ตอนที่แล้วSH.12 – เงาที่คืบคลาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSH.14 – ซากปรักหักพังแห่งหมอก

SH.13 – แหวนแห่งความตั้งใจ


13 – แหวนแห่งความตั้งใจ

เงาพุ่งทะลุผ่านป่า พวกมันกระจายตัวกันออกไป จากนั้นมารวมตัวกันอีกครั้ง

“เจ้าสังเกตเห็นอะไรไหม?”

“ร่องรอยอยู่ทางทิศตะวันออก ดูจากเวลาแล้ว น่าจะอยู่ห่างไปประมาณ 1 วัน”

“พวกมันเร็วมาก....”

“ดำเนินการต่อไป จับตาดูพวกมันไว้ พวกมันสามารถสังหารจ้าวแห่งอสรพิษลมได้ พวกเราไม่ควรประมาท”

“ได้!”

หลังจากที่ทั้งสามคนคุยกันเสร็จ พวกเขาเปลี่ยนร่างกลายเป็นเงาอีกครั้งและเคลื่อนที่หายเข้าไปในป่าลึก การเคลื่อนไหวของพวกเขาเงียบมาก แม้แต่นกยังไม่รู้ตัว

หลังจากที่เงาหายไป มีนกสีเขียวเกาะอยู่บนกิ่งไม้เงียบๆ จากนั้นมันกระพือปีกและบินสูงขึ้นไป

“มีคนตามพวกเรามา?”

เมื่อได้ข่าวจากวิหควิญญาณ ใบหน้าของโรดส์หมองคล้ำขึ้น ในเวลานี้วิหควิญญาณกำลังเกาะอยู่บนไหล่ของเขา จากนั้นมันส่ายศีรษะและกางปีกออกไม่ต่างอะไรไปจากนกทั่วไป มีเพียงร่างกายที่โปร่งใสและออร่าออกมารอบตัวเท่านั้นที่ทำให้ดูแตกต่างไปจากนกทั่วไป

การอัญเชิญวิหควิญญาณมาเพื่อตรวจดูสถานการณ์รอบๆเป็นเรื่องที่เขาคิดไว้ตลอดเวลา เมื่อกลุ่มผู้เล่นรวมกลุ่มตั้งใจรวมกลุ่มกันออกผจญภัย พวกเขามักจะมีโจร เรนเจอร์และคลาสอื่นๆที่สามารถตรวจสอบอันตรายที่จะเกิดขึ้นเสมอ

โรดส์ไม่มีทางเลือก ดังนั้นเขาจึงใช้ความสามารถของวิหควิญญาณในการสำรวจพื้นที่ โชคดี ไม่เพียงแต่วิหควิญญาณที่มีสายตาที่เฉียบคม มันยังสามารถรับรู้ได้ถึงตัวตนของคนอื่นๆและดวงวิญญาณของมันสามารถกลมกลืนกับธรรมชาติได้

ในตอนแรก เขาทำเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นหลังจากที่ฆ่าหมาป่าเงินระดับ 10 เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องมาพบกับปัญหาที่เพิ่มมากขึ้น

แม้ว่าวิหควิญญาณจะไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมีหน้าตาเป็นอย่างไร เพียงคาดเดาจากการไหวตัวของเงา เขารับรู้ได้ว่าไม่ง่ายเลยที่เขาจะมองตามความเร็วของฝ่ายตรงข้ามทัน พวกเขาสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเรนเจอร์ โจร หรือคลาสอื่นที่ไกล้เคียง ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาเป็นคลาสที่มีความคล่องตัวสูงมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนที่เป็นขั้นตอน เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าพวกเขาเป็นนักผจญภัยธรรมดา

พวกเขาเพิ่งเดินทางผ่านไป? หรือว่ากำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเรา?

โรดส์ไม่กล้าเสี่ยง มันจะดีกว่าถ้าพวกเขาเดินเข้ามาหาอย่างตรงไปตรงมา แต่ ‘คนที่ซ่อนอยู่ในเงา’ นั่นเป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก ยิ่งไปกว่านั้น ไลซ์ได้เตือนเขาถึงสิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้น ถ้าพวกนั้นเป็นศัตรูและกำลังมุ่งเป้ามาที่พวกเขา เหตุการณ์จะยุ่งยากเกินกว่าจะจินตนาการได้

แต่เมื่อมองไลซ์ที่อยู่ข้างเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างช่วยไม่ได้

เขามีความคิด

“คุณโรดส์ พวกเราจะเดินไปทางไหนต่อคะ?”

ไลซ์ถามขณะที่ส่งถุงน้ำให้กับพ่อค้าอ้วนที่เหงื่อออกอยู่ด้านข้างเธอ แม้ว่าโรดส์จะไม่ได้ขอร้องให้เธอดูแลพ่อค้าอ้วน แต่ตามปกติในกลุ่มทหารรับจ้าง ไลซ์จะเป็นคนรับหน้าที่ปกป้องพ่อค้า ถึงแม้ว่าจะเหลือเธอเพียงคนเดียว ภารกิจของเธอก็ยังไม่สิ้นสุด เธอจะทำมันต่อไป

แมทรู้สึกขอบคุณอย่างใจจริง แต่การมองดูเขาหอบหายใจ โรดส์รู้สึกกลัวว่าพวกเขาอาจจะตายหากพวกเขายังคงเดินหน้าต่อไป

“ท่าน...โรดส์...ข้า...ข้า-เหนื่อย...ให้...ข้า...พัก...หน่อยเถอะ!”

ขณะที่โรดส์หยุด แมทนั่งลงทันทีและเปิดกระเป๋าหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและเช็ดเหงื่อบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว เขาถูไปมาจนกระทั่งใบหน้าของเขาผ่องใสราวกับดวงทิตย์ในยามเช้า

“สวรรค์ ข้า...ข้าไม่...ได้เดินทางมา...หลายปีแล้ว แค่ก...”

พ่อค้าอ้วนหอบหายใจอย่างผิดปกติ เขาไอ 2-3 ครั้งจนใบหน้าของเขาสั่นสะเทือน หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เขาก็ดีขึ้น

“พวกเรา...เดิน...มาไกลมากแล้ว ข้าคิด...ข้าคิดว่าข้ากำลังจะ....ตาย!”

“ให้พักอีก 5 นาที”

โรดส์เงยหน้ามองท้องฟ้าและคำนวณเวลาและจุดหมายถัดไป เมื่อเขาออกคำสั่งออกไป เมื่อพ่อค้าร่างอ้วนได้ยินคำพูดนั้น เขานั่งร้องไห้กับพื้นทันทีและถือโอกาสพัก ไลซ์นั่งลงอย่างสงบที่ก้อนหินก้อนถัดไป

หลังจากที่ต่อสู้กับหมาป่าเงิน พวกเขาไม่พบอันตรายใดๆอีก ด้วยความช่วยเหลือของวิหควิญญาณ โรดส์ได้หลบเลี่ยงพื้นที่อันตรายมากมาย นั่นหมายถึงเขาสูญเสียโอกาสที่จะได้รับกับอุปกรณ์ระดับสูงไปด้วย แต่เขาไม่ได้กังวล นั่นเพราะในโลกนี้ไม่มีผู้เล่นและนักผจญภัยคนอื่นๆ พวกเขาไม่อาจล้างบางและเก็บทุกสิ่งบนภูเขาไปได้ ดังนั้นไม่สายเกินไปที่จะกลับมาหลังจากนำคนเหล่านี้ไปส่งอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม...

โรดส์เงยหน้าขึ้นไปมองสถานที่ที่ไม่ไกลจากภูเขา จากนั้นเขายืนขึ้น

“ไลซ์”

“ค่ะ คุณโรดส์ มีอะไรให้ฉันช่วยคะ?”

“ผมจะไปตรวจสอบถนนข้างหน้า หลังจากที่พักครบ 5 นาที คุณพาแมทขึ้นไปบนเนินด้านบน เห็นก้อนหินสีขาวนั่นไหม? ไปที่นั่นและเดินไปตามเงาของมัน คุณจะพบภูเขาล้าง พวกคุณไปรอที่นั่น ผมจะรีบตามไป”

ไลซ์เงยหน้าขึ้นมองไปตามทิศทางที่โรดส์ชี้และพบก้อนหินสีขาวบนเนินเขา เธอหันไปมองที่โรดส์อีกครั้งและสับสนมากว่าทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ แต่เมื่อเธอกำลังอ้าปาก เธอตัดสินใจไม่ถาม หลังจากเดินทางด้วยกันมาหลายวัน เธอพบว่าชายคนนี้สามารถพึ่งพาได้ แม้ว่าเธอไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร  เธอยังคงพยักหน้าและมองดูเขาเดินห่างออกไป

แน่นอนว่าโรดส์มีแผนของเขา ที่ก้อนหินนั่นเป็นทางเข้าสู่เทือกเขาซีนาร์ มันเคยเป็นเส้นทางการค้าที่ยอดเยี่ยม ในอดีตคนในพื้นที่ทางเหนือยากจนอย่างมาก พวกเขาใช้ทั้งชีวิตในการขุดอุโมงค์เจาะผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมต่อกับที่ราบของพื้นที่อื่นๆ แต่ด้วยการพัฒนาและการใช้อุปกรณ์เกี่ยวกับเวทย์ลม การสัญจรทางอากาศจึงเกิดขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เส้นทางการค้าแห่งนี้ถึงถูกทิ้งร้างและผู้คนที่นี่ละทิ้งบ้านเกิดและออกไปทำงานเพื่อค้นหาชีวิตที่ดีกว่า นั่นจึงทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นดินแดนที่ว่างเปล่า

ความก้าวหน้าของอารยธรรมจะสร้างสิ่งต่างๆขึ้นเสมอ มันสามารถทำให้ปาฏิหาริย์ที่เคยเกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องไร้ความหมาย ไม่ว่าเขาจะอยู่โลกไหนก็ตาม

แต่โรดส์ไม่ได้เดินทางในที่โลกแห่งนี้เพื่อค้นหาปรัชญาชีวิต

เขาหยุดเดิน ในขณะนั้น ดินแดนแห้งแล้งอยู่ตรงหน้าเขา

รวมถึงศพ

กระดูกทั้งหมดเกือยจะสลายกลายเป็นฝุ่นผง เกราะที่แตกหักและอาวุธที่พังแล้วถูกทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วพื้น มีศพของกลุ่มทหารรับจ้างที่เรียกตัวเองว่า ‘เขี้ยวพยัคฆ์’ ในระหว่างที่พวกเขาเดินทาง พวกเขาถูกโจมตีจากกลุ่มโจรและเสียชีวิตที่นี่ กลับไปในเกม โรดส์จำเป็นต้องรับภารกิจจากกิลด์ทหารรับจ้าง และตรวจสอบภารกิจสุดท้ายตามเบาะแสที่ได้รับ เขาจำเป็นต้องเดินไปตามเครื่องหมายบนแผนที่ทั้งหมดและจบภารกิจโดยการนำจดหมายและสมบัติกลับไปให้พวกเขา มันเป็นเกม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำไปที่ละขั้นตอน แต่เหล่าคนที่มีประสบการณ์มากมาย พวกเขาไม่ได้ทำตามขั้นตอน พวกเขานำจดหมายและสมบัติกลับมาก่อน และนำมันไปยื่นให้กับกิลด์ทหารรับจ้าง มันไม่เหมือนกันหรือ? ไม่เพียงแต่ประหยัดเวลา แต่ยังสะดวกมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาไม่จำเป็นต้องไปทำตามขั้นตอน แล้วทำไมจะไม่ทำล่ะ?

และนั่นเป็นเหตุผลที่โรดส์มาอยู่ที่นี่เพื่อลัดขั้นตอนเหล่านั้น....

เขาเข้าไปในส่วนลึกของสนามรบและเห็นโครงกระดูกนอนอยู่บนขอบเนิน มันสวมชุดเกราะเหล็กที่สึกกร่อนไปมากและมีดาบเหล็กสีเข้ม มีสนิมอยู่ด้านข้าง นั่นคือเป้าหมายของโรดส์ นั่นคือกระดูกของหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง

เมื่อเดินไปที่ซากที่เหลืออยู่ เขาก้มลงและยื่นมือออกไป ในไม่ช้าเขาเห็นตราสัญลักษณ์ทหารรับจ้าง นี่เป็นเครื่องหมายของกลุ่มทหารรับจ้าง ‘เขี้ยวพยัคฆ์’ และมันเป็นไอเทมที่ใช้ในการจบภารกิจ โรดส์เก็บมันไว้ในกระเป๋าเป็นอย่างดีและมองลงไปอีกครั้ง เขาพบสิ่งที่เขาต้องการ

มันถูกสวมใส่โดยโครงกระดูก แหวนสีดำ

โรดส์ถอดแหวนออกอย่างระมัดระวัง เมื่อมองผ่านๆ มันดูเหมือนแหวนไร้ประโยชน์และไม่ต่างไปจากเศษเหล็ก แต่ระบบแจ้งเตือนแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

“แหวนเหล็กดำ ไม่สามารถระบุตัวตนได้ มีกระแสเวทมนตร์”

“ตรวจสอบ”

โรดส์หลับตาและถือแหวนไว้ในแขนขวา กระแสเวทมนตร์อ่อนๆก่อนหน้านี้เริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ไอเทมที่อยู่นมือขวาของเขาไม่ใช่เศษเหล็กอีกต่อไป ตรงกันข้ามมันคือแหวนสีดำแกะสลักลวดลายอย่างง่ายวางอยู่บนมือของเขา

[แหวนแห่งความตั้งใจ ถูกระบุตัวตน สามารถสร้างโล่ได้เป็นเวลา 5 นาที ป้องกันการโจมตีทางจิตใจได้ คูลดาวน์: 3 วัน]

เยี่ยม

โรดส์สวมแหวนไว้ที่มือขวาอย่างพึงพอใจ หลังจากเขามองไปรอบๆ เขาไม่พบสิ่งมีค่าอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงหันหลังและกลับไปหับเนินเขา

โรดส์สามารถมองเห็นไลซ์และแมทกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางของก้อนหินสีขาวได้อย่างชัดเจนพ่อค้าอ้วนไม่มีประสบการณ์ในการปีนเขาและตัวสั่นอยู่ด้านหลังไลซ์ ดูจากใบหน้าแล้ว ถ้าไลซ์ไม่ใช่ผู้หญิง เขาคงจะร้องไห้และขอร้องให้เธอช่วยแบกเขา

นั่นไม่ใช่เรื่องดีเลย

โรดส์ส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์ เขาวางแผนจะรวมกลุ่มกันอีกครั้ง แต่หัวใจของเขาเย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างเฉียบพลันเมื่อเขาได้ยินรายงานจากวิหควิญญาณ

“----!”

โรดส์ตกใจ เขารีบพุ่งเข้าไปในป่า ในไม่ช้า เขาเห็นเงาทั้ง 3 กำลังบินออกมา

บัดซบ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด