ตอนที่แล้วTZ3 พระสงค์ประหลาด (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTZ4 นักสู้แห่งสิบสองนักษัตริย์ (1)

TZ3 พระสงฆ์ประหลาด (3)


 

“เราต้องเดินไปอีกไกลแค่ไหน!” ฉีเยว่ถามด้วยอาการหอบเหนื่อย ถึงฉีเยว่จะเป็นคนแข็งแรง แต่การปีนเขาแบบนี้ก็เลี่ยงอาการเหนื่อยไม่ได้

 

พระหนุ่มที่เดินนำหน้าหันมาพูด “ใกล้จะถึงแล้ว”

 

ทั้งสองคนมาหยุดที่หน้าทางเข้าวังแห่งหนึ่ง ประตูของที่นี่ดูเก่าแก่โบราณมาก มีร่องรอยต่างๆที่เกิดขึ้นตามการเวลา

 

พระหนุ่มพลักประตูเข้าไป ภายในวังดูสะอาดสะอ้าน มีลักษณะเป็นโถงขนาดใหญ่ ใจกลางมีพระพุทธรูป เมื่อพระหนุ่มเดินไปถึงหน้าพระพุทธรูป เขายกมือไว้สักการะ

 

“ตอนนี้จะบอกผมได้หรือยังว่าพาผมมาทำอะไรที่นี่?” ฉีเยว่อยากรู้ ถ้าไม่เพราะพระหนุ่มพูดถึงเรื่องความฝัน เขาคงไม่ยอมตามมาด้วย

 

พระหนุ่มพูดอย่างเรียบเฉย “ที่อาตมาพาโยมมาที่นี่ก็เพื่อจะดัดนิสัย”

 

“ดัดนิสัย? นี่คุณกำลังว่าให้ผมเหรอ? ดัดนิสัยบ้าบอ...ผมไม่สนใจแล้ว” ฉีเยว่มองพระหนุ่มด้วยความไม่พอใจ

 

พระหนุ่มพูด “ต่อหน้าพระพุทธรูป ห้ามพูดจาหยาบคาย… การที่โยมได้เดินทางมาทิเบตถือเป็นโชคชะตาลิขิต การที่โยมได้มาเจออาตมาก็เป็นเพราะโชคชะตาลิขิตเช่นกัน… โยมเป็นคนสำคัญ แต่จะว่าไป อาตมาก็คิดไม่ถึงว่าคนที่สำคัญที่ในตะวันออกนี้จะกลายเป็นโยม”

 

ฉีเยว่ทำสีหน้าไม่พอใจ “นี่ท่านดูถูกผมมากขนาดนี้เลยเหรอ? ผมไม่สนใจวิหงวิหารอะไรของท่าน ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ พาผมกลับไปส่งเดี๋ยวนี้” ถึงฉีเยว่จะเป็นอันธพาล แต่ก็รักศักดิ์ศรีมาก หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นพระ ป่านนี้เขาคงบันดาลโทสะไปแล้ว

 

พระหนุ่มไม่สนใจที่ฉีเยว่พูด “พวกเราเปรียบเหมือนไข่มุกแห่งตะวันออก ที่นี่เป็นสถานที่ลึกลับ ถึงคนทั่วไปจะไม่รู้ แต่ในตะวันออกแห่งนี้ มีคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าปกป้องที่นี่อย่างลับๆ… ทุกคนกลายเป็นผู้พิทักษ์เพราะโชคชะตา ทุกๆพันปี คนเหล่านั้นจะปรากฏตัวเพื่อบอกถึงการมีอยู่ของตน ซึ่งจะช่วยให้ตะวันออกแห่งนี้มีความเป็นอยู่อย่างสงบ”

 

“ที่พาผมมาก็เพื่อจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเหรอ?” ฉีเยว่ไม่เข้าใจในสิ่งที่พระหนุ่มพูด

 

พระหนุ่มพูดต่อ “ที่บอกเล่าเรื่องราวไป ก็เพราะอีกไม่นานคนกลุ่มนั้นจะปรากฏตัว... โลกใบนี้มีเรื่องน่าเหลือเชื่อมากมาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง”

 

ฉีเยว่นึกถึงความฝันแปลกๆที่ตัวเอง แต่ก็แอบปฏิเสธในใจ “ใครเป็นผู้ปกป้องตะวันออก? เทพเหรอ? ในโลกใบนี้มีเทพจริงๆเหรอ?”

 

พระหนุ่มสายหน้า “ถึงจะไม่ใช่ แต่คนกลุ่มนั้นก็มีสายเลือดของเทพ”

 

ฉีเยว่หัวเราะลั่น “ท่านนี่น่าสนใจจริงๆ อุตส่าห์พาผมผ่าคำคืนที่หนาวเหน็บมาไกลถึง 200 กิโลเพื่อเล่าเรื่องนี้เนี่ยนะ? ผมมาหนีตายมาถึงทิเบตและเจอท่านโดยบังเอิญ จากนั้นท่านก็พาผมมาที่นี่แล้วบอกเล่าเรื่องราวน่าเหลือเชื่อ ท่านคิดว่าผมจะเชื่อลงเหรอ? ถึงเรื่องที่ท่านเล่ามาจะน่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม… ผมไปละ” เมื่อพูดจบฉีเยว่ก็หันหลังเดินจากไป

 

จะให้เชื่อคำที่พระหนุ่มบอกได้ยังไง? แต่ถึงอย่างนั้น ในส่วนลึกของหัวใจกลับบอกว่ามันคือเรื่องจริง แต่สุดท้ายฉีเยว่ก็เลือกที่จะไม่เชื่อและจากมา

 

แต่จู่ๆพระหนุ่มก็พูดขึ้น “เดี๋ยวก่อน… ถ้าอยากรู้ว่าผมพูดจริงหรือเปล่า ก็ลองถอดเสื้อออกดู”

 

ฉีเยว่หันขวับ “ถอดเสื้อ? ถอดต่อหน้าพระพุทธรูปเนี่ยนะ? ถึงผมไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ แต่ผมก็ไม่ได้อยากลบหลู่หรอกนะ”

 

พระหนุ่มยิ้มเล็กน้อย “ไหนบอกว่าไม่เชื่อ? แค่ถอดเสื้อออก พระพุทธรูปไม่ถือสาโยมหรอก”

 

ฉีเยว่พูด “ผมไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น ผมไม่อยากได้ยินเรื่องเล่าของท่านด้วย ผมกลับละ” ฉีเยว่หันกายจากไป แต่ในจังหวะที่กำลังจะเดิน กลับดูเหมือนมีอะไรบางอย่างมาฉุดร่างไว้ ฉีเยว่ตกตะลึง ถึงจะพยายามก้าว แต่ก็ก้าวเท้าไม่ออก

 

ฉีเยว่หันหน้ากลับมามอง เขาเห็นพระหนุ่มคนนั้นเข้าประชิดตัว มือขวาสะบัดออกเบาๆแต่กลับทำให้เสื้อของฉีเยว่ขาดกระจุย

 

“กิเลนแต่ละรุ่นเป็นพวกหัวแข็ง… แต่ความหัวแข็งนั้นก็ทำให้ปกป้องตะวันออกสุดความสามารถ ถ้าโยมเป็นแบบนั้นอีกคน อาตมาคงโชคร้ายแน่ๆ” พระหนุ่มทำสีหน้าเศร้าหมอง ก่อนจะยกนิ้วชี้สัมผัสไปที่หน้าอกของฉีเยว่...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด