ตอนที่แล้วประกาศิตรัก : ตอนที่ 37-38 : วัยเด็กของพวกเรา (7-8)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศิตรัก : ตอนที่ 41-42 : 100 วันแห่งการอยู่ร่วมกัน (1-2)

ประกาศิตรัก : ตอนที่ 39-40 : วัยเด็กของพวกเรา (9-10)


ตอนที่ 39 – วัยเด็กของพวกเรา (9)

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา.. ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซูซินเหยินก็ค่อยๆพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ นอกจากทั้งสองคนจะอยู่บ้านเดียวกันและโรงเรียนเดียวกันแล้ว ตารางการเรียนของพวกเขายังทำให้พวกเขาทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้น ด้วยการไปโรงเรียนพร้อมกันและกลับจากโรงเรียนด้วยกัน..

ซูซินเหยินเป็นพวกรักความสะอาดอย่างมาก; เขาไม่ชอบให้ใครมาจับของของเขา ถึงขนาดไม่ยอมให้เธอเข้าไปในห้องของเขา และเธอเองก็จำไม่ได้แล้วว่าเขายกเลิกข้อห้ามนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่..

เพราะเธอยังจำได้ว่าเธอเคยนั่งกินขนมอยู่บนเตียงของเขา และก็เคยทำซอสมะเขือเทศหกเลอะที่นอนเขาอยู่หลายครั้ง

เมื่อหวลคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้น.. เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า นั่นคงเป็นเพียงช่วงเวลาเดียวที่เธอได้มีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่ดีกับซูซินเหยิน

ในตอนนั้น.. เธอยอมรับว่าซูซินเหยินดูแลเธออย่างดี จะเรียกว่าดีมากๆก็ได้ เขาจะออกจากบ้านกลางดึกเพื่อไปซื้ออาหารให้เธอ ยืนเข้าแถวตอนฝนตกเพื่อรอซื้อบัตรคอนเสริตเจย์ชูให้กับเธอ และแม้แต่มีเรื่องชกต่อยเพราะเธอ..

แต่ไม่ว่าช่วงเวลานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ดีมากเท่าไหร่ก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างก็มลายกลับกลายเป็นศูนย์ไปหมดแล้ว..

นั่นเพราะหนึ่งเดือนก่อนสอบเลื่อนชั้น จินยี่หนานกลับมาที่ปักกิ่งและนัดเธอออกไปทานอาหารเย็นด้วยกัน

และในตอนนั้นเอง.. เธอจึงได้รู้ว่าเธอเข้าใจจินยี่หนานผิด ผู้หญิงที่เธอเห็นอยู่กับเขาในวันคริสมาสต์นั้น ความจริงแล้วเป็นเพื่อนสนิทของเขาที่มาขอความช่วยเหลือจากเขา ให้ช่วยขับรถพาเธอไปโรงพยาบาลเพราะเธอเกิดไส้ติ่งอักเสบขึ้นมา

ถึงแม้จะรู้ความจริงแล้ว.. แต่การจะสารภาพความในใจนั้น จำเป็นต้องใช้ความกล้าหาญ หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น แม้เธอจะมีโอกาสได้พบกับจินยี่หนานอยู่สองสามครั้ง แต่ทุกครั้งคำสารภาพพวกนั้นก็จะติดอยู่ที่ปลายลิ้น และท้ายที่สุดเธอก็กลั้นมันไว้ไม่ยอมพูดออกไป คงเหมือนกับน้ำที่ใกล้ถึงจุดเดือด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังคงติดอยู่ที่ 99 องศาเซลเซียส ไม่เคยไปถึงร้อยองศาเสียที

เธอและจินยี่หนานทานอาหารเย็นกันเสร็จราวสามทุ่ม ระหว่างทางที่จินยี่หนานขับรถมาส่งเธอที่บ้าน เธอก็พูดกับเขาว่า “พี่ยี่หนาน.. ฉันจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับพี่”

จินยี่หนานหันหน้ามาหาเธอพร้อมรอยยิ้มกว้าง.. “เยี่ยมเลยซ่งซ่ง.. พี่จะรอเธอนะ”

หลังจากที่จินยี่หนานส่งเธอถึงบ้าน ก่อนที่จะแยกกัน จินยี่หนานก็เอามือลูบผมของเธอเบาๆเหมือนที่เคยทำอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้กลับดูแปลกไป.. มือที่ที่ลูบไล้ผมเธออยู่นั้นหยุดนิ่งชั่วครู่ เขามองเธอด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักอย่างเปิดเผย

หัวใจของเธอเต้นรัว.. สัญชาติญาณของเธอบอกว่าพี่ยี่หนานคงจะรู้สึกเช่นเดียวกับเธอ เธอมองตาเขาและพูดว่า “พี่ยี่หนาน.. หลังการสอบเลื่อนชั้นคราวนี้ ฉันมีความลับบางอย่างจะบอกพี่”

เธอตั้งใจจะบอกกับเขาว่าเธอชอบเขา และเธอก็ชอบเขามานานหลายปีมากๆแล้ว..

เมื่อจินยี่หนานกลับไป.. ซ่งจิงเฉินก็ยังคงอิ่มเอมกับความโรแมนติคในแบบหญิงสาว เธอจินตนาการถึงอนาคตของเขากับเธอ..

แต่.. รู้หรือไม่?

ฝันร้ายมักจะรออยู่หลังความสุขหนึ่งก้าวเสมอ..

ในคืนนั้น.. พ่อแม่ของเธอ แม่บ้าน และแม้แต่ซูซินเหยิน ไม่มีใครอยู่บ้านเลย มีเธออยู่บ้านเพียงคนเดียว เธออาบน้ำเสร็จราวห้าทุ่ม และกำลังเตรียมตัวจะเข้านอน แต่เธอก็ได้ยินเสียงประตูหน้าบ้านเปิด ด้วยความอยากรู้.. เธอจึงนั่งยองๆอยู่ที่ราวบันไดเพื่อมองลงไปข้างล่าง เธอเห็นซูซินเหยินที่มีอาการมึนเมาเดินเข้าประตูหน้าบ้านมา

เขาเดินขึ้นบันไดเซไปเซมา และเกือบจะล้มลงอยู่หลายครั้ง เธอจึงรีบปรี่เข้าไปช่วยเขา

.....

ใบหน้าของซ่งจิงเฉินซีดเผือดเมื่อหวลคิดถึงเรื่องนี้.. ในวันนั้นถ้าเธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เธอจะปล่อยซูซินเหยินไว้แบบนั้นอย่างแน่นอน

ตอนที่ 40 – วัยเด็กของพวกเรา (10)

เธอใช้กำลังแรงกายทั้งหมดที่มีลากซูซินเหยินไปที่ห้องนอนของเขา เมื่อเธอถอดเสื้อแจ๊คเก๊ตให้กับเขา พาเขาไปที่เตียงนอน และกำลังจะเดินออกไป จู่ๆเขาก็คว้าข้อมือของเธอไว้ จากนั้น...

จากนั้น.. เขาก็ลากเธอไปที่เตียงนอน และกดร่างของเธอไว้

ซ่งจิงเฉินกะพริบตาถี่เมื่อรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป.. แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี เธอก็ยังคงจำได้อย่างชัดเจนว่า เธอดิ้นรนและขอร้องซูซินเหยินจนหมดแรง เพื่อขอให้เขาปล่อยเธอไป

เธอร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา.. แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินเสียงร้องอ้อนวอนขอความช่วยเหลือของเธอเลย เขาฉีกเสื้อผ้าของเธอออกเป็นชิ้นๆอย่างกักขฬะ ในคืนนั้น.. เธอดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง เล็บแหลมๆของเธอจิกเข้ากับไหล่ของเขาจนเลือดออก..

ด้วยความสัตย์จริง.. เธอจำเหตุการณ์ในคืนนั้นทั้งหมดไม่ได้ แต่จะโทษเธอก็ไม่ได้! เพราะนั่นอาจเป็นเรื่องของระบบการทำงานของจิตใจ ที่ทำให้เธอหมดสติไปในระหว่างที่เธอถูกกระทำ

เธอจำไม่ได้จริงๆว่าเขาล่วงละเมิดเธออย่างไรบ้าง.. แต่เมื่อเธอรู้สึกตัว เธอก็ถูกเขาทำลายจนป่นปี้แล้ว เธอตื่นขึ้นมาพร้อมความเจ็บปวดตามร่างกาย แต่ยิ่งกว่านั้นคือเธอตื่นขึ้นมาพร้อมความหมดอาลัยตายอยาก ในเวลานั้น.. เธอหยุดดิ้นรน นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา และปล่อยให้เขาทำอะไรกับเธอก็ได้

ในที่สุด.. เขาก็ปล่อยเธอไป เธอไม่รีรอแม้เพียงวินาทีเดียว เมื่อกลับไปถึงห้องนอนของเธอ เธอก็รีบเข้าไปอาบน้ำ เธออาบอยู่นานเป็นชั่วโมง ปล่อยให้น้ำตาของเธอไหลไปพร้อมกับสายน้ำจากฝักบัว

เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับเธอเมื่อตอนอายุได้เพียงสิบแปดปี.. ในวัยที่เธอยังไม่เคยได้สัมผัสกับความรัก ไม่เคยผ่านมือชาย และแม้แต่จูบแรกเธอก็ยังไม่เคย แม้กระทั่งกับจินยี่หนานที่เป็นที่รักของเธอ เธอก็ยังไม่เคยแม้แต่ในจินตนาการ.. แต่ซูซินเหยินกลับขโมยความบริสุทธิ์ของเธอไป..

ซ่งจิงเฉินบอกกับตัวเองให้หยุดคิดฟุ้งซ่าน เธอไม่รู้ตัวว่าน้ำตาของเธอได้ไหลออกมาเป็นทาง เธอรีบคว้ากระดาษชำระมาเช็ดน้ำตาจนแห้ง และเมื่อเหลือบไปมองโทรศัพท์ เธอก็พบว่าเป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว

เธอมีเวลาเหลือเพียงหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะต้องไปให้ถึงบ้านพักของซูซินเหยินตอนหนึ่งทุ่มตรง..

ซ่งจิงเฉินจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติก่อนจะไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ จากนั้นก็เดินลากกระเป๋าเดินทางที่เตรียมไว้ลงไปข้างล่าง เธอไม่ได้ขับรถไป แต่เดินออกไปรอเรียกรถแท๊กซี่อยู่ที่ข้างถนน

การจราจรในยามวิกาลที่ค่อนข้างหนาแน่นทำให้รถติดหนึบ.. จากที่เคยใช้เวลาเดินทางเพียงสิบห้านาทีกลับกลายเป็นห้าสิบนาที ซ่งจิงเฉินลากกระเป๋าไปที่ประตูหน้าบ้านของซูซินเหยิน เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูพาสเวิร์ดหกตัวที่เขาส่งให้เมื่อเช้านี้ หลังจากที่ใส่พาสเวิร์ดไป.. เธอก็เปิดประตูได้

ซูซินเหยินไม่ได้อยู่ที่บ้าน ซ่งจิงเฉินจึงไม่รู้ว่าเธอจะต้องรออยู่ที่ใหน เธอจึงทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ที่ประตูชั่วคราว

ซูซินเหยินเคยบอกไว้ว่า.. ตลอดหนึ่งร้อยวันนี้เธอมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดแจงเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขา

ซ่งจิงเฉินจึงเริ่มจัดเตรียมอาหารเย็น การทำอาหารช่วยให้เธอผ่อนคลายจากความกังวลได้ แต่เมื่อเสร็จจากการทำอาหาร เธอกลับใจเต้นแรงทุกครั้งที่นึกถึงการกลับมาของซูซินเหยิน

ซ่งจิงเฉินนั่งรอเขาอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก และคอยเงี่ยหูฟังเสียงรถยนต์จากด้านนอก ความรู้สึกของเธอตอนนี้คงไม่ต่างจากปลาที่รอการเชือดจากซูซินเหยินอยู่บนเขียง

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ.. จนกระทั่งห้าทุ่มก็ยังไม่เห็นวี่แววของซูซินเหยิน ซ่งจิงเฉินค่อนข้างเหนื่อยและเพลียจากความเครียด เธอจึงล้มตัวลงบนโซฟาแล้วก็นอนหลับไปในสภาพนั้น

แต่เธอก็ไม่กล้าหลับสนิท เธอตื่นขึ้นมาทุกๆสองสามนาทีเพื่อดูว่าซูซินเหยินกลับมาถึงบ้านหรือยัง เมื่อเห็นว่ายังมาไม่ถึง เธอก็จะถอนใจด้วยความโล่งอกแล้วจึงหลับตาลงอีกครั้ง หลังจากที่หลับๆตื่นๆอยู่หลายเที่ยว ในที่สุดเสียงรถยนต์ก็ดังมาจากด้านนอก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด