ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 39-40 : วัยเด็กของพวกเรา (9-10)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 43-44 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (3-4)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 41-42 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (1-2)


ตอนที่ 41 – 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (1)

เธออาจจะเครียดจนเกินไป.. ซ่งจิงเฉินตั้งหน้าตั้งตาฟังเสียงเครื่องยนต์ที่ดังอยู่ข้างหูของเธอ เมื่อเธอพยายามเปิดเปลือกตาขึ้นเพื่อดูว่าให้แน่ใจว่าเธอหูแว่วหรือเปล่า เธอก็เห็นรถยนต์สีเหลืองแล่นตรงเข้ามาทางหน้าต่าง ไฟหน้ารถสว่างจ้าทำให้ตาของเธอพร่ามัวจนมองไม่ชัด

แต่เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ เธอก็กระเด้งขึ้นจากโซฟาทันที จากหน้าต่าง.. เธอมองเห็นรถคันนั้นค่อยๆช้าลงและหยุดลงในที่สุด แล้วซูซินเหยินก็ก้าวออกมาจากรถ เขาปิดประตูรถอย่างแรงและเดินตรงมาที่บ้าน

ยิ่งเขาเข้ามาใกล้เท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งเต้นแรงเท่านั้น เธอยืนตัวแข็ง กลั้นหายใจ และมองไปที่ประตูตาไม่กระพริบ เมื่อซ่งจิงเฉินได้ยินเสียงกดพาสเวิร์ด เธอก็รีบไปยืนรออยู่ตรงทางเข้า

ก่อนที่ซ่งจิงเฉินจะทันได้เปิดประตูให้กับเขา ซูซินเหยินก็ผลักประตูเข้ามาก่อนแล้ว ผมของเขายุ่งจากการทำงานยาวนานมาตลอดทั้งวัน สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ทำให้บรรยากาศตึงเครียดกว่าปกติ

ซ่งจิงเฉินเหลือบมองซูซินเหยิน.. ก่อนจะก้มตัวลงไปหยิบรองเท้าแตะสำหรับใส่เดินในบ้านยื่นให้กับเขาและพูดว่า “คุณกลับมาแล้ว..”

ซูซินเหยินเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะนิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองเธอ แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปราวกับว่าไม่มีเธออยู่ที่นั่นด้วย

ซูซินเหยินใช้เวลาเดินจากประตูบ้านจนเข้าห้องไปแทบไม่ถึงหนึ่งนาที แต่ในเวลาเพียงเท่านั้น.. แผ่นหลังของซ่งจิงเฉินกลับเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

การกลับมาของซูซินเหยินทำให้ร่างกายของซ่งจิงเฉินตื่นตัว ความง่วงเมื่อครู่ได้มลายหายไปจนหมดสิ้น เธอควานหาโทรศัพท์ที่ตกอยู่ในซอกเบาะโซฟา และเมื่อหามันพบ นาฬิการบนโทรศัพท์ก็บอกเวลาหกโมงเช้าพอดี

หัวใจของซ่งจิงเฉินที่เต้นไม่เป็นจังหวะตลอดทั้งคืนเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย..

อีกเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงก็จะเจ็ดโมงเช้าแล้ว.. นั่นหมายความว่าเธอทนอีกแค่หนึ่งชั่วโมงก็จะหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานนี้แล้ว... ชั่วโมงสุดท้ายนี้ เธอจะเข้าไปเตรียมอาหารเช้าให้ซูซินเหยิน เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องเผชิญหน้ากับเขา...

อาหารเย็นที่เตรียมไว้เมื่อคืนนี้ยังคงอยู่สภาพเดิมในไมโครเวฟ เธอเริ่มเตรียมอาหารเช้าจากของเหลือเมื่อคืน และทำข้าวต้มเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง เมื่อเธอทำอาหารเช้าเสร็จก็เป็นเวลา 6.45 แล้ว เหลือเวลาอีกเพียงสิบห้านาทีเท่านั้น..

ซ่งจิงเฉินเดินกระสับส่ายอยู่ในห้องครัวอีกราวห้านาที ก่อนที่จะเดินขึ้นไปข้างบนเพื่อเคาะประตูห้องของซูซินเหยิน “คุณซูคะ.. อาหารเช้าเตรียมเสร็จแล้วค่ะ”

ไม่มีเสียงตอบกลับมา.. ซ่งจิงเฉินได้ยินเสียงฝีเท้าผ่านทางประตู เสียงนั้นมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก

ซูซินเหยินอยู่ในชุดลำลอง.. ซ่งจิงเฉินคิดว่าเขาน่าจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เพราะเธอได้กลิ่นหอมจางๆคลาสสิคๆของเจลอาบน้ำลอยอบอวลอยู่รอบตัวเขา

เขาเดินผ่านเธอไปข้างล่างโดยไม่พูดอะไรสักคำ ซ่งจิงเฉินเดินตามหลังเขาไปเงียบๆ แต่ก็พยายามรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับเขาเพื่อความปลอดภัย

เมื่อซูซินเหยินเดินลงมาจนถึงบันไดอีกสามขั้นก่อนจะถึงพื้น เขาก็หยุดนิ่งเมื่อมองเห็นกระเป๋าเดินทางสีชมพูวางอยู่ข้างผนัง และรอยยุบบนโซฟา

ซูซินเหยินขมวดคิ้วหันกลับมามองซ่งจิงเฉินที่อยู่ด้านหลังของเขา..

ซ่งจิงเฉินสะดุ้งเมื่อเขาหันกลับมากะทันหัน เขาชี้ไปยังห้องที่ปิดประตูอยู่ถัดจากห้องนอนของเขาไป และพูดเสียงเรียบว่า “นั่นห้องของเธอ”

ตอนที่ 42 – 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (2)

ซ่งจิงเฉินกำลังงงที่จู่ๆซูซินเหยินก็หันมาพูดกับเธอ เมื่อเธอรู้สึกตัวซูซินเหยินก็เดินออกไปแล้ว

ที่ห้องรับประทานอาหาร.. ซ่งจิงเฉินวางชามข้าวต้มลงตรงด้านหน้าของซูซินเหยิน แล้วจึงหยิบตะเกียบให้กับเขาหนึ่งคู่ ซูซินเหยินนั่งลงที่โต๊ะทานข้าวมองซ่งจิงเฉินเสริฟอาหารด้วยสีหน้าว่างเปล่า

เมื่อซูซินเหยินหยิบตะเกียบขึ้นมา ซ่งจิงเฉินที่ตอนนี้กำลังหายใจไม่ออกเพราะบรรยากาศในห้องทานข้าว เธอจึงรีบพูดออกมาว่า “ฉันจะเอากระเป๋าไปเก็บข้างบนนะคะ”

ซูซินเหยินก้มหน้าลงเป่าชามข้าวต้มที่กำลังร้อน และตอบรับห้วนๆในลำคอ “อือ..” เป็นสัญญาณให้เธอออกไปได้

หลังจากที่ซ่งจิงเฉินเก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว เมื่อเธอเดินเข้าไปที่ห้องรับประทานอาหาร ซูซินเหยินที่ได้ยินเสียงของเธอ ก็เงยหน้าขึ้นมามอง แล้วพยักเพยิดให้เธอนั่งทานอาหารเช้ากับเขาที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

ซ่งจิงเฉินยืนนิ่งไม่ตอบ..

คิ้วของซูซินเหยินขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ขณะที่เงยหน้ามองซ่งจิงเฉินอีกครั้ง ดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจ เขากำลังจะอ้าปากอธิบาย แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ซ่งจิงเฉินก็ชิงพูดขึ้นมาว่า.. “คุณซูคะ.. หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว กรุณาวางถ้วยชามทิ้งไว้บนโต๊ะ ฉันจะกลับมาทำความสะอาดอีกทีคืนนี้นะคะ”

ซูซินเหยินไม่ตอบอะไร แต่มือของเขาที่กำลังยื่นไปคีบกับข้าวชะงัก.. ราวกับรู้ว่าซ่งจิงเฉินกำลังจะบอกอะไร เขามองชามข้าวต้มแล้วเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง; เวลา 7.10 am.

ซ่งจิงเฉินพูด.. “คุณซูคะ.. ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”

แม้ซูซินเหยินจะไม่พูดอะไรออกมา แต่สีหน้าของเขากลับดูสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซ่งจิงเฉินถือเอาความเงียบของซูซินเหยินเป็นการอนุญาติ เธอจึงพูดต่อว่า “ลาก่อนค่ะ..คุณซู..”

ก่อนที่ซ่งจิงเฉินจะพูดจบ ซูซินเหยินก็วางตะเกียบที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง

ซ่งจิงเฉินสะดุ้งจนไม่กล้าพูดอะไรอีก แม้ใบหน้าของซูซินเหยินจะไม่แสดงอารมณ์ออกมาให้เห็นชัดเจน แต่เธอก็รู้ว่าเขากำลังโกรธ เธอกระแอมและพูดต่อ “คุณบอกเองว่าฉันต้องอยู่ที่นี่ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าจนถึงหนึ่งทุ่ม และตอนนี้ก็เจ็ดโมงสิบนาทีแล้ว...”

ใช่แล้ว.. นั่นคือสิ่งที่เขาบอกกับเธอ แต่เมื่อเธออ้างถึงเรื่องพวกนี้ เขากลับยิ่งโกรธโดยไม่มีเหตุผล ซูซินเหยินหยิบชามข้าวต้มขึ้นมาและปาลงไปที่พื้น ข้าวต้มเกือบครึ่งชามกระเด็นไปทั่ว และบางส่วนก็กระเด็นใส่ผมของซ่งจิงเฉิน

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขา.. ซ่งจิงเฉินก็หุบปากและกลืนคำพูดที่เหลือกลับเข้าไปทันที ด้วยสัญชาติญาณ.. เธอถอยหลังกลับมาหนึ่งก้าว แล้วย่อตัวลงนั่งยองๆเก็บเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้น

ซูซินเหยินกลับโกรธมากขึ้นกว่าเดิม.. เขาจ้องซ่งจิงเฉินที่กำลังนั่งยองๆอยู่ราวสองวินาทีก่อนจะถามด้วยเสียงที่เย็นยะเยือกว่า “ทำไมยังไม่ไป? มานั่งยองๆอยู่ตรงนี้ทำไม?”

ซ่งจิงเฉินสั่นไปทั้งตัว และเศษแก้วในมือก็บาดลึกเข้าไปในผิวหนังของ..

จู่ๆเสียงของซูซินเหยินก็เปลี่ยนเป็นเย็นบาดลึกเข้าไปถึงกระดูก “ออกไป!”

ซ่งจิงเฉินไม่รอให้เขาบอกเป็นครั้งที่สอง.. เธอลุกขึ้นและวิ่งออกไปโดยไม่เหลียวมองซูซินเหยินแม้แต่น้อย

เขาฟังเสียงฝีเท้าของซ่งจิงเฉินที่ค่อยๆห่างออกไป แล้วซูซินเหยินก็หมดแรงราวกับลูกบอลที่หมดลม ความรู้สึกเหมือนตนเองไร้ค่านี้ ทำให้ความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ภายในถูกทำร้ายให้เจ็บปวดมากยิ่งขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด