ตอนที่แล้วGE123 หลีกเลี่ยง[ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE125 ลิขิตสวรรค์คือวัฏจักร[ฟรี]

GE124 ดูดซับผลแห่งความฝัน[ฟรี]


การที่หนิงฝานได้ครอบครองผลแห่งความฝัน 10 ผล เป็นสิ่งที่หมิงลั่วไม่อยากเชื่อ ตั้งแต่กลับออกมาจากโลกแห่งความฝัน หนิงฝานก็เก็บตัว 3 วัน 3 คืน

เขาบาดเจ็บจากการจู๋โจมของสัตว์อสูรลาวา ยามนี้ฟื้นฟูแล้ว

สภาพจิตใจที่ไม่สู้ดีจากการถูกจู่โจมจากโลกแห่งความฝัน ยามนี้ฟื้นฟูแล้ว

หนิงฝานถอนหายใจ เคลื่อนมือนำแก่นอสูรสีแดงฉานออกมา

“แก่นสัตว์อสูรลาวา… มนุษย์ไม่สามารถดูดซับได้โดยตรง จึงต้องปรุงเป็นโอสถ... แต่หากเป็นแก่นสัตว์อสูรที่ถือกำเนิดจากธาตุทั้งห้า อันได้แก่ธาตุโลหะ ธาตุไม้ ธาตุวารี ธาตุเพลิง และธาตุดิน จะดูดซับได้โดยตรง… แก่นสัตว์อสูรเหล่านั้นวิวัฒนาการมาจากธรรมชาติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีขีดจำกัด คือผู้ที่จะดูดซับแก่นอสูรที่มีพลังที่เหนือกว่าแก่นอสูร

หนิงฝานนิ่งเงียบไม่กล่าว แก่นสัตว์อสูรลาวาเป็นสิ่งที่ถือกำเนิดมาจากธรรมชาติ เป็นสิ่งที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ และผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มหลายคนหมายตา... การจะปรุงแก่นสัตว์อสูรลาวาได้นั้น ผู้ที่ม

หนิงฝาถอนหายใจ แต่จู่ๆกลับคิดบางสิ่งออก

ในเมื่อตนเองไม่สามารถปรุงโอสถได้ เขาจะให้โม่หนิงเป็นผู้ปรุง

โม่หนิงมีสัมผัสเทพกึ่งดวงจิตแรกเริ่ม หากมันปรุงผลแห่งความฝัน บางทีมันอาจบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มในสุสานแห่งนี้เลยก็เป็นได้

ทะลวงขอบเขตสัมผัสเทพไปยังดวงจิตแรกเริ่มภายในสุสาน… การทะลวงขอบเขตของสัมผัสเทพนั้น ไม่ได้ยากเย็นเหมือนทะลวงขอบเขตปราณ… หากภายในสุสานแห่งนี้มีแก่นสัตว์อสูรเพลิงเป็นจำนวนมาก หนิงฝานเชื่อว่าสัมผัสเทพของเขาจะบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มได้ใน 3 เดือน! เมื่อถึงยามนั้น โม่หนิงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม

แววตาหนิงฝานเป็นประกาย หากสัมผัสเทพของเขาบรรลุขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม แม้ระดับปราณจะยังไม่บรรลุขอบเขตแก่นทองคำ แต่โม่หนิงก็สามารถรับมือกับผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มได้

แต่หนิงฝานกลับเผยความกังวล… โม่หนิงมีปัญหากับการก่อดวงจิตแรกเริ่มอยู่ 2 อย่าง

อย่างแรก แม้สถานที่แห่งนี้จะมีสัตว์อสูรเพลิง ทั้งยังมีปราณที่เหมาะสมให้ยกระดับ แต่สถานที่แห่งนี้คือเขตแดนของชายชรา แม้ชายชราจะระวังหนิงฝานน้อยลง แต่ยังคงไม่อาจวางใจ หนิงฝานไม่อาจเก็บตัวฝึกฝนในเขตแดนของชายชราได้ เพราะชายชรายังคงไม่เลิกคิดที่จะลงมือกับตน

แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานยังคงมีไพ่ตาย… จิตวิญญาณของชายชราอยู่กับเขา เขาสามารถใช้จิตวิญญาณของชายชราเป็นเครื่องป้องกันได้ เพียงแต่หลังจากที่ชายชราทำตามคำสัญญาแล้ว เขาต้องคืนจิตวิญญาณให้

บางที ก่อนหนิงฝานจะออกจากสุสาน ชายชราอาจขอจิตวิญญาณของตนคืน และเขาคงได้รั้งอยู่ชั้น 1 ของสุสานกับร่างจำแลงที่แข็งแกร่งเพียงขอบเขตเปิดเส้นชีพจรของชายชรา

ตั้งแต่ที่ชายชราลอบจู่โจมเขาครั้งแรก เขาก็คิดหาวิธีคิดบัญชีกับชายชราเอาไว้

แต่การที่ชายชรายอมเปิดโลกแห่งความฝันให้ตนเองได้เข้าไปนั้น ก็เท่ากับชดเชยกับการลอบจู่โจม แต่หนิงฝานหน้าหนาพอที่จะใช้ประโยชน์จากจิตวิญญาณของชายชราอีกครั้ง

เขาจะยังไม่คืนจิตวิญญาณของชายชรา เขาจะใช้มันเป็นผู้คุ้มกันให้ตนเองได้เก็บตัวฝึกฝน!

ปัญหาของโม่หนิงจึงคลี่คลายไป… หนิงฝานจะทิ้งโม่หนิงไว้ในสุสานเพื่อเก็บตัวฝึกฝน ส่วนไป๋ฝานจะออกจากสุสานไป เพราะอีก 3 เดือนให้หลัง สือหยินจะนำทัพจู่โจมเมืองหนิง แต่ลำพังไป๋ฝานคนเดียวไม่อาจรับมือได้ง่ายนัก

เพราะไป๋ฝานรับส่วนที่เป็นวิชาและร่างกายที่ทรงพลัง ส่วนโม่หนิงรับส่วนที่เป็นทะเลสติและสัมผัสกระบี่

แม้โม่หนิงจะอยู่สุสาน แต่ไป๋ฝานยังใช้สัมผัสเทพได้ เพียงแต่ไม่อาจใช้สัมผัสกระบี่… หากโม่หนิงทะลวงขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มได้ก่อนที่นิกายจี๋หลิงจู่โจม หนิงฝานจะสยบสงครามได้ไม่ยาก แต่หากโม่หนิงไม่อาจทะลวงขอบเขตได้ทัน ไป๋ฝานที่รับมือสือหยิน ผู้เชี่ยวชาญกึ่งดวงจิตแรกเริ่มจะเป็นอันตรายร้ายแรง

หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพไปยังปล่องภูเขาไฟ ยามนี้เพลิงจากภูเขาไฟปะทุอย่ารุนแรง ไม่รู้ว่าโม่หนิงสังหารสัตว์อสูรลาวาไปมากเท่าไหร่จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หากพลาดโอกาสเก็บตัวฝึกฝนในยามนี้ ก็คงหาสถานที่ดีๆให้เก็บตัวฝึกฝนไม่ได้อีก เพราะสถานที่ดีๆนั้น ไม่รอให้ผู้ใดไปหา

ที่สำคัญ เพลิงจากลาวาแห่งนี้แตกต่างจากเพลิงของโลกภายนอกราวฟ้าเหว

“ลาวาพวกนี้ไม่ได้เกิดจากเพลิง แต่เป็นปราณอสูร เมื่อสังหารอสูรไปเป็นจำนวนมาก ปราณเหล่านั้นจึงเริ่มปะทุ… หากโม่หนิงพลาดโอกาสนี้ไป โม่หนิงจะต้องเผชิญกับอันตรายยิ่งขึ้นหากต้องทะลวงขอบเขตอีกครั้ง...”

“เอาเถอะ… ให้โม่หนิงทะลวงขอบเขตที่นี่ ส่วนไป๋ฝานกลับเมืองหนิง หากเมืองหนิงถูกจู่โจมและโม่หนิงยังทะลวงขอบเขตไม่ได้ ค่อยให้โม่หนิงกลับเมือง”

หนิงฝานโคจรวิชา แยกร่างของตนเป็นขาวกับดำ

โม่หนิงนำแก่นอสูรทั้งหมดที่ได้มา มุ่งตรงไปยังปล่องภูเขาไฟ

ส่วนไป๋ฝานยังคงรั้งอยู่ที่เดิม และนำผลแห่งความฝันออกมา

ผลแห่งความฝันมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก พวกมันมีลวดลายเจ็ดสีที่ถูกสลักไว้อย่างงดงาม ลวดลายเหล่านั้นเปล่งแสงเรืองรอง แผ่พลังแห่งความฝันออกมา

ผลแห่งความฝันจะช่วยให้ผู้ที่กิน ยกระดับความแข็งแกร่งของจิตใจเฉกเช่นผู้ที่ฝึกฝนจิตใจไป 50 ปีในคราวเดียว เมื่อกินผลแห่งความฝันเข้าไปแล้ว ผู้ที่กินจะเข้าสู่นิทรา เมื่อผ่านไปเพียง 1 คืนที่โลกภายนอก ในความฝันจะผ่านไปนานถึง 50 ปี แม้จะช่วยยกระดับพลังเพียงเล็กน้อย แต่ระดับจิตใจยกระดับไปมาก

“ตั้งแต่ข้าเป็นผู้ฝึกตน ปราณของข้าก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่จิตใจกลับเชื่องช้า… ทำได้เพียงรอให้แข็งแกร่งไปตามกาลเวลา เว้นแต่จะได้โอสถเสริม… บางทีนอกจากผลแห่งความฝันที่ช่วยยกระดับจิตใจแล้ว ในโลกนี้คงไม่มีสิ่งใดที่ให้ผลได้น่าอัศจรรย์เช่นนี้... ข้าต้องรั้งอยู่ในสุสานเพื่อกินผลแห่งความฝันให้หมดก่อน!”

ไป๋ฝานยิ้มเล็กน้อย ก่อนกัดกินผลแห่งความฝัน

เมื่อผลแห่งความฝันเข้าปาก พลังแห่งความฝันกลับทำให้เปลือกตาหนิงฝานปิดสนิททันที… แล้วเข้าสู่นิทรา

ภายในความฝัน… เด็กชายอายุ 3 ขวบ ดวงตาเหม่อลอยว่างเปล่า อาศัยอยู่ภายในตระกูลหนิงในฐานะทาสของที่นั่น

ใกล้สระน้ำสีเขียวมรกตภายในเมืองไห่หนิง เด็กจำนวนมากมายนับถ้วนที่มีแววตาเหม่อลอยว่างเปล่า ถูกนำตัวไปยังตระกูลหนิง

เหล่าผู้เชี่ยวชาญของตระกูลหนิงออกเสาะหาเด็กที่กำพร้าบิดามารดาไปทั่วแคว้นหวู่ ลบความทรงจำ และนำเข้ามาเป็นผู้เยาว์ตระกูลหนิง... ผู้ที่มีเส้นชีพจรสามารถฝึกฝนได้นั้น จะถูกเรียกขานว่า ‘นายน้อย’ แต่หากผู้ใดไม่มี จะถูกเรียกว่า ‘ทาส’ ซึ่งเหล่าทาสภายในตระกูลจะรับเด็กเหล่านั้นเป็นบุตรบุญธรรม

เด็ก 3 ขวบ 2 คนเดินตามชายวัยกลางรูปร่างผอมบางคนหนึ่ง ที่หันมากล่าวอย่างถือดี

“นับจากวันนี้ไป เจ้ามีนามว่า ‘หนิงฝาน’ บุตรชายของข้า ‘หนิงต้าเหนียว’ และข้าก็รับบุตรบุญธรรมอีกคนที่มีอายุน้อยกว่าเจ้า 1 ปี นาม ‘หนิงกู่’”

“อืม...”

เด็กชาย 3 ขวบคนนั้นขานรับ แต่เมื่อขบคิด เหตุใดชื่อหนิงฝานและหนิงกู่ถึงได้คุ้นเคยนัก

เด็กชายคนนั้นไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจสิ่งใด เพราะเขายังอายุได้เพียง 3 ขวบเท่านั้น

เด็กชายคนนั้นเหม่อลอย ไม่ขยับเคลื่อนไหว

“เหตุใดข้าจึงชื่อหนิงฝาน ท่านแม่เรียกขานข้าว่า ‘หยุน’”

“ฮึ่ม! เด็กทุกคนถูกลบความทรงจำ เหตุใดมันยังเหลือเศษเสี้ยวความทรงจำ… ดูเหมือนข้าต้องเรียกท่านผู้นั้นมาลบความทรงจำเจ้าอีกครั้ง จะเอาให้หนักเลยคอยดู...”

หนิงต้าเหนียวประหลาดใจ เด็กชายคนนั้นถูกลบความทรงจำไปแล้ว เหตุใดยังยังจดจำชื่อเดิมได้… เด็กคนนี้เป็นคนแรกที่จำได้

หนิงต้าเหนียวขมวดคิ้ว เด็กคนนี้ต้องเป็นปีศาจ… ไม่งั้นจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร

ขณะที่หนิงต้าเหนียวขบคิด ผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวคนหนึ่งเดินมาด้านหลังหนิงต้าเฉียวช้าๆ

แม้ผู้เยาว์คนนั้นจะมีรูปร่างผอมบางและดูอ่อนแอ แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมา ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

“หนิงต้าเหนียว… ท่านปู่เรียก!”

ในสายตาของหนิงต้าเหนียว ผู้เชี่ยวชาญทุกคนคือเซียนในสายตาของมัน

หนิงต้าเหนียวคุกเข่าให้ผู้เยาว์คนนั้น มันหวาดกลัว… หวาดกลัวอย่างที่สุด เพราะมันเห็นด้วยตาของตนเองว่า ผู้เชี่ยวชาญเพียง 1 คนสามารถสังหารคนได้เป็นภูเขา… ผู้ฝึกตนทุกคนในแคว้นหวู่ล้วนเป็นผู้ที่น่านับถือ หนิงต้าเหนียวต้องเคารพ และไม่กล้ายั่วยุ

ผู้เยาว์ที่มาไม่ได้มองหนิงต้าเหนียว มันมองหนิงฝานและหนิงกู่พลางขบคิด

“เจ้ามีนามว่าหนิงฝาน… เป็นนามที่ไพเราะ แต่เจ้ากล่าวว่าเจ้าแซ่หยุนใช่หรือไม่?”

เด็กคนนั้นกล่าว เด็กคนนั้นไม่รู้ว่าเหตุใดผู้เยาว์คนนี้ถึงให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยนัก

“หนิงฝาน… บางทีนามที่แท้จริงของข้าอาจเป็น ‘หยุนฝาน’ คาดไม่ถึงว่าการดูดซับผลแห่งความฝันจะทำให้เห็นความทรงจำในส่วนลึก… ยามนี้เจ้าได้เข้าร่วมตระกูลหนิงฝานแล้ว เจ้าไร้ซึ่งบิดามารดา ไม่ว่าจะใช้แซ่หนิงหรือหยุนก็ไม่ต่างกัน” ผู้เยาว์คนนั้นถอนหายใจ

“อืม…” หนิงฝานพยักหน้า แม้ว่าตนเองจะไม่เข้าใจก็ตาม

ในขณะที่ผู้เยาว์คนนั้นถอนหายใจ แววตาของมันกลับเปลี่ยนไป

“บางทีเจ้าอาจรู้วิธีตัดหัวใจแห่งปีศาจ!”

“ข้า...ข้าไม่เข้าใจ...” เด็กคนนั้นราวกับจะนึกบางอย่างออก สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว

“ช่างเถอะ... จิตใจของเขายังเยาว์เกินไป ไปกับข้าก่อนเถอะ...”

ผู้เยาว์คนนั้นถอนหาย สะบัดชายอาภรณ์แล้วนำหนิงฝานไป ทิ้งให้หนิงต้าเหนียวตกตะลึง

แล้วโลกแห่งความฝันก็แตกสลาย...

ไม่นานโลกแห่งความฝันก่อตัวขึ้นใหม่ สถานที่ที่ไร้ซึ่งผู้คนได้ปรากฏอีกครั้ง… ป่าแห่งภูติพราย!

“ข้าจะพาเจ้าล่าสังหารที่นี่ 50 ปี!”

ผู้เยาว์คนหนึ่งนำเด็กคนหนึ่งเข้าสู่ป่าแห่งภูติพราย แล้วเริ่มเปิดฉากสังหาร

เมื่อเด็กคนนั้นได้เห็นทะเลโลหิต เหยียบย่ำซากศพ ใบหน้าที่หวาดกลัวของเด็กคนนั้นก็หายไป จิตใจของเด็กคนนั้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

50 ปีที่ผ่านไป ผู้เยาว์คนนั้นล่าสังหารให้เด็กคนนั้นดู โดยไม่กล้าสักคน

ใน 50 ปีนี้ กระบี่ของผู้เยาว์คนนั้นอาบโลหิตของเหล่าภูติผีไปมากมายนับไม่ถ้วน… แม้ภูติผีเหล่านั้นจะถูกสังหาร แต่พวกมันยังถือกำเนิดใหม่ราวกับไร้ที่สิ้นสุด เพราะสถานที่แห่งนี้คือโลกแห่งความฝัน

ผู้เยาว์คนนั้นเหนื่อยอ่อน ไร้เรี่ยวแรง แต่แววตายังคงเย็นชา

“ไม่รู้ว่ายามนี้ข้าจะตัดความรู้สึกได้หรือไม่...” แม้น้ำเสียงของผู้เยาว์คนนั้นจะยังเป็นเด็ก แต่สีหน้าดูราวกับเทพสังหาร

เมื่อผ่านการล่าล้างสังหารไป 50 ปี ความฝันก็แตกสลายอีกครั้ง...

ภายในต้นไม้ของหมิงลั่ว หนิงฝานลืมตา แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

โลกภายนอกผ่านไปเพียง 1 คืน แต่สิ่งที่หนิงฝานต้องเผชิญ คือประสบการณ์การสังหารกว่า 50 ปี

หนิงฝานหลับตาพลางสงบใจ เมื่อลืมตาขึ้น แววตาที่เหนื่อยล้าก็หายไป… ยามนี้ แววตาของหนิงฝาน ดูแตกต่างจากก่อนจะเข้าสุสานอย่างสิ้นเชิง

จิตใจของหนิงฝานยกระดับขึ้น 50 ปี

แต่เขากลับไม่มีความสุข และถอนหายใจ

“ยังไม่พอ… ข้าต้องกลับไปในนั้นอีกครั้ง... หากไม่ตัดความรู้สึกก็ไม่อาจบรรลุแก่อนทองคำ! แต่ข้าจะไม่ตัดความรู้สึก!”...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด