ตอนที่แล้วตอนที่ 11 เจ้าสำนักหนุ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 ถูกเล่นงาน

ตอนที่ 12 กล้วยหอม พ่อเสือ และชายปริศนา


ตอนที่ 12 กล้วยหอม พ่อเสือ และชายปริศนา

 

หลังจากรับประทานอาหาร อาบน้ำ แต่งตัว เจ้าสำนักก็ส่งพวกลินจิและชุนเข้าห้องพัก แม้พื้นที่จะไม่กว้างนัก แต่ก็มีข้าวของเครื่องใช้จำเป็นครบครัน ไม่ว่าจะเป็นฟูกนอน หมอน ผ้าห่ม ตะเกียง และโต๊ะน้ำชา ราวกับเรียวกังเล็ก ๆ แถมยังมีชุดให้ลินจิเปลี่ยนอีกด้วย

ตอนนี้ลินจิสลัดคราบทาสในชุดขาวมาเป็นชุดของสำนัก ซึ่งมีลักษณะคล้ายชุดยูกาตะสีเทา มีสายรัดก็เป็นเชือกหลากสีถักทอเป็นลวดลายอย่างสวยงาม แม้จะรู้สึกโล่งแบบแปลก ๆ เพราะไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน แต่ก็ยังดีกว่ากลับไปสวมชุดทาสแล้วถูกเข้าใจผิดล่ะนะ

ขณะที่ชุนนั่งขัดสมาธิ กอดอก หลับตาอยู่ริมกำแพง ลินจิก็นำกล้วยหอมที่ขโมยมาจากหน้ารูปปั้นมาหมุนเล่นบนพื้นไม้จนเกิดเสียงแผ่วเบาดัง กึกกึก อย่างไม่มีอะไรทำ พลางสังเกตชุนที่นั่งเหมือนคนหลับใน

“นี่…คุณชุน”

ลินจิเอ่ยเรียกขณะนั่งพับเพียบอยู่หน้ากล้วยหอมที่หมุนติ้ว ๆ ทว่าชุนก็นั่งนิ่ง ไม่ตอบกลับมา

“เฮ้ คุณฉุ่นชุ๊น”

ลินจิเรียกซ้ำอีกครั้งแต่ยังคงไร้เสียงตอบ

ยังไงก็ต้องได้ยิน ห้องเงียบสงัดแถมอยู่ห่างกันแค่วาครึ่งอย่างนี้ อย่าว่าแต่เสียงเดินเลย กระทั่งเสียงลมหายใจก็ยังได้ยินชัด

“คุณชุน เฮ้คุณชุน ตอบผมหน่อยซี่ ไม่ตอบผมเลย ผมเหงานะ”

ลินจิยกมือป้องปากร้องเรียกอย่างไม่ยอมแพ้ ชุนซึ่งกำลังนั่งกอดอกหลับตาจึงลืมตาจึงพ่นลมหายใจก่อนคำรามเสียงต่ำ

“ถ้ายังส่งเสียงรบกวน ข้าจะจับเจ้าโยนออกนอกหน้าต่าง”

ลินจิยิ้มแป้น

“อ้าว ได้ยินด้วยสินะ โชคดีจริง ๆ เมื่อกี้ถ้าคุณชุนไม่ตอบ ผมก็จะเรียก ‘ที่รัก’ แล้วล่ะ”

ลินจิพูดต่ออย่างดีอกดีใจโดยไม่สนร่องรอยความโกรธที่แอบแฝงอยู่ในน้ำเสียงของชุนเลยสักนิด อันที่จริงลินจิรู้ดีว่าชุนกำลังรู้สึกแย่กับเรื่องที่คู่หมั้นที่กลายเป็นผู้ชาย แต่ลินจิก็คิดว่าไหน ๆ มันก็เป็นแบบนี้แล้ว เครียดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จึงอยากเย้าแหย่ชุนเพื่อให้อารมณ์ดีบ้าง

“ไม่ได้ยินใช่มั้ย ข้าบอกว่าถ้ายังส่งเสียงรบกวนอีก ข้าจะโยนเจ้าออกไป”

ว่าแล้วชุนก็จ้องลินจิตาเขม็ง หัวคิ้วย่นเกร็งจนเกือบจะเป็นร่อง

ลินจิเห็นชุนหน้าเหม็นก็ทำปากจู๋พลางหมุนกล้วยหอมบนพื้นอีกครั้ง จากนั้นก็คลานสี่ขาเหมือนหมีควาย แล้วสังเกตหน้าชุนในระยะใกล้ ทำให้ชุนชุนรู้สึกอึดอัด

“ออกไปห่าง ๆ ข้า”

พอชุนพูดด้วยสีหน้าผิดปกติ ลินจิก็ใช้นิ้วชี้ทั้งสองค่อย ๆ กดบริเวณหัวคิ้วของชุนก่อนจะถ่างออกจากหัน แล้วบอกว่า

“นี่เครียดบ่อย ๆ ระวังจะแก่ไวนะ เดี๋ยวไม่หล่อนะ อ๊ะ!”

เมื่อได้ยินเสียงแปลก ๆ ของลินจิ ชุนก็กลับมาขมวดคิ้วเหมือนเดิม จู่ ๆ ลินจิก็สะดุ้งขึ้นมา

“อึ๋ย อะไรเนี่ยอยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนสร้อยร้อนขึ้นมา”

ลินจิรีบถอดสร้อยประคำทิ้งลงพื้นทันที จากนั้นจี้หินสีดำสนิทก็สั่นกุกกักราวกับมีบางสิ่งกำลังจะออกมาจากด้านใน ลูกประคำค่อย ๆ กลิ้งไหลออกมาจากแรงสะเทือน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเชือกที่ร้อยไว้อาจจะขาด ขณะนั้นลินจิก็รู้สึกเหมือนมีเค้าไอชวนขนลุกระเหยออกมาจากจี้หิน

“…!”

นั่นทำให้ลินจิสะดุ้งเฮือกจนเผลอวิ่งไปหลบด้านหลังชุนที่ลุกขึ้นมาชักดาบตั้งท่าพร้อมจู่โจม ลูกประคำที่กลิ้งไหลไปตามพื้นพลันพุ่งเข้าใส่พวกเขา จากนั้นไอชั่วร้ายสีดำก็พวยพุ่งออกมาจากจี้หิน

“อ๊าย!”

“รีบกางเขตอาคมเร็วเข้า”

ชุนหน้าซีดเผือด ลินจิรีบกางเขตอาคมแล้วหลบเกาะอยู่ด้านหลังชุนเหมือนเหาฉลาม ไอชั่วร้ายสีดำพลันแผ่กระจายตัวไปรอบด้านจนบดบังการมองเห็นของทั้งคู่

บางอยากกำลังขยุกขยิกอยู่ด้านในกลุ่มควันดำ

“คุณชุน…”

เมื่อลินจิสัมผัสได้ว่าชุนไม่อยู่เป็นเกราะกำบังให้แล้วเขาก็ร้องเรียก

“เฮ้ ไปไหนแล้ว คุณชุ๊นนน…”

ลินจิตะโกนพลางแบมือร่ายเวท ‘God Light Lv.1’ เกิดละอองแสงสว่างสีขาวออกมากลางฝ่ามือ ทันใดนั้นลินจิก็มองเห็นกลุ่มเงาร่างสีดำ ซึ่งด้วยลักษณะรูปร่างแล้วต้องไม่ใช่เงาของชุนแน่ ๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงไอชั่วร้ายและจิตสังหารเงานั้นก็พุ่งเข้ามาหาลินจิ

…เหวอ

ความสั่นสะท้านแล่นทะลุหัวใจลินจิทันที หากไอชั่วร้านนั่นทะลุเขตอาคมมาได้เขาคงต้องตายอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่การคาดเดาแต่เป็นความมั่นใจ

“เจ้าหนู!”

เสียงของชุนกังวานขึ้น น้ำเสียดุดันเรียกสติของลินจิไม่ให้กระเจิง ชุนคงมองออกในเสี้ยววินาทีนั้นว่าพลังของปีศาจตนนี้แข็งแกร่งกว่าที่เคยเจอมา

ลินจิพยายามสงบลมหายใจ หัวใจเต้นถี่รัวทำให้การหายใจหอบกระตุก คนเราเวลากลัวหรือสติหลุดก็จะหายใจเร็วขึ้น ยิ่งเราเท่าไหร่ สมาธิและสติก็หายไปเท่านั้น ดังนั้นอย่างแรกก็ควรจะทำให้ใจเย็นลงด้วยการกำหนดลมหายใจ

จากนั้นลินจิแบมือปล่อยแสง ‘God Light Lv.1’ รัว ๆ

กลุ่มควันสลายไปเป็นจุด ๆ แต่ก็ขยายตัวออกมาใหม่อีกครั้งอย่างไม่จบไม่สิ้น ลินจิยืนนิ่งพร้อมจ้องไปยังเงาดำที่อยู่ในกลุ่มควันสีดำ หูได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของตนเอง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นเงาร่างของชุนกระเด็นกระแทกฝาไปอีกฝั่ง

“อ๊ะ”

ลินจิเสียสติไปครู่หนึ่ง จากนั้นเงาสีดำลักษณะคล้ายมนุษย์ก็พุ่งเข้ามาทางลินจิ

…แย่แล้ว

“…อึก”

ลินจิหลับตาลงทันที เขตอาคมสีทองยังคงทำงานอยู่ สติรับรู้เริ่มเลือนราง ขณะที่อยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น ลินจิก็รู้สึกตัวราวกับโดนอุ้ม เขาคิดว่าคงเป็นชุน พอจะเปล่งเสียร่างกายก็กลับมาตอบสนองความต้องการ ก่อนจะหมดสติไป เขาขอแค่ให้ชุนปลอดภัยก็พอแล้ว

 

 

เมื่อลืมตาพื้นขึ้นมาลินจิก็เห็นพระจันทร์และกลุ่มดาวส่องสว่าง เขานอนเอ้งเม้งอ้าแขนอ้าขาอยู่ที่กอหญ้าของที่ไหนสักแห่ง ที่รู้อย่างหน้าเพราะมีต้นหญ้าสูงปรากฏอยู่ในระยะสายตาด้านข้าง เมื่อหันมองก็เห็นเงาตะคุ่มของบุรุษผู้หนึ่งนั่งอยู่บนหินก้อนใหญ่ใต้ต้นไม้ พอสังเกตเห็นว่าตัวเองถูกเงาจ้องมองอยู่ ลินจิรีบลุกขึ้นนั่งแล้วกางเขตอาคมด้วยความตกใจ

“อ๊ะ!”

“ท่านเทพ ฟื้นแล้วหรือครับ”

เมื่อร่างเงาออกมาต้องแสงจันทร์ก็เผยใบหน้าชายหนุ่ม ตาฟ้า หน้ารูปไข่ ผมสั้นปรกคิ้ว สีน้ำตาลอ่อน รูปร่างผอมบางแต่ก็ดูมีกล้ามเนื้อ ประมาณจากสายตา น่าจะสูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบกว่าเซนติเมตร น้ำเสียงเรียบเย็นจนน่าขนลุก

ชายผู้นั้นเดินมาเรื่อย ๆ กระทั่งหยุดอยู่หน้าเขตอาคมของลินจิ เขาก็นั่งยองลงแล้วยื่นมือไปสัมผัสเขตอาคมของลินจิ

“อ๊ะ”

ขณะที่ร้องเสียงเล็กเสียงน้อย ซึ่งให้ความรู้สึกน่ารักมากกว่าตกใจ ฝ่ามือของชายผู้นั้นก็เกิดควันไอสีดำระเหยออกมา

“เข้าไปไม่ได้จริง ๆ ด้วยสินะ”

ลินจิเอามือทาบอก ขณะเดียวกันชายหนุ่มคนนั้นก็มองสองฝ่ามือของตัวเองสลับไปมา ขณะนั้นลินจิก็เหลือไปเห็นดาบที่เหน็บอยู่ แม้จะอยู่ในความมือแต่ด้ามตามที่มีลักษณะมันวาวก็สะท้อนกับแสงจันทร์ ทำให้เห็นลาง ๆ ว่าเป็นลักษณะของหัวยักษ์

“อย่าเข้ามานะ”

ลินจิห่อไหล่กุมมือแนบอกอย่างหวาดกลัว แต่ก็ไม่ลืมที่จะใช้ทักษะ ‘หยั่งรู้ Lv.3’ ส่องดูข้อมูล

[การใช้ทักษะผิดพลาด]

…อ๊ะ

“โถ่ โถ่ โถ่ ท่านเทพ ใช้มนตร์อะไรกับข้ารึ รู้สึกสะอิดสะเอียนชะมัดเลย”

ว่าแล้วชายปริศนาคนนั้นก็ลุกขึ้นมา แล้วมองลินจิที่กำลังนั่งอยู่

“อย่าเข้ามานะ ไอ้โรคจิต”

ลินจิกำหญ้าทำท่าจะปาออกไปเหมือนก้อนหิน แต่ใบหญ้าก็เหนียวเกินไปทำให้ไม่มีอะไรติดมือ เหมือนปาอากาศที่ว่างเปล่า

“หือ… ดุราวกับสุนัขป่าเชียว ฮะ ฮะ ฮ่า”

ชายปริศนาหัวเราะพลางยื่นมือทั้งสองออกไป จากนั้นก็มีอีกมือเล็ก ๆ ผิวดำ โผล่ออกมาจากฝ่ามือ เหมือนมือทารก

“เหวอ…”

ขณะที่ลินจิร้องออกมาไม่เป็นเสียงอย่างหวาดกลัว มือเล็ก ๆ ก็กระตุกหยุดชะงัก แต่ก็ไม่หยุดแค่นั้น เพียงเสี้ยววิมือเล็กสีดำก็ทะลุเข้ามาในเขตอาคมของลินจิ ก่อนจะสัมผัสรวบคอของเขาเอาไว้ แรงกดบีบและสัมผัสที่เยือกเย็นจากมือทมิฬบีบคอลินจิแล้วยกร่างจนเขตอาคมวูบดับไป

“แอ็ก!”

มีเพียงลมผ่านหลอดเสียงที่ตีบตันจากการถูกรัดลอดออกมาเท่านั้น

“ไหนขอข้าดูหน่อยซิ”

ว่าแล้วชายปริศนาก็หลับตา ปรากฏแสงสีฟ้ากลางหน้าผากของชายผู้นั้น ลินจิไม่ไหวแล้วเขาหายใจไม่ออก ขณะที่ดิ้นรนหาทางหนี ลินจิก็ใช้มือทั้งสองจับมือทมิฬเอาไว้ ก่อนจะใช้พลัง ‘God Light Lv1’

ทันใดนั้นมือทมิฬก็สลายหายไป ลินจิหลุนตุบลงกับพื้น สองมือค้ำร่างพลางหอยหายใจต่อหน้าชายปริศนา แต่โชคร้ายที่มันไม่ได้จบเพียงแค่นั้น

“โอ๊ะโอ ดูเหมือนจะมีอาวุธอันตรายติดตัวอยู่ด้วยนะท่านเทพ ใช้กำลังแบบนี้ไม่เหมาะสมกับเป็นเทพเลย”

ชายปริศนายกคิ้วขึ้น อุทานอย่างประหลาดใจ พูดอย่างใจเย็น จากนั้นก็มีมีทมิฬอีกนับสิบโผล่ออกมาจากอก ท้อง แขนและขาพุ่งเข้าหาตัวลินจิ

“อ๊ะ!”

ลินจิหนีไม่พ้น หัวใจเต้นรัว แม้ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากมือน่าขยะแขยงสีดำเหล่านั้นได้ ตอนนี้ทั่วร่างกายถูกตรึงไว้ แม้แต่ปากก็ยังถูกปิดไม่ให้เปล่งเสียง

“ขอเสียมารยาทกับท่าเทพหน่อยแล้วกัน”

ชายผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือสัมผัสเข้าที่กลางอกของลินจิ เกิดแสงสีขาวเปล่งออกมาบริเวณที่ถูกสัมผัส ขณะนั้นลินจิก็พยายามดิ้นเปล่งเสียงออกมา แต่ก็ไร้ผล

ตอนนี้ลินจิไม่ไหวแล้ว ความเจ็บปวดนี้เป็นของจริง เขารู้สึกปวดแสบปวดร้อนเท่าร่าง ราวกับจะละลาย

พริบตานั้นก็มีบางสิ่งมีลักษณะสีขาว เหมือนหินรูปดาว หลุดออกมาจากร่างของลินจิ

“ได้มาแล้วหนึ่งชิ้น ผลึกดวงดาว ไม่นึกเลยว่ายิงปืนนัดเดียวจะได้นกถือสองตัว จากนี้ก็จงเข้ามาอยู่ในร่างข้าเถอะนะ เทพเจ้าผู้สร้างโลก เอ๊ะ! ไม่สิ เทพลินจิ”

แม้จะจับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าชายผู้นี้คือใคร เป็นตัวประหลาดหรืออย่างไร รู้กระทั่งชื่อที่แท้จริงของเขา แต่ลินจิก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว สติเริ่มเลื่อนลอย ร่างของเขาค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังชายปริศนา จากนั้นร่างกายของชายผู้นั้นก็เกิดโพรงมืดเปิดออกมา ราวกับอะมีบาที่กำลังจะกันพารามีเซียม

“ลาก่อนเทพเจ้าในตำนาน จงกลายมาเป็นตำนานในตัวข้าซะ”

ขณะที่ร่างของลินจิก็ลังถูกดึงเข้าไปเรื่อย ๆ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างลั่นเข้ามาในหัว

[‘กลายร่าง Lv.1’ พัฒนาเป็น ‘กลายร่าง Lv.2’]

…เอ๊ะ

สติกลับมาฉับพลัน ลินจิรีบใช้ทักษะทันที ขณะเกิดเสียงในหัวของการใช้ทักษะ ร่างของลินจิก็เปล่งแสงสว่างออกมา ทันใดนั้นมือทมิฬก็แหลกออกจากกัน เมื่อแสงวูบดับลงก็ปรากฏบุรุษผมขาวสวมหน้ากากจิ้งจอกต่อหน้าชายปริศนา ร่างสูงเพรียวลม ในชุดคลุมสีขาวปักลายทอง

ร่างที่ไม่ใช่ลินจิ แต่กลายเป็นบุรุษผมขาวในหน้ากากกำข้อมือชูสามนิ้วขึ้นมาร่ายเวทคาถา จากนั้นก็มีเงาโปร่งแสงรูปจิ้งจอกขนาดมหึมาพุ่งลงมาจากฟ้าปะทะร่างชายปริศนาจนกลายเป็นจุล แสงระเบิกสนั่นหวั่นไหวทั่วหุบเขา ฝูงนก สัตว์ป่าได้ยินเสียงก็วิ่งหนีแตกกระเจิง

เมื่อแสงจิ้งจอกดับไป ร่างของบุรุษผู้สวมหน้ากากจิ้งจอกก็เปล่งแสงอีกครั้ง จากนั้นร่างสงก็หกขนาดเล็กลง พอแสงสว่างวูบดับก็กลายเป็นร่างลินจิเหมือนเดิม

ลินจิยืนงง เหมือนเมื่อครูจะหมดสติไป รู้ตัวอีกทีก็เห็นหลุมขนาดใหญ่ตรงหน้า พอสังเกตดี ๆ ก็เห็นเศษชิ้นเนื้อค่อย ๆ ไหลเข้ามาเกาะรวมกัน ให้ความรู้สึกน่าขยะแขยง

“อึ๋ย!”

ลินจิกอดตัวเองที่กำลังขนลุกกับภาพสะอิดสะเอียนตรงหน้า พลางมองก้อนไหนไหลเข้ามารวมกัน แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้เจ้าวายร้ายอาจจะฟื้นขึ้นมาอีกออกได้ ลินจิจึงวิ่งเหยาะแหยะไป จากนั้นก็ยื่นมือเพื่อที่จะร่ายเวท ‘God Light Lv.1’ ทำลายก้อนเนื้อเหล่านั้น ทว่าก็เกิดเขตอาคมสีดำขึ้นมาปกคลุมเหล่าชิ้นเนื้อ พร้อมกันเศษเนื้อที่ตกกระจายบริเวณอื่น ๆ ก็พุ่งเข้ามารวมอยู่ในเขตอาคมสีดำอย่างรวดเร็ว

…ใครจะไปยอมกัน

ลินจิรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ปลายฝ่ามือจากนั้นก็ร่ายเวท ‘God Light Lv.1’ ใส่เหล่าก้อนเนื้อในเขตอาคมนั้น ทว่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ฮึหึหึ”

เสียงหัวเราะดังขึ้นจากก้อนเนื้อ จากนั้นศีรษะของชายปริศนาก็ลอยขึ้นมากลางอากาศพร้อมกับเขตอาคมสีดำ

“อ๊าย! ผีหลอก”

ลินจิหันหลังวิ่งกลับชูสองแขนอย่างตกใจ เมื่อเหลียวหันไปมองเพราะกลัวว่าหัวที่ขาดจะลอยตามมา เขาก็เห็นชิ้นเนื้อรวบเอาหินสีขาวรูปดาว เห็นแบบนั้นลินจิก็เพิ่งนึกขึ้นได้จึงกลับหลังหันวิ่งตาม แต่เขตอาคมสีดำก็ลอยห่างออกไป

“ฮึฮึ ผลึกดวงดาวสีขาว ข้าขอรับไว้ก็แล้วกัน”

“เอาคืนมานะ เอามาน้า”

ทว่าพอวิ่งไปจนสุดก็เป็นหน้าผา ลินจิจึงป้องปากตะโกนเรียกอย่างกับจะให้ศีรษะที่ขาดและเศษชิ้นเนื้อเหล่านั้นกลับมา พริบตานั้นเขตอาคมและภาพตรงหน้าก็หายวับไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด