ตอนที่แล้วSH.16 – ลึกลงไปในซากปรักหักพัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH.18 – ผู้อัญเชิญ

SH.17 – ปลดล็อคพรสวรรค์ต้นไม้


17 – ปลดล็อคพรสวรรค์ต้นไม้

เหล็กและหินปะทะกันอย่างรุนแรงจนเกินประกายไฟ

“อึก!”

โรดส์ถอยหลังไป 2-3 ก้าว แรงกระแทกทำให้ดาบของเขาสั่นสะท้านและยังส่งผลไปยังแขนและร่างกายท่อนบนทั้งหมด

อย่างที่คาดไว้ กากอยระดับ 15 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่อ่อนแอ โดยเฉพาะเมื่อพวกมันมีถึง 2 ตัว กากอยเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความพิเศษโดยเฉพาะสติปัญญาของมัน โดยทั่วไปแล้วนั่นเป็นสิ่งที่เขากังวล แต่เนื่องจากสติปัญญาที่กล่าวมานั้นทำให้ AI เคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังมากขึ้น ยิ่งเมื่อหลังจากถูกโจมตีโดยคมดาบแห่งการทำลายล้าง เมื่อดาบของโรดส์เปล่งแสงสีขาวออกมา กากอยจะกรีดร้องและถอยกลับ แม้ว่ามันจะกำลังโจมตี มันจะลังเล และนั่นเปิดโอกาสให้โรดส์ได้พักหายใจ

แต่มันเป็นเวลาเพียงครู่เดียว

โรดส์กำเครื่องหมายแห่งดวงดาวไว้ในมือ ในขณะที่กำลังศึกษาการเคลื่อนไหวของกากอย เขาต้องกัดฟันและพยายามทรงตัวอย่างมาก แม้ว่ากากอยทั้งสองจะกลัวดาบแห่งการทำลายล้างของเขา แต่เขามั่นใจว่าพวกมันทั้งสองไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายแน่นอน ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะจนมุม แต่อีกไม่นาน เมื่อเขาเลื่อนระดับ เขาจะยกระดับ กระบวนท่าดาบเงาจันทร์ขึ้นเป็น Rank D 4/4 เมื่อถึงตอนนั้นมันจะลดการใช้พลังวิญญาณของท่าดาบแห่งการทำลายล้าง แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องขีดจำกัดการใช้งาน นี่ไม่ใช่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย โรดส์รู้ดีว่าเขาต้องเก็บแรงไว้เผื่อเกิดเรื่องผิดพลาด และเนื่องจากเขาเป็นสายต่อสู้เพียงคนเดียว ถ้าเขาใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดออกไป สถานการณ์จะเลวร้ายในทันที

กากอย 2 ตัวไม่ได้เพียงแต่จ้องมองเขาอีกต่อไป ตรงกันข้ามพวกมันบินไปมาและตวัดกรงเล็บเพื่อโจมตีโรดส์ และถอยกลับไปเมื่อรู้ว่ากำลังจะถูกโจมตีกลับ การต่อสู้ที่ไม่มีวันจบสิ้นกินพลังงานอย่างมาก แต่เนื่องจากกากอยทั้ง 2 ถูกสร้างมาจากการเล่นแร่แปรธาตุ พวกมันจึงไม่มีปัญหาใดๆ แต่ว่าไม่ใช่กับโรดส์

เหงื่อไหลช้าๆมาที่กลางหน้าผาก เขาตั้งรับอยู่เป็นเวลานานและเขารู้ดีว่าร่างกายของเขาเริ่มเหนื่อยล้า แต่โรดส์ถอยกลับไม่ได้ เขารู้ดีกว่าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถเอาชนะกากอย 2 ตัวนี้ได้ และนั่นเป็นเป็นเหตุผลที่เขาฝากความหวังไว้กับไลซ์ อย่างไรก็ตาม.....

ดูเหมือนว่าจะลืมบอกพวกเขาเรื่องวงเวทย์ป้องกัน?

หลังจากคิดได้สักพัก เขายักไหล่และหันไปสนใจกากอยที่กำลังพุ่งมาทางเขา

มันไม่ได้อันตรายขนาดนั้น

--

ทันใดนั้น แมทร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“อ้ากกกก!!”

เขาล้มลงบนพื้น ร่างของเขาดิ้นไปมาไม่หยุด

“ข้ากำลังจะตาย! ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”

“คุณแค่สับสน คุณแมท...คุณไม่ตายเพราะเรื่องแค่นี้หรอกค่ะ”

ไลซ์พลิกสิ่งของไปมาบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยฝุ่น ส่วนใหญ่เป็นเพียงเศษซากที่รอวันย่อยสลาย เธอเตรียมตัวร่ายเวทย์แสงศักดิ์สิทธิ์ใส่แมทโดยไม่ต้องหันไปมองและค้นหาต่อไป

แม้ว่าจอมเวทย์ส่วนใหญ่จะร่ายเวทย์ป้องกันไว้มากมายเพื่อปกป้องความลับของพวกเขา ภายในโบสถ์ที่ถูกทิ้งร้างไว้เป็นเวลานานแห่งนี้ พลังของวงเวทย์ป้องกันลดลงไปกว่า 70-80% ดังนั้นมันจึงไม่เป็นอันตรายอย่างที่คิด

สำหรับลูกครึ่งทูตสวรรค์ ความสามารถในการต่อต้านเวทมนตร์นั้นแข็งแกร่งมาก วงเวทย์ป้องกันที่อ่อนแอเหล่านี้แทบไม่มีผลกับเธอ ภายใต้การค้นหาของเธอ วงเวทย์เหล่านี้ระเบิดออกมาบ้าง ปล่อยสายฟ้าออกมาบ้างและสลายหายไปในพริบตา อย่างไรก็ตาม สำหรับแมทที่น่าสงสาร เขาช่วยทำให้กับดักเหล่านี้ดูน่าเกรงขามขึ้นมา นั่นเพราะว่าเขาเป็นเพียงคนธรรมดาและไม่มีคสวามสามารถในการต่อต้านเวทมนตร์ ปฏิกิริยาของเขาทำให้วงเวทย์เหล่านี้ดูเหมือนเป็นอันตราย

“ที่นี่...ช่างน่ากลัว...” ชายร่างอ้วนพึมพำขณะที่มองไปรอบๆ

แมทปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

ในโบสถ์ที่มืดสนิท มีแสงแสว่างเพียงจุดเดียวที่ขับไล่ความมืด นั่นคือ ‘ออร่าศักดิ์สิทธิ์’ ที่ไลซ์ร่ายขึ้น แต่นั่นทำให้แมทหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิมเพราะว่าเขาสามารถค้าหาตำแหน่งของวงเวทย์แปลกๆได้ชัดเจนมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น แสงสว่างเผยให้เห็นชิ้นส่วนโครงกระดูกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดไปทั่วพื้น ภาพตรงหน้าทำให้ขาของเขาอ่อนแรง ราวกับมันไม่น่ากลัวพอเขายังเป็นคราบเลือดบนผนังและเกือบวิ่งหนีด้วยความตกใจ ถ้าไม่ใช่เพราะท่าทางสงบนิ่งของไลซ์ทำให้เขารู้สึกอับอายในฐานะลูกผู้ชายคนหนึ่ง และเพราะว่ากากอยที่อยู่ตรงทางเข้านั้นอันตรายกว่ามาก ไม่เช่นนั้นเขาคงวิ่งหนีไปนานแล้ว

ตอนนี้เขาสามารถกัดฟันและเกาะติดกับไลซ์เพื่อค้นหาสิ่งที่เรียกว่า ‘ตัวควบคุม’ ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

สถานที่แห่งนี้สกปรกมาก...เราจะไปหาอย่างแบบนั้นได้ที่ไหน?

เขาบ่นในความคิด แต่เขาสังเกตเห็นความจริงจังของไลซ์ เขาตัดสินใจไม่พูดออกมาและเดินค้นหาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ของโรดส์ในตอนนี้ไม่ได้ดีไปกว่ากัน

“---!”

กากอยคำรามและโจมตีโรดส์ แต่เขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและหลบการโจมตีของมันได้อีกครั้ง ครั้งนี้กากอยไม่ถอยไปเหมือนครั้งก่อน มันหมุนตัวไปรอบๆและเหวี่ยงหางมาทางโรดส์

ไม่ดีแล้ว!

เมื่อเห็นการโจมตี หัวใจของเขาสั่นไหวทันที สายเกินไปที่จะหลบ ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้คือยกดาบขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตี

ปฏิกิริยาของโรดส์นั้นรวดเร็วมาก แต่กากอยก็ไม่ได้ช้า เมื่อเขารับรู้ถึงแรงกระแทกที่ส่งเข้ามา ร่างของเขาลอยไปในอากาศ โรดส์กลิ้งไปบนพื้นหลายรอบก่อนจะหยุดลง การปะทะกันเมื่อครู่ทำให้มือของเขาสั่นโดยไม่สามารถควบคุมได้

“อึก!”

โรดส์ลุกขึ้นมาอย่างสั่นไหว เขารู้สึกมึนหัวและหมดแรง ร่างกายครึ่งหนึ่งของเขาชาไปหมด ถ้าเขาไม่จับดาบไว้แน่น เขามั่นใจว่ามันหลุดมือแน่นอน ในขณะที่เขากำลังฟื้นตัว เสียงที่น่าขนลุกสะท้อนดังเข้ามาในหู

“ฟู่….”

ลมหายใจเย็นยะเยือกถูกพ่นมาจากด้านหลังของเขา เขาคิดว่าเขาจะหลบการโจมตีโดยการล้มลงกับพื้น แต่เมื่อเขาหันกลับไป เขาพบเจตจำนงแห่งหมอก 3 ตัวกำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ

เมื่อกากอยไม่สามารถสร้างความเสียหายให้เขาได้ กลับกัน มันโยนเขาออกจากอาณาเขตของโบสถ์ เนื่องจากมีบาเรียที่มองไม่เห็นกั้นเป็นอาณาเขตรอบโบสถ์ไว้ ทำให้เหล่าเจตจำนงแห่งหมอกไม่สามารถเข้าใกล้โบสถ์ได้ อย่างไรก็ตาม พวกมันยังเดินวนไปมาอยู่รอบๆโบสถ์ตามสัญชาตญาณและรอโอกาสในการโจมตี

และตอนนี้ โอกาสก็มาถึง

แน่นอน โรดส์ไม่ทำในสิ่งที่พวกมันต้องการ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการถูกล้อม เขากัดฟันและมาสนใจสิ่งใด เขายกดาบขึ้นและแสงสว่างเปล่งแสงออกมาและยิงออกไปด้านหน้า

ในขณะที่แสงสีขาวพุ่งออกไปและกวาดไปรอบๆสนามรบ หนึ่งในพวกมันถูกทำลายการป้องกัน หลังจากนั้นเขาพุ่งเข้าไปอย่างไหลลื่นและโจมตีไปที่แกนกลางของมัน นั่นทำให้เจตจำนงแห่งหมอกที่โชคร้ายกรีดร้องออกมาและสลายกลายเป็นฝุ่นอย่างช้าๆ โรดส์ได้จัดการพวกมันทั้งหมดและกลับเข้ามาภายในอาณาเขตบาเรีย

ฉันควรทำอะไรต่อ?

ขณะที่โรดส์กำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังจะทำต่อ ระบบแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาทันทีพร้อมสิ่งที่ทำให้เขาตกใจ

[EXP 4000/1800 เลื่อนระดับ! ปลดล็อคพรสวรรค์ต้นไม้ ระดับ 8]

ฉันระดับ 10 แล้วรึ? แต่เท่าที่จำได้ ฉันระดับ 8 เมื่อตอนที่เข้ามาในซากปรักหักพังแห่งหมอก...

โรดส์นิ่งไปชั่วขณะและพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าระบบแจ้งเตือนจะบอกเขาว่า EXP ของเขาเพียงพอที่จะเลื่อนระดับไปแล้ว ก่อนที่เขาจะพบกับกากอย แต่เขาไม่ได้สังเกต แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่า EXP ของเขาเพียงพอในการเลื่อนระดับอีกครั้ง มันไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ ในดันเจี้ยนแห่งนี้ EXP เกือบทั้งหมดที่ผ่านมาอยู่ที่เขาคนเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ระดับของเขายังต่ำ การฆ่ามอนสเตอร์ที่มีระดับสูงกว่าจะได้รับโบนัสมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เขามาถึงระดับ 10 นี่เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่แปลกคือ...EXP ทำงานอย่างไรเมื่อเขาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง?

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากังวลเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ โรดส์เปิดตารางคุณสมบัติและตัดสินใจเลือก เนื่องจากนี่เป็นทางเลือกเดียวที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด

[EXP 4000/1800 เลื่อนระดับ! ปลดล็อคพรสวรรค์ต้นไม้ ระดับ 8]

[EXP 2200/2000 เลื่อนระดับ! ปลดล็อคพรสวรรค์ต้นไม้ ได้รับแต้มสกิล 1 แต้ม ระดับ 9]

[EXP 200/2500 เลื่อนระดับ! ปลดล็อคพรสวรค์ต้นไม้ ได้รับแต้มสกิล 2 แต้ม ระดับ 10]

[คุณต้องการเปิดการใช้งานระบบพรสวรรค์ต้นไม้หรือไม่?]

“เปิดใช้งาน!”

ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที ระบบพรสวรรค์แยกความสามารถออกมาเป็น 3 ชุด

ใน Dragon Soul Continent เมื่อผู้เล่นเลื่อนไปถึงระดับ 10 แต่ละอาชีพจะมีทางเลือกความสามารถที่แตกต่างกันไป 3 ชุด พวกเขาสามารถเลือกได้เพียงทางเลือกเดียวและอีกหนึ่งเป็นความสามารถรองเพื่อนสนับสนุนความสามารถหลัก ประสิทธิภาพของความสามารถนั้นๆขึ้นอยู่กับจำนวนแต้มสกิลที่ผู้เล่นใส่เข้าไป ในตอนเริ่มต้นม่ผู้เล่นมากมายสับสนเพราะว่าพวกเขาได้รับแต้มสกิลเพียงแต้มเดียวเมื่อพวกเขาเลื่อนระดับ ระบบพรสวรรค์ต้นไม้ กระบวนท่าดาบ รวมถึงเวทมนตร์ ทั้งหมดจำเป็นต้องใช้แต้มสกิลในการเลื่อนระดับ ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นผู้เล่นต้องจัดสรรแต้มสกิลที่มีจำกัดกันเอง และเมื่อผู้เล่นไปถึงระดับหนึ่ง พวกมันจะสามารถใช้ ‘สกอร์ปลุกพลัง’ เพื่อทำภารกิจในระดับสูงและได้รับแต้มสกิลเพิ่มเติม

คลาสนักดาบอัญเชิญของโรดส์มีพรสวรรค์ที่แตกต่างกันอยู่ 3 ประเภท ‘ผู้อัญเชิญ’ ‘ผู้ส่งสารวิญญาณ’ และ “จ้าวนรก”

สำหรับ ‘ผู้อัญเชิญ’ เมื่อเลื่อนระดับไปได้ระดับหนึ่งจะสามารถเริ่มจำนวนวิญญาณอัญเชิญได้มากขึ้น ผู้เล่นที่เลือก ‘ผู้ส่งสารวิญญาณ’ จะได้รับการปลุกพลังวิญญาณให้แข็งแกร่งมากขึ้น และสำหรับ ‘จ้าวนรก’ เมื่อสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ถูกฆ่า จะสามารถใช้พลังพิเศษแปลงศพให้กลายเป็นวิญญาณอัญเชิญตามเปอร์เซ็นที่กำหนดไว้ แน่นอนว่าการแปลงสภาพนั้นจะถูกจำกัดไว้เป็นเผ่าอันเดด

อาจจะกล่าวได้ว่าพรสวรรค์ทุกชนิดมีจุดแข็งและจุดอ่อนเป็นของตัวเอง ‘ผู้อัญเชิญ’ อาศัยจำนวนในการเอาชนะ ‘ผู้ส่งสารวิญญาณ’ มุ่งเน้นไปที่คุณภาพ แต่มีสัตว์อสูรน้อยและต้องค้นหาแกนวิญญาณ ‘จ้าวนรก’ เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน ถ้าเป็นคนทั่วไป พวกเขาคงจะลังเลที่ต้องเลือกทางเลือกนี้ แต่สำหรับโรดส์ มันไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากเขาเล่นคลาสนักดาบอัญเชิญมาตลอด 7 ปี เขาจดจำสกิลทั้งหมดและยังได้รับตำแหน่ง ‘หอสมุดเดินได้’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับเลือกจากผู้เล่นที่ต่างยอมรับเรื่องข้อมูลของเขา

แม้แต่ในเกม ผู้เล่นเกือบ 2 ใน 3 ต่างเลือกอาชีพนี้เพราะพวกเขาต้องการสร้างตัวละครโดยใช้ตัวละครของโรดส์เป็นแนวทางของพวกเขา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เหล่ามือใหม่ตัดสินใจได้ยากในการเลือกพรสวรรค์ของพวกเขา

แต่โรดส์นั้นต่างออกไป เมื่อเขาเห็นระบบพรสวรรค์ต้นไม้ เขาตัดสินใจในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด