ตอนที่แล้วSH.13 – แหวนแห่งความตั้งใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH.15 – การโจมตีของคนสองคน

SH.14 – ซากปรักหักพังแห่งหมอก


14 – ซากปรักหักพังแห่งหมอก

ชายชุดคลุมดำทั้ง 3 หยุดมองหาร่องรอยเนื่องจากพวกเขาพบเป้าหมายแล้ว เมื่อพวกเขามองเห็นเงา 2 เงาบนเนินเขา พวกเขามองหน้ากันและพุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

พวกเขารวดเร็วมาก แต่โรดส์เองก็ไม่ได้ช้าเช่นกัน

เขาพุ่งตัวผ่านเนินเขาและผิวปาก วิหควิญญาณที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าเหมือนได้ยินคำสั่ง มันบินโฉบตรงมายังร่างชุดคลุมดำทั้งสาม

“- -!!”

เมื่อถูกโจมตีอย่างกะทันหันจากวิหควิญญาณ ทั้งสามไม่ได้ตื่นตระหนัก พวกเขารีบตั้งรับและสวนกลับ คนหนึ่งถือมีดคู่ไว้ในมือทั้งสองและพุ่งตรงไปยังวิหควิญญาณ อีกสองคนที่เหลือมุ่งหน้าตรงไปยังไลซ์และแมท เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้เป็นมืออาชีพ พวกเขาไม่หยุดเพียงเพราะการโจมตีเล็กๆน้อยๆ

แน่นอนถ้าคู่ต่อสู้ของพวกเขาเป็นเพียงวิหคธรรมดา มันคงเป็นเรื่องยากที่จะหยุดพวกเขาได้

น่าเสียดาย วิหควิญญาณไม่ใช่นกธรรมดา

วิหควิญญาณไม่ได้หลบการโจมตีของชายที่ถือมีดคู่ กลับกันมันเพิ่มความเร็วและพุ่งเข้าหาชายตรงหน้า ท่าทางของชายตรงหน้าเริ่มแสดงความกลัวออกมาในทันที เพราะเขาเห็นว่านกที่พุ่งตรงเข้ามาทะลุผ่านคมดาบของเขา

วิญญาณธาตุ!

ชายชุดดำถึงกับตกตะลึง เขารีบบิดตัวและพยายามหลบการโจมตีของวิหควิญญาณ แต่อย่างไรก็ตาม วิหควิญญาณยังสามารถสร้างบาดแผลบนหัวไหล่ของเขาได้สำเร็จ เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาแข็งค้างและแทบจะสูญสิ้นสติทั้งหมดไป เขาพยายามทรงตัว แต่ก็ยังคงล้มลงกับพื้นอย่างแรง มีดสั้นในมือของเขาร่วงลงสู่พื้น

อีกสองคนที่เหลือก็เป็นเหมือนกัน เมื่อวิหควิญญาณบินผ่านร่างของพวกเขา พวกเขาไม่ได้กังวลอะไร แต่จากนั้นไม่นาน สายลมเย็นเยือกถูกพัดใส่ร่างของพวกเขา พวกเขารู้สึกมึนงงและไม่สามารถขยับตัวได้

แม้ว่าอาการชาจะหายไป แต่มันช้าเกินไป ไลซ์และแมทได้เข้าถึงก้อนหินสีขาวแล้ว เมื่อหนึ่งในชายชุดดำมองเห็นภาพตรงหน้า เขาขมวดคิ้วและหยิบหน้าไม้ออกมาจากข้างเอว

“เกิ-เกิดอะไรขึ้น!”

แมทที่เพิ่งขึ้นมาบนก้อนหินสีขาวได้สำเร็จจากการช่วยเหลือของไลซ์ เขาเหนื่อยมาก ทั้งร่างของเขาเกือบจะเป็นอัมพาต เขาวางมือที่กำแพงหินและถอนหายใจลึกๆ ทันใดนั้นเงาเล็กๆพุ่งผ่านหน้าของเขา ชั่วพริบตาลูกธนูถูกยิงฝังไปที่กำแพงข้างกายเขา

“เหวออ!”

แมทก้มหัวอย่างรวดเร็ว ไลซ์ก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว แต่เธอไม่ลืมคว้าร่างของพ่อค้าร่างอ้วนเพื่อปกป้องเขา

“พวกเราต้องรีบแล้ว”

โรดส์พูดขณะที่มองไปยังเงาทั้ง 3 ที่อยู่บนเนินเขาไม่ไกลออกไป เมื่อมาถึงโรดส์รีบบอกให้แมทและไลซ์ลุกขึ้นทันที

“พวกมัน...พวกมันเป็นใคร? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกมันต้องโจมตีเรา?”

“อาจจะเป็นพวกโจร”

โรดส์เคยเห็นเสื้อผ้าของพวกมัน เป็นผ้าทั่วไปที่พวกโจรใช้กัน โจรส่วนใหญ่สวมเสื้อผ้าแบบเดียวกัน สำหรับคนที่ส่งพวกมันมา มีเพียงวิธีเดียวที่จะรู้ได้คือหลังจากฆ่าพวกมัน

โรดส์ในขณะนี้ไม่มีพลังพอที่จะฆ่าพวกมัน แม้จะมีความสามารถของวิหควิญญาณ แต่วิหควิญญาณสามารถหยุดพวกมันได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เขาไม่สามารถต้านพวกมันไว้ได้ด้วยระดับปัจจุบันของเขานั้นต่ำเกินไป

“บางทีคุณอาจจะต้องถามพวกมันว่าทำไมถึงโจมตีพวกเรา พวกมันอาจจะใจดีบอกคุณก่อนที่จะฆ่าคุณก็ได้นะ”

แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โรดส์ก็ยังสร้างเรื่องตลกขึ้นมา ซึ่งพ่อค้าอ้วนถึงกับหัวเราะไม่ออก เขารู้ว่าโจรเหล่านี้ไม่ใช่คนที่เขาควรไปยุ่งด้วย ถ้าเขาตกอยู่ในมือของพวกมัน เขาต้องตายแน่นอน

ใบหน้าของแมทซีดมากจากการวิ่งหนีมาตลอดทาง แต่ไม่ว่าเขาจะเหนื่อยเพียงไหน เขายังคงฝืนตัวเองให้วิ่งตามโรดส์เข้าไปในเส้นทางลับที่อยู่ด้านหลังก้อนหินสีขาว

เส้นทางการค้าของเทือกเขาซีนาร์เคยคึกครื้นและกว้างพอที่จะรองรับรถม้า 2 คันวิ่งพร้อมกัน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ก้อนหินจากยอดเขากลิ้งลงมาปิดและกีดขวางเส้นทางส่วนใหญ่ เส้นทางที่เหลือจึงแคบและเดินทางลำบาก

ถึงกระนั้นทั้งสามรีบเดินไปด้านหน้าโดยไม่มีการหยุดพัก โรดส์เหลือบไปมองด้านหลังเป็นระยะๆ ถ้าไม่ใช่เพราะภูมิประเทศ พวกเขาอาจจะถูกพวกมันล้อมไว้แล้ว

“คุณโรดส์ นั่นทางตัน!”

เสียงของไลซ์ทำให้โรดส์หันหน้ากลับไปมองทันที ถนนด้านหน้าในขณะนี้ถูกปิดกั้นไว้ด้วยหินมากมาย

อย่างที่คิด

โรดส์ส่ายศีรษะเล็กน้อย เขาคิดไว้แล้วว่าเกมต้องการบังคับให้ผู้เล่นใช้เส้นทางที่ได้รับการออกแบบไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งใจใช้เส้นทางนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น นี่ไม่ใช่ความตั้งใจแต่แรกของเขาอยู่แล้ว

“เลี้ยวขวา”

“ขวา?”

เมื่อได้ยินคำสั่งจากโรดส์ ทั้งสองประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นพวกเขามองไปยังด้านขวาของเส้นทางและลังเลเล็กน้อย

แม้ว่าเส้นทางหลักจะถูกปิดแต่ยังมีเส้นทางอื่นๆที่เปิดอยู่ ที่น่าแปลกประหลาดคือเส้นทางฝั่งซ้ายสามารถมองเห็นท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน แต่บนเส้นทางฝั่งขวากลับเต็มไปด้วยหมอกที่น่าขนลุก เพียงแค่ชายตามองมันทำให้เขาถึงกับสั่นผวา แต่โรดส์ต้องการให้พวกเขาไปในเส้นทางนี้จริงๆหรือ?

“เร็วเข้า ไม่งั้นเดี๋ยวจะสายเกินไป”

โรดส์กระตุ้นอีกครั้ง ทั้งสองเดินเข้าไปในเส้นทางที่เต็มไปด้วยหมอก จากนั้นไม่นาน ร่างของทั้งสองจางหายไปในหมอกอย่างสมบูรณ์

เมื่อเห็นว่าทั้งสองเดินเข้าไปแล้ว โรดส์รู้สึกโล่งใจ เขามองกลับไปอีกครั้งและเหยียดแขนขวาออกมา

“ออกมา!”

การ์ดสีขาวปรากฏขึ้นในมือของเขา หลังจากนั้นดาบยาวสีขาวปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาจับดาบแน่นและเดินตรงไปที่หน้าผา

แสงสว่างเจิดจ้าออกมาจากตัวดาบ เขาฟันดาบไปที่หินเหนือปากถ้ำ ตูม!! หินก้อนใหญ่กลิ้งลงมาและปิดกั้นเส้นทางอย่างสมบูรณ์ เมื่อร่างชุดคลุมดำทั้งสองมาถึง ร่างของโรดส์ก็หายไปจากตรงนั้นแล้ว

“บ้าเอ้ย!”

หนึ่งในชายชุดคลุมดำสบถขึ้นและกัดฟันของเขา เส้นทางข้างหน้าถูกปิดไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถผ่านไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น แรงกระแทกส่งผลทำให้บริเวณรอบๆสั่นสะเทือน ถ้าพวกเขาไม่รีบออกไปตอนนี้ พวกเขาอาจจะตายได้

“เราควรทำยังไงดี?”

“ไม่มีทางอื่น”

หนึ่งในชายชุดคลุมดำมองไปยังเส้นทางที่ถูกปิดอย่างสมบูรณ์

“พวกเราต้องกลับไปรายงานหัวหน้าและส่งคนมาจับตาดูหมู่บ้านรอบๆทั้งหมดในบริเวณนี้ พวกมันต้องหนีไปทางด้านหลัง ข้าไม่ควรว่าพวกมันจะฉลาดขนาดนี้”

“วิญญาณธาตุ….หนึ่งในพวกมันเป็นจอมเวทย์?”

“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น แต่จากที่ข้าสังเกต เหมือนจะไม่มีจอมเวทย์ในกลุ่มพวกมันนะ”

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ชายชุดดำคนสุดท้ายสังเกตร่องรอยที่เหลืออยู่บนภูเขาและสุดท้ายพูดออกมาอย่างเงียบๆ

“แต่มีหนึ่งในนั้นเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งมากๆในกลุ่มพวกมัน”

เมื่อพูดจบ ชายคนนั้นเดินหันหน้ากลับ

“ไปกันเถอะ เป้าหมาย 3 คนนี้ไม่ง่ายซะแล้ว แต่พวกมันทั้งหมดต้องหายไป รับคำสั่ง! ตรวจสอบหมู่บ้านและเมืองรอบๆทั้งหมดในทันที ข้าเชื่อว่าพวกมันอยู่ในภูเขาได้ไม่นานหรอก”

สำหรับโรดส์และคนอื่นๆ เพิ่งรอดพ้นจากอันตรายมาได้

“ที่นี่คือ...ที่ไหน?”

พ่อค้าร่างอ้วนมองไปด้านหน้าด้วยความว่างเปล่า เขาคิดว่าหลังจากได้ออกผจญภัยมาเป็นเวลาหลายปี เขาได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ประสบการณ์ในสองวันที่ผ่านมาได้บอกเขาว่า เขายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังไม่เคยเห็นบนโลกใบนี้

หลังจากเดินทางผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยหมอกหนา เบื้องหน้าของพวกเขาคือเมืองแห้งแล้งที่ถูกทอดทิ้ง ทั้งเมืองถูกล้อมไปด้วยหมอกหนา ทุกสิ่งทุกอย่างมืดครึ้มไปหมด แม้เขาจะมองไปบนท้องฟ้า ท้องฟ้ายังอึมครึมและอ้างว้างแตกต่างไปจากท้องฟ้าก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

“สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า ซากปรักหักพังแห่งหมอก”

โรดส์ตอบขณะที่เดินอยู่ด้านหลัง

“ตราบใดที่พวกเราผ่านตรงนี้ไปได้ พวกเราจะถึงท่าเรืออาราก้าและพวกเราจะได้ออกไป”

“แต่มัน...อันตรายไหม?”

เว้นเสียแต่คนตาบอด ไม่มีใครคิดว่าที่นี่จะปลอดภัยแน่นอน

“แน่นอนว่าที่นี่อันตราย”

โรดส์ไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่ซากปรักหักพังแห่งหมอกเป็น 1 ใน 5 ดันเจี้ยนประเภท 5 คนในเกมและยังเป็นดันเจี้ยนแห่งแรก มันไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน ในการผ่านดันเจี้ยนไปด้วยคนเพียง 3 คนเป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นอย่างมาก โรดส์ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8 ไลซ์อยู่ที่ระดับ 6 สำหรับพ่อค้าร่างอ้วนซึ่งไม่มีความสามารถในการต่อสู้ คงระดับไม่ถึง 5 โรดส์ไม่นับเขาเข้าไปด้วย จึงสรุปได้ว่า นักดาบวิญญาณระดับ 8 หนึ่งคนและ NPC สายสนับสนุนอีกหนึ่งคนกำลังจะพิชิตดันเจี้ยนระดับ 10 ประเภท 5 คน ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นในเกม ผู้คนคงคิดว่าเขาโง่มาก

แต่เขาไม่ได้โง่ ที่จริงแล้วเขารู้ถึงความเสี่ยงนี้ เมื่อมองไปที่ไลซ์ ถ้าไม่เลือกทางนี้ เขาไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว ดูเหมือนว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเขา หลังจากดูจากความเสี่ยงทั้งหมดที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่

“ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ถ้าคุณทำตามคำสั่งผม ดังนั้น....”

โรดส์หยุดพูดและหันศีรษะไปยังสามผมบลอนด์ตรงหน้าเขา

“ไลซ์ ผมเชื่อใจคุณ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด