ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 41-42 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (1-2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 45-46 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (5-6)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 43-44 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (3-4)


ตอนที่ 43 – 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (3)

ซ่งจิงเฉินมาถึงบ้านพักของซูซินเหยินตอนหนึ่งทุ่มตรงเป๊ะ.. ซูซินเหยินออกจากบ้านไปแล้ว ห้องรับประทานอาหารที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเมื่อตอนเธอออกไปนั้น ตอนนี้กลับสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้แต่จานชามที่ใส่อาหารเช้าก็ถูกล้าง เช็ดแห้ง และเก็บเข้าชั้นวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

ซ่งจิงเฉินนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกจนสี่ทุ่ม ก็ยังไม่เห็นเงาของซูซินเหยิน เธอจึงเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนข้างบนที่เขาอนุญาติให้เธอใช้ คงเป็นเพราะเธอนอนไม่ค่อยหลับเมื่อคืนก่อน หลังจากรีบอาบน้ำให้เสร็จๆ ซ่งจิงเฉินก็ปีนขึ้นเตียงไป และก็นอนหลับสนิทในเวลาอีกไม่นานนัก

เธอตื่นขึ้นมาอีกทีตอนสิบโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น มีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ของเธอขณะที่เธอกำลังแปรงฟันอยู่ ข้อความถูกส่งมาจากจินยี่หนาน ซ่งซ่ง.. เครื่องบินกำลังจะเทคออฟ และพี่จะถึงปักกิ่งในอีกสองชั่วโมงครึ่ง

ซ่งจิงเฉินคาบแปรงสีฟันไว้ในปากและพิมพ์ข้อความตอบกลับไป เครื่องจะลงที่ประตูใหนคะ? เดี๋ยวฉันจะไปรับพี่?

อาจเป็นเพราะจินยี่หนานต้องปิดโทรศัพท์แล้ว เขาจึงพิมพ์เพียงตัวเลขหนึ่งตัวตอบกลับมา: 3

ซ่งจินเฉินเข้าใจความหมาย.. มันคือประตูที่ 3 แม้ข้อความที่ส่งมาจะมีเพียงสามข้อความ แต่ซ่งจิงเฉินก็อ่านแล้วอ่านอีกซ้ำไปซ้ำมา ดวงตาของเธอเป็นประกาย ริมฝีปากเผยอยิ้มอย่างไม่ตั้งใจทุกครั้งที่อ่านข้อความพวกนั้น อีกเพียงสองชั่วโมงครึ่ง เธอก็จะได้เจอพี่ยี่หนานแล้ว..

ซ่งจิงเฉินพบกับจินยี่หนานที่สนามบินในเวลาบ่ายโมงครึ่ง เนื่องจากเส้นทางเข้าเมืองค่อนข้างหนาแน่น กว่าพวกเขาจะไปถึงก็ราวบ่ายสองกว่าแล้ว.. ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็ทยอยปิดหลังเที่ยง สุดท้าย.. ทั้งซ่งจิงเฉินและจินยี่หนานจึงเลือกร้านอาหารตะวันตกเพื่อดื่มชาแทน..

....

มีประชุมบริษัทตอนบ่ายสามโมง.. แต่จนป่านนี้บ่ายสามโมงสิบนาทีแล้ว.. คนที่ปกติตรงต่อเวลาอย่างซูซินเหยินกลับยังไม่ออกจากออฟฟิส

เมื่อถึงเวลาบ่ายสามโมงสิบห้านาที เลขาของเขาก็ส่งเสียงเตือนเขาผ่านประตูห้องทำงาน แต่ประตูก็ยังคงปิดสนิท

บรรดาผู้จัดการที่กำลังนั่งคอยอยู่ที่ห้องประชุมต่างก็เร่งเร้าเลขาอยู่ตลอดเวลา ในที่สุด.. เมื่อถูกกดดันมากเข้า เลขาของเขาจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปเคาะประตูห้องทำงาน

แต่ก็ยังคงไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน เธอรวบรวมความกล้าแล้วผลักประตูให้เปิดออก ซูซินเหยินยืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่างบานกว้าง หรือเธอจะคิดไปเอง.. แต่เหมือนกับว่าเธอมองเห็นร่องรอยความเสียใจและโศกเศร้าของนายใหญ่ที่เย็นชาผู้นี้

เลขาของเขารีบสะบัดหัวไล่ภาพที่เห็นเมื่อครู่ออกไป เพราะเธอมั่นใจว่าเธอคงตาฝาดไป เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวย “ท่าน CEO ซูคะ?” เขายังคงนิ่งไม่ตอบ เธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากค่อยๆเดินเข้าไปในห้องทำงานเขาอย่างระมัดระวัง

ปกติแล้ว.. เจ้านายใหญ่ของเธอจะเป็นคนระมัดระวังตัวตลอดเวลา แต่ครั้งนี้เขากลับไม่เห็นว่าเธอกำลังยืนอยู่ทางด้านขวามือของเขา เมื่อได้อยู่ใกล้ชิด.. เลขาของเขาจึงจ้องมองซูซินเหยินอย่างละเอียดละออ เขากำลังยืนมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย ทำให้เธออยากรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เพราะเธอสังเกตุเห็นร่องรอยความเศร้าโศกที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าที่สมส่วนของเขา

เลขาของเขารู้สึกประหลาดใจมากที่สุดในชีวิต เธอกระพริบตาหลายครั้งเพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้ฝันไป เธอพยายามข่มความรู้สึกตัวเองให้สงบลงก่อนจะพูดอีกครั้งว่า “ท่าน CEO ซูคะ?”

ยังคงไม่มีเสียงตอบจากซูซินเหยิน เลขาของเขารออีกราวหนึ่งนาที และก่อนที่เธอจะอ้าปากพูดอะไรอีก ซูซินเหยินก็หันมาจ้องมองเธอและพูดว่า “มีอะไร?” ความอยากรู้อยากเห็นของเธอที่มีก่อนหน้านี้ได้อันตธาลหายไปหมด

“CEO ซูคะ.. คุณมีประชุมตอนบ่ายสามโมงค่ะ และตอนนี้ก็บ่ายสามครึ่งแล้ว” เลขานุการเตือนเขา และงงงันกับพฤติกรรมแปลกๆของเขา

ซูซินเหยินพึมพำในลำคอ และก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง

ตอนที่ 44 – 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (4)

หลังจากหายใจเพียงหนึ่งหรือสองครั้ง.. ราวกับว่าซูซินเหยินลืมไปว่าได้ตอบเลขาของเขาไปแล้ว เขาจึงย้ำคำเดิมอีกครั้ง

แต่จู่ๆร่างทั้งร่างของเขาก็เกร็ง.. ก่อนที่จะหันหลังและวิ่งออกจากห้องทำงานไป

เลขานุการพยายามวิ่งตามอย่างเร็วที่สุด แต่เมื่อเธอก้าวเท้าออกจากห้องทำงาน ซูซินเหยินก็หยุดอยู่ตรงทางเดิน

“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ CEO ซู?” เลขานุการถามแต่ซูซินเหยินไม่ตอบ; ดูราวกับว่าจิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เลขานุการที่กำลังงุนงงก้าวเท้าเข้าไปใกล้เขาทันที

การขยับตัวอย่างรวดเร็วของเธอทำให้ซูซินเหยินรู้สึกตัว ราวกับเกรงว่าจะมีคนเห็นความอ่อนแอของเขา ซูซินเหยินรีบหลบสายตาลงต่ำอย่างรวดเร็ว แต่จังหวะที่เขากำลังก้มหน้าหลบนั้น เลขานุการก็สามารถจับภาพสีหน้าที่กระวนกระวายของเขาไว้ได้

เลขานุการนิ่งอึ้งไปชั่ววินาที และพยายามจะจับสังเกตุสีหน้าของซูซินเหยินอีกครั้ง แต่ใบหน้าของชายหนุ่มตอนนี้กลับเป็นใบหน้าที่ดูเหินห่างและเยือกเย็นเหมือนปกติ รังสีแห่งความเยือกเย็นได้แผ่ออกมาทำให้อุณหภูมิรอบๆตัวเขาลดลงไปด้วย

เขาหยุดอยู่ตรงนั้นเพียงชั่วครู่ แล้วก็ก้าวเท้าตรงไปยังห้องประชุม

เลขานุการยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวสองสามนาที ก่อนที่จะรีบวิ่งตามซูซินเหยินไป ขณะที่จ้องมองเขาจากข้างหลัง เธอก็เริ่มไม่แน่ใจว่าภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่เป็นอารมณ์ที่เขารู้สึกจริงๆ หรือเป็นเพียงแค่เธอคิดไปเอง

หลังจากที่ซูซินเหยินเข้ามาในห้องประชุมและนั่งลงตรงเก้าอี้ประจำตำแหน่งของเขาแล้ว เขาก็พูดออกมาเพียงประโยคเดียวสั้นๆ.. “เริ่มได้”

ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์เป็นผู้รายงานคนแรก ส่วนผู้จัดการฝ่ายอื่นๆก็นั่งมองบทวิเคราะห์การตลาดที่แสดงอยู่บนจอ และนั่งฟังคำอธิบายของผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์อย่างตั้งอกตั้งใจ

ซูซินเหยินนั่งพิงเก้าอี้โดยไม่พูดอะไร ดูเหมือนเขากำลังตั้งใจฟังอย่างมาก แต่ความจริง.. จิตใจของเขาได้ลอยละล่องออกไปไกลแสนไกลแล้ว

เขารู้ว่า.. วันนี้เป็นวันที่จินยี่หนานกลับปักกิ่ง และก็รู้อีกว่าซ่งจิงเฉินจะต้องไปรับเขาที่สนามบิน..

เขาอยู่ในห้องทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ และหูของเขาก็เปิดรับเสียงต่างๆจากข้างนอก เขาพยายามกรองเสียงอื้ออึงพวกนั้นตั้งแต่เช้าจนหัวแทบระเบิด แต่ยังคงไม่ได้ยินเสียงของซ่งจิงเฉิน

หลังจากที่เขาวางโทรศัพท์ไปตั้งแต่ช่วงบ่ายสองโมงครึ่ง เขาก็ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่าง พยายามจะจับเสียงของเธอจากเสียงอื้ออึงเหล่านั้นให้ได้อีกครั้ง ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงของเธอ “พี่ยี่หนาน.. ตอนนี้ก็เหลือแต่ร้านอาหารตะวันตกที่ยังคงเปิดอยู่ ทำไมเราไม่ไปที่นั่นล่ะ? พวกเราไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้วนะ”

“ได้สิ..” เขาได้ยินเสียงนุ่มนวลของผู้ชายตอบ แม้จะไม่ได้ยินเสียงนี้มานานหลายปี และต่อให้เขาได้ยินเพียงแว้ปเดียวเขาก็จำได้ว่ามันคือเสียงของจินยี่หนาน

เนื่องจากซูซินเหยินยืนอยู่ตรงหน้าต่าง.. เขาจึงได้ยินเสียงคนทั้งคู่กำลังเดินเข้าไปที่ร้านอาหาร พวกเขาสั่งอาหาร และเล่าเรื่องราวต่างๆเมื่อสองปีที่ผ่านมาให้กันและกันฟัง; เขาได้รับรู้ถึงความใส่ใจและความห่วงใยที่คนทั้งคู่มีให้กัน..

เขายืนฟังอยู่อย่างนั้นร่วมชั่วโมง.. เขาตั้งใจฟังคนทั้งคู่จนไม่ได้ยินเสียงเตือนหลายครั้งจากเลขาที่เรียกให้เขาเข้าประชุม แม้แต่ระหว่างทางเดินจากห้องทำงานของเขาไปที่ห้องประชุม เขาก็ยังคงตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่ “พี่ยี่หนาน.. เราไม่ได้พบกันตั้งนาน พี่คิดถึงฉันหรือเปล่า?”

“แน่นอนอยู่แล้ว..” จินยี่หนานตอบทันที

หลังจากนิ่งไปชั่วครู่.. ซ่งจิงเฉินก็พูดเสียงหวานนุ่มนวลว่า “พี่ยี่หนานคะ.. ฉันก็คิดถึงพี่เช่นกัน..”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด