื่อหว่านเหออึนน่าจะถูกจับตัวอยู่ที่นั่น”
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้มองไปที่คนขับอย่างลังเลก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ทำตามที่ถังซิ่วบอก รีบมุ่งหน้าไปที่ลานสเก็ตทันที”
“ได้ครับ”
ชายคนขับรถเองก็ได้ใช้ gps เพื่อหาตำแหน่งของลานสเก็ตทันที
“หัวหน้าเสวี่ยครับ ลานสเก็ตอยู่ห่างจากที่นี่เพียง 6 กิโลเมตร เราสามารถไปที่นั่นได้ทันที”
ชายคนขับรถเองก็ได้พูดออกมา
“อื่ม”
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้ตอบตกลงพร้อมกับมองไปที่ถังซิ่ว
เธอไม่รู้เลยว่าถังซิ่วสามารถยืนยันข้อมูลที่ได้รับมาได้ไหม หากว่าไม่ก็จะจะต้องเสียเวลาไปบ้างแต่หากว่าสามารถยืนยันได้ก็แสดงว่าสถานะของหน่วยข่าวกรองของถังซิ่วเองก็มีไม่ใช่น้อย
เป็นใครกัน ?
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้คิดอยู่ภายในใจ
ทันใดนั้น
รถทั้งสี่คันเองก็ได้ไปจอดอยู่ใกล้ๆกับลานสเก็ตพร้อมกับถังซิ่วที่โทรไปหาเบอร์ของหน่วยข่าวกรองที่หัวหน้าตระกูลฮ่วงให้มา ไม่นานหลังจากที่โทรก็ได้มีคนตอบรับ
“ฉันเจียงเสี่ยวฮู นั่นใคร ?”
ถังซิ่วได้พูดออกมาว่า
“ก่อนหน้านี้มีคนให้เบอร์โทรศัพท์นายกับฉันมา เรามาถึงที่ลานสเก็ตแล้ว นายอยู่ที่ไหน ?”
“ฉันอยู่ที่ร้านตัดผมตรงกันข้ามกับลานสเก็ต นายอยู่ไหน ? ฉันจะไปหาทันที”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้พูดออกมาทันที
ถังซิ่วได้มองไปรอบๆพร้อมกับเห็นร้านตัดผมที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลก่อนที่จะพูดว่า
“หลังจากที่นายออกมาแล้วก็ให้เดินมาทางขวาประมาณ7-8ร้อยเมตร ข้างถนนมีรถจอดอยู่4คัน”
“รอสักครู่”
เมื่อพูดจบแล้วเจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้วางสายทันทีพร้อมทั้งทักทายกับเจ้าของร้านตัดผมแล้วเดินไปทางถังซิ่วทันที
ถังซิ่วที่นั่งอยู่ในรถเองก็ได้มองไปที่เจียงเสี่ยวฮูที่กำลังเดินเข้ามา เขาสามารถยืนยันสถานะของฝ่ายตรงข้ามได้ทันทีและไม่รอให้ถังเหว่ยหรือเสวี่ยเจี่ยตั้งตัวก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินไปทางเขาอย่างรวดเร็ว
“นายคือเจียงเสี่ยวฮูใช่ไหม ?”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้สำรวจถังซิ่วพร้อมกับมองไปที่รถที่จอดอยู่ข้างถนนทั้งสี่คัน เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในรถคันแรกนั้นมีผู้ชายอยู่สี่คน
“ฉันเจียงเสี่ยวฮู นายชื่อ ?”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“ฉันชื่อว่าถังซิ่ว ไหนบอกสถานการณ์ภายในลานสเก็ตให้ฉันฟังหน่อย”
แม้ว่าเจียงเสี่ยวฮูจะไม่รู้ถึงสถานะของถังซิ่วหรือฝ่ายตรงข้ามก็ตามแต่เขาได้รับคำสั่งจากระดับสูงมาว่าให้บอกทุกอย่างที่เขารู้ไปกับถังซิ่วดังนั้นจึงได้ถามออกมาว่า
“จะให้ฉันพานายเข้าไปไหม ?”
ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า
“นายคุ้นเคยกับที่นี่ ?”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้พูดออกมาว่า
“คุ้นเคยอยู่เพราะที่นี่เป็นสถานที่รวมตัวของฉัน”
คิ้วของถังซิ่วได้ขมวดเข้าหากันพร้อมกับถามออกมาว่า
“แสดงว่านายเองก็น่าจะรู้จักกับบอสของลานสเก็ตนี่ใช่ไหม ?”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้พูดว่า
“แน่นอนว่ารู้จักอยู่แล้วยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้คนที่เป็นคนบอกข่าวนี้ก็คือบอสของที่นั่น”
ถังซิ่วได้พูดต่อว่า
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็พาพวกเราเข้าไปข้างในนั้น ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเราจะรับประกันความปลอดภัยของนายเอง”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้ถามออกมาด้วยเสียงกระซิบว่า
“นายมีปืนหรือเปล่า ? เท่าที่ฉันรู้คือฝ่ายตรงข้ามเองมีปืนอยู่มากมายพร้อมกับติดที่เก็บเสียงมาด้วย”
ถังซิ่วเอก็ได้ตบไปที่บ่าของเขาพร้อมกับหันไปด้านหลังแล้วพูดว่า
“เป็นที่นี่แน่นอน เขาชื่อว่าเจียงเสี่ยวฮูและลานสเก็ตนี่ก็เป็นที่ประจำของเขา เขาได้รับข่าวมาจากปากบอสของที่นี่ว่าคนด้านในนั้นเป็นคนของตระกูลซันและฉันคิดว่าเราน่าจะมาถูกที่แล้ว ป้าเสวี่ยมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ?”
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้หรี่ตาลงพร้อมกับพูดออกมาว่า
“แน่นอนว่าเราเข้าใจสถานการณ์ของที่นี่น้องกว่าเธอดังนั้นเธอคิดว่าจะทำอย่างไร ?”
ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่ถังเหว่ย
ถังเหว่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า
“น้องชาย ป้าเสวี่ยพูดถูกแล้ว นายจะเป็นหัวหอกของปฏิบัติการนี้ได้ไหม ?”
ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาว่า
“จะรู้สึกโล่งใจได้งั้นหรอถ้าให้ผมเป็นผู้สั่งการ ?”
เสวี่ยเจี่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า
“แน่นอนว่าไม่สบายใจเล็กน้อยทว่าป้าเองนั้นเก่งแค่เรื่องบริหารธุรกิจซึ่งจะให้ป้ามาช่วยตัวประกันก็คงจะไม่เหมาะ ในเมื่อเธอมีความสามารถในการหาที่อยู่ของหว่านเหออึนได้ก็เชื่อว่าเธอจะต้องมีความสามารถมากกว่าป้าอย่างแน่นอน”
ถังซิ่วเองก็ได้เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“โอเค เอาตามนั้น ทิ้งคนไว้สองคนจากสิบเพื่อปกป้องป้าอยู่ที่นี่ ที่เหลือตามผมมา”
ถังเหว่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ฉันเองก็ต้องการไปกับนายนะ”
เสวี่ยเจี่ยได้พูดออกมาว่า
“ถังซิ่ว ป้าไม่มีความสามารถในการสู้และจะเอาแต่ทำให้มันวุ่นวายขึ้นดังนั้นป้าไม่จำเป็นต้องไปแต่ได้ยินมาว่าถังเหว่ยเองก็ฝึกเทควันโด้มาดังนั้นให้เขาไปกับเธอแล้วกัน”
ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่ถังเหว่ยพร้อมกับพยักหน้าแล้วพูดว่า
“เอาล่ะ นายไปกับฉันแล้วกันอย่างไรก็ตามหลังจากที่เข้าไปแล้วก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีเข้าใจไหม ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามเองมีปืนก็ยิ่งทำให้มันอันตรายขึ้นไปอีก”
ถังเหว่ยเองก็แสดงใบหน้าที่จริงจังออกมาพร้อมพยักหน้าแล้วพูดว่า
“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะดูแลความปลอดภัยของตัวเอง”
ทันใดนั้น ถังเหว่ยเองก็ได้ส่งสัญญาณให้ผู้คุ้มกันทั้งแปดคนออกมา ภายใต้การนำของเจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้เข้าไปในลานสเก็ตทันที
“พี่ชายถัง หากว่าเราเดินเข้าไปโต้งๆก็คงจะถูกฝ่ายตรงข้ามตรวจพบอย่างง่ายดาย ฉันจะพานายไปอีกทางหนึ่ง ฉันรู้จักทางเข้าจากห้องน้ำและมันจะเข้าไปได้ถึงห้องเก็บของลานสเก็ต”
เจียงเสี่ยวฮูเองก็ได้หยุดเท้าลงพร้อมพูดออกมาด้วยเสียงกระซิบ
ถังซิ่วเองก็ได้ปลดปล่อยจิตสัมผัสออกมาพร้อมกับตรวจดูสถานการณ์ภายใน ที่หน้าทางเข้าห้องเก็บของนั้นมีชายรูปร่างกำยำยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าถึงสองคนแต่ภายในห้องนั้นมีชายวัยกลางคนที่ถูกมัดเอาไว้นอกจากนี้ยังมีชายและหญิงคนอื่นๆอยู่ภายในห้อง ชายที่มีรูปร่างอ้วนเองก็น่าจะเป็นบอสของลานสเก็ตนี้ส่วนที่เหลือก็คงเป็นคนจากตระกูลซัน
“เอาล่ะ เราไปทางห้องน้ำแล้วกัน”
จิตสัมผัสของถังซิ่วเองก็แสดงให้เห็ฯว่าความคิดของเจียวเสี่ยวฮูนั้นถูกต้อง ที่ปลายสุดของเส้นทางห้องน้ำนั้นไม่ได้มีคนมาเฝ้าไว้ซึ่งมันมีที่พอจะให้คนคลานผ่านไปได้อย่างสบายๆ
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที
พวกเขาทั้ง11คนก็ได้อยู่ห่างจากห้องเก็บของเพียง20เมตร
“พวกนายรอฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะไปจัดการยามสองคนนั้นเอง”
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยเสียงกระซิบ
ถังเหว่ยเองก็ได้มีท่าทางเปลี่ยนไปพร้อมกับยื่นมือไปจับถังซิ่วไว้ทันทีก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ไม่ได้ ให้คนอื่นไปจัดการ ไอ้เจ้าสองคนนั้นมันมีปืนและมันอันตรายอย่างมากง”
ถังซิ่วได้ดึงมือเขาออกพร้อมกับส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
“ไม่ต้องเป็นห่วง หากว่าฉันไม่มั่นใจก็คงไม่มาหรอก จัดการสองคนนั้นมันไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อย”
เมื่อพูดจบแล้วเขาได้ใช้ประโยชน์จากสวนพร้อมกับเข้าใกล้คนทั้งสองช้าๆ หลังจากที่อยู่ห่างจากคนเหล่านั้น7-8เมตรก่อนที่จะไปหลบอยู่หลังเสา ทันใดนั้นเขาก็ได้หยิบมีดออกมาพร้อมกับพุ่งไปที่ประตูทางเข้าทันที
.......
ภาพติดตาได้ปรากฏขึ้นด้านหลังของชายทั้งสองพร้อมกับมีดที่ฉีกคอหอยของชายคนหนึ่งทันทีก่อนที่ถังซิ่วจะเคลื่อนไหวอีกครั้งแล้วเอามือไปอุดปากชายอีกคนเอาไว้พร้อมปาดคอชายคนนั้นเช่นกัน
การเคลื่อนไหวของเขานุ่มนวลเหมือนกับเมฆที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า เสียงฝีเท้าเองก็เบาเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้พลังลากศพของพวกเขาออกไปไกลกว่า20เมตร
“เป็ง เป็ง”
ชายรูปร่างกำยำทั้งสองเองก็ได้ใช้มืออุดที่ลำคอของตัวเองไว้ ดวงตาของพวกเขาถลนออกมาขณะที่ลำคอเองก็มีเลือดพุ่งออกมาไม่หยุดทันใดนั้นร่างกายของพวกเขาก็บิดไปมาก่อนที่จะนอนตายอยู่ที่พื้น
ถังเหว่ยและเจียงเสี่ยวฮูรวมไปถึงผู้คุ้มกันทั้งแปดคนเองถึงกับมองชายรูปร่างกำยำที่นอนดิ้นไปมาอยู่ตรงพื้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
มันช่างนุ่มนวล........... ฆ่าได้แบบสบายใจงี้เลย ?
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยเสียงกระซิบว่า
“พวกนายตามฉันมา เดี๋ยวฉันจะพังประตูเข้าไปเองส่วนพวกนายก็รีบๆฆ่าพวกมันซะ จำไว้ว่าพวกมันน่าจะมีปืนอยู่เช่นกันดังนั้นอย่าให้พวกมันมีโอกาสได้ชักปืนขึ้นมา”
“ได้ครับ”
คนอื่นๆเองก็ได้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ถังซิ่วเองก็ได้หยิบปืนออกมาจากศพของชายรูปร่างกำยำก่อนที่จะส่งให้กับผู้คุ้มกันแล้วรีบเดินไปที่ประตูทันที ขณะที่คนอื่นๆหลบอยู่นั้นถังซิ่วเองก็ได้พังประตูเข้าไปทนที
“โคร๊มมมมมมม........”
ประตูได้ถูกถีบและผู้คุ้มกันทั้งแปดคนได้พุ่งเข้าไปพร้อมกับปืนและมีดในมือ คนข้างในเองก็ยังไม่ทันได้ตอบสนองทันดังนั้นพวกเขาจึงได้ถูกมีดจี้ไว้ที่คอและรวมไปถึงปากกระบอกปืนที่หันไปทางชายอ้วนและคนอื่นๆ