ตอนที่แล้วSH.17 – ปลดล็อคพรสวรรค์ต้นไม้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH.19 - หัวใจกากอย

SH.18 – ผู้อัญเชิญ


18 – ผู้อัญเชิญ

กฎข้อแรกในการเล่นนักดาบอัญเชิญคือ ต้องไม่โจมตีคนเดียวในทุกเวลา

[ใช้ 1 แต้มสกิลในการพัฒนากระบวนท่าดาบเงาจันทร์ 1/5 Rank C – ปลดล็อค สกิลเสี้ยวจันทร์]

[ใช้ 1 แต้มสกิลในการเลือกพรสวรรค์ – ผู้อัญเชิญ]

[พรสวรรค์ที่ 1 ผู้อัญเชิญ ปลดล็อค --

เสียงสะท้อนของวิญญาณ (ทุกๆ 10 ระดับ ขีดจำกัดในการอัญเชิญดวงวิญญาณจะเพิ่มขึ้น)

กระแสจิต (แบ่งปันความคิดของคุณกับสัตว์อัญเชิญ เพิ่มระยะเวลาในการเรียกใช้กระแสจิต)

การผสาน (รวมวิญญาณทั้งสองเข้าด้วยกัน)]

[ทักษะถาวรที่ได้รับ : เสียงสะท้อนของวิญญาณระดับ 1 (ทุกๆ 10 ระดับ ขีดจำกัดในการอัญเชิญวิญญาณจะเพิ่มขึ้น +1)]

[ขีดจำกัดวิญญาณอัญเชิญ +1]

เมื่อบรรทัดสุดท้ายของระบบแจ้งเตือนหายไป โรดส์พบกับเงาขนาดยักษ์ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รู้สึกตกใจ ตรงกันข้าม เขายกดาบขึ้นและชี้ไปด้านหน้า

วูดดดด!

เงาสีเขียวบินออกมาจากปลายดาบอย่างรวดเร็วและพุ่งตรงไปยังกากอย

มันคือวิหควิญญาณ

ความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถอัญเชิญสิ่งมีชีวิต 2 ตัวได้พร้อมกันนั้นเป็นเพราะว่าในปัจจุบันเขาอ่อนแอเกินไป โชคไม่ดีที่เครื่องหมายแห่งดวงดาวถือเป็นหนึ่งในอาวุธที่ถูกอัญเชิญมาด้วย

คลาสนักดาบอัญเชิญเกือบจะคล้ายกับนักดาบทั่วไป พวกเขาสามารถสวมใส่อาวุธ ‘ทั่วไป’ แต่โรดส์ไม่ตัดสินใจเช่นนั้น แม้ว่าเขาจะสามารถสวมใส่อาวุธทั่วไปแทนได้ แต่เขาไม่สามารถทิ้งโบนัสค่าสถานะของเครื่องหมายแห่งดวงดาวได้ และด้วยเหตุนั้น เขาจึงสามารถกำจัดมอนสเตอร์ระดับสูงกว่าได้อย่างง่ายดายซึ่งทำให้เขาได้รับประโยชน์ตามมาเช่น EXP แต่อีกด้านหนึ่ง เขาไม่สามารถต่อสู้ไปพร้อมกับ ‘สัตว์อัญเชิญ’ ของเขาได้ ทำให้เขาดูเหมือนนักดาบเต็มตัว

เรื่องนี้ทำให้โรดส์รู้สึกลำบากใจอย่างมาก แต่เขาทำอะไรไมได้ ถ้าเขาสามารถอัญเชิญวิหควิญญาณได้ เขาจำเป็นต้องทิ้งเครื่องหมายแห่งดวงดาว ด้วยวิธีนี้การต่อสู้ในอนาคตของเขาจะยุ่งงยากมากขึ้น แม้ว่าเขาจะสามารถใช้สัตว์อัญเชิญได้ แต่คลาสของเขาจะเหมือน ‘นักดาบ’ หรือไม่ก็ ‘จอมเวทย์’ ที่เอาแต่ยืนมองอยู่ด้านหลัง

แต่ว่าถ้าเขาต้องการใช้เครื่องหมายแห่งดวงดาว เขาต้องเก็บวิหควิญญาณและต่อสู้เหมือนกับนักดาบทั่วไป นั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเช่นกัน

คลาสนักดาบอัญเชิญมีจุดอ่อนหลักคือ เมื่อเทียบกับนักดาบ ‘จริงๆ’ กระบวนท่าดาบทุกชนิดจะลดลง 1 Rank

นั่นหมายความว่าถ้าเป็นคลาสนักดาบที่อยู่ในระดับสูงสุด Rank SSS นักดาบอัญเชิญจะไปถึงระดับสูงสุดได้แค่ Rank SS ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากเท่าใด ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเริ่มต้น ทั้ง 2 คลาสยังเริ่มต้นแตกต่างกัน คลาสนักดาบจะเริ่มต้นด้วย Rank D แต่โรดส์ที่เป็นนักดาบอัญเชิญเริ่มต้นด้วย  Rank E นั่นเป็นจุดที่แตกต่างกัน

อาจจะพูดได้ว่าจนถึงตอนนี้ โรดส์จำเป็นต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก ถ้าไม่ใช่เพราะเครื่องหมายแห่งดวงดาวและความรู้เกี่ยวกับ Dragon Soul Continent เขานั้นน่าสงสารมาก แม้ว่าเขาจะคุ้นเคยกับสไตล์การต่อสู้ร่วมกับสัตว์อัญเชิญมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถใช้งานสิ่งเหล่านั้นได้

และตอนนี้หลังจากที่เขาเลือกพรสวรรค์ ‘ผู้อัญเชิญ’ ภาระบนบ่าของเขาลดลงอย่างมาก

ใช่แล้วว แม้ว่านักดาบอัญเชิญจะไม่มีพลังโจมตีที่รุนแรง แต่พวกเขาไม่ใช่ประเภทที่วิ่งเข้าไปแล้วโจมตีอย่างไร้เหตุผล

สำหรับวิหควิญญาณที่พุ่งไปด้านหน้า กากอยไม่สามารถหลบได้ทัน มันรับรู้ได้ถึงพลังเวทมนตร์จากฝั่งตรงข้าม แต่ AI ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร มันจึงระบุว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรู และโจมตีออกไปด้วยกรงเล็บของมัน

แต่การโจมตีครั้งนี้ของกากอยพลาดไป

เมื่อกรงเล็บของมันกำลังจะฉีกกระชากศัตรู วิหควิญญาณก็สลายตัวกลายเป็นควัน อากาศถูกฉีกกระชากไม่มีร่องรอยของการโจมตีใดๆ โรดส์ถือโอกาสที่กากอยไม่ทันตั้งตัว พุ่งเข้าไปข้างหน้า ดาบในมือถูกกำไว้แน่นและตวัดมันลงไป

เสี้ยวจันทร์สีเงินปรากฏขึ้นบนคมดาบของเขาและพุ่งตรงไปยังเป้าหมายของมัน

นี่คือสกิลของกระบวนท่าดาบเงาจันทร์ – เสี้ยวจันทร์

แม้ว่ามันจะเหมือนกับคมดาบแห่งการทำลายล้าง เนื่องจากการโจมตีนี้ควบแน่นมาจากออร่าดาบ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  คมดาบแห่งการทำลายล้างนั้นสร้างแสงทะลุทะลวงไปด้านหน้า แม้ว่ามันจะแข็งแกร่ง แต่พื้นที่ในการโจมตีแคบเกินไปซึ่งทำให้หลบได้ง่าย แต่เสี้ยวจันทร์นั้นต่างออกไป การโจมตีรู้เสี้ยววพระจันทร์นั้นกินพื้นที่กว้าง ทำให้ยากที่จะหลบได้

ตามที่คาดไว้ การเผชิญหน้ากับดาบแสงที่ฟาดเข้ามา กากอยกระพือปีกอย่างบ้าคลั่งและพยายามหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม แต่มันช้าเกินไป ลำแสงนั้นตัดปีกขวาของมัน กากอยตัวนั้นเริ่มเสียหลักและร่วงลงมาอย่างช้าๆ

แต่การโจมตีของโรดส์ยังไม่จบ เมื่อมันสามารถรักษาสมดุลไว้ได้ โรดส์ก้าวไปด้านหน้าอีก 2 ก้าวและกวาดมือซ้ายและทำท่าแปลกๆ

วิหควิญญาณก่อนหน้านี้ที่กลายเป็นควันพุ่งมาจากด้านหลังของกากอยและโจมตีมันอีกครั้ง เสียงลมกรรโชกแรงดังขึ้น แรงกระแทกจากด้านหลังของกากอยส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทำให้กากอยกระเด็นไปไกล นั่นทำให้กากอยโกรธมาก มันเริ่มคำรามเสียงดัง แต่โรดส์ไม่สนใจความโกรธของมัน เขาเดินหน้าต่อและปลดปล่อยลำแสงใส่กากอย

1....2....3!

คมดาบแห่งการทำลายล้างถูกปลดปล่อยออกมาอย่างแม่นยำและต่อเนื่องทะลวงปีกขวาของกากอย แม้ว่ามันจะทำจากหิน ก็ยังไม่สามารถต้านทานการโจมตีอย่างต่อเนื่องไปที่จุดๆเดียวได้ รอยแตกกระจายไปทั่วปีกของกากอย ปีกของมันแตกเป็นเสี่ยงๆ กากอยที่สูญเสียปีกเริ่มกรีดร้องออกมาและร่วงลงสู่พื้น

การพึ่งพาจำนวนในการเอาชนะ คือการผสานระหว่างปริมาณและคุณภาพนั่นคือสไตล์การต่อสู้ของนักดาบอัญเชิญ

ในที่สุดโรดส์ก็สามารถนำสไตล์การต่อสู้แบบเดิมมาใช้ได้ ที่จริงแล้ว ถ้าเขาถืออาวุธทั่วไปตอนนี้ เมื่อเขาเลือกพรสวรรค์ ‘ผู้อัญเชิญ’ เขาจะสามารถใช้งานสัตว์อัญเชิญได้ถึง 2 ตัวในการโจมตี เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ต้องพูดถึงมอนสเตอร์ชั้นสูงหายาก แม้แต่มอนสเตอร์บอส เขาก็สามารถฆ่ามันได้อย่างแน่นอน

น่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มีคำว่า ‘ถ้า’ ความจริงนั้นโหดร้ายเสมอ เขาไม่มีวิญญาณอัญเชิญดวงที่ 2

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเลิกคิดและถอยหลังทันที

เพราะเวลานี้กากอยตัวที่สองกำลังพุ่งมาทางเขา

บางทีอาจเป็นเพราะมันเห็นเพื่อนของมันถูกโจมตี มันจึงพุ่งเข้ามาเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ สำหรับโรดส์ ตั้งแต่ที่เขาอัญเชิญวิหควิญญาณได้ เขาไม่ได้สนใจจะต่อสู้กับมันอีกต่อไป กลับกัน เขาเงยหน้าและมองไปที่มอนสเตอร์ที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขาลำบาก และเป่านกหวีด เสียงลมกรรโชกปะทะเข้ากับร่างเงาสีดำที่พยายามโจมตีเขา มันกระแทกกากอยปลิวตกลงมาและกลิ้งไปหลายรอบก่อนจะกระแทกเข้ากับผนังโบสถ์

แน่นอน โรดส์ไม่พลาดโอกาสในการโต้กลับ

ภายใต้คำสั่งของเขา สายลมสีเขียวปรากฏขึ้นด้านล่าง วิหควิญญาณกางปีกบินถลาโจมตีไปยังศัตรูของมันอีกครั้ง

ภายในพริบตา เขาเปลี่ยนจากรับเป็นรุกในทันที

กากอยซึ่งก่อนหน้านี้มีความสูงชั้นกว่าเมื่ออยู่บนอากาศ ตอนนี้อยู่บนพื้นแล้ว โรดส์ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกกดดันอย่างหนักสามารถพลิกสถานการณ์ได้แล้ว เขาจงใจใช้วิหควิญญาณแยกกากอยทั้ง 2 ออกจากกัน เพื่อให้พวกเขาสามารถรักษาการต่อสู้แบบ ‘2 VS 1’ ไว้และต้องมั่นใจว่าอีกตัวหนึ่งไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือเพื่อนมันได้

แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โรดส์ไม่สามารถต่อสู้ต่อได้ การโจมตีครั้งล่าสุดใช้พลังงานของเขาไปเกินครึ่ง ถ้าเป็นในเกม เมื่อคุณเลื่อนระดับ ตัวละครของคุณจะถูกฟื้นฟูโดยอัตโนมัติ  แต่แน่นอนว่าในชีวิตจริงนั้นไม่ใช่ เมื่อเขาเลื่อนระดับไปถึงระดับ 10 และปลดล็อคพรสวรรค์ต้นไม้ พลังวิญญาณของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลย

ถ้าเขาใช้พลังวิญญาณที่เหลืออยู่ของเขา แน่นอนว่าเขาไม่อาจทำลายกากอยทั้งสองตัวลงได้ เนื่องจากใช้พลังงานมากเกินไป เขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจวว่าเขาจะไม่อยู่ในสภาพ ‘หมดสภาพ’ สุดท้ายแล้ว ช่องว่างระหว่างระดับนั้นกว้างเกินไป พลังป้องกันของกากอยโดยธรรมชาตินั้นแข็งแกร่งมาก แม้แต่คมดาบแห่งการทำลายล้าง เขายังสามารถทำลายปีกของมันได้เพียงข้างเดียวซึ่งไม่ใช่จุดตายของพวกมัน แต่เนื่องจากเขาใช้พลังงานไปเกือบทั้งหมดและยังเหลือกากอยอีกมากกว่า 1 ตัวที่เขาต้องเผชิญหน้า แม้แต่คนปัญหาอ่อนยังรู้เลยว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร

ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการซื้อเวลาจนกว่าไลซ์และแมทจะจบ ‘ตัวควบคุม’

มิเช่นนั้น ทุกอย่างจะหันมาหาเขาอีกครั้ง

“----!”

แม้ว่าปีกข้างหนึ่งของมันจะถูกทำลาย แต่สายตาของมันยังดุร้าย มันคลานบนพื้นราวกับสุนัขดำตัวใหญ่ นี่เป็นส่วนที่น่ากลัวของสิ่งมีชีวิตที่ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุ ถ้ามีคนคิดว่าพวกมันทำได้เพียงบินไปมาและโจมตี พวกเขาคิดผิดอย่างแรง

โชคดีที่โรดส์เข้าใจพฤติกรรมของมันเป็นอย่างดี เขาไม่ใช่มือใหม่ที่เชื่อว่าเมื่อพวกเขาสูญเสียความสามารถในการบิน กากอยจะเหมือนกับศพที่ตายไปแล้ว แต่ความจริงแล้ว มันลดแรงกดดันของเขาไปมาก เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศอีกต่อไป

เงาสีดำปรากฏขึ้นด้านหลังและพยายามลอบโจมตีเขา แต่เขาเตรียมตัวมาแล้ว โรดส์ก้าวไปด้านข้างและป้องกันการโจมตีด้วยดาบของเขา ในเวลาเดียวกัน เขายืดแขนขวาและทำสัญลักษณ์มือ หลังจากทำสัญลักษณ์มือ วิหควิญญาณบินมาทางเขาและป้องกันกากอยอีกตัวที่กำลังโจมตีเขาจากอีกทางหนึ่ง

ระดับของวิหควิญญาณนั้นต่ำและไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับมอนสเตอร์ชั้นสูงพวกนี้ได้ แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตที่เป็นธาตุ มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะหลบหลีกการโจมตี

เมื่อเวลาผ่านไป หัวใจของโรดส์เริ่มเต้นเร็วขึ้น เขารู้สึกกังวลอย่างมาก ร่างกายที่อ่อนแอของเขาเริ่มเชื่องช้าและตามไม่ทันเทคนิคของเขา พลังชีวิตและพลังวิญญาณของเขาเริ่มเหือดแห้ง จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆจากทางโบสถ์

เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาจะไม่พบอุปกรณ์ควบคุม?

วูซซซ!!

เขาได้ยินเสียงกรีดอากาศจากด้านข้าง โรดส์ที่ตั้งท่าป้องกันเริ่มรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาหลบไปอีกด้านหนึ่งและเตรียมใช้ก้าวพริบตา แต่เขาไม่ทันระวัง เขาสูญเสียสมดุลและสกิลถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ

พลังวิญญาณของเขาเกือบจะหมดแล้ว!

หัวใจของโรดส์ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกแล้ว เขาหมุนตัวและตวัดดาบไปด้านหน้า ดาบสีขาวบริสุทธิ์ปะทะเข้ากับกรงเล็บของกากอย เสียงปะทะดังลั่น เสียงเสียดสีกันระหว่างเหล็กและหินดังขึ้น กากอยถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มันซุ่มโจมตีผิดพลาด แต่โรดส์เหนื่อยเกินกว่าจะไล่ตาม

ในขณะนั้น เสียงดังมาจากด้านหลัง

“คุณโรดส์! พวกเราเจอแล้ว!!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด