ตอนที่แล้วSH.15 – การโจมตีของคนสองคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH.17 – ปลดล็อคพรสวรรค์ต้นไม้

SH.16 – ลึกลงไปในซากปรักหักพัง


16 – ลึกลงไปในซากปรักหักพัง

“เฮ้อ....”

เมื่อมองลงไปยังพื้นที่ปกคลุมไปด้วยเศษฝุ่น โรดส์ปาดเหงื่อบนหน้าผากและรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ตลอดทาง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเจตจำนงแห่งหมอก 15-16 ตัว ถ้าพวกเขาเป็นปาร์ตี้ 5 คน ทุกอย่างจะง่ายมาก แต่ตอนนี้มีเพียงคนเดียวที่มีความสามารถในการต่อสู้ ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางพิชิตดันเจี้ยนแห่งนี้ได้ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เขาไม่มีตัวชนมาช่วยดึงความสนใจและให้ทุกคนโจมตี เขาจึงต้องทำหน้าที่เป็นตัวล่อและคอยให้ไลซ์ทำให้ศัตรูอ่อนแอด้วยเวทย์แสงศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่เขาจะโจมตีปิดฉากให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เจตจำนงแห่งหมอกเป็นมอนสเตอร์ชั้นสูงระดับ 10 เป็นอย่างต่ำ ดังนั้นแม้ว่าการป้องกันของพวกมันจะอ่อนแอลง แต่ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการพวกมันได้ ในการโจมตีคริติคอลนั้น ไม่เพียงแต่เขาต้องใช้เครื่องหมายแห่งดวงดาวในมือเท่านั้น เขาจำเป็นต้องโจมตีไปที่จุดอ่อนด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว โรดส์ไม่ใช่ NPC แม้แต่ในเกม การกระทำทั้งหมดนี้จำเป็นต้องใช้พลังงานมากมาย ไม่ต้องพูดถึงโรดส์ที่กำลังใช้ร่างกายตัวเองจริงๆ ถ้าเป็นในเกม เขายังสามารถเริ่มเล่นใหม่ได้ถ้าล้มเหลว แต่ถ้าเขาล้มเหลวที่นี่ นั่นจะเป็นจุดจบในชีวิตของเขา

สำหรับโรดส์ แรงกดดันนี้ยากเกินจะรับไหว เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หมอกรอบๆซากปรักหักพัง หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าไม่มีมอนสเตอร์ เขารู้สึกโล่งใจ

“คุณโรดส์ พวกเราพักสักครู่ได้ไหมคะ?”

ไลซ์มองไปที่โรดส์ด้วยความกังวล ในฐานะนักบวช เธอไม่เข้าใจในสิ่งที๋โรดส์พยายามทำ แต่เธอเองก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่เขาแบกรับไว้อยู่

“ไม่ใช่ตอนนี้...”

โรดส์ส่ายศีรษะ แม้ว่าเขาจะจัดการมอนสเตอร์ที่นี่แล้ว เขายังรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่อันตรายกำลังจับจ้องเขาอยู่ เขาตรวจสอบไปรอบๆอย่างระมัดระวัง แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ใด จากความทรงจำของเขา พวกเขายังไม่ควรไปถึงพื้นที่บอส ดังนั้นจึงไม่น่ามีสิ่งใดอันตรายเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้จักมอนสเตอร์ทั้งหมดที่นี่ พวกมันทั้งหมดถูกจัดการไปหมดแล้ว

ดังนั้น ความรู้สึกพวกนี้มาจากไหนกัน?

โรดส์มองไปรอบๆอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ ในขณะนั้น ชายร่างอ้วนกรีดร้องออกมาทันที

“อ้ากกกก!!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

โรดส์และไลซ์รีบหันกลับมาและมองไปที่ใบหน้าซีดๆของแมท มือข้างหนึ่งของเขาสะพายกระเป๋า ในขณะที่อีกข้างหนึ่งกำลังชี้ไปด้านหลังหมอกอย่างสั่นกลัว

“นั่น มีเงาดำอยู่ตรงนั้น....”

“เงาดำ?”

ไลซ์มองตามไปยังทิศทางที่แมทชี้ แต่นอกจากแสงไฟสลัว เธอมองไม่เห็นสิ่งใด

“ไม่เห็นมีอะไร….”

“ก้มลงกับพื้น!!”

ในขณะนั้น มีบางอย่างผุดเข้ามาในความคิดของโรดส์ ในที่สุดเขาก็เข้าใจความรู้สึกก่อนหน้านี้ได้ เขาจึงตะโกนและกดหัวของไลซ์ให้ก้มลงกับพื้น

“วืดดดด!!”

เกือบจะในเวลาเดียวกัน เงาดำนั้นปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ โรดส์รับรู้ได้ถึงกรงเล็บเย็นๆพุ่งเฉียดศีรษะของเขา และรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด

บ้าเอ้ย!

หัวใจของโรดส์ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ในที่สุดเขาก็รู้ว่า ‘เงาดำ’ นั้นคืออะไร มันคือกากอย!

ตามตำนาน ซากปรักหักพังแห่งหมอกครั้งหนึ่งเคยเป็นที่อยู่และเมืองของกากอย หลังจากที่เส้นทางค้าขายถูกทิ้งร้าง จอมเวทย์คนหนึ่งเดินทางมาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตคนรัก เขาตัดสินใจร่ายเวทย์แห่งความตายต้องห้ามในเมืองร้างแห่งนี้ ท้ายที่สุด เวทย์ของเขาผิดพลาด จอมเวทย์คนนั้นตายลง แต่เวทย์แห่งความตายไม่ได้หยุดลง มันสร้างหมอกหนาและกองทัพมอนสเตอร์อมนุษย์ทั้งหลาย

ในดันเจี้ยนแห่งนี้ สิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดคือกากอย ซึ่งถูกทิ้งไว้เพื่อปกป้องสิ่งของของจอมเวทย์คนนั้น มันเป็นมอนสเตอร์ระดับแรร์ ชั้นสูงระดับ 15!

ถ้าเป็นในเกม โรดส์จะรู้สึกยินดีมากเพราะว่ามันเป็นมอนสเตอร์ระดับแรร์ ซึ่งหาตัวได้ยากมาก แม้ว่าเขาจะเข้าดันเจี้ยนมาหลายครั้ง แต่โอกาสที่จะได้พบกับมันสักครั้งนั้นแทบไม่มี อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รู้สึกมีความสุข เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามเป็นมอนสเตอร์ระดับ 15 และยังบินได้ ไม่เพียงแต่มันยังมีความคล่องตัวสูง แต่มันยังมีระดับที่แตกต่างไปจากเจตจำนงแห่งหมอกเพราะแสงศักดิ์สิทธิ์ของไลซ์ไม่มีผลกับมัน ยิ่งไปกว่านั้น ร่างของกากอยแข็งแรงมาก การโจมตีทั่วไปทำได้เพียงสร้างรอยขีดข่วนเท่านั้น นี่เป็นการต่อสู้ที่ขมขื่นมาก!

ในเกม โรดส์วิ่งเข้าออกดันเจี้ยนซากปรักหักพังแห่งหมอกมากกว่า 30 ครั้ง แต่เขายังไม่เคยเห็นกากอยแม้แต่ครั้งเดียว เขาเกือบจะลืมมันไปแล้ว ตอนนี้เขาเข้าดันเจี้ยนมาด้วยร่างกายจริงๆ แต่เพียงครั้งแรก เขาก็ได้เผชิญหน้ากับมันเลยรึ?

นี่เป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่?

อย่างไรก็ตาม โรดส์ไม่เสียเวลาบ่นไปนานกว่านี้ เพราะว่าอันตรายอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

การโจมตีแบบซึ่งหน้าไร้ประโยชน์ เนื่องจากระดับของเขาน้อยกว่า 10 เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ระดับ 15 นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย แม้จะมีเครื่องหมายแห่งดวงดาว แต่การโจมตีของเขายังคงมีขีดจำกัด

“วิ่งเร็ว!”

เขาสั่งโดนไม่ลังเล จากนั้นเขาดึงมือของไลซ์และวิ่งทันที

“ตามผมมา! ก้มหัวให้ต่ำ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างเงยหน้าขึ้นมา!”

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีออกไปตอนนี้ มีเพียงวิธีเดียวคือการหาอุปกรณ์ตัวควบคุมกากอยและทำลายมัน แม้ว่าทางเทคนิคแล้ว เขาจะสามารถหลบการโจมตีระยะไกลได้ แต่เมื่อเขามองไปที่ทีมของเขาตอนนี้ ไม่มีใครสามารถดึงความสนใจของมันได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงเรนเจอร์หรือโจรเท่านั้น....

ไลซ์และแมทก้มหัวลงต่ำและวิ่งไปข้างหน้า หมอกรอบตัวเขาเริ่มเข้าปกคลุม เห็นได้ชัดว่ามันเริ่มดึงความสนใจของเจตจำนงแห่งหมอก ตอนนี้มีเจตจำนงแห่งหมอก 4-5 ตัวกำลังวิ่งตามพวกเขา

“ไลซ์ ร่ายแสงศักดิ์สิทธิ์! อย่าหยุด!”

“ค่ะ!”

แม้ว่าการร่ายเวทย์ขณะวิ่งจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ แต่เธอยังพยายามทำให้ดีที่สุดและยืดแขนออกไป แสงสีขาวพุ่งผ่านอากาศและกระทบไปที่ร่างของเจตจำนงแห่งหมอก จากนั้น โรดส์รีบแทงดาบของเขาไปที่ร่างของมันทันที เสียงกรีดร้องดังขึ้น ร่างของมันถูกเปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้าและสลายหายไป เสียงระบบดังขึ้นและปรากฎขึ้นตรงหน้าโรดส์

[EXP 1900/1800  ระดับเพิ่มขึ้น ระดับ 8]

น่าเสียดาย เขาไม่มีเวลามาสนใจระบบแจ้งเตือนในครั้งนี้ เนื่องจากเจตจำนงแห่งหมอกได้ปรากฏตัวขึ้น แม้ว่าการเคลื่อนที่ของพวกเขาจะช้าลงเล็กน้อย เนื่องจากต้องร่ายเวทย์แสงศักดิ์สิทธิ์ แต่ด้วยระดับที่เพิ่มขึ้นทำให้ช่องว่างระหว่างเขาลดลง

เมื่อเทียบกับเจตจำนงแห่งหมอก กากอยไม่ได้สนใจแสงศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่ากากอยจะเป็นสิ่งมีชีวิตธาตุความมืดเช่นกัน ในฐานะผู้พิทักษ์จอมเวทย์ ร่างกายด้านนอกของกากอยทำมาจากหิน สามารถต้านทานเวทย์ระดับต่ำได้เกือบทั้งหมด หลังจากที่โจมตีพลาด มันเริ่มไล่ล่าและติดตามเป้าหมายทั้ง 3 และรอคอยโอกาสในการโจมตี แทนที่อมนุษย์พวกนี้จะโจมตีด้วยสัญชาตญาณ อมนุษย์ที่มี AI ควบคุมนั้นจัดการได้ยากกว่า

“โอ้ยย!”

ทันใดนั้น แมทเสียสมดุลและล้มลงกับพื้น กากอยที่กำลังรอโอกาสใช้โอกาสนี้โฉบลงมาทันที กรงเล็บทั้งสองของมันกำลังจะตัดผ่านร่างของพ่อค้าอ้วน เมื่อแมทหันกลับมา สิ่งเดียวที่เขามองเห็นคือเงาดำกำลังเข้ามาฉีกร่างของเขาเป็นชิ้นๆ

“พระเจ้าช่ว...ย”

ทันเวลา แสงสีมองส่องสว่างขึ้นและขัดขวางกรงเล็บของกากอย จากนั้นแสงสว่างถูกเปลี่ยนเป็นดาบและโจมตีไปยังเจตจำนงแห่งหมอกรอบๆตัวพวกเขา ตามมาด้วยเสียงกระพือปีกของกากอยที่บินกลับและเสียงล้มลงของเจตจำนงแห่งหมอก ไลซ์ดึงร่างของพ่อค้าอ้วนซึ่งกำลังคิดว่าเขาจะไปพบครอบครัวของเขาในนรกและยังคงวิ่งต่อไป

“ตรงนี้!”

หลังจากหลบหนีจากการรุมล้อมของเจตจำนงแห่งหมอกได้ เขาเงยหน้าขึ้นและพบเป้าหมายของเขา มันคือโบสถ์ร้าง เป็นสถานที่ที่จอมเวทย์ได้ทำการทดลอง จากความทรงจำของเขา ตัวควบวคุมควรอยู่ที่นี่

แต่ในสถานที่แห่งนี้ แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่จะเข้าไป

เมื่อโรดส์วิ่งไปที่ทางเข้าโบสถ์ เขาพบเพียงความมืด ทันใดนั้นเขาใช้ก้าวพริบตาและหลบทันที ตำแหน่งของเขาก่อนหน้านี้เมื่อ 2 วินาทีที่แล้วมีกากอยนั่งอยู่ กรงเล็บของมันเจาะลึกลงไปในพื้นและทำลายก้อนหินสีเขียวที่เขานั่งอยู่

“ชิ!”

โรดส์สบถออกมา ในเวลาเดียวกัน เขากวาดตามอง เขาพบว่ากากอยทั้ง 2 ด้านที่ทางเข้าประตูโบสถ์หายไป แน่นอน เขาจินตนาการออกว่าพวกมันอยู่ที่ไหน

เขาพบพวกมันทั้งสองอีกด้านหนึ่ง ราวกับว่าเขาถูกหวย

“พวกคุณทั้งสองคน รีบเข้าไปด้านในและหาตัวควบคุมเร็ว!”

เขาเผชิญหน้ากับกากอย ในขณะที่กำลังตะโกนบอกไลซ์และแมท

“เจตจำนงแห่งหมอกพวกมันจะไม่ตามพวกคุณ ผมจะจัดการพวกมันเอง พวกคุณเข้าไปข้างในและค้นตัวควบวคุมให้เจอ จากนั้นทำลายมัน ระวังกับดักด้วย”

“แต่...คุณโรดส์...”

“นี่เป็นคำสั่ง!”

โรดส์พูดขัดอย่างเยือกเย็น เขาถือเครื่องหมายแห่งดวงดาวและฟันไปด้านหน้า แสงสีขาวสว่างขึ้นและพุ่งไปด้านหน้า เหล่ากากอยกรีดร้องในขณะที่พวกมันกำลังบินหลบการโจมตีของโรดส์ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกมันก็เปิดทางเข้าสู่โบสถ์ทันที

“ไป เร็ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด